ตอนที่แล้วตอนที่ 117 ความลี้ลับ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 119 จอมเวทย์ผู้กลืนกินหนังสือ 2

ตอนที่ 118 จอมเวทย์ผู้กลืนกินหนังสือ 1


การลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพกับอาณาจักรที่เป็นกลางทางตอนเหนืออย่าง เอลฟ์เฮล์ม ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา

จักรวรรดิแอนดราสและอาณาจักรอื่นๆในทวีปกลางต่างส่งหน่วยสืบลับของพวกเขามา ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรับผิดชอบของกลุ่มคณะฑูตนั้นหนักหนาเพียงใด ถ้าหากการพูดคุยถูกทำลายเพราะใครบางคน ความรับผิดชอบจะไม่จบลงเพียงแค่พวกเขา มันจะลามไปยังครอบครัวและญาติของพวกเขาด้วย

อย่างไรก็ตามแม้จะมีความวิตกกังวล แต่คณะฑูตกลับเดินตามกลับบ้านด้วยผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คาดเอาไว้ พวกเขาประสบความสำเร็จในการลงนามในสนธิสัญญาระดับประวัติศาสตร์!

เหล่าคณะบริหารได้รวมตัวกันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากได้รับข่าว นักประวัติศาสตร์อาจจะบอกว่าเรื่องนี้พูดเกินจริง แต่ถ้าพวกเขารู้ว่าแม้แต่เหล่าขุนนางที่มีอำนาจมากสุดยังรีบวิ่งออกจากบ้าน พวกเขาจะปิดปากของพวกเขาทันที

“ดูเหมือนว่าทุกท่านจะได้มารวมตัวกันแล้ว ผู้นำWhite Tower โปรดรายงาน”กษัตริย์เคิร์ทที่3ได้สั่ง

อย่างไรก็ตามเคิร์ทนั้นดูแตกต่างไปจากปกติเล็กน้อย เขาเต็มไปด้วยรัศมีแห่งราชาเช่นเคย แต่ดวงตาของเขากลับมีความคาดหวังในขณะที่เขารอคำพูดจากผู้นำWhite Tower นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ปากของออร์ต้าเปิดออกท่ามกลางความเงียบสงัดและคำพูดของเขาได้ก่อให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้น

 

-สินค้าที่ค้าขายจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า

-จำนวนสิ่งประดิษฐ์ที่ส่งออกจะเพิ่มมากขึ้น

-ได้รับสิทธิ์ในการตัดต้นไม้ที่มีเพียงในเกรทฟอเรสต์

-จะมีการประชุมแลกเปลี่ยนหารือกันเป็นประจำ

 

ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ สำหรับบางอัน พวกเขาคิดว่ามันหนักกว่าทองคำเสียอีก ดังนั้นพวกขุนนางและจอมเวทย์จะอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ พวกเขาจะกระโดดขึ้นและรีบวิ่งไปหาผู้นำWhite Tower ทันทีถ้าหากกษัตริย์ไม่ได้เฝ้ามองดูอยู่ เพียงหนึ่งในเงื่อนไขเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้รายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นสองหรือสามเท่า!

สุดท้าย รายละเอียดของการช่วยเหลือทางทหารและการสนับสนุนก็ได้ถูกกล่าว กษิตริย์เคิร์ทที่3ได้ลุกขึ้นจากบัลลังก์ของเขาและตะโกน“วิเศษมาก!”

เคิร์ทที่3นั้นเป็นผู้ปกครองที่หลีกเลี่ยงทุกพิธีการหรือการแสดงการแสดงออก เขาเคยที่จะกล่าวยกย่องคนบางคนเช่นนี้หรือ?

อย่างน้อยที่สุด คนที่นี่ไม่มีใครเคยได้ยินเขาพูดเช่นนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นกษัตริย์ยิ้มด้วยความยินดีเช่นนี้ เขามองไปรอบๆคณะฑูตก่อนที่จะหยุดไปที่จุดๆหนึ่ง

ชายหนุ่มที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงนั้น

ชายหนุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีแดงและมีความอ่อนล้าบนใบหน้าของ เขาคือธีโอดอร์ มิลเลอร์ ผู้ซึ่งเป็นผู้นำของภารกิจครั้งนี้ ตามรายงานลับของผู้นำWhite Tower ผลงงานของธีโอดอร์นั้นเป็นปัจจัยหลักของความสำเร็จ

มันเป็นความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่กว่าแม้กระทั่งออร์ต้าผู้ที่ตัดแขนของปรมาจารย์ดาบ ถ้าเป็นเช่นนั้น เคิร์ทที่3ก็จำเป็นต้องยอมรับเขา “ธีโอดอร์ มิลเลอร์”

“พะยะค่ะ!”

“เราได้ยินมาว่าความดีความชอบของเจ้าในครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก เจ้าใช้สมบัติแห่งชาติและได้ยกระดับชื่อเสียงของอาณาจักรเมลเทอร์”

“กระหม่อม ไม่สมควรจะได้รับคำพูดเช่นนั้น”

เมื่อที่เคิร์ทที่3กล่าวชื่นชมชายหนุ่มก็ได้โค้งหัวอย่างนิ่งสงบ “ความสำเร็จที่เจ้าทำนั้นเพียงพอที่จะยกระดับให้เจ้าเป็นผู้อาวุโส ณตอนนี้ เราขอประกาศให้ธีโอดอร์ มิลเลอร์ เป็นผู้อาวุโสชั่วคราว ขั้นตอนพิเศษอื่นๆจะถูกข้ามไป และเขาจะได้รับการเลื่อนยศเป็นผู้อาวุโสเมื่อเขากลายเป็นจอมเวทย์ขั้น6 มีใครคัดค้านหรือไม่?”

“ขอบพระทัย ฝ่าบาท!”

“เอาละ เราจะจัดเตรียมรางวัลให้กับพวกเจ้ากลุ่มคณะฑูตทุกคน”

หลังจากที่พยักหน้าไม่กี่ครั้งด้วยใบหน้าพึงพอใจ เคิร์ทที่3ก็มองไปที่ธีโอซึ่งยังคงเงียบสงบ

‘ไม่รู้ว่าทำไม แต่เราสัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบๆตัวเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อย’

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นรอบๆธีโอดอร์นั้นเบาบางลงแตกต่างจากไม่กี่เดือนก่อน บางทีเขาอาจจะได้รู้อะไรบางอย่างในการเดินทางครั้งนี้

กษัตริย์แห่งเมลเทอร์หัวเราะอย่างครื้นเครงด้วยความคิดที่ว่า ผู้นำหอคอยคนต่อไปได้กำเนิดแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ทราบว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าเขาได้กระโดดข้ามกำแพงของขอบเขตขั้น6มาแล้ว

***

ทันทีที่ธีโอดอร์กลับมายังมาน่าวิลเขาก็ได้เข้าพบกับกษัตริย์ทันที ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลับห้องของเขาได้จนกว่าดวงอาทิตย์จะตกดิน

สายตาของขุนนางและจอมเวทย์อาวุโสที่รวมตัวกันนั้นราวกับสุนัขที่หิวโหยถือเป็นเรื่องน่ากลัวในหลายๆด้าน แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้สนใจผู้ที่พึ่งเดินทางกลับจากเอลฟ์เฮล์มมากนัก แต่สาเหตุที่แท้จริงก็คือเวโรนิก้า

ถึงกระนั้น เธอก็ได้ปล่อยให้ธีโอดอร์ออกไปหลังจากที่บอกว่าพวกเขาควรจะมีการกินอาหารด้วยกันในภายหลัง

 

“ทำไมเธอถึงควรจัดการกับสิ่งที่ไม่จำเป็น?พวกตาแก่งั้นหรอ”สาวงามที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรที่มีเรือนผมสีแดงราวกับไฟได้ลูบหัวของธีโอ เขาเตรียมตัวที่จะถูกเธอลากไปรอบๆหลายชั่วโมง แต่ทว่าเธอเพียงแค่ยักไหล่และหัวเราะ จากนั้นเธอก็จิ้มไปที่หัวใจของธีโอด้วยนิ้ว

‘….ดูเหมือนว่ามันจะถูกค้นพบแล้ว วงกลมที่6ของฉัน?’

 

เขาได้ชื่นชมเวโรนิก้า ผู้ที่ตระหนักถึงมันโดยที่เขายังไม่เปิดใช้งานวงกลม มันเป็นความจริงที่ว่าเธอได้ทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อให้เขาสบายใจ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาจะให้ซื้อขนมหวานจากร้านขายขนมหวานภายในเมืองหลวงให้เธอสักกล่องในวันหลัง

ธีโอดอร์เปิดประตูห้องของเขาและวางสัมภาระของเขาลงขณะที่พอใจกับบรรยากาศที่เงียบสงบ

จากนั้นเขาก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงและพึมพำว่า “ผู้อาวุโส มันเป็นที่ดึงดูดฉันจริงๆ”

นอกเหนือจากระดับผู้อาวุโสสูงสุดของผู้นำหอคอยแล้ว ระดับผู้อาวุโสนั้นมีเกียรติและศักดิ์ศรีสูงสุดในหอคอยเวทมนต์

ถ้าในเวลานั้นเขากล่าวว่าเขาอยู่ในวงกลมที่6แล้ว เขาอาจจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งทันที อย่างไรก็ตาม ธีโอตัดสินใจที่จะไม่เลือกเส้นทางดังกล่าวหลังจากได้พิจารณาบางอย่าง

เขาจะกลายเป็นบุคคลใหม่ของเมลเทอร์โดยสมบูรณ์ ด้วยฐานะและสิทธิของเขาที่เติบโตขึ้น น้ำหนักของความรับผิดชอบบนไหล่ของเขาก็จะหนักขึ้น มันจะกลายเป็นเรื่องยากที่เขาจะออกจากบ้านและออกเดินทางหากเขากลายเป็นจอมเวทย์ระดับอาวุโส

สิทธิในการใช้ทรัพยากรของอาณาจักรได้อย่างเสรีหมายถึงการเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรนั้นเอง ดังนั้นเขาจึงมีข้อจำกัดมากมาย ปัญหาก็คือข้อจำกัดนั้นจะทำอันตรายกับธีโอในปัจจุบัน

ธีโอดอร์คิดเช่นนี้และยกมือซ้ายของเขาขึ้น “เห้”

-……..

“ฉันรู้ว่าแกตื่นแล้ว มีหลายเรื่องที่ฉันจะพูดถึง ดังนั้นอย่าทำให้ฉันเสียเวลา

-หืม

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลอกกันเนื่องจากการเชื่อมต่อระหว่างพวกเขา ดังนั้นในที่สุด ความตะกละก็ได้ยอมแพ้และส่งเสียงออกมา จากนั้นธีโอก็ได้วางหนังสือที่เขาเตรียมไว้

[‘การประยุกต์ใช้เวทย์ไฟ’ได้ถูกกินแล้ว ความเข้าใจของคุณสูงมาก]

[ความชำนาญของเวทย์ธาตุไฟได้เพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์กับธาตุไฟของคุณได้ถึงขีดจำกัดแล้ว ด้วยการชดเชย ระดับความเชี่ยวชาญของคุณจะเพิ่มขึ้นแทนเรื่อยๆ]

ความรู้เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ได้เจาะทะลุเข้ามาในหัวของเขาตามธรรมดา ธีโอมุ่งความสนใจไปที่ในหัวชั่วขณะก่อนที่จะมองลงไปยังมือซ้านของเขา  ถึงเวลาแล้วสำหรับคำถามและคำตอบ ในช่วงเวลาเช่นนี้ ส่วนใหญ่เขาจะใช้สิ่งนี้เพื่อขอคำตอบเกี่ยวกับสูตรเวทมนต์รวมถึงคำอธิบายและการใช้เวทมนต์

ธีโอคิดอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับคำพูดของเขาก่อนที่จะพูดว่า

 

“ตัวตนของไมน์ดัลคืออะไร?”

-…แล้ว มันก็ออกมา

 

ถ้าหากมันเป็นคน คิ้วของความตะกละคงจะขมวดแน่นไปแล้ว เวทย์โบราณแห่งความตะกละได้หยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบกลับด้วยเสียงโมโห –มันเป็นสิ่งที่เขาใจได้ยาก และข้าไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมแก่เจ้าได้

 

“งั้นแกสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ7บาปตนอื่นๆได้หรือไม่”

-ไม่ มันมากไปกว่าคำถามแรกเสียอีก ในกรณีของอัตตา ความสำคัญของมันอยู่ในระดับต่ำและข้าสามารถที่จะตอบคำถามได้ชั่วคราวเพราะพวกเราปะทะกับมัน ถ้าหากเจ้าต้องการฟังข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับอีก5ตน เจ้าต้องปลดผนึกลำดับที่6

 

แท้จริงแล้ว หากความตะกละสามารถตอบมันได้ งั้นมันคงไม่มีเหตุผลที่จะขัดขวางการพูดของไมน์ดัล ธีโอดอร์รู้สึกสงสัยอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาถามคำถามแก่ความตะกละ อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าความตะกละนั้นตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางอย่าง และมันยากที่จะตอบคำถามนี้

จากนั้นเขาก็คิดถึงคำแนะนำของไมน์ดัล ‘…ความลับที่ฉันไม่สามารถบอกเธอได้ในตอนนี้ และความลับที่เธอไม่ควรรู้...’

อย่างน้อยที่สุด ชายชราก็ไม่ได้แสดงความคิดมุ่งร้ายต่อธีโอ บางที ธีโออาจจะไม่ได้สังเกตุเห็น แต่เขาตัดสินใจที่จะเชื่อในสัญชาตญาณของเขา ถ้าเขาจมลงไปในความสงสัยที่ไม่จำเป็นละก็เขาจะไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้

เขาต้องใช้ก้าวแรกในการเอาชนะวิกฤติ

 

ธีโอส่ายความคิดที่หลงเหลืออยู่และพูดว่า “งั้นฉันจะเปลี่ยนคำถาม มันเป็นความจริงหรือไม่ที่ร่างกายของฉันจะอยู่ได้อีกเพียง5ปี เช่นที่ไมน์ดัลกล่าว?”

-มันเป็นความจริง ถ้าให้แม่นยำ มันคือ4ปี 8เดือน และ23วัน ช่วงระยะเวลาที่ผิดพลาดนั้นข้าคาดว่าไม่น่าจะเกิดสัปดาห์

“….บ้าเอ้ย”เขายอมรับมันหลังจากที่ได้ยินรายละเอียดของกำหนดเวลาเป็นครั้งที่สอง

 

ในความเป็นจริง นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเวทย์โบราณงั้นหรือ?มันไม่ได้อธิบายผลข้างเคียงของการกินและชีวิตของเขาตอนนี้ได้ตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความตะกละควรรับผิดชอบ ถ้าหากธีโอตาย มันจะต้องหาผู้ใช้คนใหม่และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ดังนั้นมันก็จะเกิดผลเสียหายต่อความตะกละเช่นเดียวกัน

 

ธีโอดอร์ฟื้นความสงบของเขาและถามโดยตรง “ไมน์ดัลบอกฉันว่าให้ขยายแก่นพลังชีวิตของฉัน ฉันจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”

-นี่ไม่ใช่หัวข้อที่สามารถตอบได้ด้วย1คำถาม

ธีโอดอร์แยกเขี้ยวและส่ายหัว

จากนั้นความตะกละก็ได้เสนอตัวเลือกที่สอง-จงสร้างกรรมของเจ้า

“กรรม?”

-ไม่ว่าจะความดีหรือความชั่ว ทุกๆการกระทำจะที่มีผลกระทบต่อโลกจะขยายแก่นพลังชีวิตของเจ้า เจ้าสามารถจะช่วยใครบางคน เจ้าสามารถจะทำลายใครบางคน การสร้างธรรมะจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้นจากกรรม นั้นคือสิ่งที่เกี่ยวกับระดับสูงสุด

 

คำพูดของความตะกละนั้นลึกซึ่งมากจนธีโอไม่สามารถเข้าใจได้ทุกสิ่ง แต่เขาเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาต้องสร้างความโกลาหลที่ส่งผลกระทบต่อโลกวัตถุในทางใดทางหนึ่ง มันสามารถที่จะดีหรือเลวก็ได้ ถ้าเขาทำเช่นนั้น แก่นพลังชีวิตของเขาจะเพิ่มขนาดขึ้น

มันเป็นทฤษฏีที่ธีโอจะตรวจสอบในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงถามตัวเลือกถัดไป “นอกจากนั้นละ?”

-ไม่มีอะไรที่ต้องถามอีก

“อะไร?”

มันอาจเป็นเพราะทั้งสองตัวเลือกถูกปฏิเสธ แต่เสียงของความตะกละฟังดูน้อยใจ –จงทำงานหนักกว่าที่เคยทำมา แม้ประสิทธิภาพจะต่ำกว่า แต่เจ้าสามารถบรรลุกำหนดเวลาได้

“ฉันต้องทำสิ่งเดียวกันงั้นหรอ?”

-ใช่ เพื่อไม่ให้ธีโอดอร์สับสน ความตะกละจึงประกาศ –จงล่าหนังสือต้นฉบับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด