ตอนที่แล้วตอนที่ 116 ความลี้ลับ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 118 จอมเวทย์ผู้กลืนกินหนังสือ 1

ตอนที่ 117 ความลี้ลับ 3


“….นั่นคือทั้งหมด ข้าได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่ตั้งแต่ตอนที่ข้าเข้าไปในที่ราบสีแดง ข้าไม่สามารถติดตามพวกมันไปได้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเวทย์มิติที่เลืองชื่อของWhite Tower”อัศวินที่สวมชุดสีดำทั้งตัวรายงาน

ชุดเกราะสีดำได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ขณะที่ดาบสีดำถูกออกแบบมาเพื่อให้หลอมรวมไปกับความมืด เมื่อเทียบกับเครื่องแบบของอัศวินทั่วๆไปแล้ว นี่ราวกับชุดเกราะที่สร้างมาเพื่อให้มองไม่เห็น ชุดดังกล่าวนี้แม้กระทั่งเหล่าอัศวินแห่งแอนดราสยังไม่เป็นที่รู้จัก

อย่างไรก็ตามหากมีกลุ่มคนที่สามอยู่ในสถานที่แห่งนี้  พวกเขาคงจะตกอยู่ในความกลัว

อัศวินเหล่านี้เป็นเงามืดที่คอยทำงานสกปรกของจักรวรรดิ ตั้งแต่รวบรวมข้อมูลไปจนถึงการลอบสังหาร มันเป็นองค์กรลับที่แม้กระทั่ง7เทพดาบแห่งจักรวรรดิยังไม่สามารถเรียกใช้งานได้หากปราศจากคำสั่งขององค์จักรพรรดิ เหล่าอัศวินแห่งเงามืด

พวกเขาเป็นคนที่ไม่ได้มีตัวตนอยู่อย่างเป็นทางการในจักรวรรดิและมีชื่อเสียงในด้านการใช้พิษและการฆ่าตัวตาย ในกรณีนั้น ใครจะมองลงไปที่อัศวิน....?

“แท้จริง มันถือเป็นความล้มเหลวที่สมบูรณ์แบบ ข้าต้องชื่นชมฝีมือของศัตรูของเรา”เสียงต่ำของใครบางคนดังขึ้น

มันเป็นเสียงที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ แต่มันกลับกดดันบังคับให้ทั้งสองอัศวินทีอยู่ตรงหน้าปิดปากสนิท อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่การข่มขู่ เขาเพียงเปิดปากของเขาขึ้นเท่านั้น

นี่คือการปรากฏตัวของบุคคลที่ไม่ธรรมดา เป็นการบ่งบอกว่าเขาเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจตั้งแต่เกิดมาและครอบครัวของเขาเป็นที่ยอมรับมาหลายสิบปี กล่าวอีกนัยหนึ่งเขามีจิตใจที่เป็นผู้ปกครอง

 

“ดะ-ได้โปรดฆ่าผม!”ในตอนท้าย อัศวินแห่งเงามืด ไม่สามารถที่จะทนทานต่อแรงกดดันได้และได้ทิ้งร่างกายลงขณะที่สารภาพบาปของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ขอความเมตตาจากอีกฝ่าย ในฐานะเงาแห่งจักรวรรดิ การล้มเหลวในภารกิจหมายถึงความตาย พวกเขาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากทำภารกิจล้มเหลว

อัศวินแห่งเงามืดรู้ดีกว่าใคร ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกใจกับคำพูดต่อไปของอีกฝ่าย

“ไม่ นั่นไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าปฏิบัติตามคำสั่งของข้าอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเช่นนั้น ความล้มเหลวนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของข้าเช่นกัน ดังนั้นอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป”

“แต่...!”

“หยุด จนกว่าข้าจะเรียกเจ้าอีกครั้ง จงไปรวบรวมข้อมูลของคนที่ชื่อว่าธีโอดอร์มาให้ข้า”

เช่นนั้น อัศวินแห่งเงามืด จึงสั่นเทาและค่อยลุกขึ้นและหันหลังไป เขาเดินออกจากห้องไปโดยไม่มีเสียงใดๆ ชายคนนั้นมองไปยังอัศวินที่เหลืออยู่และพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “น่าแปลกใจ ข้าคิดว่าเจ้าจะตัดหัวเขาลงเสียอีก”

อัศวินที่สวมหน้ากากสีดำไม่ได้ปฏิเสธมันและก้มหัวลง “….ข้าคิดเช่นนั้น”จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็น “แต่เงานั่นได้ทำหน้าที่ของมันจนจบ ถ้าเขาก้าวไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียว ดาบของข้าจะมอบความตายให้มันอย่างสงบ”

“ดี นั่นถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจ” ชายผู้นั้นหัวเราะด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้ว่าชายคนนี้จะถูกอัศวินมากมายทำความเคารพด้วยความยำเกรง แต่เขารู้ถึงทักษะของนักดาบที่อยู่ตรงหน้าเขาดี

อัศวินผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าแห่งเงามืด และตอนนี้เป็นปรมาจารย์ดาบในตำแหน่งดาบที่6 แม้ว่าเขาจะสูญเสียแขนไป เขายังคงเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ายำเกรงอยู่ดี ความสามารถ’ลบตัวตน(Disappear)’ ของเขาทำให้เขาสามารถต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ผู้นำWhite Tower กลับคว่ำยอดอัศวินที่อยู่ตรงหน้าเขาลงได้  จิตใจของเขารู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

 

“โดยวิธีการแล้ว มันเป็นถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งที่ผู้นำWhite Tower นั้นแข็งแกร่งเช่นนี้ การปรากฏตัวของเขาเทียบเท่าได้กับ ผู้นำRed Tower และBlue Tower เลยใช่มั้ย?”

“ข้าคิดเช่นนั้น”

“ดี เขาเป็นไพ่ที่ซ่อนอยู่”

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่แข่งกันมานานหลายร้อยปี แต่ทว่าแอนดราสนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงพลังของเมลเทอร์ได้ทั้งหมด นี่คือจุดแข็งของอาณาจักรเวทมนต์ที่สามารถทำให้สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้

ในตอนท้ายของการต่อสู้ที่พวกเขามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะได้รับชัยชนะ จอมเวทย์ขั้น8กลับปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันและทำลายสมดุลทิ้ง พลังการต่อสู้ของผู้นำWhite Tower  ผู้ที่เคยทำลาย7เทพดาบมาแล้ว ถือเป็นตัวแปรที่น่ารำคาญ

 

“ข้าได้ยินมาว่าผู้นำWhite Tower เคยเผชิญหน้ากับดาบที่3และดาบที่6คนก่อนโดยตรง....พวกเขาต่อสู้กันในสงครามครั้งสุดท้าย ดังนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าความสามารถของเขานั้นได้เปิดเผยมามากเท่าไรแล้ว”

“…ครั้งหน้า”

“หืม?”

ชายสวมหน้ากากยกหัวขึ้นเป็นครั้งแรก แสงสีแดงส่องแสงทะลุผ่านหน้ากากครึ่งที่แตกหัก และออร่าที่น่ากลัวได้ลุกโชนขึ้นจากร่างกายเขา จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาไม่สูญหายไปหลังจากความพ่ายแพ้ เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่เสียงที่ดังขึ้นจากภายใต้หน้ากากนั้นราวกับแม็กม่าขณะที่เขากล่าว “ครั้งต่อไป ข้าจะใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อฆ่ามัน”

“ด้วยแขนข้างนั้น?”

“ใช่”

 

คำพูดของชายผู้นั้นได้แตะจุดของเขา แต่นักดาบกลับไม่ได้สั่นเลย มันถือเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับเขาที่ต้องสูญเสียแขนขวาไป อย่างไรก็ตามถ้าเขาสามารถแก้ไขสไตล์การต่อสู้ของเขาได้เขาก็จะสามารถฟื้นคืนพลังดั้งเดิมของเขากลับมา มันอาจจะใช้เวลานาน แต่มันก็คุ้มค่าสำหรับเจ้านายที่ได้ช่วยเขาจากขุมนรก ความจงรักภักดีของเขาคือหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมชายผู้นั้นถึงไว้ใจเขา

ชายคนนั้นยิ้มใหเด้วยความรู้สึกยินดีและเปิดปากขึ้น “….อ่า ข้าไม่สามารถที่จะพูดล้อเล่นได้”

เขาไม่เคยคิดว่าเด็กกำพร้าที่เขาได้ช่วยไว้ในตอนเด็กจะเติบโตขึ้นและกลายเป็นมือขวาของเขา ชายสวมหน้ากากนั้นจงรักภักดีต่อเขาอย่างมาก ขณะที่เผชิญหน้ากับนักดาบ ชายผู้นั้นก็ได้

หยิบกล่องจากด้านหลังเขาขึ้นมาและโยนมันให้กับชายสวมหน้ากาก

“นะ-นายข้า?”

“เปิดมันสิ”

 

มันเป็นของที่ยากจะได้มาแม้จะด้วยฐานะของเขาก็ตาม มันเป็นรางวัลสำหรับคนใต้บังคับบัญชาของเขา แต่ไม่มีใครที่สมควรจะได้รับมันและมีความสามารถพอจะจัดการกับมันได้

 

“นี่เป็นรางวัลสำหรับความจงรักภักดีของเจ้า ข้าจะรับผิดชอบต่อความล้มเหลวนี้เอง ข้าเข้าใจดีว่าการสูญเสียแขนข้างหนึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเจ้า”

“….นายข้า!”

“ข้าจะไม่พูดนาน รับมันไป”

 

นักดาบไม่กล้าที่จะปฏิเสธและเปิดกล่องขึ้น พลังที่ราวกับพายุได้ไหลออกมาราวกับมันกำลังรออยู่ ตราผนึกที่ปิดเอาไว้รอบๆได้รับการปล่อยตัว และแสงสีเงินที่ถูกกักเก็บไว้ในกล่องได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ

วูบ!แสงว่างจ้าแผ่กระจายออกมาจากกล่องและบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายในกล่อง มีรูปร่างเป็นดาบอย่างชัดเจน

ปรมาจารย์ดาบไม่สามารถเก็บความสงบได้อีกต่อไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่สร้างด้วยน้ำมือของมนุษย์ แต่เป็นของตกทอดที่ถูกซ่อนไว้ในประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมเลือน ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดจะถูกเผาผลาญทันทีที่ถือมัน

มันเป็นของที่ตกทอดมาจากสายพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สูญเสียชื่อดั้งเดิมไป

“จงฝึกฝนแขนซ้ายของเจ้าเพื่อให้เจ้าสามารถใช้สิ่งนี้ได้ภายในหนึ่งปี”

นักดาบผู้สวมหน้ากากเขย่าหัวของเขาและไม่กล้าที่จะตอบกลับ เขาถือดาบสีเงินที่ส่องประกายเอาไว้ในระดับอกและแสดงความจงรักภักดีต่อนายของเขา

ชายคนนั้นมองไปที่ภาพตรงหน้าด้วยความพึงพอใจก่อนที่จะจ้องมองไปในอากาศ  “ไม่ ยังไม่ใช่ ในอีก5ปีข้างหน้า....ข้าจะดึงพ่อที่ไร้ความสามารถของข้าลงมาและเปลี่ยนแปลงจักรวรรดิของข้า”

ดวงตาของเจ้าชายที่สามแห่งจักรวรรดิ เจ้าชายเฟอร์มุท ส่องประกายท่ามกลางความมืดมิด

***

หลังจากที่ยืนยันความสัมพันธ์กับเอลฟ์เฮล์มเรียบร้อยแล้ว กลุ่มคณะฑูตและธีโอดอรืก็ได้ผ่านที่ราบสีแดงอีกครั้ง

ความคิดที่ว่าต้องเดินทางหลายกิโลเมตรนั้นไม่สำคัญเมื่อพวกเขามาพร้อมกับผู้นำWhite Tower เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่พวกเขาออกจากเกรทฟอเรสต์ พวกเขาก็ได้ข้ามเขตของเมลเทอร์แล้ว มันเป็นความเร็วที่ไม่สามารถบรรยายได้

 

“…เราจะพักกัน30นาที ฉันไม่มีพลังเวทย์มากพอที่จะใช้Mass Teleport”

“ผมเข้าใจครับ”

 

อย่างไรก็ตาม มันมีข้อจำกัดในการใช้Shukuchiho กลุ่มนั้นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ภาระที่ผู้ใช้ต้องแบกไว้ก็หนักหนามาก ทุกคนที่ยังไม่ถึงขึ้น7พลังเวทย์จะแห้งเหือดทันทีที่ใช้ไม่กี่ครั้ง ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นเวทมนต์ที่น่าหลงใหล

ออร์ต้านั่งพิงผนังกำแพงและเริ่มหมุนวงกลมของเขา

ธีโอมองไปที่ผู้นำWhite Towerและพึมพำในใจว่า ‘ถ้าหากฉันสามาถรเรียนรู้เวทย์มิติได้อย่างถูกต้องละก็มันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่....ฉันไม่ควรโลภมากเกินไป”

เขาได้พบกับนักปราชญ์ที่น้ำพุแห่งปัญญาและตอนนี้พลังของธีโอดอร์ได้เอ่อร้นไปทั่วตัวเขาแล้ว

พลังของลิเวียธาน อัมบรา และการดูดซับพลังจากสมบัติมากมาย....ถ้าเขากินสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มิติของผู้นำWhite Tower อาจจะเป็นไปได้ว่าเวลาของเขาจะสั้นลง

‘ห้าปี.....ถ้าฉันคิดถูกต้อง มันก็เหมือนกับเหลืออีก3ปี’

ร่างกายของเขาจะพังลง เขาไม่รู้ว่านั่นหมายถึงอะไร แต่เขารู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เห็นได้ชัดว่าจะมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น ดังนั้นสามปี....ในอีกสามปีข้างหน้าเขาจำเป็นต้องสร้างแก่นพลังที่จะสามารถจัดการกับความสามารถของเขาได้ ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้ ชื่อเสียงของเขาจะเพิ่มขึ้น

ไม่ เขาไม่ใครจะใช้ประโยชน์จากมัน

-กำจัดการต่อสู้ที่ทำอยู่ทุกวันและการกินของจอมเวทย์(Eating of a magician ใครคิดได้ช่วยทีครับ แปลถูกรึเปล่า) จงใช้ชีวิตราวกับสัตว์เดรัจฉาน สำรวจโลกกว้างและเพิ่มขนาดของแก่นพลังของเจ้า

ห้าปีหลังจากที่เขาเรียนอยู่ที่สถาบันเบอร์เก้น ธีโอได้พบกับความตะกละและกลายเป็นมีพลัง ในตอนท้ายของเส้นทางอันยาวไกลที่ปราศจากความหวังใดๆ เขาได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่สามารถเรียกได้ว่าตำนาน

ถ้าเช่นนั้น อะไรคือสิ่งที่ธีโอดอร์ มิลเลอร์ ต้องการในตอนนี้?โชคดี ที่เขามาพร้อมกับใครบางคนที่สามารถตอบคำถามได้ทุกคำถาม

‘คำถามและคำตอบ’

เมื่อเขากลับไป เขาจะรายงานความสำเร็จของเขากับเคิร์ทที่3แล้วถามคำถามจากความตะกละ

ในเรื่องนี้ เวลาที่จำกัดนี้เกิดจากการใช้พลังของความตะกละ มันเองก็คงไม่ต้องการที่จะสูญเสียผู้ทำสัญญา ดังนั้นมันคงจะไม่เป็นเรื่องยากที่จะได้รับความร่วมมือจากความตะกละ ความตะกละนั้นคงจะไม่ลังเลที่จะสอนธีโอว่าจะขยายแก่นพลังของเขายังไง

แน่นอนคำถามอื่นๆต้องไว้ทีหลัง

‘วัตถุประสงค์และตัวตนของ7บาปอื่นๆ....และความจริงของโลกที่ฉันยังไม่รู้’

มันเป็นโชคชะตาของจอมเวทย์ผู้ที่เดินตามความลี้ลับและความไม่รู้

จากนั้นออร์ต้าก็ได้พักฟื้นเสร็จแล้ว

การต่อสู้กับเวทย์โบราณระดับตำนาน การพูดคุยกับเพื่อนบ้านและการผจญภัยที่ไม่คาดคิดได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่ว่าเหตุกาณณ์อะไรที่กำลังรอเขาอยู่ในครั้งนี้ เขาได้กลับมาแล้ว....

...กลับมายังใจกลางแห่งอาณาจักรเวทมนต์ เมลเทอร์ เมืองหลวงมาน่าวิล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด