ตอนที่ 116 ความลี้ลับ 2
หลังจากที่ตกลงกับไมน์ดัลเสร็จ ความตะกละก็ได้นิ่งเงียบไป ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยพอใจในผลของการทะเลาะกับไมน์ดัล ธีโอดอร์พยายามที่จะพูดคุยกับความตะกละอยู่หลายครั้งภายในใจ แต่ความตะกละไม่ตอบกลับและหลับลงไปแล้ว
กลับกัน ไมล์ดัลได้หัวเราะและกล่าวกับธีโอ [ฮ่าๆ ฉันคิดว่ามันคงอารมณ์เสียนะ ฉันเสียใจสำหรับความหยาบคายของฉัน]
‘ช่างเป็นร่างที่น่ากลัวจริงๆ’ธีโอจ้องมองไปที่ชายชราด้านหน้าเขาอย่างสงบ
มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาความตั้งใจจริงๆของไมน์ดัลจากดวงตาเขา เนื่องจากนี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวความทรงจำที่เหลืออยู่ในบ่อน้ำพุเท่านั้น ไมน์ดัล เฮอเซม ผู้ที่มีพฤติกรรมและความลึกซึ้งในฐานะจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ รวมถึงการเป็นนักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่.....เขาไม่ใช่คนประเภทที่ธีโอผู้ที่อายุเพียง20ปี จะสามารถเผชิญหน้าได้อย่างเทียบเท่า
“ถ้างั้น ทำไมไมน์ดัลถึงต้องการพบเด็กหนุ่มเช่นผมกัน?”ธีโอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมขณะที่เขาอดที่จะรู้สึกอึดอัดไม่ได้
มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นของเล่นสำหรับทั้งสอง ความตะกละและไมน์ดัล ทั้งสองคนอยู่นอกเหนือความเข้าใจของธีโอดอร์ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะก้มหัวให้กับทั้งคู่
ไมน์ดัลหัวเราะออกมาเหมือนกับปู่ที่กำลังจ้องมองหลานชายของเขา [ผู้ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ทำสัญญากับ1ใน7บาปเป็นเพียงเด็กหนุ่ม?ดังนั้น อย่าตกใจธีโอดอร์ ชายแก่คนนี้พยายามที่จะช่วยเธอ]
“…ทำไมกันครับ?”
[หืม?]
“ผมไม่ทราบรายละเอียด ถ้าคุณต้องการที่จะช่วยผม โปรดบอกผมว่าทำไม”
มันเป็นสถานการณ์ที่ธีโอไม่รู้เรื่องอะไรเลย และเขาถูกตัดสินใจโดยไม่คำนึงถึงความต้องการของเขา เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นหุ่นเชิดที่อยู่บนฝ่ามือของใครบางคน
ธีโอดอร์ได้ยืนหยัดขึ้นเพื่อที่จะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือจอมเวทย์ทุกคน
ไมน์ดัลไม่เคยคิดถึงปฏิกิริยานี้และหมดคำพูดไปชั่วขณะ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็พูดด้วยเสียงที่เสียงหัวเราะทั้งหมดหายไป […ถูกต้อง มันอาจจะเป็นเพียงแค่คำพูด แต่ฉันต้องขอโทษด้วย]
ไมน์ดัลโค้งหัวหลังจากที่พูดจบ มันเป็นคำขอโทษของชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเวทย์หลายสิบเล่ม
ธีโอได้ถูกดึงความสนใจจากพฤติกรรมของไมน์ดัล
จากนั้นชายชราก็ยกหัวขึ้นและพูดอีกครั้ง[แต่ฉันต้องการให้เธอรู้ว่า นั่นหมายความว่ามันมีความลับที่ฉันไม่อาจบอกเธอได้ในตอนนี้ และมันเป็นความลับที่เธอไม่ควรรู้ อย่างน้อยที่สุดเธอจะต้องปลดผนึกลำดับที่5ของความตะกละ เพื่อที่จะมีคุณสมบัติที่จะรับรู้]
“ไมน์ดัล คุณ....!”
[ใช่แล้ว ฉันรู้ วัตถุประสงค์ที่บาปทั้ง7ปรากฏตัวบนโลกนี้และการกระทำที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง....และ...]
ไมน์ดัลเอื้อมมือออกไปอย่างฉับพลันทำให้ธีโอไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้าย?บางทีอาจจะเป็นเพราะการคงอยู่ของไมน์ดัลนั้นไม่ชัดเจน ก่อนที่คำเตือนจะไหลผ่านเข้ามาในระบบของเขา มือที่ทำจากน้ำพุก็ได้คว้ามือซ้ายของธีโอ
[ถ้ายอมรับมัน ฉันสามารถทำเช่นนี้ได้]
ในเวลาเดียวกัน แสงสีฟ้าก็กระพริบขึ้นในหัวของธีโอ
‘---------!’
บางสิ่งบางอย่างได้ถูกเทใส่หัวของเขา บทเรียนที่ไม่รู้จัก ทัศนียภาพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ตัวอักษรที่เขาไม่เข้าใจและอื่นๆ มันดูราวกับว่าเขาได้กินหนังสือเวทมนต์หลายสิบเล่มพร้อมกัน หัวที่ยอดเยี่ยมของธีโอไม่สามารถรับมือกับข้อมูลจำนวนมากนี้ได้
ความรู้ที่ถูกบังคับใส่เข้ามาได้ขยายความอดทนของสมองเขาและได้กระตุ้รให้เกิดพื้นที่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถอธิบายได้ว่ามีบางอย่างได้ตื่นขึ้น
นอกจากนี้ มันไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแค่เท่านั้น
[Error!Error…!ได้รับการยืนยัน นี่คือคำขอที่ถูกต้อง ผนึกลำดับที่4ของความตะกละได้ถูกปลดผนึกแล้ว]
[คุณสมบัติของความตะกละได้ถูกเปิดขึ้นด้วยวิธีปกติ ผู้ใช้ควรตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลของคุณสมบัตินี้ทันที]
[หนังสือเวทย์โบราณ’ความตะกละ’ /ระดับC]
[ผนึกลำดับที่4ของความตะกละได้รับการปลดผนึกผ่านวิธีปกติ จากนี้ไปผู้ใช้สามารถยืมพลังของผู้เขียนที่ความตะกละกินไปแล้วได้ อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เขียนได้ถูกเขียนทับแล้ว(Overwritten) ผูเขียนนั้นจะไม่สามารถใช้ได้อีกครั้ง เจ้าของคนก่อนได้เรียกคุณสมบัตินี้ว่า ‘เขียนทับ’ แต่คุณสามารถเปลี่ยนชื่อได้หากต้องการ
*เมื่อคุณสมบัติเขียนทับได้แสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดแล้ว ‘การส่งผ่าน(Transmission) จะถูกเรียกใช้เพื่อรับมอบพลังจากผู้เขียนอย่างสมบูรณ์]
ก่อนหน้านี้ในตอนที่เขาสู้กับอัตตา ความตะกละ ได้ฝืนปลดผนึกลำดับที่4 ครั้งนี้ ด้วยวิธีการนี้มันกลับไม่ได้บอกว่าเป็นวิธีผิดปกติ ธีโอรู้สึกกลัวกับปรากฏการณ์ที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ ขณะที่เขาตระหนักได้ถึงความรู้ใหม่ๆที่เติมเต็มอยู่ในหัวของเขา
‘ไม่ ท่าทางนั้นเป็นเรื่องแปลกๆ’
อาการเวียนหัวได้หายไปและความรู้ของไมน์ดัลยังคงอยู่ในหัวของเขา เหมือนกับการได้รับแก่นชีวิตที่มีความรู้อยู่แล้ว ความรู้ที่ไมน์ดัลได้ทิ้งไว้ในน้ำพุแห่งปัญญานั้นเหมาะสมกับฉายา ‘ผู้รอบรู้’ดังนั้นจึงมีเพียงธีโอเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์หลังจากก้าวข้ามกำแพงมาสองชั้นแล้ว
ธีโอดอร์ตระหนักได้ถึงสิ่งนี้และเงยหัวของเขาขึ้น เขารู้สึกว่ามันเป็นพร แต่มันยากที่เขาจะเปิดเผยความรู้สึกใดๆของเขาต่อไมน์ดัล
ไมน์ดัลตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดกับธีโอแทนที่จะพยายามซื้อความเชื่อใจของเขา เวลาสำหรับธีโอที่จะอยู่ในน้ำพุแห่งปัญญานั้นเหลือไม่มากนัก และเขายังมีสิ่งที่เขาอยากจะพูดกับธีโอดอร์
[มีร่องรอยของการปลดผนึกไปแล้วหนึ่งครั้ง ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ฉันจึงมีเวลาอีกเล็กน้อยที่จะพูดคุยเกี่ยวกับ..]
“…..”
[แค่ก อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันมีเวลาเหลืออีกแค่5นาที โปรดฟังคำแนะนำของชายชราผู้นี้]
ขณะที่ธีโอจ้องมองใบหน้าของไมน์ดัลด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ชายชราก็ไอออกมาไม่กี่ครั้งก่อนที่จะเปิดปากขึ้นอีกครั้ง
[พูดอย่างสัตย์ตรง ในตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่อันตรายยิ่ง]
คิ้วของธีโอดอร์กระตุกขึ้นกับคำพูดนั้น มันเป็นหัวข้อที่จริงจัง นี่ไม่ใช่การวิเคราะห์จากชายแก่แต่เป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ไมน์ดัล ขณะที่เวโรนิก้าได้เคยสังเกตเห็นถึงวงกลมที่ไม่เสถียรของธีโอ ดวงตาของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้สังเกตเห็นถึงรอยแตกที่ธีโอไม่สามารถรู้สึกได้
ไมน์ดัลร้องออกมาเบาๆขณะที่เขาสัมผัสกับเคราของเขา [มันเกิดจากการที่เธอกินลิเวียธานเข้าไป พลังได้ถูกสกัดจากเวทย์โบราณและมิติที่ไม่สามารถระบุได้ นอกจากนี้พลังของสิ่งประดิษฐ์และสมบัติ.....มันยากเกินไปสำหรับชายผู้ที่อายุเพียง20ปี]
“....โดยเฉพาะเจาะจงแล้วอะไรคือปัญหา?”
[ฉันจะถามคำถามเธอง่ายๆ ถ้าเธอเทเนื้อหาที่มากจนชามไม่สามารถจัดการได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับชาม?]
‘มันจะแตก’ธีโอส่ายหัวให้กับความรู้สึกน่าขนลุก
จากนั้นไมน์ดัลก็พยักหน้าราวกับเขารู้ว่าธีโอคิดสิ่งใดและพูดต่อไป [โชคดีที่การดื่มน้ำพุนี้ได้ช่วยเพิ่มระยะเวลาออกไป มันอาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับ2ปี แต่หลังจาก3ปี ร่างกายของเธอจะเริ่มพังทลาย และเธอจะตายภายใน5ปี]
“นั่น....!”
[ขอโทษ แต่ฉันไม่มีเวลาแล้ว]
เวลานั้นมีจำกัด รูปร่างของไมน์ดัลเริ่มยุบลงทีละเล็กน้อย นิ้วที่ชี้มาที่ธีโอได้แปรเปลี่ยนเป็นน้ำและรูปร่างทั้งหมดกลายเป็นเบลอ อย่างไรก็ตามเสียงของไมน์ดัลยังคงชัดเจนราวกับเขาพูดผ่านหัวของธีโอโดยตรง
ชายชรานั้นรู้สึกว่าเขาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นจนกว่าจะจบ[จงเพิ่มสมรรถภาพของแก่นชีวิต กำจัดการต่อสู้ที่ทำอยู่ทุกวันและการกินของจอมเวทย์(Eating of a Magician ไม่รู้แปลถูกไหม) จงใช้ชีวิตราวกับสัตว์เดรัจฉาน สำรวจโลกกว้างและเพิ่มขนาดของแก่นชีวิตของเธอ]
“นั่นมันสรุปสั้นเกินไป!”
[ไม่ เธอรู้วิธีการนั้นแล้ว]
แม้ใบหน้าจะบิดเบี้ยว แต่ดวงตาสีฟ้าของเขาราวกับจ้องทะลุไปในตัวธีโอ
[เช่นเดียวกับที่เธอเคยต่อสู้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำมันอีกครั้งในเวลานี้ อย่าลังเลที่จะเดินบนเส้นทางที่ยากลำบาก จงกลายเป็นจอมเวทย์ผู้ที่เดินตามเส้นทางของตัวเองผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก]
ธีโอดอร์นั้นไม่รู้เป้าหมายของไมน์ดัล และแม้จะมีการพูดคุยกันแล้วก็ตาม เขาก็ยังคงไม่รู้อยู่ดี อย่างไรก็ตามเขาสามารถที่จะเล่าสิ่งหนึ่งจากเรื่องนี้ได้ ไมน์ดัลเป็นจอมเวทย์มาก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักปราชญ์ ธีโอรู้ดีว่าเขาควรจะสลักคำแนะนำนี้ไว้ในใจของเขา
ไมน์ดัลได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว และน้ำพุได้กลับสู่ความสงบอีกครั้ง สิ่งที่เขาพบเจอนั้นราวกับความฝันในคืนฤดูร้อน
ธีโอดอร์ มิลเลอร์ ได้จองมองไปที่พื้นที่ด้านหน้าสักพัก จากนั้นเขาก็เริ่มขยับตัวอย่างเงียบๆ ‘…ไปกันเถอะ’
โอกาสที่จะได้ใช้น้ำพุแห่งปัญญานั้นมีเพียงครั้งเดียว ดังนั้นการที่เขาจะมาที่นี่อีกจึงเป็นเรื่องเสียเวลา มีคำถามอีกมากมายที่จอมเวทย์หนุ่มได้ทิ้งไว้ในสถานที่ศักสิทธิ์ของเหล่าเอลฟ์
***
สำหรับเอลโลน่า เมื่อครบ30นาทีธีโอดอร์ก็โผล่ออกมาทันที ขณะที่เขาปรากฏตัวที่ประตูของกระท่อม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย
เอลโลน่านั้นกำลังรออยู่อย่างเงียบๆ และรีบเดินเข้าไปหาเขา จนแทบจะชนกัน ใบหน้าของธีโอดูแตกต่างไปจากปกติเล็กน้อยและเธอรู้สึกว่าแก้มของเธอนั้นร้อนขึ้น โชคดีที่ธีโอไม่เห็นมัน
“ธีโอดอร์ยินดีต้อนรับกลับมานะ”
“อา เอลโลน่า”
“มันเป็นยังไงบ้าง?ดินแดนศักสิทธิ์ของเอลฟ์.”เธอยิ้มด้วยความคาดหวัง
จากนั้นธีโอก็บอกเธอด้วยความซื่อตรงว่าเขารู้สึกยังไง“ฉันมีสิ่งที่ต้องคิดมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้”
เขาได้พบกับคนที่ไม่คาดคิดในที่ที่ไม่คาดคิด ผนึกของความตะกละได้ถูกปลดอีกครั้ง และเข้าได้รับกำหนดเวลา ธีโอไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรเพราะมีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
ไม่รู้ว่าเธอรับรู้ได้ถึงหัวใจที่ซับซ้อนของธีโอหรือไม่ก็ตาม แต่ท่าทางของเอลโลน่าได้เปลี่ยนเป็นจริงจัง
จากนั้นเธอก็พูดคำพูดที่เธอเตรียมไว้แล้วขณะที่รอ “หน้าที่ของฉันได้สิ้นสุดลงแล้วที่นี่ เพื่อที่จะนำทางธีโอดอร์มาที่น้ำพุแห่งปัญญาและกลับไปที่ห้องจัดงานเลี้ยง จากนี้ไป มันจะเป็นเพียงความโปรดปรานส่วนตัวของฉัน ดังนั้นเธอจะรับฟังมันได้ไหม?”
ธีโอพยักหน้า
เมื่อเอลโลน่าได้รับความมั่นใจ เธอก็ได้ยื่นมือออกมา ขณะที่แสงจันทร์ได้ไหลปกคลุมไปทั่วต้นไม้โลก นิ้วมือของเธอดูเหมือนจะส่องประกายสีเงินออกมา ความงามและบรรยากาศในเทพนิยายได้จับยึดดวงตาเขาไว้ชั่วขณะ
“....เธอจะเดินไปกับฉันเล็กน้อยได้ไหม?”เอลโลน่าหลับตาลง เธอทำท่าไม่รู้เรื่องและนิ้วมือของเธอสั่นด้วยความกลัวที่ว่าจะถูกปฏิเสธ จากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อมือที่อุ่นและหยาบได้สัมผัสมือของเธอ
ธีโอดอร์ยอมรับความโปรดปรานเล็กน้อยโดยการจับมือของเธอ “ฉันเองก็ต้องการที่จะเดินไปรอบๆอีกเล็กน้อย”
รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอลโลน่า เมื่อเขายอมรับมัน ธีโอได้ก้มมองลงไปที่รอยยิ้มอันแสนสวยงามดังกล่าวจากนั้นได้มองลงไปที่มือของพวกเขา บางทีอาจจะเป็นเพราะอารมณ์หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะมือของเขาใหญ่ขึ้น เขารู้สึกว่ามือของเอลโลน่าเรียวเล็กกว่าเมื่อครึ่งปีก่อน
‘…อืม ฉันต้องถูกเข้าใจผิดแน่ๆ’
แต่น่าเสียดาย เขายังคงไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้