ตอนที่ 114 รางวัลจากต้นไม้โลก 3
อารมณ์ได้ผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากดื่มไปแก้วแรก ตอนแรกเหล่าจอมเวทย์มีปัญหาในการพูดคุย แต่ปากของพวกเขาก็เริ่มเปิดขึ้นภายใต้อำนาจของเครื่องดื่มมึนเมาและเอลฟ์ชั้นสูงก็ได้ให้ความสนใจในคำพูดของพวกเขา
อลูการ์ดกำลังแสดงความสนใจในตัวของจอมเวทย์จากYellow Tower ที่กำลังพูดคุยถึงการเพาะเห็ด ขณะที่หูของลูเมียขยับฟังการพูดคุยระหว่างมนุษย์ไปมา ไนอาร์ยังคงหลับ แต่บางครั้งเธอก็จะตื่นขึ้นมาถามถึงหัวข้อที่เธอสนใจ
ในหมู่พวกเขาอลิซ่าเป็นเอลฟ์ชั้นสูงที่รื่นเริงที่สุด
“วันนี้คุณสวมหน้ากากทำไม?คุณคาดหวังว่าจะสวมหน้ากากลูกบอลหรือบางอย่างงั้นหรอ?หรือมันเป็นเหตุผลอื่น?”
“เป็นเพราะเรื่องส่วนตัว”
“ฉันเข้าใจ งั้นคุณสามารถแสดงให้ฉันเห็นได้ไหม?หรือบอกฉันว่าทำไม!ธรรมชาติที่อยากรู้อยากเห็นของฉันจะไม่ปล่อยมันไปจนกว่าฉันจะค้นพบ”
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
“เอ๋”
เธอดูเหมือนจะสนใจออร์ต้าในขณะที่เธอยังคงเซ้าซี้ต่อไป ทั้งสองคนดูเหมือนจะเข้าใจได้ยาก ดังนั้นบริเวณโดยรอบพวกเขาจึงเงียบสนิท
นอกเหนือจาก เอลฟ์ชั้นสูงที่พูดคุยกับเหล่าจอมเวทย์แล้ว ตัวละครหลักของงานเลี้ยงครั้งนี้ได้นั่งอยู่ที่อื่น ธีโอดอร์ ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำภารกิจในการจัดการกับมอนสเตอร์ระดับตำนานลิเวียธานและสร้างโอกาสของภารกิจในการเชื่อมสัมพันธ์กับเอลฟ์เฮล์ม....เขาสมควรที่จะเป็นศูนย์กลางของงานเลี้ยง
‘….เอ่อ นี่คืออะไร?’อย่างไรก็ตาม ธีโออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ด้านซ้ายของเขาคือเอลโลน่า.....
“ธีโอดอร์!ผลไม้ชนิดนี้เรียกว่าZaoyan มันอร่อยมาก มันเป็นผลไม้หายากจากป่าตอนเหนือ แต่นี่เป็นถือเป็นอาหารที่มีชื่อของเอลฟ์เฮล์ม ดังนั้นเธอไม่ควรที่จะพลาดมัน”
“ขะ-ขอบคุณ”
และด้านขวาของเขาคือซิลเวีย....
“ธีโอ กัดนี่สิ ฉันโรยเครื่องเทศบางอย่างลงไป ดังนั้นมันน่าจะมีรสชาติที่อร่อยมาก”
“ระ-รอเดี๋ยวนะ”
“อะไร?โอ้ เป็นเพราะเปลือกของมัน ฉันจะเอามันออก รอแปปนึงนะ ถ้าฉันวางมีดไว้ตรงนี้....!”
ไม่มีช่องว่างให้สำหรับธีโอดอร์ที่จะหยุดสิ่งนี้ เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม แต่การแข่งขันนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเขาไม่สามารถปฏิเสธที่จะกินอาหารที่ช้อนได้เลย เขาไม่สามารถปฏิเสธสายตาสองคู่นี้ได้ ธีโอดอร์ได้แต่เคี้ยวต่อไป
มีชามที่ว่างเปล่าซ้อนอยู่ตรงหน้าทั้งสามคนหลายใบ และน้ำหนักของท้องเขาที่เพิ่มขึ้นทำให้ได้อยู่ในจุดอันตราย
‘อืมฉันต้องกินอีกนานแค่ไหน….?’ธีโอดอร์พยายามมองหาทางออก นี่สวรรค์กำลังหลบตาให้เขางั้นหรือ....?
โชคดีที่เขาเห็นวินซ์กำลังจิบน้ำอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ๆ เมื่อเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองของธีโอดอร์และกำลังจะถามว่าธีโอต้องการอะไร....
วินซ์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนจากด้านหลังเขา “โอ้ นั่นใช่ไวน์หรือเปล่า?”
เอลฟ์ชั้นสูงลูเมียผู้ที่ยืนอยู่รอบนอกได้เดินเข้ามาหาวินซ์ เธอเป็นเอลฟ์ชั้นสูง สายพันธุ์ที่ดำรงมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล และเป็นตัวตนที่ยากจะพบได้ ในฐานะจอมเวทย์และหนึ่งในคณะฑูตแล้ว เขาไม่มีทางเลือกนอกเหนือจากตอบสนองต่อคำพูดของลูเมียแทนที่จะให้ความสนใจกับศิษย์ของเขา
“อ่า ใช่ครับ มันมีรสชาติที่แปลกแต่ก็อร่อย”
“ดีจริง นั่นเป็นไวน์ที่ทำจากองุ่นที่เผ่าของเราปลูกขึ้นและมันเป็นที่ชื่นชมอย่างมากในเรื่องกลิ่นและรสชาติของมัน คุณอยากจะลองชนิดอื่นหรือไม่?”
“โอ้ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
“หุๆ เราควรจะเป็นคนที่พูดคำนั้น มาทางนี้สิ”
วินซ์เดินออกไปโดยไม่คิด และธีโอก็ได้มองตามหลังเขาไปด้วยท่าทางหงุดหงิด พร้อมกับที่ลูเมียหันมามองธีโอและยิ้มแปลกๆ
‘ทำไมกัน?’ธีโอคิด
จากนั้นเสียงกระซิบก็ดังมาในหัวของเขาผ่านRatatoskr มันเป็นเสียงของลูเมีย
-เอาละ พยายามมันด้วยตัวเธอเอง
‘หืม?’
เธอไม่ได้พูดอะไรอีกนอกเหนือจากนั้นขณะที่เธอเดินนำวินซ์ออกไป
ด้วยเหตุนี้ทางรอดของธีโอจึงหายไป จากนั้นชามสองชามก็ได้ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา มันเต็มไปด้วยอาหารมากมายที่เขาไม่สามารถกินได้ บางทีเขาอาจจะอดทนได้ถ้าเขาใช้บทเพลงแห่งสงครามเพื่อเร่งการเผาผลาญของเขา?
จากนั้นความคิดโง่ๆก็โผล่ขึ้นในหัวของเขา“….แอลกอฮอล์”
เขาไม่ชอบมันอย่างมาก แต่ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังขวดไวน์ที่ยังไม่ได้เปิด ในบรรดาของพิเศษของเอลฟ์เฮล์ม ไวน์ของเหล่าเอลฟ์ถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ธีโอไม่เข้าใจว่าทำไม
เอลโลน่าเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความสนใจของธีโอที่จับจ้องไปยังขวด
“โอ้ เธอต้องการจะดื่มงั้นหรอ?ฉันไม่ทราบรสชาติของมัน แต่ไวน์นี้เป็นที่รู้จักกันดีในป่า บางทีธีโอดอร์อาจจะชอบมัน”
“หืม...ถ้าเธอพูดอย่างนั้น”
“ใช่แล้ว งั้นมาดื่มกัน”ขณะที่เธอพยักหน้า กลิ่นหอมของของเหลวก็โชยมาจากปากขวด
เอลโลน่าเทมันลงในถ้วยของธีโอและของเธอก่อนที่จะวางขวดลง ที่จริงแล้วมันไม่มีถ้วยสำหรับซิลเวีย ด้วยการกระทำเช่นนั้น ซิลเวียจึงพีมพำออกมาด้วยเสียงต่ำ “....ทำไมคุณถึงไม่ยอมให้ฉัน?”
เอลโลน่าเงยหน้าขึ้นและตอบกลับ “ตามมาตรฐานของมนุษย์แล้วคุณไม่ได้รับอนุญาติให้ดื่มจนกว่าจะถึงวัยที่สามารถไม่ใช่งั้นหรอ?”
“ฉันอายุถึงแล้ว! มันเป็นปีนี้!”
บางทีมันอาจจะบอกได้ว่าเธอดูอ่อนเยาว์ ซิลเวียจ้องไปที่เอลโลน่า ก่อนที่จะหยิบขวดและเทไวน์ลงในถ้วยของเธอ เธอหยุดเทช้าไป ดังนั้นไวน์จึงเกือบล้นถ้วย
จากนั้นเธอก็ไม่รอขนมปัง เธอจับมันกรอกลงปากของเธอทันที
อึก ซิลเวียดื่มมันหมดอย่างรวดเร็วและหันมามองทั้งสองคน
“…อ่า”
จากนั้นเธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
***
โดยปกติร่างกายของจอมเวทย์จะแข็งแรงกว่าคนธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงมีความทนทานต่อสารที่เป็นอันตรายเช่นแอลกอฮอล์ ไม่มีข้อมูลการวิเคราะห์ทางสถิติ แต่มันเป็นไปตามธรรมชาติเนื่องจากพลังมาน่าที่มีความหนาแน่นสูงได้ไหลเวียนผ่านร่างกายของพวกเขา
ดังนั้นธีโอจึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้เมื่อซิลเวียเมาขณะที่ดื่มไปเพียงแก้วเดียว
เขาหัวเราะเบาๆและพึมพำ“อ่า ฉันดีใจอย่างยิ่ง ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะดื่มน้ำเปล่าแทน.....”
“ฮ่าๆ”เอลโลน่าได้ยินคำพูดของเขาและหัวเราะออกมา
เธอไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ดังนั้นทั้งสองคนจึงถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง เมื่อซิลเวียที่ถือเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ได้ทำลายตัวเองไปแล้ว เอลโลน่าก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆอีก เธอได้ใช้ข้ออ้างในการชวนธีโอออกมาเดินกันสองคน
ไม่ว่าเขาจะเข้าใจความหมายของการเดินหรือไม่ก็ตาม ธีโอได้มองไปที่พื้นใต้เท้าของเขาและกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่ได้เห็น ฉันไม่เคยคาดคิดว่างานเลี้ยงฉลองจะจัดขึ้นในที่สูงเช่นนี้”
“เช่นนั้นหรอ?ฉันเองก็มีปฏิกิริยาที่คล้ายกับธีโอดอร์เมื่อฉันถูกนำขึ้นมาที่นี่ครั้งแรก มีต้นไม้ขนาดใหญ่ในบ้านเกิดของฉัน แต่มันไม่ได้สูงจนแตะเมฆเช่นนี้”
“ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะได้สัมผัสกับเมฆเช่นนี้....”
เมฆรอบๆปลายนิ้วของเขากระจัดกระจายราวกับใยแมงมุมที่ฉีกขาด เมื่อทิ้งความรู้สึกไว้ข้างหลัง เขาดูเหมือนเด็กที่ตื่นตาตื่นใจ ทำให้เอลโลน่าก้าวไปหาเขาด้วยดวงตาอบอุ่น สถานที่ที่พวกเขากำลังไปในตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าถึงหากปราศจากความสามารถของเอลฟ์ชั้นสูง
“โปรดตามฉันมาอยู่ห่างฉันไว้สามก้าว” หลังจากที่พูดเช่นนั้น เอลโลน่าก็ได้เดินช้าๆ
พวกเขาเข้าใกล้ต้นไม้โลกมากยิ่งขึ้น เอลฟ์ชั้นสูงสามารถใช้พลังได้ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษของพวกเขา มันเป็นไปได้สำหรับพวกเขาที่จะเปิดประตูมิติหรือข้ามระยะทางได้โดยไม่ต้องใช้หลุมมิติ รากฐานของปรากฏการณ์นี้แตกต่างจากเวทมนต์ แต่ผลลัพธ์มันคล้ายๆกัน
หลังจากนั้นไม่นาน ความรู้สึกของธีโอก็สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง “อา”
มันเหมือนกับShukuchijo ที่ใช้โดยผู้นำWhite Tower เขาเดินห่างจากเอลโลน่าสองสามก้าว และตำแหน่งของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนอย่างฉับพลัน
ธีโอติดตามการเปลี่ยนแปลงนี้ มันไม่ได้ยากเมื่อมองไปที่ความสูงของก้อนเมฆ มุมมองของภูมิประเทศและความหนาแน่นของมาน่า ปัญหาก็คือการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง
‘ห้องจัดเลี้ยงอยู่ด้านล่าง350เมตร ไม่สิ มันเปลี่ยนไป500เมตร จากนั้นพวกเราก็ลงไป100เมตร....’
มันเป็นการก้าวที่เร็วเกินจะพูดว่าเร็วปกติ!ธีโอรู้สึกประหลาดใจกับอัตราการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากภาพแผนที่ในหัวของเขาถูกทำลาย พวกเขาเดินขึ้นและลงหลายครั้งจนเขาไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน
หลังจากผ่านไป5นาที เอลโลน่าก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการ เมื่อธีโอดอร์เห็นปลายทาง เขาก็พูดอย่างระมัดระวัง “นี่คือ...?”
ทั้งสองหยุดอยู่ที่ด้านหน้ากระท่อมโทรมๆ แผ่นไม้ของกระท่อมเน่าและผุกร่อน ถ้าหากมันพังทลายลงคงไม่มีใครแปลกใจ มันโทรมมากเกินไปเมื่อเทียบกับความงดงามของต้นไม้โลก
อย่างไรก็ตามเอลโลน่านั้นดูเหมือนจะจริงจังขณะที่เธอจ้องมาที่ธีโอ
“นี่เป็นสถานที่ที่เธอไม่สามารถเข้าหรือออกได้เว้นแต่เธอจะได้รับความยินยอมจากเอลฟ์ชั้นสูงเช่นฉัน”
ในกรณีเช่นนี้ เอลฟ์ชั้นสูงส่วนใหญ่ได้ยินยอมที่จะให้ธีโอเข้ามา
เอลโลน่าเริ่มอธิบายเกี่ยวกับกระท่อม มันแตกต่างไปจากลักษณะของมัน เสียงของเธอจมลงเล็กน้อยเมื่อเธอบอกว่ามันมีประวัติและภูมิปัญญาที่พวกเขาเก็บไว้เป็นเวลาหลายพันปี
จากนั้นเธอก็จ้องมองเข้าไปในดวงตาของธีโอดอร์ด้วยการแสดงออกที่จริงจังขณะที่ดวงตาสีทองของเธอส่องประกายออกมา“ธีโอดอร์ นี่เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของเอลฟ์ เธอได้รับการยอมรับให้เป็นแขกของน้ำพุแห่งปัญญา”
“น้ำพุแห่งปัญญา....กระท่อมนี้?”
“ใช่ มันถูกเรียกโดยชื่อที่แตกต่างกันในช่วงสมัยโบราณ แต่ตอนนี้มันเป็นมรดกของยุคที่ถูกลืมเลือน ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มีบันทึกไม่กี่เล่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
ยุคโบราณเป็นยุคที่มนุษย์ยังไม่ได้เป็นผู้ปกครองของทวีปนี้ มันผ่านมาหลายพันปีแล้วนับตั้งแต่ที่ เหล่าเทพเจ้า ปีศาจ มังกร และสายพันธุ์โบราณ ได้เหยียบย่างไปทั่วโลก เมลเทอร์เป็นอาณาจักรที่รวบรวมสะสมอุปกรณ์เวทย์และวัตถุโบราณ มากกว่าอาณาจักรอื่นๆ แต่พวกเขาไม่สามารถหาร่องรอยใดๆจากช่วงเวลานั้นได้
หากมีหนังสือเพียงเล่มเดียวหรือคัมภีร์ในกระท่อมนั่น มันคงจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับหนังสือหลายสิบเล่มในยุคนี้ อย่างไรก็ตามความประหลาดใจของธีโอเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
“ฉันนำธีโอดอร์มาที่กระท่อมนี้เพราะชายผู้รอบรู้ได้ทำนายว่าเธอจะมา”
ธีโอดอร์กลายเป็นไร้คำพูดใดๆ ใครคือคนที่เหล่าเอลฟ์เรียกว่า’ผู้รอบรู้’และพวกเขาสามารถทำนายสถานการณ์นี้ได้ยังไง?
การปรากฏตัวของเวทย์โบราณระดับตำนาน ลิเวียธาน เช่นเดียวกับขุมอำนาจของแอนดราสและเมลเทอร์.....ขณะนี้เกิดเหตุการณ์มากมาย ธีโอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรู้สึกประหลาดใจ
จากนั้นเอลโลน่าก็ได้ทิ้งระเบิดที่หนักหน่วงที่สุด “ชายผู้รอบรู้ได้ทำนายไว้ว่าธีโอดอร์จะเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของเขาในโลกใบนี้ มนุษย์คนแรกที่ทำสัญญากับผู้คุมธาตุ”
‘ไม่มีทาง’คำพูดได้ลอยเข้าหูของธีโอดอร์ขณะที่ธีโอมองไปที่เธอ
“ไมน์ดัล เฮอเซม จอมเวทย์ธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวว่าเขาได้ทิ้งบางสิ่งบางอย่างไว้ให้ธีโอในน้ำพุแห่งปัญญา”