เล่มที่ 2: บทที่ 4-2 (Alien) 15+
เล่มที่ 2: บทที่ 4-2 (15+) แปลโดยกิลด์เทพอสูร
หลังจากที่ทุกคนกินอาหารเสร็จ ซวนเปิดระบบตรวจสอบทุกช่องทาง หน้าจอแสดงภาพขนาดใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นจอภาพเล็ก ๆ หลายช่อง ซวนยังคงวาดมือไปมาในอากาศราวกับว่าเขาเขียนบางอย่างอยู่ แล้วเขาก็หยุดหลังจากที่ขีดเขียนอยู่มาพักใหญ่ เขาหันกลับมาพูดด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด “เอาล่ะ ,ผมได้เขียนลำดับ และ แผนผังไว้บนผนังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะเริ่มอธิบายเลยแล้วกันนะ เอเลี่ยนตัวที่อยู่ใกล้สุดจะอยู่ในห้องเบอร์ 22 ส่วนอีกตัวกำลังเดินมุ่งหน้าไปทางห้องเบอร์ 19 - 20. เรามีโอกาส 5 นาทีเพื่อดึงดูดความสนใจของมัน ถ้าเราสามารถแยกพวกมันออกจากฝูงมาได้ 1 ตัว ในขณะเดียวกันก็ใช้เหยื่อ ล่ออีกตัวหนึ่งเข้ามา หลังจากนั้นเราก็ดำเนินตามแผน.”
เจิ้งหันหน้ามองไปที่สั่วอี้พร้อมกับถอนหายใจออกมา “แล้วพวกเราล่ะต้องทำอะไร?”
ซวนกดบางปุ่มที่อยู่บนแผงควบคุมแล้วลุกขึ้นยืน “อีก 1 นาทีผนังที่อยู่ด้านนอกของห้องนี้จะเปิดขึ้น ผมได้ตั้งเวลาไว้แล้วรีบไปกันเถอะ ก่อนที่ผนังส่วนที่เหลือจะปิดลงมา. พวกเราต้องรีบออกไปตอนนี้เลย แล้วระหว่างทางผมจะอธิบายรายละเอียดให้พวกคุณฟังอีกที.”
แคมปาเอาระเบิด 6 ลูกแบ่งออกเป็น 3 ชุดๆ ละ 2 ลูก ผนังค่อยๆ เลื่อนขึ้นอย่างช้าๆ พวกเขาเห็นรอยบุบเป็นหลุมลึกคล้ายหลุมอุกกาบาต มีร่องรอยของกรงเล็บ อีกทั้งรอยขีดข่วนมาก มายอยู่บนผนัง และ พื้นทางเดิน ซึ่งผนังทั้งหมดล้วนทำขึ้นมาจากเหล็ก! ภาพที่เห็นมันทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว
ซวนคว้าระเบิดแล้วชี้ไปทางห้องโถง “นายไปยืนอีกด้านของห้องโถง นายจะเห็นเป็นเส้นตรงได้ถึง 100 เมตร ทันทีที่เอเลี่ยนวิ่งมาจากอีกด้าน นายก็ปลดสลักระเบิดแล้วเควี้ยงใส่มันได้เลย ผมบอกให้แคมปาดัดแปลงระเบิดเพื่อเพิ่มความเร็วใน การจุดระเบิดยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้เควี้ยงระเบิดออกไป นายต้องรีบทำตามแผนทันทีด้วยเวลาจุดระเบิดที่ลดลงดังนั้นมันจะระเบิดกลางอากาศแล้วนายต้องจำไว้ว่าทุกๆ ทางแยกที่นายเจอ นายจะต้องเลี้ยวซ้าย.”
สั่วอี้ก้มศีรษะ แล้วถามขึ้นมาว่า “แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับผนังห้องควบคุม? มันจะถูกปิดลงมาหลังจากที่ผมเดินออกไปข้างนอกงั้นเหรอ?”
ซวนพยักหน้า “ใช่ ผนังจะปิดลงหลังจากที่นายออกไป แล้วอีก 1 นาทีหลังจากที่ผมได้ยินเสียงระเบิดผมจะเปิดมันอีกครั้ง จากความเร็วในการวิ่งของนาย ผมว่ามีเวลาเหลือเฟือ เออใช่.เพื่อดึงดูดความสนใจของเอเลี่ยนนายต้องมีเลือดสดๆ บ้าง จะพูดสั้นๆ ก็คือ ภารกิจนายก็แค่วิ่งไปตามทางซ้ายมือก็พอ”
จากนั้นแคมปาก็ยื่นมีดสั้นให้กับสั่วอี้ ส่วนซวนหยิบระเบิดใส่มือให้เขาเช่นกัน ขณะที่สั่วอี้ถือระเบิดอยู่นั้นทุกคนต่างรู้สึกหนักใจ เจิ้งสังเกตุเห็นซีโร่ยืนเอามือไพล่หลัง ในมือของเขาถือปืนดีเซิร์ชอีเกิ้ลอยู่ เจิ้งไม่รู้ว่าเจี๋ยมอบปืนให้กับซีโร่ตอนไหน
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ สั่วอี้หันมองรอบ ๆ อย่างใจเย็น ทุกคนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เห็นสั่วอี้กำลังหันมองรอบ ๆ อีกครั้ง ฉับพลันเขาก็เควี้ยงระเบิดใส่กลุ่มพวกเขา เหมือนอย่างที่ซวนพูดว่ามันจะระเบิดกลางอากาศ โชคยังดีที่สัวอี้เควี้ยงมันออกไปค่อนข้างไกลด้วยอากานลนลาน พวกเขาจึงได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดแค่เล็กน้อยเท่านั้น และ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง.”
เจิ้งยืนอยู่ด้านหลังของกลุ่ม เพราะเขาไม่สามารถมองตาของสั่วอี้ได้ แต่เมื่อทันทีที่ระเบิดทำงานเขากลับได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดมากที่สุด แรงระเบิดพัดเขากระเด็นไปกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจัง เลือดสีแดงสดไหลออกจากปากและ จมูกของเขา มันทำให้เขามองอะไรไม่เห็นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่เพียงไม่กี่วินาทีดวงตาของเขาก็เริ่มมองเห็นขึ้นมาอีกครั้ง สั่วอี้ถือระเบิดอีกลูกไว้ในมือสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น และ เกลียดชัง
สั่วอี้หัวเราะราวกับคนกำลังบ้าคลั่ง “เป็นยังไงบ้างล่ะพ่ออัจฉริยะ ไม่อยากฆ่าฉันแล้วรึไง? พวกแกทุกคนปฏิเสธฉันเพียงแค่อาหาร กับน้ำเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? ไอ้พวกเวรเอ้ย! ทำไมจะต้องเป็นฉันเท่านั้นที่จะตาย? ทำไม? บอกสิ! ไหนๆ จะต้องตายแล้ว ก็ตายแม่งทั้งหมดเนี่ยแหละ พวกเราจะตายด้วยกัน มันก็ยังดีกว่าตายในปากของพวกเอเลี่ยนนั่น!”
ซวนกระเด็นไปกองบนพื้นด้วยแรงระเบิด ศีรษะของเขากระ แทกเข้ากับผนังอย่างแรง เลือดสีแดงสดไหลออกมาศีรษะของเขาๆ ลุกขึ้นยืน และ ถามอย่างใจเย็น " ฉันอยากรู้ นายไม่กลัวตายงั้นเหรอ? นายน่าจะรู้นะ ถึงแผนของฉันจะอันตราย แต่ถ้านายทำตามแผนที่วางไว้จะมีโอกาสรอดชีวิตสูงถึง 100 % ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าทำไมนายถึง ...”
สั่วอี้พูดแทรกขึ้นมาว่า“ไอ้เลว, เลิกหลอกกูซะทีมึงรู้มั้ยว่าทำไมกูถึงถาม คำถามสุดท้ายนั้นขึ้นมา? ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผนังหลังจากที่กูออกไป? มึงตอบกูมาแบบนั้นได้ยังไง? ว่ามันจะเปิดหลังจากที่มึงได้ยินเสียงระเบิด 1 นาที ใช่มั้ย ไอ้เ_ี้ย!อย่ามาโกหกกู มึงเห็นกูเป็นคนโง่นักรึไงห๊ะ มึงจำได้มั่งมั้ยว่ากูเก่ง อะไร ? ถึงแม้ว่ากูจะไม่ใช่อัจฉริยะ แต่กูอ่านหนังสือมามากจนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะกลยุทธทางทหาร การแยกผนังของยานแบบนี้หลังจากที่ปิดลงแล้ว จะเปิดใช้งานได้อีกครั้งก็ต้องใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนควบคุมยานผ่านคอมพิวเตอร์ได้ กูเห็นมึงตั้งค่าบนแผงควบคุมกำหนดคำสั่งปิดเท่านั้น ไม่มีคำสั่งเปิด แล้วมันจะเปิดอีกครั้งได้ยังไงวะ!”
เขาเริ่มหัวเราะราวกับคนเสียสติ “คำถามนั้นมันเป็นฟางเส้นสุด ท้ายของกูแล้วมึงรู้มั้ย ไอ้เ_ี้ยเอ้ย! ใครจะอยากตายกันวะ? ถึงแม้ความหวังมันจะริบหรี่แค่ไหน กูก็ยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ แต่มึงกับยัดเยียดกูใส่เข้าปากให้ไอ้พวกเอเลี่ยนเวรนั่น! ห่าเอ้ย พูดอะไรสักอย่างสิ! ทำไมมึงต้องบีบบังคับ ยัดเยียดสถานการณ์จนตรอกแบบนี้ให้กับกูด้วยวะ?”
ซวนหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ฉันประเมินนายต่ำเกินไป นั่นเป็นความผิดพลาดของฉัน แต่ฉันต้องขอบอกก่อนว่า กลุ่มของเราไม่จำเป็นต้องมีนาย ๆ เป็นเพียงแค่ตัวภาระ เดิมทีฉันไม่ตั้งใจให้นายออกมาเป็นแบบนี้ แต่ว่านายกลับไม่พอใจกับแผนของฉัน นั่นเป็นนิสัยของมนุษย์หากเกิดความไม่พอใจแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็จะลุกลามเป็นเรื่องใหญ่โตได้อย่างง่ายดาย แล้วนำไปสู่ความเกลียดชัง และ เจตนาที่มุ่งร้ายในภายหลัง ดีเหมือนกันที่นายทำอย่างงี้ดีกว่าต้องมีปัจจัยเสี่ยงที่คาดเดาไม่ได้สำหรับแผนในอนาคตของกลุ่มเรา ความจริงแล้วฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะเสียสละนาย หรือ ปล่อยให้นายตาย แม้ว่าผนังต้องรออีกครึ่งชั่ว โมงมันถึงจะเปิดอีกครั้ง แต่ถ้านายยอมอดทนเก็บความสงสัยไว้อีกหน่อย ฉันก็จะขังนายไว้ในห้องโถงโดยไม่มีเอเลี่ยนตัวไหนแตะต้องนายได้ แล้วก็ปล่อยนายออกมาหลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง นายไม่ควรแสดงสีหน้าเคียดแค้นแบบนั้นออกมาให้ฉันเห็น.”
ในตอนนี้สั่วอี้ดูราวกับคนเสียสติ เขาคลุ้มคลั่งตะโกนขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว “บัดซบสิ้นดี! กูไม่มีสิทธิ์แค้นงั้นเหรอ ก็มึงบังคับให้กูไปตาย? มึงเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้หรือไง? มึงคิดว่ามึงเป็นใคร? ถ้ากูไม่รอด มึงก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่เหมือนกัน มาตายกับกู!”
พอพูดจบ เขาก็ดึงสลักระเบิดออกในทันที
ติดตามข้อมูลข่าวสารนิยายเรื่องนี้ได้ก่อนใครที่ FB: www.facebook.com/IDTR8 หรือพิมพ์ค้นหา นิยายแปล: เกมส์สยองต้องไม่ตาย Blog: www.idtr8.wordpress.com
จากตอนปัจจุบันในเพจตอนนี้กลุ่มลับนำไปแล้ว 150+ ตอนน้ะค้า