ตอนที่ 112 รางวัลจากต้นไม้โลก 1
ไม่จำเป็นที่ต้องรีบเร่งขณะเดินทางกลับ ธีโอได้ฟื้นฟูพละกำลังบางส่วน แต่เขายังคงอ่อนแออยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะวิ่งหรือปีนข้ามต้นไม้ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับร่างกายที่อ่อนล้าของเขา ร่างกายของทุกคนกำลังส่องแสงสดใสออกมา หลังจากที่ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายมา ทุกคนต่างตื่นเต้น
พวกเขาพยายามที่จะละเลยความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในร่างกายของพวกเขาและพูดคุยกันมากกว่าปกติ ในท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ธีโอดอร์จะกลายมาเป็นหัวข้อหลัก ในฐานะผู้ที่จัดการกับลิเวียธาน
“ด้วยวิธีนั้น ฉันรู้สึกทึ่งจริงๆ!ปรมาจารย์ ธีโอดอร์!”บางคนพูดกับเขาขณะตบไหล่เขาเบาๆ
“ฮะ?น่าทึ่ง?”
“ฉนไม่ทราบว่าต้องใช้วิธีใดถึงจะเอาตัวรอดได้ในความร้อนระดับนั้น!ฉันไม่รู้ว่าเวโรนิก้าทำได้หรือไม่ แต่พวกเราไม่สามารถที่จะก้าวได้แม้แต่3ก้าว”
จอมเวทย์วัยกลางคนที่มีหนวดสีขาวและสวมเสื้อคลุมที่เป็นสัญลักษณ์ของBlue Tower เอ่ยขึ้น เขาไม่ลังเลเลยที่จะรักษาธีโอดอร์และพูดกับเขาอย่างเป็นมิตร บางทีเขาอาจจะรู้สึกผูกพันหลังจากที่ต่อสู้ร่วมกัน
จอมเวทย์ที่ชื่อว่าฟิลิป ผู้ที่ปล่อยภูเขาน้ำแข็งใส่ลิเวียธาน ได้ยกย่องความกล้าหาญของธีโอและกระซิบขณะที่เหล่ตามองแขนขวาของเขา “สิ่งที่อยู่บนแขนขวาของเธอ คือความสามารถของสมบัติแห่งชาติอัมบราใช่ไหม?”
เสียงของฟิลิปบ่งบอกว่าเขามั่นใจอยู่แล้วครึ่งหนึ่ง ดังนั้นธีโอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก นอกเหนือจากผู้คุมธาตุแล้วไม่มีใครรับรู้ถึงความตะกละ
เขาแสดงสีหน้าของเขาอย่างเป็นธรรมชาติและตอบฟิลิปว่า“ใช่แล้วถูกต้อง ฉันดีใจอย่างยิ่งที่มันช่วยเหลือได้”
“จริงสิ!ช่วงเวลาที่ฉันเห็นแสงสีมรกตนั่น ฉันก็นึกถึงฝ่าบาท ขอบคุณสิ่งนี้ มันช่วยชีวิตพวกเราทั้งหมด นี่คงไม่ได้เป็นพรจากเมลเทอร์ใช่มั้ย?”
“มันเหมือนกับที่ฟิลิปพูด ฉันไม่สามารถเข้าใกล้มันได้เลยหากปราศจากอัมบรา”
ครึ่งผิดครึ่งถูก ธีโอไม่ได้โกหก แต่เขาไม่ได้เปิดเผยทุกอย่าง นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ธีโอดอร์ซึ่งเป็นเพียงจอมเวทย์ขั้นที่5ใช้ หลังจากทั้งหมด มันเป็นสมบัติแห่งชาติอัมบรา ที่แม้กระทั่งผู้นำWhite Tower ยังไม่เข้าใจถึงความสามารถที่แท้จริงของมัน ธีโอได้ยืนยันว่าเขาสามารถเอาชนะลิเวียธานได้ด้วยพลังของสมบัติแห่งชาติอัมบราและยืนยันว่าเขาทำลายร่างกายมันไปแล้ว
พลังของเอลฟ์ชั้นสูงได้เห็นว่าสิ่งที่ธีโอกล่าวนั้นเป็นความจริง
จริงๆแล้ว ธีโอไม่ได้บอกว่าเขาสามารถทำลายมันได้ด้วยอัมบราเขากล่าวว่า ‘อัมบราสามารถใช้เพื่อทำลายร่างกายของลิเวียธานได้’
ถ้าพวกเขานั่งลงและตรวจสอบทุกอย่างๆสงบ บางคนอาจจะสามารถพบจุดที่น่าสงสัยได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาพึ่งเผชิญกับวิกฤติมา พวกเขาทุกคนจึงยังสับสนอยู่
‘ดี ฉันไม่ได้โกหกไปซะหมด’
ถ้าธีโอไม่มีความสามารถของอัมบรา Fluidization ละก็เขาจะตายก่อนที่จะสามารถเข้าใกล้มันได้ ในคำพูดของเขา อัมบราเป็นส่วนสำคัญในการทำลายร่างกายของลิเวียธาน เป็นผลให้ เขาไม่ได้กล่าวโกหกแม้จะไม่ได้พูดถึงความตะกละก็ตาม
ขณะที่หัวเราะอยู่ในใจ ธีโอก็ได้ตอบคำถามเดียวกันกับเฮนซ์จอมเวทย์คนที่4ผู้ที่กระซิบกับเขา ด้วยวิธีนี้ ทุกคนจึงติดอยู่ในความเข้าใจผิดที่สมบูรณ์แบบ
“โอ้!ใครกำลังมาหาพวกเรา?”อลิซ่าถามขณะที่เธอชี้ไปในที่ไกลๆ
มนุษย์ไม่ใช่คนเดียวที่มองไม่เห็นอะไร ผู้พิทักษ์เอ็ดวินก็เช่นกัน ขณะที่อลูการ์ดตระหนักได้ถึงสถานการณ์อย่างฉับพลัน เสื้อคลุมสีขาวก็ได้โฉบมาที่ด้านหน้าของพวกเขา มันเป็นการปรากฏตัวของผู้นำWhite Tower ออร์ต้า
“ผะ-ผู้นำหอคอย?”
“เฮือก!”
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของออร์ต้าไม่ใช่เหตุผลที่กลุ่มของธีโอรู้สึกตกใจ
ตุบ ตุบ
มีเลือดไหลลงมา เลือดสองสามหยดๆลงบนเสื้อคลุมสีขาวของออร์ต้า แต่เขาก็ไม่ยอมทิ้งของในมือเขาไป
มันเป็นแขนซ้ายของใครบางคน เห็นได้ชัดว่าแขนได้ติดอยู่กับไหล่ของใครบางคนเมื่อไม่นานมานี้ เลือดไหลออกมาไม่หยุดจากบริเวณที่มีรอยตัด มันทำให้กลุ่มของธีโออดที่จะตกใจไม่ได้
อย่างไรก็ตามออร์ต้าได้เปิดปากของเขาและพูดขึ้นอย่างสงบเช่นเคย “ฟิลิป”
“อ่า?ครับ!”
“รับมันไป”
ฟิลิปเดินไปข้างหน้าและออร์ต้าก็ได้โยนแขนให้เขา แขนยังคงมีเลือดไหลทะลักอย่างต่อเนื่อง ฟิลิปรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเลือดเปรอะลงบนเสื้อคลุมของเขา อย่างไรก็ตามท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหลังจากได้ฟังคำพูดต่อไปของออร์ต้า
“มันเป็นแขนของนักฆ่า ฉันเดาว่ามันเป็น7เทพดาบ ฉันจำได้ว่าBlue Tower ได้พัฒนาเวทมนต์ติดตามจากเลือดของเป้าหมายหนิ ใช่มั้ย?”
“....ใช่ครับ”
“สร้างอุปกรณ์ที่สามารถติดตามเจ้าของแขนนั่น ทำให้เยอะและมีความแม่นยำมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาเป็นคนที่มีความสามารถ’stealth’เป็นชนิดของพลังออร่า จงทำอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ผมจะทำตามคำพูดของท่านครับ!”
การจ้องมองของพวกเขาได้เปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับ7เทพดาบ แม้ว่าพลังของพวกเขาแทบจะไม่เหลือ แต่พวกเขาทั้งหมดต่างถูกกระตุ้นด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ที่รุนแรง
ไม่ใช่แค่เหล่าจอมเวทย์ที่มีปฏิกิริยาต่อคำพูดของออร์ต้าเรื่องนักฆ่า
ท่าทางขี้เล่นของอลิซ่าได้จางหายไปเมื่อเธอถามว่า“นักฆ่า?เป็นความจริงงั้นหรอ?”
“ในความคิดของฉันละก็ ใช่?”
“...เป้าหมาย?”
“ดูเหมือนว่า คุณจะคาดเดาได้แล้วนะ”
กึก เธอกัดฟันแน่น
เว้นแต่เธอจะเป็นคนโง่แห่งศตวรรษถึงจะไม่เข้าใจ ไม่มีใครที่จะส่งนักฆ่าเข้าไปในเกรทฟอเรสต์เพียงเพื่อไล่ฆ่าคณะฑูตแห่งเมลเทอร์ อย่างไรก็ตามการฆ่าเอลฟ์ธรรมดาจะทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูกับเอลฟ์เฮล์ม เกี่ยวกับเป้าหมายที่มีค่าที่ทำให้นักฆ่าที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ดาบต้องลงมือนั้น....พวกเขามาเพื่อเอลฟ์ชั้นสูงในเกรทฟอเรสต์
“ฉันคิดที่จะฆ่าเขา แต่ก็ยากที่จะติดตาม เหนือสิ่งอื่นใดมันเป็นเรื่องยากที่จะติดตามศัตรูในป่าแห่งนี้ซึ่งมีอุปสรรคมากมาย”
ในที่สุดอลิซ่าก็ถอนหายใจและโค้งคำนับ“เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง นักฆ่าที่สามารถหลอกสายตาของRatatoskrได้.....เด็กอาจจะตกอยู่ในอันตรายถ้าไม่ใช่เพราะท่าน”
“ฉันแค่ทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร”
“คุก เช่นนั้นหรอ?งั้นเราก็ควรจะทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน”อลิซ่าพูดขณะที่เธอหัวเราะขึ้นอีกครั้ง
ปกติแล้วเธอคิดว่ามนุษย์เป็นพวกที่น่าเบื่อ แต่เธอไม่ได้เกลียดมนุษย์ผู้ที่พูดเช่นชายคนนี้ หนี้ไม่ได้เป็นภาระต่อทั้งสอง ไม่ว่าในกรณีใด เอลฟ์เฮล์มได้ถูกบังคับให้ลงเรือลำเดียวกับเมลเทอร์แล้ว
แม้จะไม่ได้ยืนยันว่าคนของจักรวรรดิแอนดราสเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่เห็นได้ชัดว่า พวกเขาพยายามที่จะทำลายเกรทฟอเรสต์ด้วยลิเวียธาน และลอบสังหารเอลฟ์ชั้นสูง...นี่เป็นบาปที่หนักหนามาก
ขณะนั้...
แกร๊ก
กลุ่มคนก็ได้เคลื่อนที่ผ่านพุ่มไม้หนาและมาถึงกลุ่มของธีโอ
ดวงตาของธีโอดอร์เบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาเห็นคนที่เดินนำมา จอมเวทย์จากRed Tower และเอลฟ์ผู้ที่ใช้จิตวิญญาณธาตุไฟนั้นหายไปจากภารกิจปราบปรามเนื่องจากเวทย์ไฟไม่สามารถใช้ได้กับลิเวียธาน
ปัจจุบัน อาจารย์ของเขาวินซ์กำลังลากใครบางคนที่ถูกมัดเอาไว้
โดยไม่เปิดโอกาสใดๆ ออร์ต้าถาม “ผลลัพธ์ละ?”
“เหมือนที่ผู้นำหอคอยกล่าวไว้...ออกมา!”วินซ์ก้าวออกไปและมีคนเดินนำกลุ่มคนออกมาช้าๆ
“พวกเราได้รับคำให้การจากพวกเขาแล้ว พวกเขาเป็นทหารรับจ้างที่ได้รับการว่าจ้างจากชายสวมหน้ากากสีดำและไม่ทราบว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีอะไรอีก แม้ว่าพวกเขาจะถูกทรมานแล้วก็ตาม”
“หืมม มันไร้ประโยชน์”
“คุณต้องการให้ผมจัดการกับเรื่องนี้หรือไม่?”วินซ์ถามอย่างโหดเหี้ยมขณะที่เปลวไฟสีแดงปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือ
เชลยที่ถูกจับเริ่มดิ้นรน
“ปะ-โปรดไว้ชีวิตเราด้วย นายท่าน!”
“พวกเราไม่รู้อะไรเลย!”
“ขะ-เขา ไม่สิ เป็นเพราะไอสารเลวนั้นคนเดียว!”
“ได้โปรด ผมจะทำทุกอย่างตราบเท่าที่ไว้ชีวิตผม!”
พวกเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง แต่พวกเขาดูหวาดกลัวอย่างมากเมื่อคิดว่ะถูกฆ่า ออร์ต้าพยัหน้าก่อนที่จะเหลือบมองเอลฟ์ชั้นสูง พวกเขาอาจจะทำอะไรก็ได้ที่เมลเทอร์ แต่นี่คือเอลฟ์เฮล์ม ดังนั้นเหล่าเอลฟ์จึงมีสิทธิ์ที่จะตัดสินลงโทษ
ดังนั้นเขาจึงหันไปหาอลิซ่า “อลิซ่า เอลฟ์เฮล์มจะลงโทษเหล่าคนบาปอย่างไร?”
“ฮะ?ก็ ให้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการขุดเหมือง....หรือเปลี่ยนให้เป็นคนงานที่รับผิดชอบหน้าที่เก็บเกี่ยวหรือล่าสัตว์?”
“งั้นก็ทำเช่นนั้น”
“เอ๊ะ”ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นชั่วขณะก่อนที่เธอจะหัวเราะคิกคักอย่างเข้าใจ “คุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ใช่งูแก่อายุร้อยปี?เอาละ โอเคร ฉันจะไม่ปฏิเสธ พวกเจ้า พาพวกมันไป!”
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ขัดขืนเหล่าเอลฟ์ที่ปรากฏตัวขึ้นและพาพวกเขาไปเลย มันเป็นเรื่องดีกว่าการจะถูกเผาไหม้จนตายโดยชายที่มีใบหน้าไร้ความรู้สึก
ไม่นานหลังจากที่วินซ์มาเข้าร่วมกลุ่ม กลุ่มของธีโอก็ได้มาถึงที่ที่พวกเขาจากมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน มันเป็นกระท่อมที่ดูธรรมดา แต่ด้านหลังประตูนั้นแม้แต่ออร์ต้ายังชื่นชม
“ในที่สุด ฉันก็สามารถพักผ่อนได้....”ขณะที่ใครบางคนพึมพำกับตัวเอง ประตูก็ได้เปิดออกและมีคนวิ่งออกมา
“ธีโอดอร์!”เธอคือเอลโลน่าด้วยเส้นผมที่คล้ายกับหญ้าเช่นเดียวกับกลิ่นหอมที่สดชื่นและปลอดโปร่ง เธอกับเอลฟ์ชั้นสูงได้เฝ้าดูการต่อสู้ผ่านRatatoskr
“อ่า เอลโลน่า....”ธีโอไม่ได้รับโอกาสให้ตอบกลับ
เอลโลน่ากระโดดไปข้างหน้าและเหยียดฝ่ามือทั้งสองข้างออก
หมับ ใบหน้าของธีโอดอร์ถูกจับอย่างฉับพลัน
ธีโอไม่รู้เรื่องนี้ แต่เอลโลน่านั้นได้เฝ้าดูเขากระโดดเข้าไปในเปลวไฟ ตอนนี้เธอกำลังสำรวจใบหน้าและลำตัวของเขาเพื่อตรวจหาบาดแผลที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา
“เอลโลน่า?”
“เธอบาดเจ็บตรงไหนไหม?คลื่นร้อนได้พัดใส่ด้านหน้าเธอ ดังนั้นเธอสามารถมองเห็นได้ไหม?เธอสามารถขยับตัวได้ดีไหม?”
“ฉะ-ฉันสบายดี อลิซ่าได้รักษาฉันแล้วและ---”
“อลิซ่าไม่สามารถที่จะรักษาบาดแผลใหญ่โตได้!”
อลิซ่ารู้สึกหงุดหงิดกับอารมณ์ที่ระเบิดอย่างฉับพลันของเอลโลน่า แต่อลูการ์ดกลับหัวเราะเยาะเธอ ส่วนที่เหลือของกลุ่มไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการปรากฏตัวของเอลฟ์ชั้นสูงและเพียงแค่เฝ้าดู โชคดีที่เอลโลน่า นั้นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงนะ”หลังจากตรวจสอบธีโออยู่หลายครั้ง เอลโลน่าก็ได้ก้าวถอยหลังและสงบสติ เธอตระหนักถึงเรื่องเมื่อสักครู่และกล่าวว่า “นั่น ฉันไม่ได้หมายถึงการทำเช่นนี้......นั่นคือ...”
เอลโลน่าก้าวถอยหลังไปโดยไม่ตั้งใจขณะที่ดวงตาทั้งหมดจับจ้องไปที่เธอ เมื่อผิวสีขาวของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีแดงจนไม่สามารถปกปิดมันได้ เอลโลน่ายกมือปิดหน้าของเธอและวิ่งออกไปจากกระท่อม
จากนั้นลูเมียก็ปรากฏตัวพร้อมกับความรู้สึกสับสน “...เกิดอะไรขึ้น”
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอลโลน่าแต่เธอก็ถอนหายใจให้กับบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจก่อนที่จะพูดต่อ “ก่อนอื่นในนามของเอลฟ์เฮล์ม เราอยากจะขอบคุณสำหรับชัยชนะในการต่อสู้ที่ยากลำบากนี้ เราดีใจอย่างยิ่งที่ทุกท่านกลับมาพร้อมหน้า เราในฐานะตัวแทนของเอลฟ์เฮล์ม จะไม่มีวันลืมพระคุณของทุกท่าน และ....”
หลังจากกล่าวทักทายตามพิธี ลูเมียก็ค่อยๆคลี่ยิ้ม
“มีต้นกล้าได้เติบโตขึ้นใหม่ในที่ที่ถูกเผาไหม้ โปรดให้เกียรติเข้าร่วมในเทศกาลของพวกเรา”
เธอได้กล่าวเชิญพวกเขาเข้าร่วมกับเทศกาลที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดได้เข้าร่วมนับแต่การก่อตั้งอาณาจักรเอลฟ์เฮล์ม