ตอนที่ 108 มุ่งหน้าสู่พายุ 2
ไม่ใช่ ผู้นำของเอ็นท์ไม่ใช่ตนเดียวที่คุกเข่าลง เอ็นท์ทุกตนต่างงอกิ่งก้านและรากของพวกเขาลงซึ่งมันดูเหมือนขาและทิ้งลงไปบนพื้น
ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับท่าทางของพวกเขา ขณะที่เอ็นท์ตนอื่นๆเริ่มทิ้งตัวลงในลักษณะเดียวกัน ตุบ ตุบ เสียงดังเกิดขึ้นทุกครั้งที่ต้นไม้ยักษ์ทิ้งตัวลงบนพื้นป่า มันดังมากจากทำให้บริเวณที่คนมากมายกลายเป็นเงียบสงบ
เหล่าไดรแอด ที่คุกคามธีโอด้วยพลังมาน่า ต่างสูญเสียทัศนคติที่รุนแรงของพวกเขาและคำนับอย่างสุภาพในลักษณะเดียวกับข้ารับใช้ของกษัตริย์
ธีโอดอร์ที่ยืนอยู่ตรงกลางของทั้งหมดนี้ มองไปรอบๆด้วยท่าทางเขินอายและสังเกตเห็นถึงบางอย่าง
‘พวกนี้....พวกเขาไม่ได้ก้มหัวให้กับฉัน?’
ทิศทางนั้นแตกต่างกันเล็กน้อย ธีโอมองตามสายตาของพวกเขาและค้นพบมิตราที่กำลังมองไปรอบๆด้วยท่าทางสับสน เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่ดูเหมือนว่าต้นอ่อนบนหัวของเธอจะเป็นจุดพิเศษในวันนี้ ธีโอดอร์รับรู้ขณะที่เขามองเห็นมัน
ในเวลาเดียวกัน อลูการ์ดผู้ที่ตรัสรู้ก็ได้ร้องออกมาด้วยความยินดี “อันที่จริงมันเป็นเพราะต้นอ่อนของต้นไม้โลก….!”
มันไม่ได้เป็นเรื่องที่รู้จักกันดีสำหรับมนุษย์ แต่ต้นอ่อนของต้นไม้โลกไม่สามารถเติบโตได้ในยุคนี้ ความหนาแน่นของมาน่าในยุคนี้เบาบางกว่ายุคโบราณหลายเท่าและความบริสุทธิ์ของสายเลือดเอลฟ์ชั้นสูงนั้นอยู่ในระดับที่เจือจางมาก นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบมากมายที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของต้นไม้โลก
แม้ว่าจะรวมพลังของเอลฟ์ชั้นสูงทั้งหมดที่อยู่ในทวีป พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะปลูกอิกราซิลต้นอื่นได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยคิดว่าจะมีต้นไม้โลกต้นอื่นอยู่อีก
พระแม่แห่งธรณีที่ถูกลืม มิตรา สามารถที่จะทำให้ต้นอ่อนของต้นไม้โลกเติบโตได้ ผู้ปกครองของต้นไม้ทุกต้นบนโลก ดังนั้นเป็นธรรมชาติที่สายพันธุ์ที่มาจากต้นไม้อย่างไดรแอดและเอ็นท์ จึงไม่สามารถต่อต้านการปรากฏตัวของเธอได้ สำหรับพวกเขามิตราเป็นตัวตนที่พวกเขาต้องรับใช้
[ฮู้?ฮู้?]....มิตราและกลุ่มเดินทางนั้นต่างไม่มีใครเข้าใจ
ธ๊โอนั้นชั่งน้ำหนักของสถานการณ์อย่างรวดเร็วและพูดคุยกับมิตราในหัวของเขา แต่แรกพวกเขาจะบังคับให้ไดรแอดและเอ็นท์หลบหนีไป แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว มันจะดีที่สุดถ้าสถานการณ์สามารถแก้ไขได้โดยปราศจากความรุนแรงและธีโอมีวิธีที่ทำให้มันเป็นไปได้แล้ว
‘มิตรา’
[ฮื้ม?]มิตราตอบกลับมา
‘เธอสามารถบอกพวกที่หมอบลงอยู่นั่นให้ไปที่ป่าตรงนั้นได้ไหม?ถ้าเธอพูด พวกเขาอาจจะรับฟัง’
[อื้ม!]เธอหันไปทางต้นไม้หมอบกราบและตะโกนด้วยท่าทางน่ารัก [ยุกขึ้น!]
พร้อมกันเอ็นท์ได้ยกร่างของพวกเขาขึ้น ขณะที่ต้นไม้ยักษ์ได้ลุกขึ้นพื้นก็ได้สั่นสะเทือนเล็กน้อย เอ็นท์ตอบรับด้วยเสียงต่ำขณะที่พวกเขารอคำสั่งต่อไปจากมิตรา
[ตาม....คำ....บัญชา…]
[…พวกเรา....ทำตาม....กษัตริย์....]
[คำสั่ง.....ต่อไป....?]
จากนั้นมิตราก็ชี้ไปทางป่าอีกด้านและตะโกนสั้นๆ [นู้น ไป!]
มันเป็นภาพที่ดูราวกับเรื่องโกหก เหล่าเอ็นท์และไดรแอด ที่ได้ปฏิเสธคำขอของเหล่าเอลฟ์ชั้นสูงได้เคลื่อนไหวโดยปราศจากความลังเลใดๆ พวกเขาเดินผ่านกองหินที่พวกเขาได้ขว้างปาและเดินไปในทิศทางของป่าทึบ เมื่อไดรแอดและเอ็นท์ได้จากไป ใบหน้ามึนงงก็ได้ปรากฏบนใบหน้าของพวกธีโอ
ธีโอดอร์มองไปที่มิตราอย่างภูมิใจ ขณะที่เธอกำลังทำท่าดีใจที่แก้ปัญหาได้
***
หลังจากที่สองสายพันธุ์ได้ถอยออกไป กลุ่มของพวกเขาก็สามารถที่จะเข้าสู่จุดเผาไหม้ได้ ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆต่างกลายเป็นเถ้าถ่าน ถ้าพวกเขาไม่ได้ป้องกันร่างกายของพวกเขาด้วยเวทมนต์ทนความร้อนละก็ ความร้อนนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาไม่สามารถหายใจออกได้ นอกจากนี้การมองเห็นของพวกเขาถูกบิดเบือนโดยหมอกควันที่เกิดจากความร้อนทำให้ยากที่จะเห็นสิ่งใดที่อยู่เกินสิบเมตร
เบื้องหลังหมอกควันนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทักทายพวกเขาด้วยความยินดี
“ว้าว ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกัน!”เธอคือเอลฟ์ชั้นสูง อลิซ่า เธอพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ขณะที่ผมสีทองของเธอสะบัดไปตามสายลม
เธอมองไปที่ธีโอที่อยู่ด้านหน้าและร้องออกมาว่า “สวัสดี!ฉันอยากจะพูดว่าสวัสดีตอนเย็นนะ แต่ที่นี่มันสว่างเกินไปที่จะพูดเช่นนั้นใช่ไหมละ?อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกยินดีมากที่ได้พบเธอ!เธอเป็นเด็กชายผู้ที่ทำให้เอลโลน่าของพวกเราตัวบิดไปมาใช่มั้ย?ฉันทำตามที่เธอพูดแล้ว มันเป็นยังไงบ้าง ฉันทำมันดีไหม?”
“….ครับ ดีมากเลย”
มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่อลิซ่าก็ยังคงเป็นคนพูดมากเช่นเคย ธีโอดอร์มองไปที่สถานการณ์ปัจจุบันขณะที่ฟฟังคำพูดของเธอครึ่งหนึ่ง
‘มันราวๆ100เมตรสินะ?มันกว้างกว่าที่ฉันคิดเอาไว้’
จากจุดที่อลิซ่าและกลุ่มของธีโอได้ยืนอยู่นั้น สูญญากาศได้แผ่กระจายออกไปประมาณ100เมตร มันเป็นพื้นที่ที่สร้างขึ้นโดยหญิงสาวที่ลอยอยู่ในอากาศ ผู้คุมกฏแห่งธาตุลม---ซิลฟิด การเผาไหม้นั้นไม่ได้รับอนุญาติภายในสูญญากาศ แต่มันก็เปล่าประโยชน์
สิ่งนี้สามารถที่จะยื้อเวลาไม่ให้ลิเวียธานเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่สามเท่านั้น ในพื้นที่นี้ไฟไม่สามารถแพร่กระจายได้และมีเพียงต้นไม้ที่สัมผัสกับร่างของลิเวียธานเท่านั้นที่จะลุกไหม้ อย่างไรก็ตามสูญญากาศนี้สามารถซื้อเวลาได้เพียงเท่านั้น
“อลิซ่า คุณสามารถคงสภาพมันไว้ได้นานแค่ไหน?”
“อืม....10นาที?15นาที?นานกว่านี้มันจะเป็นเรื่องยากเกินไป”
“ฉันเข้าใจ”
เอลฟ์ชั้นสูงได้รับความช่วยเหลือจากมาน่าของเกรทฟอเรสต์ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีวันหมด อลิซ่าได้ใช้พลังของซิลฟิดมาหลายชั่วโมงแล้วก่อนที่พวกเขาจะมาถึง เธอแสร้งทำเป็นสบายๆแต่หน้าผากและคอของเธอกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถ้าเธอผ่อนพลังลงชั่วขณะ เธอจะหมดสติและตกลงมาทันที พลังที่ใช้ในการเรียกสูญญากาศนั้นมหาศาลมาก
ตั้งแต่ตอนนี้ มันจะไม่ใช่อลิซ่าแต่เป็นพวกธีโอดอร์ที่จะต่อสู้ จอมเวทย์ทั้ง6ตนพร้อมกับเอลฟ์ชั้นสูงและผู้พิทักษ์พวกเขาได้มารวมตัวกันเพื่อเอาชนะตัวตนหายนะในตำนาน ธีโอได้บังคับให้ตัวเองยืนตรงและร้องออกมาว่า “งั้นฉันจะยืนยันมันเป็นครั้งสุดท้าย”
เพื่อที่จะเอาชนะลิเวียธาน พวกเขาต้องการกลยุทธและความสามัคคี ถ้ามีหนึ่งคนที่หลุดไปจากการประสานกัน คนอื่นๆจะตายทันทีเพื่อชดเชยความผิดพลาดนั้น
ดังนั้นธีโอดอร์จึงอธิบายแผนที่เขาได้พูดมาหลายครั้งแล้วอีกครั้งหนึ่ง “ลิเวียธานนั้นไม่สามารถทำลายได้ด้วยการโจมตีปกติ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดความเสียหายเลย การโจมตีอาจจะไม่ทำให้มันตาย แต่ลิเวียธานจะต้องใช้พลังที่มันเก็บเอาไว้ ดังนั้นเป้าหมายหลักของเราคือการลดพลังงานที่มันสะสมเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ตามที่ความตะกละกล่าว พวกเขาไม่มีทางที่จะทำลายลิเวียธานได้เลยในยุคนี้ จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ที่สามารถทำลายรูปแบบที่สองของมันได้สามารถพบได้เฉพาะในหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น อย่างไรก็ตามวิธีการปราบปรามลิเวียธานนั้นมีอยู่ ในขณะที่ความตะกละหัวเราะออกมา มันก็ได้สอนเขาถึงวิธีการ
มันคล้ายกับการเทน้ำลงในเหยือกที่แตก
“เราจะเริ่มต้นด้วยซิลเวีย”
ซิลเวียผู้ซึ่งอยู่ท้ายสุดของแถวพยักหน้าและคว้าคฑาสีขาวของเธอไว้แน่น
กลยุทธของธีโอดอร์มีพื้นฐานมาจากลำดับการปล่อยเวทมนต์ใส่เป้าหมาย มันจะไม่มีความหมายหากมุ่งการโจมตีทั้งหมดในครั้งเดียว เมื่อฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่สามารถฆ่าให้ตายได้
“ดำเนินการต่อตามลำดับการโจมตีที่กำหนดไว้แล้ว แต่ดูแลกันด้วยหากมีบางคนพลาดจังหวะ ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้พลังทำลายล้างที่มากที่สุดเพื่อก่อกวนมัน การโจมตีระยะไกลจะถูกจัดการโดยเอลฟ์ทั้งสองตน ดังนั้นไม่ต้องกังวล”
เอลฟ์ทั้งสองตนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ อลูการ์ดสามารถเรียกผู้คุมธาตุน้ำออกมาได้ ขณะที่ลูกศรของเอ็ดวินสามารถฆ่าคนได้นับพัน ถ้าเป็นไปได้ธีโอต้องการที่จะเก็บผู้คุมธาตุน้ำเอาไว้ให้ทำหน้าที่ต่อกรกับรูปแบบที่สาม แต่มันจะเป็นความผิดพลาดถ้าหากพ่ายแพ้เนื่องจากมีการเก็บพลังเอาไว้
ดังนั้นทั้งแปดคนจึงจัดขบวนรบของพวกเขาอย่างละเอียด บางคนมีประสบการณ์ก็จะเคลื่อนที่ไปรอบรูปขบวน ขณะที่บางคนรอและตรวจสอบยาของพวกเขา คนส่วนใหญ่เป็นคนที่ผ่านสงครามมาและแม้กระทั่งซิลเวียที่มีประสบการณ์น้อยก็ยังมีประสบการณ์ที่เพียงพอ
ในไม่ช้า ช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยก็มาถึง
“นะ-นี่.....!”
ในที่สุดอลิซ่าก็ถึงขีดจำกัดและปล่อยผู้คุมธาตุลมกลับไป จากนั้นคลื่นความร้อนขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาทันที
วูบบบบบ...
ลมร้อนพัดมาจากขอบฟ้า และพื้นดินที่ถูกเผาไหม้ได้แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ เปลวไฟได้เผาไหม้พื้นดินจนไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ ขณะที่ควันสีดำโชยขึ้นและบดบังการมองเห็นของพวกเขา ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถอยู่รอดได้ในใจกลางของความร้อนนี้
“-แหลกไปซะ!”เอ็ดวินคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่เขายิงธนูออกไป
ฟิ้ว!พายุลูกศรได้พุ่งข้ามขอบฟ้าไป!ขณะเดียวกันก็เกิดพายุหมุนขนาดหลายร้อยเมตรที่ฉีกกระชากกลุ่มควันและเผยให้เห็นศูนย์กลางของภัยพิบัติ
กึกกึก...!แผ่นดินสั่นไหวและเกิดฝุ่นคลุ้งขึ้น มอนสเตอร์ระดับสูงจะไม่สามารถทนทานต่อสิ่งนี้ได้และจะกลายเป็นเศษเนื้อ
คลื่นกระแทกจากลูกศรทำให้เสื้อคลุมของกลุ่มธีโอกระพือไปมา เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงพลังทำลายล้างของเอ็ดวินว่ารุนแรงแค่ไหน การโจมตีของบุคคลระดับสูงสุด ที่ยิงด้วยเจตนาฆ่าอย่างแท้จริงนั้นรุนแรงอย่างมาก
อย่างไรก็ตามมันไม่มีความหมายเลย
‘----------!!’
เปลวไฟได้หมุนวนอย่างรุนแรง พลังที่ถูกผนึกไว้โดยสูญญากาศจนบัดนี้ได้เผาผลาญอากาศโดยรอบและละลายทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่รู้ว่าการโจมตีเอ็ดวินเป็นการยั่วยุมันหรือเปล่า แต่ลิเวียธานได้หันหน้ามาทางพวกเขา
“มันกำลังมา!”มีบางคนกรีดร้องขึ้น
ธีโอตะโกนตอบอย่างฉับพลัน โดยไม่สนใจอาการปวดหัวของเขา
เขาเชื่อในตัวซิลเวียและจอมเวทย์คนอื่นๆ แต่มันยากที่จะพบเจอแรงกดดันเช่นนี้ หลังจากที่ได้ดูดซับประสบการณ์มาจากอัลเฟรดและเผชิญหน้ากับอัตตา ธีโอก็ไม่เคยได้รับแรงกดดันใดๆ แต่การปรากฏตัวของลิเวียธานนั้นเกินกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการได้
ไม่นานหลังจากนั้น ยักษ์ก็ได้ขยับตัวมาทางพวกเขาอย่างน่ากลัว
“ซิลเวีย!”
“เจ้านายแห่งความหนาวเย็น ยมิลล์!”
พรสวรรค์ของอัจฉริยะระดับสูงจากBlue Tower ช่วยให้เธอสามารถใช้เวทมนต์น้ำแข็งที่เตรียมไว้ได้แม้เธอจะตกใจอยู่ คลื่นความหนาวเย็นที่อยู่รอบๆตัวซิลเวียทำให้ความร้อนลดลงอย่างรวดเร็วและเผยให้เห็นฟันที่สั่นอย่างหนาวเย็นของมอนสเตอร์ที่สูงร้อยเมตร มันเป็นพายุน้ำแข็งที่หนาวเย็นอย่างมากแม้กระทั่งมอนสเตอร์ธาตุน้ำแข็งทางตอนเหนือก็ไม่สามารถต้านทานได้
‘พายุหิมะ’ในฐานะที่ซิลเวียเป็นจอมเวทย์ขั้น5 ผู้ที่ใกล้เคียงกับขั้น6 เวทย์ของเธอได้กลืนกินยักษ์ไฟเข้าไปทั้งตัว
เมื่อการโจมตีได้เริ่มขึ้น ม่านแห่งการต่อสู้กับเวทย์โบราณระดับตำนาน ลิเวียธาน ก็ได้เปิดฉากขึ้น