เล่มที่ 2: บทที่ 3-3 (Alien)
เล่มที่ 2: บทที่ 3-3 แปลโดยกิลด์เทพอสูร
ทุกคนมองสั่วอี้ด้วยความตกตะลึง ชายหนุ่มคนนี้มีหน้าตาธรรมดา, ความสามารถทางกายภาพก็ตามค่าเฉลี่ยทั่วไป ,ไม่มีความสามารถอะไรพิเศษเป็นแค่ชายหนุ่มที่ไม่โดดเด่นอะไรเลย ถ้าซวนไม่พูดถึงเขาขึ้นมาก็คงไม่มีใครที่จะจดจำเขาได้ ตัวเขาเปรียบเหมือนเป็นเพียงแค่อากาศเท่านั้น
สมองของสั่วอี้รู้สึกว่างเปล่า ครู่ต่อมาเขาก็ตะโกนขึ้นว่า “ทำไมถึงเป็นผม? ทำไมถึงต้องเป็นผม? มีคนอยู่ที่นี่มากมาย ทุกคนก็อยากมีชีวิตรอดจนจบหนังเรื่องนี้กันทั้งนั้นแหละ แล้วทำไมผมถึงต้องตาย? หรือเพียงแค่คุณอยากจะฆ่าผม เมื่อคนน้อยลงตัวหารอาหารก็ลดลง คุณจะได้ยืดชีวิตต่อไปอีกหน่อยใช่มั้ย นั่นคือเหตุผลที่คุณอยากฆ่าผมใช่รึเปล่า?”
ซวนมองไปที่เขาอย่างเงียบๆ “ไม่. ผมไม่ได้มีเจตนาจะฆ่านาย ถึงแม้ว่าหน้าที่เหยื่อล่อจะดูมีความเสี่ยงสูง แต่เพราะนายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ทุกคนที่เหลือล้วนแข็งแกร่งกว่านาย ไม่ว่าจะเป็นเจี๋ย,หลาน,หรือเจิ้ง พวกเขาล้วนมีประสบการณ์ ความสามารถของพวกเขามันทำให้ผมดำเนินแผนต่อไปได้ ซีโร่มีทักษะการต่อสู้แบบระยะชิด ฝีมือการยิงสไนเปอร์ของเขาก็ถือว่าชั้นเทพ ส่วนแคมปามีทักษะในการใช้ปืนได้ทุกรูปแบบ ซึ่งอาจรวมถึงอาวุธที่อยู่ในคลังอาวุธบนยายลำนี้ด้วย งั้นช่วยบอกผมหน่อยซิ ว่านายทำประโยชน์อะไรให้เราได้บ้าง?”
สั่วอี้ลดศรีษะลงอย่างเงียบ ๆ หน้าของเขาเริ่มเป็นสีแดงก่ำ หลอดเลือดดำปูดโปนขึ้นมาบนมือของเขา แต่ซวนยังคงนิ่งเงียบไม่มีเสียงใดๆ ออกมา “ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ ทุกคนย่อมมีความสามารถบางอย่าง หรือ พรสวรรค์ที่ติดตัวมากันทั้งนั้น ไม่มีทางที่ผมจะตัดสินคนเพียงแค่ตัวเลข หรือแค่ความสามารถ ผมจะไม่เป็นคนที่มองเพียงแค่ประโยชน์ของบุคคลเหมือนเช่นตอนนี้ นายต้องเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของว่าเรากำลังต่อสู้กับความเป็นความตาย ถ้าหากมีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อยนิด ทุกคนที่นี่อาจต้องตายกันหมด นายไม่จำเป็นสำหรับที่นี่ ถ้านายต้องการให้กลุ่มของเรายอมรับ และ ปฏิบัติต่อนายอย่างเท่าเทียม นายก็ต้องแสดงให้พวกเราเห็นคุณค่าของนาย แล้วมันจะต่างอะไรกับ 7 คนที่ตายอยู่ข้างนอก?”
ในที่สุดเจิ้งก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาไม่สามารถยืนได้แต่เขาก็ยังคงตะโกนว่า “ไม่, ฉันไม่เห็นด้วยกับคำพูดของนาย ฉันมาถึงที่นี่ในตอนแรก ฉันเองก็เป็นแค่คนปกติเหมือนกัน ความสามารถปัจจุบันของฉันที่มีมันเกิดจากการพัฒนาศักยภาพ แล้วทำไมถึงบอกว่าเขาไม่จำเป็น? ถ้าหากนายให้โอกาสเขามีชีวิตอยู่ต่อจนผ่านหนังซัก 2-3 เรื่อง ฉันแน่ใจว่าเขาจะกลายเป็นเพื่อนที่เชื่อถือได้!”
ซวนยังคงสงบนิ่ง “แต่ ...เขาจะมีโอกาสรอดไหม? หรือจะพูดให้ถูกต้อง บอกว่าเราพอจะมีโอกาสมีชีวิตรอดในหนังเรื่องนี้รึเปล่า? ต่อให้ได้คะแนนเพื่อพัฒนาศักยภาพเท่ากัน ยังไงซะเราทั้งหกคนก็ยังแข็งแก่งกว่าเขามากอยู่ดี แล้วนายก็อย่าคิดที่จะอาสาทำหน้าที่แทนเขา ทุกคนล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเองด้วยกันทั้งนั้น เพราะนายเป็นคนที่สำคัญ และ มีประโชน์สำหรับพวกเรามากที่สุดในหนังเรื่องนี้ หรือนายอยากเก็บคนๆ นี้ไว้ แล้วปล่อยให้พวกเราที่เหลือตาย?”
เจิ้งรู้สึกโกรธมาก เพราะเขาเองก็กลัวตายมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เขามีคนที่ต้องดูแล เขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันตัวเขาเองก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องเผชิญหน้ากับยมฑูตแห่งความตายแบบตาต่อตา แม้เขาจะมีความสามารถทางด้านกายภาพ แต่เขายังคงอยู่ตรงปากเหวแห่งความตาย แล้วคนธรรดมาอย่างสั่วอี้ล่ะจะมีแม้แต่ความหวังอันน้อยนิดได้อย่างไร?
เจี๋ยกอดเจิ้งไว้ขณะที่เขามีโทสะมากขึ้น “เราจะใช้วิธีการแบบเดิม เราจะโหวตเพื่อความยุติธรรม เจิ้ง! ระงับสติอารมณ์หน่อย ถึงนายจะไม่ห่วงชีวิตของตัวเอง แล้วโลริล่ะ? ถ้าเราตายมนุษย์ที่พวกเราสร้างขึ้นจะหายไป! นายต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
ตัวของเจิ้งสั่นเทาด้วยความโกธร ในที่สุดศรีษะของเขาก็ก้มต่ำลงแล้วนั่งลงแต่โดยดี ซวนถอนหายใจ “งั้นเราจะเริ่มโหวตกันใคร ที่เห็นด้วยกับแผนของผมยกมือขึ้น.”
ผลที่ตัดสินชะตากรรมของสั่วอี้ คือ เห็นด้วย 5 คะแนน และ ไม่เห็นด้วย 2 คะแนน สรุปก็คือออกไปเป็นเหยื่อล่อเพื่อทำให้กลุ่มยอมรับ หรือจะออกจากกลุ่มไปโดยไม่มีอาหาร และ น้ำติดตัวไปด้วย ทั้งยังไม่ได้รับการคุ้มครองใดๆ จากกลุ่ม
อารมณ์ของสั่วอี้เดือดพล่านมากขึ้น ซีโร่ กับ แคมปา ยืนอยู่ข้างๆซวนอย่างสงบนิ่ง เพราะทุกคนกำลังคิดว่าสั่วอี้ต้องระเบิดความโกธรที่อัดอั้นของเขาในไม่ช้า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับสติอารมณ์ แล้วมองไปที่ซวนด้วยสายตาที่เกลียดชังพร้อมกับพูดว่า“เอาล่ะในเมื่อทุกคนต้องการให้ผมเป็นเหยื่อ ผมก็จะเป็นเหยื่อล่อเอง!”
สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเขา ทำให้ทุกคนรู้สึกสั่นสะท้าน แม้ว่าเจิ้งจะไม่ได้เห็นสายตานั้น เพราะว่าก้มศรีษะอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เขาได้ยินผลโหวต เจิ้งเดินไปที่มุมห้องพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งอย่างเงียบๆ
จากนั้นครู่หนึ่งหลานก็เดินเข้าไปหาเจิ้ง ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดปลอบใจเขาอย่างไรดีเช่นกัน แต่กลับกันเจิ้งเลือกที่จะพูดก่อน “หลานเธอก็กลัวตายใช่มั้ย?”
“อืม...ใช่ ฉันกลัวตาย.”
“ผมก็กลัวตาย ทุกคนก็กลัวตายเหมือนกัน สำหรับที่นี่ไม่มีใครปลอดภัยจริงๆ หรอก แล้วทำไมต้องผลักใสให้คนอื่นไปเสี่ยงตายแทนพวกเราอย่างงั้นด้วย ? เพียงแค่ความปลอดภัยประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้นน่ะเหรอ ควรส่งคนที่พร้อมกว่าไปแทนสิ คนที่สามารถทำให้ภารกิจได้สำเร็จลุล่วงได้ ...”
หลานพูดขัดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันคิดว่าซวนทำถูกต้องแล้ว ถ้าเป็นสถานการณ์ทั่วๆ ไป สิ่งที่นายคิดก็ถือว่าถูกต้อง แต่ว่าตอนนี้เราต้องเผชิญหน้าสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา พวกเรากำลังต่อสู้กับความตาย ... ถ้าเราต้องปกป้องคนที่ไร้ประโยชน์ โดยปราศจากสิ่งตอบแทนได้ยังไง?”
เจิ้งเงียบลงอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดพึมพำขึ้นมา “... ผมคงหาคำพูดมาหักล้างมันไม่ได้ ใช่.บางทีเธอ กับ ซวน อาจจะคิดถูกก็ได้ แต่ผมก็หวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันช่วยเหลือกัน และ ทำให้ดีที่สุดเพื่อจะได้มีชีวิตรอด ผู้แข็งแกร่งไม่ควรกดขี่ข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า ถ้าในหนังเรื่องแรกเราต้องมาเจอกับสถานการณ์เดียวกันแบบนี้ เราจะรู้สึกยังไง? เราจะไม่เกลียดทุกคน และ โลกใบนี้หรอกเหรอ?”
หลานถอนหายใจ และเลือกที่จะไม่ได้พูดอะไรอีก เธอนั่งอยู่ข้างเจิ้งอย่างเงียบๆ ไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย พวกเขาต่างมองหน้ากัน แล้ววิ่งไปรวมกลุ่ม
เมื่อทั้งสองมาถึง ก็ได้เห็นว่าทุกคนกำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าจอภาพ ในภาพนั้นมีคน 4 คน ที่กำลังเดินอยู่ด้วยร่างกายอันสั่นเทา พวกเขาเป็นชายวัยกลางคน 2 คน ชายหนุ่ม 1 คน และ หญิงสาว1 คน หลังจากที่ทั้งสี่เดินผ่านไป ก็เห็นเอเลี่ยน 3 ตัวกำลังตามไล่หลังพวกเขาอยู่
เจิ้งถามทันที“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเอเลี่ยนถึงไม่โจมตีพวกเขา?”
ซวนขบคิด และ ไม่ได้ตอบอะไร ส่วนหลานสัมผัสหน้าผากของเธอพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า“อาจเป็นเพราะ ...ขยายพันธุ์?”
สายพันธ์ของเอเลี่ยนตัวที่สามารถสืบพันธุ์ได้ก็มีเพียงราชินีเท่านั้น พวกมันจะต้องใช้ร่างต้นเพื่อฝังตัวอ่อนและรอการเจริญเติบโต และ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทั้ง 4 คนบนจอภาพถึงไม่ถูเิเลี่ยนฆ่า
ซวนพยักหน้า "ใช่. ขยายพันธุ์ งั้นเราต้องรีบดำเนินการตามแผนให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นในไม่กี่วัน ... เราคงต้องเจอกับเอเลี่ยนถึง 9 ตัว!”
ติดตามข้อมูลข่าวสารนิยายเรื่องนี้ได้ก่อนใครที่ FB: www.facebook.com/IDTR8 หรือพิมพ์ค้นหา นิยายแปล: เกมส์สยองต้องไม่ตาย Blog: www.idtr8.wordpress.com
จากตอนปัจจุบันในเพจตอนนี้กลุ่มลับนำไปแล้ว 150+ ตอนน้ะค้า