Chapter 239: System (2)
Chapter 239: System (2)
หลังจากที่เครียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปหาแกรแรส
"มันดูเหมือนจะนานมากแล้ว."
“...มันก็นานมากเหมือกัน.”
แกรแรสพยักหน้าด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจ
เหตุผลง่ายๆ ผมค่อนข้างแตกต่างจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอกับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่สังเกต แต่แกรแรสเป็นคนที่อยู่ในเขตแดนที่เหนือกว่า เขาสามารถมองเห็นแก่นแท้ของผมได้เล็กน้อย.
แกรแรสมองไปทั่วร่างกายของผมแล้วถาม
"คุณเป็นดีม่อนจริงๆ? มันไม่แปลกที่จะเรียกคุณว่าเป็นพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่.”
“ผมกำลังพยายามฆ่าพระเจ้า.”
"น่าสนใจ น่าสนใจมากๆ ถ้าผมไม่ยุ่งมากจนเกินไปผมอาจจะเข้าไปช่วยคุณ.”
“แกรแรส คุณต้องการแก้แค้นดาร์กสปิริตไหม?”
ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของแกรแรสมากกว่าครึ่งโลกสปิริตไฟได้ถูกทำลาย มีเพียงสปิริตไม่เท่าไรที่เหลืออยู่นั่นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าดาร์กสปิริตบุกมาอีกสองหรือสามครั้ง พวกเขาจะถูกทำลาย
เป็นไปไม่ได้ที่แกรแรสจะไม่รู้เรื่องนี้
หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของผมแล้วทางเลือกของเขาก็ง่ายขึ้น
มันเป็นการดีที่จะวางตัวต่ำกว่าผม แกรแรสยิ้มและพูดขึ้น
“คุณต้องการอะไร?”
เขาเหมาะที่จะเป็นราชาจริงๆ
เขาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกสปิริตรอยแยกถูกเปิดออกและดาร์กสปิริตซุ่มโจมตีพวกเขา แผนการของดาร์กสปิริตเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเกี่ยวกับแอนอลที่เป็นราชาดาร์กสปิริต.
"เขาทำลายสมดุล แต่ละฝ่ายของโลกสปิริตดำรงไว้อยู่ในความสมดุล แต่เขาเป็นคนบ้าที่ติดอยู่กับการทำลายล้าง ถ้าเหลือเขาเพียงคนเดียวโลกสปิริต...หึ”
แกรแรสส่งสัญญาณที่ไม่พอใจ ไฟที่ออกมาตอนที่เขาถอนหายใจนั้นดูรุนแรง แต่มันไม่มีพลังอะไร.
"มีอะไรแปลกๆไหม?อะไรดีๆ.”
แกรแรสพยักหน้า
“ใช่ เรารวมกัน สปิริตที่รอดตายได้เข้าร่วมกองกำลังกันและมุ่งหน้าไปยังโลกของดาร์กสปิริต และเราก็ถูกกวาดล้าง ผมเป็นคนเดียวที่รอดกลับมา.”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมไม่รู้. แต่...แอบนอลไม่ยอมให้คนที่เข้าไปโจมตีเขารอดกลับมาได้...”
เป้าหมายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ เขาดูเหมือนว่าจะเป็นเดมิก๊อต ความภาคภูมิใจของแกรแรสไม่ยอมให้ตัวเองเรียกแอบนอลว่าพระเจ้า
“มันจบแล้วหรือยัง?คุณไม่ได้เห็นอย่างอื่นเลยหรอ?”
"เห็นอย่างอื่น?มีบางอย่างแปลกๆ แล้วก็เห็น ผมเห็น...ประตู ใช่ มันเป็นประตู ประตูยักษ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ามันเป็นอะไรเพียงแค่แว่บเดียว แต่ผมเห็นมันแน่นอน.”
ประตู?
โลกดาร์กสปิริตเป็นสถานที่ผมรู้จัก
การประมูลถูกจัดขึ้นหลายครั้งในปราสาทของใจกลางโลกสปิริต
แต่ผมไม่เคยเห็นประตูบนท้องฟ้า
ถ้ามีประตูบานนั้นแล้วมันอาจจะมีบางอย่างเกี่ยวกับระบบ
"อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งที่ผมบอกได้ ดาร์กสปิริตมีความแข็งแกร่งและมีจำนวนมากแถมแอบนอลยังมีประสิทธิภาพ มีวิธีไหนบ้างที่เอาชนะพวกเขาได้?”
“คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไร.”
ผมกางปีกออก
ถ้าเรื่องมันมีทั้งหมดแค่นี้ก็ดี
ผมสามารถเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องกังวล
เวลามีค่ากว่าสิ่งอื่นๆ ถ้าเดธบลิ้งเกอร์สังเกตเห็นว่าผมอยู่ใกล้กับระบบในโลกดาร์กสปิริตแล้วเขาก็จะมาทันที ผมมีเวลาไม่มากนัก ตอนนี้การครอบครองยังไม่สมบูรณ์ดังนั้นเขาจึงต้องมุ่งเน้นไปยังการดูดซับราชานรก
"คุณจะจัดการกับมันคนเดียว?”
แกรแรสเต็มไปด้วยความชื่นชม
"ถ้าผมกลับมาแล้วคุณจะต้องเปิดโกดังของคุณ”
"ถ้ามันทำให้คุณกลับมาได้..ผมเข้าใจ ผมจะให้คุณเป็นโกดังของผมได้อย่างเต็มที่ ใช้สิ่งที่คุณต้องการแทนที่จะกำจัดพวกมันเหล่านั้นและกลับมา.”
แกรแรสยอมแพ้
เดิมทีความตั้งใจแรกจะส่งสปิริตไฟทั้งหมดคืนให้กับเขา แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป
ตอนแรกเขาต้องการต่อสู้เคียงข้างผม อย่างไรก็ตามเขาต้องไล่หาสปิริตที่เหลืออยู่
ผมมุ่งหน้ากลับไปยังรอยแยก
เร็วเหมือนสายฟ้า.
ผมไม่สามารถให้เวลาในการสังเกตและเตรียมอะไรบางอย่าง
ทุกอย่างต้องถูกแก้ไขอย่างรวเร็ว
แต่เดิมดาร์กสปิริตเป็นพ่อค้า พวกเขาสามารถยกระดับได้จากการค้าขายกับดีม่อน ในชีวิตก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทำสงครามหลายทศวรรษแล้ว แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาน้อยกว่านั้นหลาย10ปีเหตุผลมันคืออะไร?
รอยแยกก็เป็นเพียงรอยแยก พวกเขาอาจจะสามารถช่วยให้ประหยัดเวลาได้โดยการใช้รอยแยก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับโลกสปิริต
ต้องมีเหตุผลที่มันเป็นไปได้ เหตุผล....ระบบ
ผมเข้าไปในรอยแยกและโผล่ออกมาในโลกดาร์กสปิริต
ผมยกระดับความรวดเร็วของผมเพื่อที่จะไม่ให้ดาร์กสปิริตจะสังเกตเห็น
ไม่มีใครในที่นี่จะหยุดผมได้ มีสปิริตบางตน แต่พวกเขาไม่เห็นผม โรงประมูลโลกดีม่อน เหล่าดีม่อนกำลังจมอยู่กับความแข็งแกร่งของสัญญาที่ทำกับเดวิล ในความเป็นจริงโลกดีม่อนมีความเป็นอยู่ที่แข็งแกร่งมาก
ไม่ว่าดาร์กสปิริตจะแข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของผม ผมเพียง แค่ให้ความสำคัญกับเรื่องเดียวเท่านั้น.
‘แอบนอล.’
ปัญหาของผมคือแอบนอล
แกรแรสบอกเรื่องนี้ แต่พลังของเขามีมากเท่ากับเดมิก๊อต แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ปัญหา แต่เขาได้ทะลวงข้อจำกัดของเขาในเวลาอันสั้นในเขตแดนที่เหนือกว่ามันเป็นเวลาสั้นๆการเติบโตของเขาเกินสามัญสำนึก
ผมมาถึงใจกลางของโลกสปิริตอย่างรวดเร็ว เป็นปราสาทใหญ่ และประดูลอยอยู่บนท้องฟ้า!
มันไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่มันมีอยู่จริง
หัวใจผมเต้นแรง. ประตูนั่นเป็น ‘ระบบ’ กุสตาร์ที่อยู่ในตัวผมก็เห็นด้วย.
อย่างไรก็ตามประตูนั่นถูกป้องกันโดยดาร์กสปิริตมากมาย มีบันไดขึ้นยังท้องฟ้าและมีปราสาทมากมาย
บุลคลที่ไม่ได้รับอณุญาตจะถูกกันออกมา
'ฉันไม่สามารถผ่านมันไปได้โดยไม่ถูกสังเกต.’
ผมเกาแก้มของผม.
ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆอยู่แล้วในตอนแรก
และผมวางแผนที่จะจับแอบนอล ผมมีบางอย่างที่ต้องการจากเขา
‘เจ็ดบาป.’
ผมต้องการเจ็ดบาปทั้งหมดที่เขามี ผมมีสามและกรีดของปลอม ยกเว้นกรีด อีกสามชิ้นที่ผมต้องการ
ผมสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าทุกอย่างมารวมกัน
ฉัวะ!
ผมปลุกสายฟ้าพระเจ้า
สายฟ้าพระเจ้าออกมา.
"ไปทักทายพวกเขาหน่อย”
ผมพดว่าไปทักทายเบาๆ
สายฟ้าพระเจ้าเคลื่อนที่ผ่านดาร์กสปิริตเข้าไปก่อนกวนพวกเขาด้วยการทำลายปราสาท
และ...
ครึ่นๆๆ! ปัง ปัง ปัง ครึ่นๆๆ!
ปราสาทถูกทำลายทันที
ดาร์กสปิริตถูกสังหาร.
ยังมีสปิริตบางตนที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ผมก็ไม่สนใจ พวกเขาไม่สามารถขวางกั้นระหว่างผมกับเป้าหมายของผมได้ ความสัมพันธ์ของพ่อค้าและลูกค้าหายไปหมดแล้วและตอนนี้เราก็เป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์
ผมไม่ดีพอที่จะแสดงความเมตตาต่อศัตรูของผม
ผมเดินผ่านดาร์กสปิริตที่เหมือนกับมด
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรผมได้ ผมไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจใดๆ.
ผมสงสัยว่าผมจะถูกทุบได้อย่างไร
“...รัลดาล บิกิเซล ผมจำไม่ได้ว่าได้ส่งคำเชิญไปหาคุณ.”
แอบนอล!
เขาสวมใส่เสื้อคุลมสีดำและหนา
หน้ากากและเครื่องประดับที่ทำมาจากกริฟฟินดูเหมือนมันจะอยู่ในระดับตำนาน.
เขาเป็นคนที่สง่างามสำหรับดาร์กสปิริต
"แอบนอล ให้สิ่งที่คุณเหลืออยู่และถอยไป.”
"ถอย?”
"ส่วนที่เหลือของเจ็ดบาปและประตูนั่น!”
ผมชีนิ้วไปที่ประตูที่อยู่บนท้องฟ้า ประตูบานใหญ่ ระบบมันอยู่ข้างหลังของมัน
แอบนอลเย้ยหยันและเขาก็หัวเราพออกมา
“คุณไม่มีแข็งแกร่ง.”
"ไม่ ผมแค่ถามอย่างสุภาพ ผมจะปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่ถ้าคุณให้มันกับผม.”
ดาร์กสปิริตจะใช้ทุกวิธีหากมีการซื้อขาย ผมก็ทำแบบเดียวกัน นอกจากนี้ผมยังมีหลักฐานยืนยันว่าเขากับเดธบลิ้งเกอร์สมรู้ร่วมคิดกันอย่างชัดเจน
มันไม่ใช่คำโกหก เมื่อผมบอกว่าผมจะไว้ชีวิตเขาหากเขาให้ของกับผม.
มันใช้แค่กับแอบนอลเท่านั้น
ผมไม่ต้องสนใจดาร์กสปิริตที่เหลือ
แน่นอนว่าแอบนอลไม่ได้ให้ผมอย่างง่ายดาย...
"แม้ว่าจะได้รับพลังมาจากไหนก็ตามผมก็ปราถนาที่จะให้คุณตาย.”
ผมไม่ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแอบนอลและเดธบลิ้งเกอร์ แอบนอลไม่อาจคิดได้ว่าผมแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน.
ความสัมพันธุ์ระหว่างแอบนอลและเดธบลิ้งเกอร์เป็นเรื่องแปลก แอบนอลได้รับระบบในขณะที่เดธบลิ้งเกอร์ได้รับร่างราชานรก.
เกรแรสเห็นมัน อย่างไรก็ตามแอบนอลไม่รู้ช่องว่างระหว่างเรา
ถ้าเขาทำได้เขาคงไม่ออกมาแบบนี้
'ฉันดีใจที่เขาเป็นคนโง่.’
ผมยักไหล่และชูวาธและดาบจักพรรดิขึ้น
ไม่จำเป็นต้องใช้สกิลอื่นกับเขาอีก
ดวงจันทร์กำลังลอยอยู่บนฟ้า
‘ท่วงท่าของมูนก็เพียงพอแล้ว.’
ผมตั้งใจจะทำลายเขาด้วยพลังของดาบเพียวๆ
ผมไม่ได้ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของผม
แอบนอลไม่ได้เป็นคู้ต่อสู้ของผมตั้งแต่แรก
การโจมตีของสปิริตไม่ได้เชื่อต่อกันเนื่องจากเขามีสกิลอยู่ในระดับเดมิก๊อค
‘เอเลเมนซิล[Elemental Shield] (Demigod)’ มันเป็นสกิลที่ทำให้คู่ต่อสู้เจาะจงเป้าหมายไม่ได้
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อหน้าผม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระดับเดมิก๊อต แต่ความต่างของเราก็ใหญ่เกินไป.
ทั้งหมดที่เขามีนอกจากอาวุธดีๆ เขาก็ยังใช้มันได้ไม่ดี เขาล้มเหลวในการแสดงประสิทธิภาพอย่างถูกต้อง
ผมเข้าใจทั้งหมดเมื่อผมใช้ดวงตาของพระเจ้า ตาพระเจ้าสามารถทำให้ผมเป็นหน้าต่างสถานะของคนอื่นๆแม้ว่ามันอาจจะล้มเหลวเนื่องจากการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามและยังเกียวข้องกับพลังเวทย์และความฉลาด.
มันก็เหมือนกันสำหรับเรื่องนี้
ไม่มีความหมายแม้ว่าจะมีเอเลเมนซิลอยู่ตรงหน้า ความแตกต่างของสถานะสูงเกินไป
“นี้...ไร้สาระ...”
ตาของแอบนอลเบิกกว้าง
เขาไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีช่องว่าขนาดใหญ่.
แต่เขาไม่สามารถพูดจนจบได้.
ดาบของผมผ่าแอบนอล
ฉัวะ!
ผมสะบัดดาบและมองไปรอบๆ
ดาร์กสปิริตมากมายจ้องมองผมอยู่รอบๆ แต่เขามองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
‘ฉันต้องทำตามคำสัญญากับแกรแรส’
ดาร์กสปิริตทั้งหมดที่ได้ทำผิดร่วมกัน
ถ้าพวกเขาถูกทำลายหมดมันจะเสียสมดุล ดังนั้นผมจะต้องทำลายแค่บางส่วน
เปรี๊ยวงงง!
เฟี๊ยวว!
สายฟ้าพระเจ้าเคลื่อนไหว
ไฟของไพน์ก็ห่อหุ้มรอบๆไม่ให้ดาร์กสปิริตหนีออกไปได้
พวกที่ถูกขัง
และ..จำนวนของพวกเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ผมหยุดโจมตี ผมก็มุ่งหน้าไปยังดาร์กสปิริตที่กำลังสั่นสะท้านอยู่ มันเป็นสปิริตที่ดูโง่ๆเหมือนกับโคโบล
“คุณชื่ออะไร?”
"สะ-สนิ...ฮัดชิ้ว! สนิฟเฟอร์.”
ผมพยักหน้า.
"สนิฟเฟอร์ จากนี้ไปคุณเป็นผู้นำของดาร์กสปิริตที่เหลืออยู่”
"ฮะ-อชิ้ว! ใช่ ใช่?”
"ผู้นำสนิฟเฟอร์ นำส่วนที่เหลือของเจ็ดบาปมาให้ผม หรือคุณจะจบลงแบบแอบนอล.”
พูดง่ายๆก็คือตาย.
แม้ว่าเขาจะมองผมอย่างสั่นๆแต่เขาก็พยักหน้าอย่างแรง
“ใช้ ใช่!”
เขาวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด ผมไม่คิดว่าเขาจะหนีไป
จากนั้นผมก็มองไปรอบๆของดาร์กสปิริตที่เหลืออยู่.
ดาร์กสปิริตที่ไม่สามารถขยับตัวหรือเคลื่อนไหวได้ พวกเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์.
"คุณแพ้แล้ว."
ผมใช้พลังจากคำพูดของราชา
มันคือการประทับตราความพ่ายแพ้ของเขา.
ด้วยความเมตตาของผู้ชนะความสมดุลของโลกสปิริตกลับมาอีกครั้ง
ผมไม่จะเป็นต้องรักษาสมดุล แต่ดาร์กสปิริตอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง พวกเขามีความสามารถให้การหาของอย่างยอดเยี่ยม.
มันจะไม่ดีที่จะรักษาทุกอย่างไว้หลังจากที่ใช้เสร็จแล้ว
‘ตอนนี้...’
ผมเดินออกไป
ผมมองไปที่ประตูยักษ์ที่นำไปสู่ระบบ