ตอนที่แล้วChapter 238: System (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 240: System (3)

Chapter 239: System (2)


Chapter 239: System (2)


หลังจากที่เครียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปหาแกรแรส

"มันดูเหมือนจะนานมากแล้ว."

“...มันก็นานมากเหมือกัน.”

แกรแรสพยักหน้าด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจ

เหตุผลง่ายๆ ผมค่อนข้างแตกต่างจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอกับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่สังเกต แต่แกรแรสเป็นคนที่อยู่ในเขตแดนที่เหนือกว่า เขาสามารถมองเห็นแก่นแท้ของผมได้เล็กน้อย.

แกรแรสมองไปทั่วร่างกายของผมแล้วถาม

"คุณเป็นดีม่อนจริงๆ? มันไม่แปลกที่จะเรียกคุณว่าเป็นพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่.”

“ผมกำลังพยายามฆ่าพระเจ้า.”

"น่าสนใจ น่าสนใจมากๆ ถ้าผมไม่ยุ่งมากจนเกินไปผมอาจจะเข้าไปช่วยคุณ.”

“แกรแรส คุณต้องการแก้แค้นดาร์กสปิริตไหม?”

ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของแกรแรสมากกว่าครึ่งโลกสปิริตไฟได้ถูกทำลาย มีเพียงสปิริตไม่เท่าไรที่เหลืออยู่นั่นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าดาร์กสปิริตบุกมาอีกสองหรือสามครั้ง พวกเขาจะถูกทำลาย

เป็นไปไม่ได้ที่แกรแรสจะไม่รู้เรื่องนี้

หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของผมแล้วทางเลือกของเขาก็ง่ายขึ้น

มันเป็นการดีที่จะวางตัวต่ำกว่าผม แกรแรสยิ้มและพูดขึ้น

“คุณต้องการอะไร?”

เขาเหมาะที่จะเป็นราชาจริงๆ

เขาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกสปิริตรอยแยกถูกเปิดออกและดาร์กสปิริตซุ่มโจมตีพวกเขา แผนการของดาร์กสปิริตเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเกี่ยวกับแอนอลที่เป็นราชาดาร์กสปิริต.

"เขาทำลายสมดุล แต่ละฝ่ายของโลกสปิริตดำรงไว้อยู่ในความสมดุล แต่เขาเป็นคนบ้าที่ติดอยู่กับการทำลายล้าง ถ้าเหลือเขาเพียงคนเดียวโลกสปิริต...หึ”

แกรแรสส่งสัญญาณที่ไม่พอใจ ไฟที่ออกมาตอนที่เขาถอนหายใจนั้นดูรุนแรง แต่มันไม่มีพลังอะไร.

"มีอะไรแปลกๆไหม?อะไรดีๆ.”

แกรแรสพยักหน้า

“ใช่ เรารวมกัน สปิริตที่รอดตายได้เข้าร่วมกองกำลังกันและมุ่งหน้าไปยังโลกของดาร์กสปิริต และเราก็ถูกกวาดล้าง ผมเป็นคนเดียวที่รอดกลับมา.”

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ผมไม่รู้. แต่...แอบนอลไม่ยอมให้คนที่เข้าไปโจมตีเขารอดกลับมาได้...”

เป้าหมายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ เขาดูเหมือนว่าจะเป็นเดมิก๊อต ความภาคภูมิใจของแกรแรสไม่ยอมให้ตัวเองเรียกแอบนอลว่าพระเจ้า

“มันจบแล้วหรือยัง?คุณไม่ได้เห็นอย่างอื่นเลยหรอ?”

"เห็นอย่างอื่น?มีบางอย่างแปลกๆ แล้วก็เห็น ผมเห็น...ประตู ใช่ มันเป็นประตู ประตูยักษ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ามันเป็นอะไรเพียงแค่แว่บเดียว แต่ผมเห็นมันแน่นอน.”

ประตู?

โลกดาร์กสปิริตเป็นสถานที่ผมรู้จัก

การประมูลถูกจัดขึ้นหลายครั้งในปราสาทของใจกลางโลกสปิริต

แต่ผมไม่เคยเห็นประตูบนท้องฟ้า

ถ้ามีประตูบานนั้นแล้วมันอาจจะมีบางอย่างเกี่ยวกับระบบ

"อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งที่ผมบอกได้ ดาร์กสปิริตมีความแข็งแกร่งและมีจำนวนมากแถมแอบนอลยังมีประสิทธิภาพ มีวิธีไหนบ้างที่เอาชนะพวกเขาได้?”

“คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไร.”

ผมกางปีกออก

ถ้าเรื่องมันมีทั้งหมดแค่นี้ก็ดี

ผมสามารถเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องกังวล

เวลามีค่ากว่าสิ่งอื่นๆ ถ้าเดธบลิ้งเกอร์สังเกตเห็นว่าผมอยู่ใกล้กับระบบในโลกดาร์กสปิริตแล้วเขาก็จะมาทันที ผมมีเวลาไม่มากนัก ตอนนี้การครอบครองยังไม่สมบูรณ์ดังนั้นเขาจึงต้องมุ่งเน้นไปยังการดูดซับราชานรก

"คุณจะจัดการกับมันคนเดียว?”

แกรแรสเต็มไปด้วยความชื่นชม

"ถ้าผมกลับมาแล้วคุณจะต้องเปิดโกดังของคุณ”

"ถ้ามันทำให้คุณกลับมาได้..ผมเข้าใจ ผมจะให้คุณเป็นโกดังของผมได้อย่างเต็มที่ ใช้สิ่งที่คุณต้องการแทนที่จะกำจัดพวกมันเหล่านั้นและกลับมา.”

แกรแรสยอมแพ้

เดิมทีความตั้งใจแรกจะส่งสปิริตไฟทั้งหมดคืนให้กับเขา แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป

ตอนแรกเขาต้องการต่อสู้เคียงข้างผม อย่างไรก็ตามเขาต้องไล่หาสปิริตที่เหลืออยู่

ผมมุ่งหน้ากลับไปยังรอยแยก

เร็วเหมือนสายฟ้า.

ผมไม่สามารถให้เวลาในการสังเกตและเตรียมอะไรบางอย่าง

ทุกอย่างต้องถูกแก้ไขอย่างรวเร็ว

แต่เดิมดาร์กสปิริตเป็นพ่อค้า พวกเขาสามารถยกระดับได้จากการค้าขายกับดีม่อน ในชีวิตก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทำสงครามหลายทศวรรษแล้ว แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาน้อยกว่านั้นหลาย10ปีเหตุผลมันคืออะไร?

รอยแยกก็เป็นเพียงรอยแยก พวกเขาอาจจะสามารถช่วยให้ประหยัดเวลาได้โดยการใช้รอยแยก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับโลกสปิริต

ต้องมีเหตุผลที่มันเป็นไปได้ เหตุผล....ระบบ

ผมเข้าไปในรอยแยกและโผล่ออกมาในโลกดาร์กสปิริต

ผมยกระดับความรวดเร็วของผมเพื่อที่จะไม่ให้ดาร์กสปิริตจะสังเกตเห็น

ไม่มีใครในที่นี่จะหยุดผมได้ มีสปิริตบางตน แต่พวกเขาไม่เห็นผม โรงประมูลโลกดีม่อน เหล่าดีม่อนกำลังจมอยู่กับความแข็งแกร่งของสัญญาที่ทำกับเดวิล ในความเป็นจริงโลกดีม่อนมีความเป็นอยู่ที่แข็งแกร่งมาก

ไม่ว่าดาร์กสปิริตจะแข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของผม ผมเพียง แค่ให้ความสำคัญกับเรื่องเดียวเท่านั้น.

‘แอบนอล.’

ปัญหาของผมคือแอบนอล

แกรแรสบอกเรื่องนี้ แต่พลังของเขามีมากเท่ากับเดมิก๊อต แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ปัญหา แต่เขาได้ทะลวงข้อจำกัดของเขาในเวลาอันสั้นในเขตแดนที่เหนือกว่ามันเป็นเวลาสั้นๆการเติบโตของเขาเกินสามัญสำนึก

ผมมาถึงใจกลางของโลกสปิริตอย่างรวดเร็ว เป็นปราสาทใหญ่ และประดูลอยอยู่บนท้องฟ้า!

มันไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่มันมีอยู่จริง

หัวใจผมเต้นแรง. ประตูนั่นเป็น ‘ระบบ’ กุสตาร์ที่อยู่ในตัวผมก็เห็นด้วย.

อย่างไรก็ตามประตูนั่นถูกป้องกันโดยดาร์กสปิริตมากมาย มีบันไดขึ้นยังท้องฟ้าและมีปราสาทมากมาย

บุลคลที่ไม่ได้รับอณุญาตจะถูกกันออกมา

'ฉันไม่สามารถผ่านมันไปได้โดยไม่ถูกสังเกต.’

ผมเกาแก้มของผม.

ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆอยู่แล้วในตอนแรก

และผมวางแผนที่จะจับแอบนอล ผมมีบางอย่างที่ต้องการจากเขา

‘เจ็ดบาป.’

ผมต้องการเจ็ดบาปทั้งหมดที่เขามี ผมมีสามและกรีดของปลอม ยกเว้นกรีด อีกสามชิ้นที่ผมต้องการ

ผมสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าทุกอย่างมารวมกัน

ฉัวะ!

ผมปลุกสายฟ้าพระเจ้า

สายฟ้าพระเจ้าออกมา.

"ไปทักทายพวกเขาหน่อย”

ผมพดว่าไปทักทายเบาๆ

สายฟ้าพระเจ้าเคลื่อนที่ผ่านดาร์กสปิริตเข้าไปก่อนกวนพวกเขาด้วยการทำลายปราสาท

และ...

ครึ่นๆๆ! ปัง ปัง ปัง ครึ่นๆๆ!

ปราสาทถูกทำลายทันที

ดาร์กสปิริตถูกสังหาร.

ยังมีสปิริตบางตนที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ผมก็ไม่สนใจ พวกเขาไม่สามารถขวางกั้นระหว่างผมกับเป้าหมายของผมได้ ความสัมพันธ์ของพ่อค้าและลูกค้าหายไปหมดแล้วและตอนนี้เราก็เป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์

ผมไม่ดีพอที่จะแสดงความเมตตาต่อศัตรูของผม

ผมเดินผ่านดาร์กสปิริตที่เหมือนกับมด

พวกเขาไม่สามารถทำอะไรผมได้ ผมไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจใดๆ.

ผมสงสัยว่าผมจะถูกทุบได้อย่างไร

“...รัลดาล บิกิเซล ผมจำไม่ได้ว่าได้ส่งคำเชิญไปหาคุณ.”

แอบนอล!

เขาสวมใส่เสื้อคุลมสีดำและหนา

หน้ากากและเครื่องประดับที่ทำมาจากกริฟฟินดูเหมือนมันจะอยู่ในระดับตำนาน.

เขาเป็นคนที่สง่างามสำหรับดาร์กสปิริต

"แอบนอล ให้สิ่งที่คุณเหลืออยู่และถอยไป.”

"ถอย?”

"ส่วนที่เหลือของเจ็ดบาปและประตูนั่น!”

ผมชีนิ้วไปที่ประตูที่อยู่บนท้องฟ้า ประตูบานใหญ่ ระบบมันอยู่ข้างหลังของมัน

แอบนอลเย้ยหยันและเขาก็หัวเราพออกมา

“คุณไม่มีแข็งแกร่ง.”

"ไม่ ผมแค่ถามอย่างสุภาพ ผมจะปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่ถ้าคุณให้มันกับผม.”

ดาร์กสปิริตจะใช้ทุกวิธีหากมีการซื้อขาย ผมก็ทำแบบเดียวกัน นอกจากนี้ผมยังมีหลักฐานยืนยันว่าเขากับเดธบลิ้งเกอร์สมรู้ร่วมคิดกันอย่างชัดเจน

มันไม่ใช่คำโกหก เมื่อผมบอกว่าผมจะไว้ชีวิตเขาหากเขาให้ของกับผม.

มันใช้แค่กับแอบนอลเท่านั้น

ผมไม่ต้องสนใจดาร์กสปิริตที่เหลือ

แน่นอนว่าแอบนอลไม่ได้ให้ผมอย่างง่ายดาย...

"แม้ว่าจะได้รับพลังมาจากไหนก็ตามผมก็ปราถนาที่จะให้คุณตาย.”

ผมไม่ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแอบนอลและเดธบลิ้งเกอร์ แอบนอลไม่อาจคิดได้ว่าผมแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน.

ความสัมพันธุ์ระหว่างแอบนอลและเดธบลิ้งเกอร์เป็นเรื่องแปลก แอบนอลได้รับระบบในขณะที่เดธบลิ้งเกอร์ได้รับร่างราชานรก.

เกรแรสเห็นมัน อย่างไรก็ตามแอบนอลไม่รู้ช่องว่างระหว่างเรา

ถ้าเขาทำได้เขาคงไม่ออกมาแบบนี้

'ฉันดีใจที่เขาเป็นคนโง่.’

ผมยักไหล่และชูวาธและดาบจักพรรดิขึ้น

ไม่จำเป็นต้องใช้สกิลอื่นกับเขาอีก

ดวงจันทร์กำลังลอยอยู่บนฟ้า

‘ท่วงท่าของมูนก็เพียงพอแล้ว.’

ผมตั้งใจจะทำลายเขาด้วยพลังของดาบเพียวๆ

ผมไม่ได้ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของผม

แอบนอลไม่ได้เป็นคู้ต่อสู้ของผมตั้งแต่แรก

การโจมตีของสปิริตไม่ได้เชื่อต่อกันเนื่องจากเขามีสกิลอยู่ในระดับเดมิก๊อค

‘เอเลเมนซิล[Elemental Shield] (Demigod)’ มันเป็นสกิลที่ทำให้คู่ต่อสู้เจาะจงเป้าหมายไม่ได้

แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อหน้าผม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระดับเดมิก๊อต แต่ความต่างของเราก็ใหญ่เกินไป.

ทั้งหมดที่เขามีนอกจากอาวุธดีๆ เขาก็ยังใช้มันได้ไม่ดี เขาล้มเหลวในการแสดงประสิทธิภาพอย่างถูกต้อง

ผมเข้าใจทั้งหมดเมื่อผมใช้ดวงตาของพระเจ้า ตาพระเจ้าสามารถทำให้ผมเป็นหน้าต่างสถานะของคนอื่นๆแม้ว่ามันอาจจะล้มเหลวเนื่องจากการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามและยังเกียวข้องกับพลังเวทย์และความฉลาด.

มันก็เหมือนกันสำหรับเรื่องนี้

ไม่มีความหมายแม้ว่าจะมีเอเลเมนซิลอยู่ตรงหน้า ความแตกต่างของสถานะสูงเกินไป

“นี้...ไร้สาระ...”

ตาของแอบนอลเบิกกว้าง

เขาไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีช่องว่าขนาดใหญ่.

แต่เขาไม่สามารถพูดจนจบได้.

ดาบของผมผ่าแอบนอล

ฉัวะ!

ผมสะบัดดาบและมองไปรอบๆ

ดาร์กสปิริตมากมายจ้องมองผมอยู่รอบๆ แต่เขามองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

‘ฉันต้องทำตามคำสัญญากับแกรแรส’

ดาร์กสปิริตทั้งหมดที่ได้ทำผิดร่วมกัน

ถ้าพวกเขาถูกทำลายหมดมันจะเสียสมดุล ดังนั้นผมจะต้องทำลายแค่บางส่วน

เปรี๊ยวงงง!

เฟี๊ยวว!

สายฟ้าพระเจ้าเคลื่อนไหว

ไฟของไพน์ก็ห่อหุ้มรอบๆไม่ให้ดาร์กสปิริตหนีออกไปได้

พวกที่ถูกขัง

และ..จำนวนของพวกเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ผมหยุดโจมตี ผมก็มุ่งหน้าไปยังดาร์กสปิริตที่กำลังสั่นสะท้านอยู่ มันเป็นสปิริตที่ดูโง่ๆเหมือนกับโคโบล

“คุณชื่ออะไร?”

"สะ-สนิ...ฮัดชิ้ว! สนิฟเฟอร์.”

ผมพยักหน้า.

"สนิฟเฟอร์ จากนี้ไปคุณเป็นผู้นำของดาร์กสปิริตที่เหลืออยู่”

"ฮะ-อชิ้ว! ใช่ ใช่?”

"ผู้นำสนิฟเฟอร์ นำส่วนที่เหลือของเจ็ดบาปมาให้ผม หรือคุณจะจบลงแบบแอบนอล.”

พูดง่ายๆก็คือตาย.

แม้ว่าเขาจะมองผมอย่างสั่นๆแต่เขาก็พยักหน้าอย่างแรง

“ใช้ ใช่!”

เขาวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด ผมไม่คิดว่าเขาจะหนีไป

จากนั้นผมก็มองไปรอบๆของดาร์กสปิริตที่เหลืออยู่.

ดาร์กสปิริตที่ไม่สามารถขยับตัวหรือเคลื่อนไหวได้ พวกเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์.

"คุณแพ้แล้ว."

ผมใช้พลังจากคำพูดของราชา

มันคือการประทับตราความพ่ายแพ้ของเขา.

ด้วยความเมตตาของผู้ชนะความสมดุลของโลกสปิริตกลับมาอีกครั้ง

ผมไม่จะเป็นต้องรักษาสมดุล แต่ดาร์กสปิริตอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง พวกเขามีความสามารถให้การหาของอย่างยอดเยี่ยม.

มันจะไม่ดีที่จะรักษาทุกอย่างไว้หลังจากที่ใช้เสร็จแล้ว

‘ตอนนี้...’

ผมเดินออกไป

ผมมองไปที่ประตูยักษ์ที่นำไปสู่ระบบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด