Chapter 238: System (1)
Chapter 238: System (1)
วิธีการของกุสตาร์และดิอาโบนั้นเรียบง่ายมาก
ระบบ.
งานชิ้นเอกที่ถูกสร้างโดยเดวิล
มันอาจจะทำลายหรือทำให้เกิดความล้มเหลว
ระบบนี้สมบูรณ์มากพอที่จะฆ่าพระเจ้าองค์อื่นๆ เดวิลเป็นพระเจ้าที่ดีที่สุด มีแนวโน้วว่าเขากำลังเล็งเป้าหมายไปที่พระเจ้าตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สร้างระบบแบบนี้มา
พูดอีกอย่างนึงก็คือมันมีความเป็นไปได้สูงมากที่ระบบนี้ได้รวบรวมพระเจ้ามากมายต่างๆเอาไว้หรือแม้แต่แก่นแท้ของพระเจ้า หากมันมีปัญหาระบบก็จะขัดขวางพระเจ้า
มันเป็นไปได้ที่จะชนะหากว่าผมลดพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาสักเล็กน้อย มันก็เหมือนกับตอนที่จัดการกุสตาร์.
‘ที่ไหน?’
ปัญหาก็คือการหาระบบ
อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่ได้อยู่ในโลกดีม่อนถ้ามันอยู่ในโลกใหม่ผมก็ไม่สามารถจัดการมันได้
แต่...ความคิดก็แว่บขึ้นมาในใจของผมอย่างรวดเร็ว
สิ่งแรกที่โผล่ออกมาคือดาร์กสปิริต ถึงแม้ว่าเขาจะศึกษารอยแยก แต่ก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะเข้าไปสู่สถานที่ว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วง่ายๆอย่างงั้นเลย?
ผมคิดว่ามันแปลก รอยแยกมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีตัวอย่าง แต่การทำงานมันก็หนักจนเกินไปพวกเขาประสบความสำเร็จในเปิดเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของสถานที่ว่างเปล่า
ผมคิดว่าเดธบลิ้งเกอร์ต้องช่วยพวกเขา...บางทีอาจจะมีสาเหตุอื่น
ผมถามกุสตาร์และดิอาโบเพื่อให้พวกเขาแสดงความคิดเห็น
จากนั้นผมก็พยักหน้าในใจของผม
มันต้องเสี่ยง
‘ไปที่โลกสปิริต.’
ผมเหลือบไปมองเดธบลิ้งเกอร์ที่กำลังสวมหน้ากากของราชานรก เขาไม่ได้ดูใจร้อนเขาปรากฎตัวเพื่อยืนยันชัยชนะของเขา เขามั่นใจว่าเขาสามารถชนะผมได้ตลอดเวลา
ผมคิดแบบนั้นเหมือนกัน ไม่ว่าผมจะแข็งแกร่งแค่ไหนผมก็ไม่ใช่พระเจ้าขั้นสูง ผมเชื่อว่าผมสามารถเอาชนะราชานรกได้ แต่มันก็ต่างออกไปเมื่อคู่ต่อสู้ของผมคือเดธบลิ้งเกอร์
นอกจากนี้เขายังรู้ด้วยว่าผมรู้ตัวตนที่แท้จริงของราชานรก
‘ตาพระเจ้า.’
อย่างไรก็ตามผมก็ภาวนากับตาพระเจ้า
ผมต้องการเพื่อความแน่ใจ
ระบบนี้มันเพอร์เฟค แม้แต่เดธบลิ้งเกอร์ก็ไม่สามารถแตะต้องมันได้
หากหน้าต่างสถานะปรากฎแสดงว่าเดธบลิ้งเกอร์ไม่ใช่ระบบ
ถ้ามันไม่ใช่เพื่อความปลอดภภัยของเขา เขาอาจจะทำให้หน้าต่างไม่ปรากฎก็ได้
และผมก็หวังว่าจะมีหน้าต่างปรากฎออกมาเร็วๆ
-พลังของเป้าหมายไม่อนุญาติให้ ‘ตาพระเจ้า (Demigod)’ ทำงาน. |
ชื่อ: ราชานรก [Hell Monarch] (Death Bringer) | |||
อาชีพ | เดวิล | ฉายา | * เดวิล (God, ???)
* พระเจ้าชั้นสูง (God, ???) * การดำรงอยู่อย่างทราบซึ้ง (God, ???) * ผู้ปกครองความตาย (God, ???) * การป้องกันที่เปอระเปื้อน (God, ???)
|
สถานะ | |||
Strength | ??? | Intelligence | ??? |
Agility | ??? | Stamina | ??? |
Magic Power | ??? | ||
ศักยภาพ: (???/???)
เอกลักษณ์: อยู่ในสถานะการครอบครอง อย่างไรก็ตามการครอบครองยังไม่สมบูรณ์ สกิล:??? |
ทุกอย่างเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
แต่มันทำให้ผมมั่นใจอะไรบางอย่างกับเดวิล
นอกจากนี้ยังมีฉายาเพิ่มเข้าไปว่าเป็นเดวิลอีก
ผมไม่สามารถมองเห็นสถานะที่ถูกต้องเนื่องจากอำนาจของเขา แต่อย่างน้อยมันก็มีหน้าต่างสถานะ
มันก็พอแล้ว
แม้ว่าทุกๆอย่างมันจะเป็นเครื่องหมายคำถามแต่บรรทัดของเอกลักษณ์ก็ปรากฎขึ้น
ผมยกดาบจักพรรดิ.
แสงจันทร์สะท้อนออกมาและแสดงให้เห็นถึงความงดงาม
แต่เดิมมันเป็นดาบของราชานรก
หนึ่งในคนรับใช้ของเขา แม๊กซิมั่ม คือคนที่เก็บรักษาดาบเล่มนี้ไว้
“แม๊กรู้ว่าผมเป็นจักพรรดิ เขาให้ดาบนี้แก่ผมเพื่อเป็นหลักฐาน คุณมันก็แค่จักพรรดิเงาตัวปลอม”
เดธบลิ้งเกอร์หัวเราะเยาะผม แต่ผมก็ไม่ได้หยุดพูด.
"คุณได้ยินเสียงหัวใจนี้หรือไม่?มันเป็นของคุณ แต่ตอนนี้มันเป็นของผม โลกเบื้องล่าง ทหารม้าแฟนท่อมทั้งหนึ่งแสน...คุณมันก็แค่ตัวปลอมที่ไม่สามารถบรรลุผลของตัวเองได้.”
ผมล้อเลียนเขา
การครอบครองยังไม่สมบูรณ์
ถ้าจิตวิญญาณของราชานรกยังอยู่มันอาจจะทำให้สับสนบ้าง
“คุณไม่ใช่ราชานรก ผมต่างหาก คือราชานรก!”
ความคิดของผมพิสูจน์แล้วว่ามันถูกต้อง
"ย้าก...!”
เดธบลิ้งเกอร์คว้าหัวของเขา
“ไอ้สารเลว...!”
เขาจ้องมองผมด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ
ตอนนี้มันอาจจะต้องใช้วิธีนี้ในการโจมตี.
อย่างไรก็ตามผมก็ยอมแพ้เพราะเห็นเขาค่อยๆฟื้นความมั่นคง
ราชานรกไม่สามารถเอชนะเดธบลิ้งเกอร์ได้ มีเพียงการต่อต้านเพียงเล็กน้อย
'มันไม่มากนัก.’
วิญญาณของเขาจะถูกกลืนกินไปจนหมด จิตวิญญาณของเขาจะหายไปเหลือเพียงแต่เปลือกให้เดธบลิ้งเกอร์อยู่
ผมใช้งานดาบแห่งความยุ่งเหยิง
ควา้งๆๆๆ!
เป้าหมายของผมไม่ใช่เดธบลิ้งเกอร์
แต่เป็นมังกรที่เขาขี่!
มังกรกรีดร้องและเดธบลิ้งเกอร์ก็ล้มลง
ผมเก็บดาบของผมไว้
ถ้าเดธบลิ้งเกอร์กลืนกินจิตวิญญาณของราชานรกแล้วสิ่งต่างๆมันจะกลายเป็นเรื่องยากขึ้น การกระทำของผมซื้อเวลาเหล่านี้ได้ไม่กี่วันเท่านั้น
ในขณะเดียวกันผมต้องไปโลกสปิริตเพื่อทำลายระบบ
เดธบลิ้งเกอร์อยู่ในสถาพที่ไม่ปกติ ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าศัตรูจะล่วงหน้ามาก่อน
ผมกางปีกออก
และผมก็รีบบินกลับไป
ผมได้นำทุกอย่างในดันเจี้ยนเข้ามาในโลกดีม่อนด้วย ในของเหล่านั้นมีรายการที่เคยใช้เพื่อไปยังโลกสปิริต
ผมเรียกหาโอเว่นทันที โอเว่นที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำกระจกอยู่ก็มาหาผมทันทีที่ถูกเรียก
“โอเว่น อุปกรณ์นี้สามารถพาผมไปยังโลกสปิริตหรือไม่?”
"เป็นไปได้ แต่...”
"ทำมันให้เร็วที่สุด ผมต้องการไปโลกสปิริต.”
อุปกรณ์เปิดรอยแยก วัสดุเพียงพอและโอเว่นก็มีฝีมือผมเชื่อว่าเขาทำมันได้อย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่การสร้างใหม่ แต่ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เคยใช้ไปแล้ว
“ผมเข้าใจ.”
เขาไม่ได้ถามเหตุผล
โอเว่นออกไปและผมก็ได้ยินเสียงที่เหมือนกับยุ่ง
“มาดดสสเตอร์!”
มันคือยิฮิ ผมขมวดคิ้ว ทุกอย่างถูกย้ายไปยกเว้นแกนดันเจี้ยน นี่เป็นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงผมไม่เข้าใจว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไร
ยิฮิเป็นแฟร์รี่ของแกนดันเจี้ยน
ไม่ เธอไม่ได้เป็น ผมได้กลายเป็นราชาดีม่อนแล้ว
ยิฮิควรจะได้เป็นผู้ปกครองโลกแฟร์รี่ดังนั้นมันอาจจะเป็นสิทธิของเธอที่จะโยนข้อจำกัดเหล่านั้นทิ้งไป
แต่ยิฮิยังคงเป็นแกนดันเจี้ยน เธอถูกปฎิเสธหรอ?หรือไม่ก็เธอมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ?
"คุณมาที่โลกดีม่อนได้อย่างไร?”
“ยิฮิฮิ พลังแห่งความรัก.”
"...งานของคุณเสร็จแล้ว คุณมีหน้าที่ดูแลโลกแฟร์รี่”
แฟร์รี่ไม่ได้มีโลกเป็นของตัวเอง แต่มันก็ไม่ถูกต้องที่พวกเขาหายไป ดังนั้นแฟร์รี่จึงหวังว่าผู้ปกครองจะทำโลกให้พวกเขาอยู่
แฟร์รี่ที่เป็นผู้ปกครองมีอำนาจในด้านนี้ ในความเป็นจริงมันสำคัญมาก
จากนั้นยิฮิก็พูกด้วยสีหน้าค่อยดี
"ฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกว่าต้องมาที่นี่ ยิฮิรู้สึกไม่สบายใจ.”
"ผู้ปกครองโลกแฟร์รี่ไม่อาจที่จะมองการณ์ไกลได้.”
“มันไม่ใช่แบบนั้น ยิฮิไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้หรอ?”
ผมจับไปที่กรามของผม ตอนนี้ยิฮิมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นผู้ปกครองเหล่าแฟร์รี่
ไม่มีอันตรายใดๆในที่นี่ทำร้ายเธอได้ แต่เธออาจจะช่วยได้มากในสงคราม
หลังจากขบคิดเสร็จแล้วผมก็พูดออกมา
"ช่วยเหลือดีม่อนตนอื่นๆและสิ่งมีชีวิต.”
“ห๊ะ!อย่างงั้นเลย? ยิฮิฮิ ฉันรู้ว่ามาสเตอร์ต้องให้อะไรสักอย่าง!จุ๊บ!”
ยิฮิหยุดนิ่งและจูบเข้าที่แก้มก่อนที่จะบินหนีไป มันไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น แต่ดูเหมือนกับว่ายิฮิโตขึ้นนิดหน่อย ผมไม่ว่าง แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้เห็นเธอมาเป็นเวลานาน
ทันทีหลังจากยิฮิบินออกไปผมก็จมไปกับความคิด
‘โลกสปิริต...’
ตรงๆมันก็เหมือนกับการเดิมพัน
ถ้าดาร์กสปิริตไม่ได้มีระบบผมก็เหมือนกับสูญเสียครั้งใหญ่
สงครามจะเป็นไปตามที่ไม่พึงประสงค์
ผมต้องการที่จะเผชิญหน้ากับเดธบลิ้งเกอร์ที่เฟอร์เฟคที่สุด
"ผมกลับมาแล้ว.”
โอเว่นวิ่งเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว
“มันเป็นไปได้?”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ผมกำลังวุ่นไปหมด ได้โปรดอย่างหลงทาง.”
มีโอกาศสูงที่จะหลังหลังจากเดินทางผ่านรอยแยก นอกจากนี้การเปิดรอยแยกออกไปแล้วผมจำเป็นต้องกลับมาให้เร็วที่สุด
ถ้าไม่ ผมอาจจะสูญหายไปในรอยแยกและถูกทำลายตัวตนในความว่างเปล่า เมื่อผมหายไปกองทัพของผมก็จะไม่มีพลังพอที่จะต่อกรกับเดธบลิ้งเกอร์
"ผมจะกลับมาโดยเร็วที่สุด.”
รอยแยกเปิดออก
ผมก้าวเข้าไปในนั้น
โลกสปิริตถูกทิ้งร้าง มีรอยแยกทุกที่และเสียงของสิ่งที่ถูกทำลาย.
ดาร์กสปิริตกำลังต่อสู้กับสปิริตเผ่าอื่นๆในหลายๆรอยแยก
ผมมองเข้าไปในรอยแยก
ส่วนใหญ่ของโลกสปิริตได้รับความเสียหาย สปิริตธาตุอื่นๆถูกสังหารและที่รอดมาได้ก็เชื่อฟังดาร์กสปิริต
แต่มันยังคงเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานและเกิดขึ้นเป็นเวลานาน
"ราชาไฟขอสั่งคุณ! เผามันด้วยไฟนรก!”
ราชาสปิริตไฟแกรแรส!
เขาเป็นผู้นำสปิริตที่กำลังต่อสู้และดิ้นรน
สปิริตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกสปิริตถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผล
ดาร์กสปิริตใช้รอยแยกไล่ตามเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
ผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก
เป็นไปได้ที่จะเข้าสู้ใจกลางของดาร์กสปิริต.
แต่ในสถานการณ์นี้ไม่แน่นอนผู้ที่มีข้อมูลมีค่ามาก.
'ฉันต้องสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์.’
ราชาสปิริตไฟจะรู้เรื่องเกี่ยวกับดาร์กสปิริตมากกว่าคนอื่น
หลังจากที่ตัดสินใจแล้วผมก็เข้าไปยังโลกของสปิริตไฟ
ฟุ่มมมมมมม!
ไฟของไพน์ลุกลามไปทั่ว พวกเขาไม่ต่างจากไฟของราชาสปิริตไฟ ไฟของผมยังมีพลังมากด้วยพลังเวทย์ของผม
ดาบแห่งความยุ่งเหยิงและตัดดาร์กสปิริตเหมือนกับขยะ
"ดาร์กสปิริตทุกตนหยุด.”
ผมใช้คำพูดราชา เมื่อพลังอำนาจออกมาจากคำพูดของผมดาร์กสปิริตก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ พวกเขาดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากอำนาจใดๆ
‘สายฟ้าพระเจ้าออกมา.’
ผมให้สายฟ้าพระเจ้าเคลื่อนไหวตามใจมัน
สายฟ้ามาพร้อมกับเสียงคำรามและเผาดาร์กสปิริต
ใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการจัดการกับดาร์กสปิริตที่กำลังต่อสู้กับสปิริตไฟทั้งหมด
มันเป็นชัยชนะที่ท่วมถ้น
ดาร์กสปิริตมาที่นี่แต่พวกเขาก็ไม่มีความแข็งแกร่งอะไรมาก ผมสามารถตามล่าเหยื่อของผมได้