Chapter 207: Those who Gather (2)
Chapter 207: Those who Gather (2)
“รัลดาล บิกิเซลเหมือนกับดีม่อนตรงไหน?”
เอเรีย ดิอาโบถามหลังจากที่ยิฮิ ‘ยอมแพ้’ เกิดความเงียบหลังจากที่เอเรียลถาม.
ยิฮิย่นจมูกและนับนิ้วทั้งสิบของเธอ
"เยี่ยมยอด, เอาใจใส่, เท่ห์, แข็งแกร่ง, ฉลาด, ช่วยฉันตลอด, แล้วก็มีพลังเวทย์มีมากและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง...”
"ฉันเข้าใจ. หยุด. ฉันขอโทษที่ถามไม่ดีเอง.”
เธอต้องการจะแสดงคุณสมบัติของผมทั้งหมดให้เอเรียลฟังแต่เธอไม่ต้องการดังนั้นจึงบอกให้เธอหยุด.
"แล้วคุณถามทำไม?”
"หุหุ, มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันถูกปฎิบัติแบบนี้.อย่าไรก็ตาม...ถ้าเธอสามารถกลายเป็นราชินีแฟร์รี่ได้ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”
"ราชินี...แฟร์รี่? ยิฮิ? ไม่มั๊ง?”
ดวงตาของยิฮิเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำถามที่น่าตกใจของเอเรียล
แต่เอเรียลก็ยังคงเหมือนกับพูดกับตัวเอง.
"สัญญานี้จะไม่สิ้นสุดจนกว่าแฟร์รี่จะกลายเป็นผู้คุมกฎ? ถ้าเธอเป็นราชินีแฟร์รี่แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกันเหมือนกับตอนนี้. การเกิดขึ้นของแฟร์รี่ผู้คุมกฎเป็นสิ่งที่แฟร์รี่ต้องการ.พวกเขาต้องการมัน มังคงไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ.”
“บู่~ คุณจะบอกว่ายิฮิต้องทำอย่างไร? คุณคิดว่าการเป็นแฟร์รี่ผู้คุมกฎนั่นง่ายมากหรอ?”
"ฉันรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแฟร์รี่ แฟร์รี่ยิฮิ”
ขณะเดียวกับดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีน้ำเงินอ่อน มันเปลี่ยนไปจากดวงตาสีแดงจากปกติ บรรยากาศก็แตกต่างกันมาก.
ยิฮิรีบหุบปาก
“เธอ...”
"ซู่~.นี่เป็นความลับที่ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อที่ตายไปแล้วของฉัน.”
“ดะ-ดีม่อนที่มีดวงตาของแฟร์รี่เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้...”
"ฉันจะบอกเธอทุกอย่าง.”
เอเรียลมองไปรอบๆ
มันเป็นความสะดวกเล็กน้อยเมื่อไม่มีใครอยู่รอบๆตัว
หลังจากนั้นดวงตาของเธอก็กลับมาเป็นสีแดงปกติขณะที่ยิฮิกำลังจ้องมองเธอ.
ยิฮิกระวนกระวาย มันเหมือนกับว่าเธอกำลังจะถูกกินได้ทุกเมื่อ.
เอเรียลพูดด้วยเสียงเล็กๆแต่คมชัด.
“แฟร์รี่ยิฮิ.ฉันได้บอกความลับของฉัน.แล้วทำไมไม่บอกของคุณบ้าง?ทำไมคุณถึงไม่กลายเป็นแฟร์รี่ผู้คุมกฎแม้ว่าคุณจะทำได้?”
กองทัพของเอเรียลมีขนาดน้อยมาก.อัศวินสีเงิน(ซิลเวอร์ไนท์).ดูเหมือนว่าอัศวินขาวที่ถูกรายงานมาให้ผมจะเป็นจริงๆ.พวกเขาปรากฎตัวขึ้นหลังจากที่เอเรียลมาได้หนึ่งวัน.
ผมมองพวกเขาจากด้านบนหอดูดาว. พวกเขามีทั้งหมด250คน.องครักษ์? พวกเขาให้ความรู้สึกแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตธรรมดา.
‘มันคล้ายๆว่าอยู่ในรายงานเหมือนกัน.’
พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากที่คริสปี้หรอโอเว่นที่รายงานมาให้ผม พวกเขาเอาคำเชิญของผมไปให้แกร์นดยุคในทางกลับกันเขาก็รายงานสิ่งที่เขาเห็น คำพูดของพวกเขาไม่ได้พูดเกินจริง
‘นั่นหมดแล้วหรือ?’
ผมเอียงหัว.
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็มีความมั่นใจมาก ลักษณะของเอเรียลไม่มีมีลักษณะแบบสวนทางกับการกระทำ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มของเธอถึงรู้สึกว่าขาดอะไรไปบางอย่าง.
‘ความมั่นใจ...’
ถูกต้อง เอเรียลมั่นใจในสิ่งมีชีวิตของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินด้วยตัวเอง ดังนั้น..ผมต้องระมัดระวังมากขึ้น
อัศวินสีเงิน250คนเดินออกผ่านเกต ขนาดของพวกเขาต่างกันแต่พวกเขาเป็นผู้หญิงทั้งหมด อายุของพวกเขาก็ต่างกันด้วย.
ผมหายใจเข้าลึกๆ.
พลังเวทย์ต่างกันเล็กน้อย มีลางไม่ดีที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ พวกเขาไม่ใช้เดธไนท์หรือนักรบทมิฬ.
‘การสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่.’
ผมพยักหน้าเล็กน้อย.
พวกเขาไม่ได้เป็นสายพันธุ์ใหม่ทั้งหมด.มีความรู้สึกที่คุ้นเคยกับอัศวินสีเงินเหล่านั้น.อัศวินเหล่านั้นสร้างมากจากสิ่งมีชึวิต
‘ขั้นสูง’.
ไม่มีร่องรอยว่าพวกเขาเป็นมนุษย์
ผมไม่รู้ว่าเอเรียลตั้งใจจะผสมสายพันธุ์เหล่านี้เข้าด้วยกันไหม.
หรือว่ามันจะเป็นไปได้.
‘ฉันสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ถูกนำมาใช้แบบนี้ได้หรือป่าว?’
มีสิ่งมีชีวิตหลายพันกว่าตัว ผมรู้จักชื่อของสิ่งมีชีวิตไม่กี่อย่างเท่านั้น ไม่น่าแปลกเนื่องกจากผมไม่ได้รู้จักทุกสายพันธุ์.
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะพูด.อัศวินเหล่านี้ถูกสร้างด้วยการสังเคราะห์. แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสายพันธุ์ใหม่แต่มันก็ถูกเรียกรวมๆว่าคิเมร่า.ปัญหาก็คือการรวมพวกมันไว้ด้วยกันแต่ยังคงรูปลักษณ์เดิมเอาไว้ได้อย่างแน่นอน.
‘เป็นไปไม่ได้.’
เท่าที่ผมรู้มันไม่ได้ให้ความรู้สึกอย่างนั้น.
ผมไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับคิเมร่าแต่ผมมั่นใจกับเรื่องนี้.
การสร้างคิเมร่าจากสิ่งมีชีวิตสามชนิดรวมกันมันไม่ต่างอะไรกับความเพ้อฝัน
มันเป็นเพราะว่ามันจะเกิดความไม่เสถียรภายในร่างกายของเขาและมันจะตายด้วยตัวของมันเอง
ผมได้สบตากับอัศวินสีเงิน.
“หืมม...”
ดวงตาเหล่านั้น!
ผมพยักหน้าน้อยๆ.
ผมได้สังเกตเห็นถึงความจริงหลังจากสบตาอัศวินเหล่านั้น.
‘เป็นการผสมครั้งใหญ่.’
ผมเชื่อมั่น
อัศวินทั้ง250คนเป็นตัวแทนของเอเรียลที่เธอได้ทำการผสมกว่า100ชนิด!
‘จริงแน่นอน.’
ผมไม่สามารถละเลยความเชื่อมั่น
วันนี้เป็นวันที่คำเชิญระบุไว้
ผมไม่เคยคาดหวังอะไรจากแกร์นดยุคยกเว้นเอเรียลที่มาถึงก่อน
พวกเขาหยิ่ง,มีควาภูมิใจและและไม่เครพสิ่งใด
แต่มันไม่นานนักกว่าที่จะรู้ว่าผิด
หลังนั้นหนึ่งวันหลังจากอัศวินสีเงินมาถึง จากทางทิศตะวันออก,ตะวันตกและทิศเหนือ...กองทัพทั้งหมดของแกร์นดยุคปรากฎตัวพร้อมกัน.
มันเป็นวันที่ถูกต้องที่ถูกส่งในคำเชิญมันเหมือนกับเป็นการบังเอิญเล็กน้อยที่ผมถูกเยาะเย้ย(ตรงนี้ถ้าจำได้ รัลดาลมันบอกว่าดีม่อนไม่ตรงต่อเวลา แต่พวกนี้มาตรงเวลาเป๊ะ)
มอนเตอร์เวฟ นับแสน...บางทีอาจจะมากกว่าล้านชีวิตรวมกัน .
สายตาอันงดงาม!
มันยากที่จะมีความรู้สึกกับการมีความสุขในสถานการณ์นี้.
ภาพเหล่านี้เพียงพอที่ทำให้เกิดความสิ้นหวัง กองทัพขนาดใหญ่ออกมาจากเกต พวกแกร์นดยุคและพวกดีม่อนของเขาก้าวลงจากรถม้าอย่างงดงามและเดินมาข้างหน้าด้วยความมีเกรียติ
ใบหน้าของพวกเขาไม่มีความตึงเครียดพวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างแท้จริง.
แกร์นดยุคทุกตนไม่มีความสงสัยเลยว่าฝ่ายของเขาเข้มแข็งที่สุด.
อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหันหลัง จะมีเพียงผู้ชนะเท่านั้น
ผมไม่สามารถถูกมองว่าอ่อนแอได้ ดีม่อนที่ถูกมองว่าอ่อนแอมักจะตายตั้งแต่เกิด...
"เปิดประตู.”
ผมสั่ง.
เมื่อประตูเปิดออกพวกเขาก็ก้าวเข้ามาในปราสาท.(ไหนว่าหอดูดาวไงฟระ/ไรต์)
ผมควรจะพูดอย่างไรดี?
มันเป็นบรรยากาศแปลกๆ.
ผมได้เชิญพวกเขามาที่หอดูดาว กรีนวิช ซึ่งเป็นปราสาทที่ยอดเยี่ยม(อ๋อ) อย่างไรก็ตามปราสาทมันก็ยังเล็กไปเมื่อมองจากสายตาของแกร์นดยุค.
ของตกแต่งราคาแพงมากไม่สามารถตอบสนองสายตาของพวกเขาได้ เป็นเพราะว่าไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำทุกอย่างให้พร้อม
มันไม่มีอะไรมากกว่าการโชว์ เมื่อพวกเขาจับได้.
ทั้งสามคนนั้นมาเนื่องจาก"บัตรเชิญ"ที่ผมได้ส่งไป อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เห็นความไม่สบายใจปรากฎบนในหน้า.
‘เนื่อหาต้องมีความเร้าใจ...’
ผมได้เขียนความลับที่ไม่มีใครรู้ การจ้องมองของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ถึงวิธีการของผม มันก็ยังแปลกที่ไม่มีความตึงเครียด.
ผมพาพวกเขาไปยังโต๊ะจัดเลี้ยงที่เตรียมไว้ในขณะที่มอนเตอร์ก็กำลังเล่นดนตรีอยู่อย่างคลอๆ
“มีบ้าง.”
ผมได้เลียนแบบมนุษย์พร้อมกับส่งถ้วยให้.บรรยากาศอันเงียบสงบนี้...คือการเรียนแบบ ‘ปาร์ตี้’ ของมนุษย์.ในกรณีของดีม่อนพวกเขารู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากพวกเขาไม่คุ้นเคย.
อย่างไรก็ตามเขาเป็นแกร์นดยุค.
พวกเขามีประสบการณ์หลายอย่างและเตรียมตัวมาดี
รวมกลุ่มกันและดื่มจากถ้วย.
“รสชาติ โอเค.”
ยูป้ายิ้มหวาน เขาเป็นคนที่มีความโลภมาก
ผมตอบเบาๆ.
"นี่คือเครื่องดื่มที่ดีที่สุด มันเป็นคอนยัญ..ผมไม่รู้ชื่อ แต่มันไม่รู้ทำไมมนุษย์ถึงชอบมัน?”
คำพูดของผมพูดออกมาหลังจากดื่ม ผมคิดว่าคนที่รักเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์อย่ายูป้าจะพูดอะไรสักอย่าง
อย่างไรก็ตามเขาปฎิบัติแตกต่างกันมาก.
“มันก็ดีกว่าที่พูดเนื้อหาโง่ๆของคำเชิญ.”
“มันเป็นเรื่องตลกเพราะว่าคุณก็ไม่มีความสามารถในการเขียนดีนัก”
ผมเกทับใส่คำดูถูกของเขา พวกเราไม่ได้ขอโทษกัน แม้ว่าจะเป็นการเล่นตลก.
‘นักเวทย์ดวงจันทร์ไม่ได้มาที่นี่.’
ผมมองหารอบๆตัวยูป้าแต่ไม่มีความรู้สึกถึงพลังเวทย์ลึกลับของกุสตาร์ ไม่ว่ามันจะมีพลังแค่ไหนในการเป็นอาวุธก็จะไม่อยู่ที่นี่หากมันไม่เสถียร
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดผิด
อย่างไรก็ตามพลังของดีม่อนที่อยู่ใต้เขาก็ค่อนข้างดี ในขณะเดียวกันพวกเขามีความคืบหน้าขึ้นและพลังเวทย์ก็ดีกว่าฝ่ายอื่นนิดหน่อย
‘ราชินีซัคคิวบัส!’
สิ่งที่เด่นที่สุดคือ จอร์จจี้ อินพีร์(ที่เคยด่ากันไปมาในโรงประมูล ปีที่สอง)
ดีม่อนแห่งความรักซัคคิวบิ ดันเจี้ยนของเขาเต็มไปด้วยพวกมัน
เขามาพร้อมกับราชินีซัคคิสบัสสิ่งมีชีวิตที่ผมไม่เคยเห็นมาในชีวิตก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตชั้นสูงเลเวล3ที่ไม่เคยปรากฎออกมาเลยในโรงประมูล
มันเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันอย่างมาก
ในขณะที่คนอื่นๆนำมา..อะไรที่แพนเดอโมเนี่ยมพามาด้วย?
เขาดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไรนัก มันรู้สึกเหมือนกับพลังของเขาเท่าเดิมตอนที่กิรินและอเวคโจมตีดันเจี้ยนเปล่าของเขา.
เขาได้ดูดกลืนฝ่ายโอคูลอส แต่มันก็มีเท่านั้น เขายังสูญเสียพลังในการโจมตีจากดันเจี้ยนของเขามาก.
จากบรรดาแกร์นดยุคทั้งหมดดูเหมือนจะมีแพนเดอโมเนี่ยมที่จะด้อยกว่าพวกเขาทั้งหมด แต่ผมไม่รู้ว่าแพนเดอโมเนี่ยมทำอะไรอยู่.
"งานเลี้ยงนี้...เหมือนกับมนุษย์."
"แพนเดอโมเนี่ยมคุณต้องมีประสบการณ์งานเลี้ยงของมนุษย์ คุณอยู่มาหลายปีแล้ว”
"ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามคุณไม่ได้ส่งคำเชิญมาเพื่อทำอย่างนี้ รัลดาล บิกิเซล นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาปะทะคารมใช่มั๊ย?”
อ่าา ผมพยักหน้า
ผมจำได้ว่าผมใส่มันไว้ในบัตรเชิญ
ด้วยความสัตย์ผมไม่รู้ว่าแพนเดอโมเนี่ยมจะตอบสนองในลักษณะนี้.
เทวดาที่อยู่บนโลกไม่ได้ข่มขู่อะไรมากนัก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขารู้ว่าคามิเอลจะลงมาเร็วๆนี้.
ผมเปิดปากของผม
“การโต้ตอบเทวดา? แน่นอน...”
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น เทวดาไม่ใช่สิ่งที่จะมาขวางฉันได้ง่ายๆ.”
แล้วไง?
ผมมองไปที่แพนเดอโมเนี่ยมด้วยความงุนงง
แต่..ใบหน้าของแพนเดอโมเนี่ยมบิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ.
ไม่ใช่แค่เขา แกร์นดยุคคนอื่นๆก็เหมือนกันหมด.
พวกเขาคิดว่าผมแกล้งทำเป็นไม่รู้
‘มีบางสิ่ง.’
ปัญหาคือผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
แต่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดออก
พวกเขาต้องการบางอย่างจากผม ดังนั้นผมจึงหัวเราะ.
“คุณรู้ไหม..ว่าจะเกิดอีเว้นพิเศษ?”