Chapter 203: Greenwich Observatory (2)

Chapter 203: Greenwich Observatory (2)

---

ก่อนที่พวกเขากำลังจะถาม.

แอ๊ดด!.

ประตูได้เปิดออกและมีคนมาใหม่20คนปรากฎขึ้น.

หนึ่งในนั้นกำลังลากทหารเข้ามาด้วย อีกคนก็กำลังเคี๊ยวหมากฝรั่ง ไม่เหมือนกับ30คนก่อนหน้านี้ พวกเขามีรูปลักษณ์ไปในทางที่ไม่ดี.

"ผมขอแนะนำกลุ่มไวท์ไลอ้อนกลุ่มสุดท้าย เพือนของผมเป็นคนหยาบคาย แต่สกิลของพวกเขายอดเยี่ยม.”

"นี่...คุณกำลังพยายามทำอะไรพลโทคาล์?”

เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนโกรธ เมื่อมีการต่อสู้ในพระราชวังบัคกิ้งแฮม.

นอกจากนี้ทหารที่เฝ้าประตูก็ได้ถูกดูแล มันก็เพียงพอที่จะบอกว่านี่เป็นการทรยศ.

อย่างไรก็ตามราชินีแมร์รี่ก็ไม่ได้คิดแบบนั้น

“สกิลที่ยอดเยี่ยม ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย.”

"พวกเขาเป็นเพือนที่ยอดเยี่ยม แล้วฝ่าบาทคิดอย่างไร? ถ้าพระองค์ให้กระหม่อม3วันผมจะกวาดล้างให้หมด”

"พวกยามถูกฆ่าไหม?”

"พวกเขาหยาบคายเล็กน้อย แต่พวกเขาจะไม่ฆ่าใครหากไม่มีคำสั่งของผม พวกเขาแค่ตื่นตระหนกเท่านั้น.”

"เอาหล่ะ ฉันจะให้ภารกิจนี้กับพลโทรคาล์ล.”

ราชินียอมรับอย่างรวดเร็ว.มันเป็นเรื่องซีเรียสแต่มันเป็นการแสดงพลังของหน่วยไวท์ไลอ้อน.ต้องขอบคุณแม้ทุกคนจะหน้าดำหน้าแดงแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร.

เวลาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ พลังคือทุกอย่าง ยิ่งมีพลังมากเท่าไรก็ยิ่งดี.

คาล์ลยิ้มและจับมือราชินีแมร์รี่

หากภารกิจเหล่านี้ได้รับการเครียร์แล้วมันก็จะไม่มีอุปสรรคกับอังกฤษ.และจะไม่มีการแทรกแซงมากขึ้นเวลาหน่วยนี้จะทำอะไร..

เขาจินตนาการอนาคตที่สดใสเมื่อได้จับมือเธอ

"สามวันอาจจะไม่เพียงพอ.”

"......!"

คาล์ลและราชินีแมร์รี่ได้รีบหันหน้าไปยังต้นเสียง หน่วยไวท์ไลอ้อนก็เช่นกัน.

หน้าต่างด้านบน.

ชายที่มีใบหน้าขาวซีดและสวมชุดสูทที่กำลังนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างกระโดลงมา.

พวกเขาไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่มีใครในที่นี่รู้สึกได้!

ร่างกายของคาล์ลแข็งตัว.

ท่ามกลางอเวคที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด.เขามาจากอังกฤษแต่เขามีชื่อเสียงทั่วโลก.เขาสามารถจัดการสิ่งมีชีวิตขั้นสูงเป็นจำนวนมากด้วยตัวเพียงคนเดียวและเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง.

แต่..นี่เกิดอะไรขึ้น.

เขาไม่รู้ เขาไม่รู้สึกอะไร มันเป็นลางร้าย

หน่วยไวท์ไลอ้อนได้ล้อมรอบตัวชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว.พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะใช้สกิลทำลายชายคนนั้น.ในหน่วยไวท์ไลอ้อนมีคนถึง50คนและพวกเขาทั้งหมดสามารถรวมตัวกันเพื่อจัดการสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้. พวกเขามีความมั่นใจในการจัดการกับดีม่อน.แม้ว่าชายคนนี้จะมาที่นี่โดยไม่มีใครสังเกตแต่เขาไม่สามารถหลบรอดออกไปได้.

"เก็บเอาไว้ในใจ ทุกคนที่โจมตีผมจะตาย.”

ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ ไม่มีความหลอกลวงแต่อย่างไร เขามีความเชื่อมั่นมาก ไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาเลย.

เขาไม่สนใจกองกำลังไวท์ไลอ้อน!

พวกเขาได้ถูกจัดตั้งไม่กี่ปีก่อน แต่กองทัพของไวท์ไลอ้อนเป็นคนชั้นนำที่ถูกเลือกโดยคาล์ล.ทุกวันพวกเขาฝึกในแบบเอาเป็นเอาตาย พวกเขามีความภาคภูมิใจกับมันมาก.

พวกเขาเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก.

พวกเขาเป็นหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดของอเวค.

‘ฉันต้องกลัวไหม?’

แต่เดิมพวกเขาจะโจมตีทันทีที่พบศัตรู.คาล์ลเป็นคนที่เต็มใจที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายในพระราชวังบัคกิ้งแฮมอันศักดิ์สิทธิ์.

แต่พวกเขาตัวแข็ง เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ เป็นเพราะว่าชายคนนั้นบอกว่าใครที่ทำร้ายเขาจะตาย.

"คุณมีความแข็งแกร่งระดับปานกลางของมนุษย์...”

ชายคนนั้นมองมาที่สมาชิกทุกคน จากนั้นเขาก็หัวเราะ มันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

"คุณยังอ่อน.ทำลายสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ที่หอดูดาวกรีนวิชภายใน3วัน.ผมรับประกันได้เลยว่าทุกคนจะตายภายในสามนาที."

"สารเลวนี่บ้าไปแล้ว!”

มีสมาชิกประมาณ20คนที่ยังฝึกฝนได้ไม่เต็มที่.พวกเขาดี แต่มีปัญหาทางด้านความคิด.ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอยู่เบื้องหลังเป็นเรื่องปกติ.แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจว่าพวกเขายังอยู่ในหน่วยไวท์ไลอ้อน.

ตอนนี้ความภาคภูมิใจของเขาได้ถูกชายคนหนึ่งเหยี่ยบย่ำอย่างไม่มีชิ้นดี.

30คนแรกไม่ได้เคลือนไหวโดยไม่ได้รับคำสั่งของคาล์ล...แต่20คนนั้นไม่ใช่.

ฉัวะ!

ปรากฎรอยแผลเล็กๆบนหลังของชายคนนั้น หนึ่งในทหารได้เป็นคนทำ ทหารที่ทำให้เกิดรอยแผลอยู่ด้านหลังได้โจมตีชายคนนั้นจากด้านหลัง.

เปร๊ยงง!

เกิดสายฟ้าขึ้น หรืออย่างน้อยก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น หทารมองเห็นดาบที่ตกลงกับพื้นกลางขี้เถ้าที่โรยลง ชายคนนั้นไม่ได้สนใจ.

ฟุบบบ!

เปลวไฟปรากฎขึ้นด้านหลังชายคนนั้น เปลวไฟลามเลียไปทั่วทั้งห้อง.

ตอนนี้พวกเขาได้รู้สึกถึงพลังเวทย์ที่กำลังครอบงำอยู่! การปรากฎตัวที่น่ากลัว! คาล์ลรู้สึกว่ากำลังหล่นลงไปในนรกที่ยากจะหายใจ

แค่ก! แค่ก!

หน่วยไวท์ไลอ้อนได้โจมตีอย่างรวดเร็ว พวกเขามีสัญชาตญาณแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับคำสั่ง.

“ผลักก!”

สมาชิกได้ถอยหลังกลับ.แต่มีสามคนที่กำลังติดไฟ.แม่ว่าพวกเขาจะมีสกิลน้ำแต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้.

พวกมันจะไม่ดับจนกว่าเหยื่อจะตายลง

พรึ่บ. พรึ่บ.

ชายคนนั้นก้าวเข้าไปข้างหน้า มีสมามชิกบางส่วนกรูเข้ามาเหมือนกับผีเสื้อ แต่พวกเขาก็เหมือนกับผีเสื้อที่บินเข้าสู่กองไฟ มันเหมือนกับว่าผีเสื้อเข้าไปเพื่อโดนเผา.

ความแตกต่างใหญ่เกินไป ชายคนนั้นไม่ได้สนใจสิ่งใด สมาชิกไวท์ไลอ้อนไม่เคยมีความรู้สึกถึงความแตกต่างขนาดนี้มาก่อน พวกเขาสามารถเอาชนะสิ่งมีชีวิตและดีม่อนที่เขาเจอได้

พลโทคาล์ลเปิดปาก

"หยุด!"

เหงื่อที่ไหลลงตามร่างของเขา ด้านหลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ.

มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้แบบนี้.

"หัวหน้า พวกเราถูกเลือกมา...”

สมาชิกยังคงเต็มไปด้วยความปราณาที่จะสู้ แต่คาล์ลส่ายหน้า

"คุณไม่สามารถทำอะไรได้”

เขามั่นใจเรื่องนี้

ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด.

คนที่มีความแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว! ดีม่อน

พวกเขาบุกมายังโลกนี้พร้อมกับสิ่งมีชีวิตของเขา ดันเจี้ยนเป็นฐานขนาดยักษ์ของเขา.

เฉพาะคนที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะสามารถโจมตีเข้าได้ คาล์ลรู้ว่าเขาควรจะแยกแยะเรื่องนี้อย่างไร

ชายคนนี้ไปไกลเกินกว่าเขา สถานที่ก็ไม่เอื้ออำนวย มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะตายตราบใดที่ราชินีได้รับการปกป้อง.

เธอเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษ การช่วยเหลือทางจิตวิญญาณของผู้คน ถ้าเธอตายแล้วอังกฤษจะพังพินาศ ชานบ้านจะเสียความหวังของพวกเขา ไม่มีอนาคตของประเทศที่ไม่มีความหวัง.

อึก!

คาล์ลกลืนน้ำลายและพูด

"คุณ..คุณเป็นใคร? คุณมาที่นี่ทำไม?"

ตาสีดำของเขาได้หายไปและรอยเท้าของเขาดูหนัก ชายคนนั้นหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขาคิดว่าทุกคนไร้สาระ.

คาล์ลขวางหน้าราชินีแมร์รี่มันเป็นการกระทำไม่สุภาพ แต่...

เวลานั้นชายคนนั้นก็เปิดปากของเขา

“ผมเป็นหนึ่งในสี่แกร์นดยุค รัลดาล ผมนำมาสองอย่างคือความสิ้นหวังหรือว่าความหวังให้กับคุณ.”

“แกร์นดยุค.”

พลโทคาล์ลกรีดร้อง.ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินคำว่า ‘แกร์นดยุค’

เขามีข้อมูลมากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะเขาารู้ความลับเกียวกับดีม่อนมากทีเดียว เขารู้ว่าดีม่อนทั้ง72ตนมีการจัดอันดับของพวกเขา.

แกร์นดยุคอยู่ด้านบนสุด

ดีม่อนที่เหนือดีม่อน.มีเพียงเอเรียล ดิอาโบเท่านั้นที่เปิดเผยตัวเองอย่างเป็นทางการว่าเธอคือแกร์นดยุค.เธอได้บอกชื่อของเธอต่อโลกขณะที่ทำการกวาดล้างครั้งใหญ่ดังนั้นผู้นำทุกประเทศจึงรู้จักเอเรียล ดิอาโบ.

พลังของเธอน่าทึ่ง.ไม่มีมนุษย์คนไหนหยุดยั้งเอเรียล ดิอาโบได้. แม้แต่ ‘แทมพล่า ไนท์’ ก็ต้องยอมแพ้เมื่อต่อสู้.

และองกรค์อเวคอย่างไม่เป็นทางการ...ในอดีตที่รู้จักกันในชื่อ ฟรีเมมสัน[Freemasons] และ อิลูมินาติด[Illuminati].

คาล์ลมั่นใจว่าองคร์เหล่านั้นมีพลังไม่น้อยกว่าของเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ล่วงเกินแกร์นดยุค

มันจะโอเคกว่านี้ถ้าพวกเขาโจมตีดีม่อนที่เป็นบารอน แต่แกร์นดยุคต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

พลังของพวกเขาต่างกันเกินไป!

"ความสิ้นหวังและความหวัง? คุณหมายถึงจะให้กล่องแพนโดร่ากับเรา?”

แต่เขาซ่อนมันไว้ มันเหมือนกับไม่กล้วสัตว์ป่า จากนั้นเขาก็มองหาแสงแห่งความหวัง

อย่าไรก็ตาม...คู่ต่อสู้ดีเกินไป ชายคนนั้นมีตาเหมือนงู ความรู้สึกของเขารู้สึกทุกอย่างได้.

"คุณจะไม่ชนะ."

คำพูดสั้นๆ.คาล์ลเข้าใจว่าชายคนนี้หมายความว่าอย่างไร.พูดอีกอย่าง เขาพูกถึงมนุษย์ทุกคน มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะดีม่อนได้.

เสียงของชายคนนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนกับว่าเขาพูดความจริงอย่างแท้จริง.

คาล์ลไม่ได้ตอบ เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะการปรากฎตัวของแกร์นดยุคหรือความมั่นใจอย่างแน่นอน...

"ผมจะให้โอกาศคุณ.”

“...โอกาศ?”

"ดีม่อนจะมารวมตัวกันที่หอดูดาวกรีนวิช.นั่นรวมถึงผมด้วยอีกสามแกร์นดยุคก็จะมาพร้อมกับสิ่งมีชีวิตของพวกเขา.นี่เป็นโอกาศเดียวที่มนุษยชาติจะสามารถมีชัยชนะได้”

"......!"

คาล์ลและคนอื่นเบิกตากว้าง

ทุกคนจะถูกรวมไว้ในที่เดียว.ดีม่อนและสิ่งมีชีวิตของพวกเขายุ่งยากมาก.ถ้าพวกเขารวมกันอยู่ในที่เดียวก็มีโอกาศลองอาวุธสมัยใหม่.มีกรณีนึงที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงถูกสังหารด้วยนิวเคลียร์!

"ทำไมคุณถึงบอกเรื่องนี้ให้กับเรา ในทางตรงกันข้ามมันอาจจะเป็นกับดัก.”

ถุย!

ชายคนนั้นเยาะเย้ย.

"มนุษย์ได้ถูกยืดชีวิตไว้ด้วยเหตุผลเดียว. การแข่งขัน! ถ้าดีม่อนไม่ได้แข่งขันกันกับฝ่ายอื่นๆแล้วมนุษย์จะถูกทำลาย.”

เป็นแบบนั้นจริงๆหรอ?

ไม่น่าจะเป็นไปได้.

หลังจากการรุกรานครั้งใหญ่ของดีม่อนเริ่มขึ้นมนุษยชาติไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างถูกต้อง ฐานที่สำคัญสูญหายและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็ไม่มีประโยชน์ เครื่องบินรบจำนวนหลายพันลำได้กลายเป็นกองขยะ

มีเพียงการฆ่าอย่างไรปราณี

คาล์ลอยากจะบอกว่าเขาล้อเล่น

แต่ในขณะเดียวกันสายตาของชายคนนั้นก็มอง

"คิดอย่างรอบคอบ.”

ชายคนนั้นก็หายตัวไปอย่างสายลม.

อย่างไรก็ตามมีไอเทมจำนวนมากล่วงลงมาขณะที่ชายคนนั้นจากไป.

หินที่เรืองแสง แก่น.

เมื่อล่าสิ่งมีชีวิตในดันเจี้ยนมีโอกาสที่จะได้รับแก่นขั้นสูง 0.001%

แต่...แก่นทั้งหมดนี้เป็นของที่มาจากขั้นสูงหรือชั้นสูง

จำนวนที่มากขนาดนี้สามารถผลิตอาวุธได้นับไม่ถ้วนพร้อมกับเวทย์มนต์ที่ทรงพลัง มีแม้แต่อาวุธระดับอีปริก.

ถ้าพวกเขาโชคดี...ไอเทมระดับอีปริกอาจเกิดขึ้น

“ผมไม่เข้าใจความตั้งใจของเขา.”

คาล์ลถอนหายใจและขมวดคิ้ว

ชายคนนั้นได้ถือแอเปิ้ลไว้ อย่างไรก็ตามมีโอกาศที่แอปเปิ้ลจะมียาพิษ

เขาเป็นดีม่อน แต่มันจะเป็นโอกาศที่ดีถ้าคำพูดของเขาเป็นจริง

‘เราควรทำอย่างไร?’

คาล์ลและคนอื่นๆก็คิดเหมือนกันอย่างลึกๆ

ในขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงคนนึงจ้องมองหน้าต่างอย่างสงบด้วยพร้อบกับแสงในดวงตาระยิบระยับ.

ผู้ปกครองของอังกฤษและความหวัง...ดวงตาของราชินีแมร์รี่ยังไม่ตาย

ดังนั้นคาล์ลจึงมองเห็นแสงแห่งความหวัง

อย่างไรก็ตามเธอเป็นคนเดียวที่มีอำนาจในการตัดสินใจ