Chapter 197: World (1)
Chapter 197: World (1)
‘ลองดูว่าเขาจะเมิณผมได้นานแค่ไหน.’
การโจมตีครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาอย่างเห็นได้ชัด เขาได้มองมาทางผมเป็นเวลา3วิฯ.
ความจริงแล้วผมไม่เคยเห็นมาก่อน
ผมตัดสินใจที่จะทดสอบเขา.
เขาไม่คิดที่จะหลีกเลี่ยงมัน....นั่นไม่ได้ทำให้เขาลำบาก ผมก็สามารถโจมตีอย่างเต็มกำลังได้
วาธและดาบจักพรรดิเต็มไปด้วยพลังเวย์ เนื่องจากการกระทำก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอที่จะฆ่าเขา ผมจำเป็นต้องสร้างแรงกระทบต่อร่างกายของเขา
ฉัวะ!
พลังเวทย์ที่ถูกรวบรวมไว้ในใบดาบได้ถูกตวัดเขาไปหานักเวทย์.
“ฮ่า...”
มันใช้เวลานาน ผมถอนหายใจของผม ผมไม่ได้ไปไหน แต่พลังเวทย์ของผมแทบจะหมด ผมโจมตีเขามากว่า1ชั่วโมง.
เมื่อมาถึงตรงนี้เขาไม่อาจที่จะเมิณผมได้อีกต่อไป เขาย้ายเป้าหมายของเขาจากมังกรมาที่ตัวผมเอง.
อย่างไรก็ตามนักเวทย์ดวงจันทร์นั้นก็ไม่ได้ขยับไปไหน ประมาณ1ใน3ของร่างกายเขาได้หายไป.
มันยอดมาก พูดตามตรงผมไม่อยากจะเชื่อเลย.
จนมาถึงตอนนี้ผมได้ใช้พลังเวทย์ที่มากกว่าพวกเซราฟิมใช้เสียอีก แม้แต่ราชาสปิริตไฟและแกร์นดยุคจากชีวิตที่แล้วของผมก็คงหายไปเมื่อโดนโจมตีด้วยพลังมหาศาลขนาดนี้.
มันน่าเหลือเชื่อมากที่นักเวทย์คนนี้ยังรักษาร่างกายของเขาได้ ดูเหมือนว่าเขาจะมาถึงขีดจำกัดแล้วหลังจากถูกโจมตีกว่าหลายพันหลายแสนครั้ง.
“คุณเป็นใคร?”
ผมเดินหาเขาอย่างเงียบๆ นักเวทย์ก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน.ตาของเขายังมองมาข้างหน้า.ผมรู้สึกถึงความ ‘สับสน’ ในสายตาของเขา.
บางทีเขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการผมหรือไม่ ร่างกายของเขามีความเสี่ยง แต่เขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไร.
‘ผมได้ยินว่าเขาอยู่ข้างเอเลนเสมอ’
บางที...เขาอาจจะเป็นแค่หุ่นเชิดที่ทำตามคำสั่ง เขาได้รับคำสั่งที่ให้จัดการมังกรและไล่ตามจนมาถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะถูกผมโจมตีแต่เขาก็ถูกสั่งให้จัดการมังกร.
‘ตุ๊กตาที่แข็งแกร่ง.’
ผมไม่สามารถคิดได้เลยว่ายูป้าจะทำได้อย่างไร
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มากจากการอัญเชิญปกติ การปรากฏตัวของความว่างเปล่าก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อผมเผชิญหน้ากับคอนทากอโนม.
ผมไม่รู้ว่าเขาได้มันมาจากการทำความสำเร็จที่คล้ายคลึงกับการที่ผมปลูกต้นไม้ดั้งเดิมหรือการยกระดับดันเจี้ยนเป็นยูนิค แต่เหตุการณ์แบบนี้ดูไม่น่าเชื่อเท่าไร.
นักเวทย์ดวงจันทร์ คนที่อยู่ตรงหน้าของผมนั้นไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อนหน้าในชีวิตของผม.
'อันตราย.'
สัญชาตญาณของผมเตือน
ผมเห็นเขาโจมตีมังกรกระดูก.เขาใช้พลังมั่วๆและไม่ได้มีคุณภาพมากเท่าไรนัก แต่พลังที่น่ารักเกียจนั่นสามารถป้องกันความเสียหายได้.ถ้าเขามีพลังขนาดนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่แม๊กบอกว่าเขา ‘คงกระพัน’.
แม้แต่ผมก็รู้สึกเสี่ยง.
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอเลนปรากฎมาข้างหน้าผมและสั่งให้เขาเล่นงานผม?
ผมจะเป็นต้องตันสินใจให้รอบคอบ มันเป็นข้อได้เปรียบเดียวกับตุ๊กตาข้างหน้า
‘พลังความครอบงำก็ไม่ได้แสดงออกมา’
ผมเป็นภัยคุกคาม เขาเคยอยู่ในสภาพอนาจหลายครั้ง อย่างไรก็ตามอำนาจแห่งการปกครองก็ไม่ได้แสดงออกมาเลย.
มันไม่น่าเป็นไปได้ที่การปกครองของยูป้ามีอำนาจมากกว่าผม มันแปลกที่พลังอำนาจไม่ปรากฎ
นี่เป็นหลักฐานว่านักเวทย์ดวงจันทร์เป็นคนที่มีพลังมากกว่าแก่นแท้เปลวเพลิงในด้านการครอบงำ
ไฟที่ยอดเยี่ยม...
หนึ่งในเก้าไฟศักดิ์สิทธิ์ที่สปิริตไฟทำการบูชา.
เทพของสปิริตไฟ พวกเขาไม่ได้เป็นพระเจ้าที่แท้จริง แต่บางส่วนก็เป็นความจริง เมื่อจัดการกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงหลายๆตัวด้วยพลัง.
"ผมต้องฆ่าเขาที่นี่.”
ผมพูดด้วยเสียงหนักแน่น ผมไม่สามารถปล่อยให้เขากลับไปและเพิ่มอำนาจของยูป้า ถ้าผมไม่สามารถได้เขามาผมก็ต้องทำเลยเขาเท่านั้น.
ผมจ้องมองไปที่เขาอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่ามันจะมีปฎกิริยาช้าไปหน่อย เขาอยากรู้เกี่ยวกับท่าทีของผม.
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าใกล้.
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงสับสน
นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าได้รับบากเจ็บทางร่างกายและเขาจะตายถ้ายังคงทำตามคำสั่งอยู่ ถ้าเขาตายแล้วเขาก็ไม่สามารถฆ่ามังกรกระดูกได้ ความวุ่นวายเหล่านี้เขาต้องจัดการมัน.
ผมรวมพลังเวทย์ของผม.
วาธและดาบจักพรรดิก็ร้อนจนเกินไป แต่ผมก็ไม่ได้หยุด.
ขณะที่ผมรวมพลังเวทย์ของผมเข้าไปทั้งหมด.
สายตาของเขาเปลี่ยนไป.
ผมเป็นศัตรูอย่างแท้จริง!
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าเขาต้องฆ่าผมตามคำสั่ง.
‘มันสายไปแล้ว.’
ตอนนี้ผมได้กำลังรวมพลังเสร็จสิ้นแล้ว เขาตระหนก...
ซวกกกก!
‘ฉ่า...’
‘กลางคืน’ ที่ล้อมรอบไปทั่วภูเขาได้กลับเข้าไปในร่างของเขาเหลือไว้เพียงดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่
กลางคืนที่ถูกดูดกับเขาไปในร่างของเขาผมรู้มีบางอย่างรุนแรงขึ้น.
ผมถูกปะทะครั้งแรก.
การกระทำก่อนหน้านี้ไม่สามารถเทียบได้กลับตอนนี้.
การโจมตีทางพลังเวทย์ทั้งหมดของผมได้ไปถึงนักเวทย์ดวงจันทร์.
ตูมมมมม!
ดูเหมือนว่าร่างกายของผมกำลังลุกเป็นไฟ ผมเปิดดวงตาของผมจากความเจ็บปวดที่เหมือนกับโดนแสงอาทิตย์สาดส่องจนเผาไหม้
ชู่มม! ซู่มมม!
ได้ยิดเสียงที่ที่ซัดสาด หลังจากที่ผมมองดูรอบๆร่างกายของผมแล้วดูเหมือนว่านี่จะเป็นหาดทราย.
‘นี่คือที่ไหน?’
อย่างไรก็ตามชายหาดเหล่านี้ผมไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย.
การโจมตีครั้งสุดท้ายได้ทำลายนักเวทย์ดวงจันทร์ แต่ ‘กลางคืน’ ที่เขาดูดเข้าไปทำให้มันระเบิดขึ้น มันเป็นระเบิดที่ค่อนข้างหน้ากลัว...อาจจะเป็นแรงจากระเบิดที่ทำให้ผมมาถึงนี่.
หลังจากพลังเวทย์ทั้งหมดหายไปผมเลยหมดสติโดยระเบิดหลังจากการใช้ครั้งสุดท้าย
‘ฉันแทบจะไม่มีพลังเวทย์เหลือเลย.’
พลังเวทย์ของผมว่างเปล่า มันจะไม่ฟื้นฟูเร็วๆนี้ นั่นหมายความว่าผมไม่สามารถใช้สกิลส่วนใหญ่ของผมได้ การสูญเสียพลังเวทย์มีผลกระทบต่อร่างกายผม ดังนั้นผมจึงยังไม่มีแรงมากนัก.
ผมได้ตรวจสอบสภาพร่างกายอย่างใจเย็น
‘เลวร้ายที่สุด.’
ผมมีพลังเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับสูงเท่านั้น ผมต้องการที่ฟื้นฟูตอนนี้ สิ่งจำเป็นตอนนี้คือพลังเวทย์ของผม.
อย่างน้อยผมก็มีแหวนผู้พิชิต มันเป็นไอเทมที่สามารถฟื้นฟูพลังเวทย์ได้10%ต่อการครอบครองดินแดน จากการประเมิณผมคิดว่ามันจะฟื้นฟูมันได้อย่างเต็มที่ภายใน3หรือ4วัน.
แน่นอนว่าผมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ในตอนนี้.
‘ยิฮิ.’
ผมสามารถสื่อสารทางไกลกับยิฮิได้ จากพรของแฟร์รี่
ผมต้องการให้คริสปี้หรือทัสมาลพาผมกลับไป.
อย่างไรก็ตามการสื่อสารส่งไปไม่ถึงเธอ ไม่มีคำตอบจากยิฮิ.
‘แปลก’
เรื่องแบบนี้มันเหมือนกับโลกเบื้องล่าง
พื้นที่รอบๆตัวผมก็เหมือนโลก ไม่มีความรู้สึกแตกต่างเหมือนกับโลกเบื้องล่าง
“ว้า! จะทำอะไร? ถ้ายังอยู่ในระดับนี้โลกจะแตก!”
ใขขณะเดียวกันก็มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่มายังเบื้องหน้าของผม รูปร่างมันคล้ายกับกระต่าย แต่มันมีความสูงประมาณสองเมตร ขนสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีแดงที่น่าประทับใจ แต่ปัญหาคือมันวิ่งผ่านไปเร็วมาก มันวิ่งบนชายหาด.
ถ้าไม่เพราะว่าผมเป็นคนที่มีสายตาที่แหลมคมผมคงไม่เห็นมัน.
‘นี่?’
กระต่ายเหลือบมองมาทางผมขณะที่กำลวิ่งอยู่.
“ข้อผิดพลาด 666 กำลังมาแล้ว! อ๊า,ฉันยุ่งมากจนเหมือนกับจะแห้งตาย!”
มันทิ้งคำแปลกๆไว้
มันหายไปยังทางทิศหนึ่ง
‘ฉันเดาว่าฉันต้องตามมันไป.’
ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว มันเหมือนกับสิ่งมีชีวิต แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนกัน
นอกจากนี้กลิ่นของกระต่ายก็ยังเหมือนกับนักเวทย์ดวงจันทร์.
ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่สถานที่ปกติ
ผมเดินไปยังทางที่กระต่ายหายตัวไป.
‘ความเร็ว...หืมม.’
ความเร็วของผมช้าเนื่องจากพลังเวทย์ของผมหายไปดังนั้นผมจึงไม่พอใจอย่างเป็นธรรมชาติ ผมเริ่มวิ่งไปด้วยกำลังกายเพียวๆของผม.
มันใช้เวลาหลายชั่วโมง
ร่องรอยของกระต่ายค่อนข้างเห็นได้ แต่มันไกลเกินกว่าจะมองเห็น.
แต่ผมได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่คุ้นเคยและผิดปกติ
"อาณาเขตที่ 811 และ 544 พังไปแล้ว เราต้องซ่อมมัน!”
“ไป!”
ยักษ์ที่กำลังเคลือนไหวพร้อมกับค้อนอย่างบ้าคลั่ง.
พวกเขามองไม่เห็นผมขณะที่ผมเดินผ่าน
หูดที่มีขนาดใหญ่มากกำลังโดดแสงแดด มันเหมือนกับนกกางเขนที่กำลังจิกพื้นดินอยู่
พวกเขาพูดพึมพำบางอย่างที่ผมไม่รู้จัก แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกตัวว่าผมเข้าไปหา.
ผมพยายามสะกิดแต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นี่ เห็นผมไม๊?”
มันเหมือนกับว่าผมกำลังดูเรื่องราวที่คนอื่นกำลังถ่ายทอดอยู่
มันไม่ใส่ใจผมเลย
'ดูเหมือนกระต่ายจะเป็นกุญแจสำคัญ.’
กระต่ายเป็นตัวแรกที่เห็นและพูดกับผม.
ผมสูดกลิ่นและตามไปยังทิศทางที่กระต่ายไป.