Chapter 195: Magician of the Moon (3)
Chapter 195: Magician of the Moon (3)
แมีกรู้สึกตัวหลังจากสองวันผ่านไป
ขณะเดียวกันผมได้เฝ้ามองสภาพแววล้อมลึกลงไปในภูเขา เป็นเพราะว่ามีดีม่อนมาบริเวณนี้.
พวกเขาไม่ได้ไล่ตามผม...แต่พวกเขากำลังมองหาแม๊ก
“เกิดอะไรขึ้น?”
ช่วงเวลาสั้นๆหลังจากที่แม๊กได้สติ
ผมถามเขาตรงๆ
ร่างกายของเขาตายไปแล้วมันจึงไม่ต้องฟื้ฟูเลือดเนื้ออีกต่อไป
แม๊กคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว.
“...ผมประหลาดใจ.”
"ผมรู้ แต่ผมไม่เข้าใจ มีการโจมตีอย่างฉับพลันที่ไม่ควรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าผมจะประเมิณแม๊กสูงไปหน่อยมั้ง?”
ทหารทั้งหมดถูกกวาดล้าง มีแม๊กคนเดียวที่รอด
ไม่ว่าจะเจอดีม่อนระดับไหนแต่มันก็มีไม่กี่คนที่เอาแม๊กอยู่ คนที่ทำอย่างนี้...ผมไม่สามารถจินตนาการได้
“ผมขอโทษ ฝ่าบาท ความสามารถของผมไม่พอ...ผมไม่สามารถทำอะไรกับลูกน้องของเอเลนได้.”
“เอิร์ดลเอเลนเป็นหัวหน้ากลุ่มโจมตี.”
ผมคุ้นเคยกับเขา ในอดีตเขาเป็นเอิร์ลที่แข็งแกร่งพอสมควร เขาเป็นหนึ่งในเอิร์ลฝ่ายดยุค.
แม๊กเงยหน้ามาเล็กน้อย เขากระพริบตาเมื่อเขาพูด
“ถูกต้อง แต่มันเป็นคนที่อยู่หลังเอเลน นักเวทย์ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่จากดวงจันทร์! นักเวทย์ที่ผิดปกติที่สามารถนำความมืดเข้าร่วมกับตัวของเขาได้.”
แม๊กได้บอกก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น ผมอยากรู้แค่ตรงนี้.
นอกจากนี้ดูเหมือนกับว่านักเวทย์นั่นได้ทำร้ายแม๊ก.
“อธิบายเพิ่มให้ผมอีก.”
"เขาสามารถเปลี่ยนพื้นที่เป็น ‘กลางคืน’ พื้นที่เหล่านั้นแยกตัวออกมาดังนั้นผมจึงไม่ทันสังเกตเขา.และเขาก็เป็นอมตะในพื้นที่เหล่านั้น. แน่นอน...ฝ่าบาทแข็งแกร่ง...”
พูดสั้นๆ ด้วยความสามารถแบบนั้นผมไม่สามารถกล่าวโทษแม๊กได้เลยที่ไม่สังเกตเห็นการโจมตี นี่เป็นส่วนที่ผมสงสัย.
'หมายความว่านักเวทย์แข็งแกร่ง.’
ดวงตาของผมหรี่ลง นักเวทย์ที่ใช้พลังจากดวงจัยทร์
มันน่าแปลกใจนิดหน่อย ถ้ามีคนแบบนั้นภายใต้อำนาจของยูป้า เขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการต่อสู้กับเอเรียล.
ไม่ ถ้ามีนักเวทย์แบบนี้สักคน ผมต้องได้ยินเรื่องนี้ คริสปี้ได้ไปเยือนถื่นศัตรูหลายแห่งทั่วโลก.
‘มีสาเหตุในการใช้งานที่ไม่สามารถใช้ได้ตลอดแน่นอน?’
เขาเรียก ‘นักเวทย์ดวงจัทร์’ ทุกคนต้องใช้เขาเพื่อสู้กับเอเรียล.ไม่จำเป็นต้องซ่อนเขาเอาไว้.
บางที...นักเวทย์นั่นกำลังทดสอบความแข็งแกร่งของเขากับแม๊ก
‘ยูป้า คุณจะทำอะไร?’
ผมนวดหน้าผากของผม นักเวทย์ดวงจันทร์มีแนวโน้วว่าจะอยู่ในขอบเขตที่เหนือกว่า หรือบางทีเขาอาจจะใช้กำลังของเขาภายใต้เงื่อนไขพิเศษ.
เขาถูกอัญเชิญหรือว่าได้มาจากความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามเขาเป็นตัวแปรที่ไม่คาดฝัน
"นั่นคือสิ่งที่คุณได้พบ?”
"เอเลนควบคุมนักเวทย์นั่น เขาอยู่ข้างเอเลนเสมอ”
ถามผมตามหาเอเลนเจอผมก็จะรู้ว่านักเวทย์นั่นอยู่ที่ไหน.อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่าต้องเข้า ‘พื้นที่กลางคิน.’
แม๊กไม่ทันสังเกตจยกระทั่งเขาเข้าไป
จะสามารถหลบหนีการตรวจจับของผมได้รึเปล่านะ?
‘ไม่มีอะไรที่จะยากเกินกว่าจะไม่รู้.’
ผมอยู่ตรงทางแยก มันไม่สำคัญหรอกถ้าผมจะละเลยมัน ผมไม่สามารถทำอะไรได้ตั้งแต่แรก เป้าหมายของผมก็คือการฆ่าคนที่ชนะการต่อสู้ระกว่างเอเรียลและยูป้า อย่างไรก็ตามหากยูป้ามีลูกน้องที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่ยอดเยี่ยมอย่างที่สุดเกมส์นี้ก็ได้จบลงแล้ว.
ถ้าเขาส่งนักเวทย์ออกไปชัยชนะเขาจะอยู่เหนือการครอบงำ จากนั้นยูป้าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า มันเป็นเรื่องยุ่งยาก
ตัดไฟแต่ต้นลม...
นี่เป็นทางเรื่อกหนึ่ง แต่ต้องจัดการอย่างเงียบเชียบ
“แม๊ก.เราจำเป็นต้องวางแผนที่จะให้นักเวทย์ดวงจันทร์ออกมาอย่างเงียบๆ อย่างน้อยที่สุดคนที่ผมต่อสู้ด้วยจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้น”
ผมจะด้อยกว่าในแง่ของกลยุทธ์ ผมรู้ไม่มาก นี่เป็นปัญหาในอดีต แต่ตอนนี้ผมมีลูกน้องที่สามาถทำแบบนั้นแทนผมได้
และแม๊กก็สามารถเชื่อมือของเขาได้
แม๊กคิดแปปนึงก่อนจะพูด
"งั้น...ผมต้องการทหารเพียงไม่กี่คน.”
แมีกระมัดระวังคำพูดของเขาเมื่อเขาพูดอีกครั้ง
ผมตอบสั้นๆ
"ผมไม่สามารถให้คุณได้มากนัก.”
การให้กองกำลังมากเกินไปจะเป็นที่สะดุดตาและถูกป้องกันได้ก่อน ปัจจุบันมีดีม่อนฝ่ายยูป้าคอยสอดส่องบริเวณนี้
มันเป็นโชคดีที่ผมเอามังกรกระดูกและเคออสแสเกลตัล2ตัวมาด้วย หากเอาสิ่งมีชีวิตอื่นๆมากกว่านี้มันอาจจะถูกค้นพบไปแล้ว
“ไม่จำเป็นต้องใช้ทหารมาก คุณภาพต่างหากที่สำคัญ.”
"นั่นมันง่ายมาก ตามผมมา."
สถานที่นี่อยู่ในถ้ำ.
ผมนำทางแม๊กให้ออกมาข้างนอกและปล่อยพลังเวทย์ออกมาเล็กน้อย.
ในที่สุดผมก็พาเขาผ่านป่าที่หนาแน่น
“นั่น...”
"มักกรกระดูกและเคออสสเกลตัล นั่นพอไหม?”
มีสิ่งมีชั้นสูงถึง4ตัว มันมากพอที่จะถล่มดันเจี้ยนได้ดันเจี้ยนนึง.
ร่างกายของแม๊กสั่น.
“อ่าาา มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ผมไม่ได้เห็นพวกเขา พวกเขาอยู่ที่นั่นเมื่อจักพรรดิสร้างโลกใต้ดินครั้งแรก”
เขารู้เกี่ยวกัลเคออสสเกลตัล แม๊กเป็นอัศวินที่เก่าแก่ที่สุดของราขานรกมันไม่แปลกที่เขาจะรู้
แม๊กยังพูดต่อไป
“นั่นก็พอแล้ว ไม่ มันมากเกินกว่าคำว่าพอ ดึงขาเอเลนลงมาและแยกนักเวทย์ดวงจันทร์...”
“ผมจะปล่อยให้คุณทำ.”
"ผะ-ผม? สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะยอมรับคำสั่งจากฝ่าบาทเท่านั้น.”
“ผมจะปล่อยพวกเขาให้คุณ ผมจะดูแลส่วนที่เหลือ.”
แม๊กจ้องมองผมอย่างว่างเปล่าก่อนที่จะกำหมัดแน่น
ดวงตาของเขาเปลี่ยนไป เขาเต็มไปด้วยความปราถนาที่จะทำแบบนั้น
หลังจากนั้นสักพักแม๊กก็โค้งหัวต่ำลงกว่าเดิม
"แม๊กคนใหม่ จะทำตามที่ฝ่าบาทสั่งการ.”
เอเลยบ้าคลั่งที่จะจับแม๊ก เอเลนได้ติดตามและกลั่นแกล้งแม๊กเสมอ แม๊กพุ่งประเด็นไปที่สิ่งนี้.
"ฝ่าบาท โปรดอดทนรอสักครู่ ผมจะคิดบัญชีนี้ให้เสร็จภายใน7วัน.”
"คุณมั่นใจไหม?”
"มันคงจะยากถ้าจะมีแค่ผมเพียงคนเดียว แต่อย่างไรตอนนี้ก็มีมังกรและเคออสแล้วพวกเขาทั้ง4ก็เหมือนกับมีทหารครึ่งล้าน ผมจะล้มเหลวได้อย่างไร?”
มันเป็นเรื่องปกติที่จะดำเนินการประสบความสำเร็จ
“ถ้างั้นก็ระวัง ฝ่าบาทนักเวทย์ดวงจันทร์มีเวทย์แปลกๆผมไม่เข้าใจมันมากนัก.”
ผมรู้สึกไม่ผิดกับคำพูดของเขา.
นักเวทย์ลึกลับที่สามารถหลอกแม๊กได้ แค่นี้ก็ทำให้เกิดความตึงเครียดแล้ว
“ไม่มีใครในโลกนี้สามารถเอาชนะผมได้.”
ผมพูดอย่างมั่นใจ ความจริงมันก็ไม่ผิดนัก แม้ว่านักเวทย์จากดวงจันทร์จะปรากฎ แต่ผมก็ยังแข็งแกร่งที่สุดในที่นี่อยู่ดี.
“ผมเชื่อคุณ ตอนนี้...ผมจะเคลือนไหวทันที.”
ผมพยักหน้า แม๊กก็ได้หันหลังไปปีกมังกรกระดูกตัวหนึ่ง
สิ่งมีชีวิตจะไม่เคลือนไหวจนกว่าผมจะควบคุมมัน นั่นอาจจะเป็นกรณีที่ผมมีหัวใจของราชานรก แต่ผมก็มีอำนาจของดันเจี้ยนมาสเตอร์เหมือนกัน.
'ฉันสามารถฝึกซ้อมขณะที่รอได้’
ผมได้มอบความไว้วางใจไว้ที่เขา ผมตัดสินใจที่จะออกห่างและรอฟังความเคลือนไหวเป็นระยะๆ
แต่ผมไม่สามารถเล่นรอบๆนี้ได้
ภูเขานี้ห่างไกลจากเหล่ามนุษย์ ผมจะใช้โอกาศนี้เพื่อทบทวนการต่อสู้กับตัวเอง ผมไม่สามารถปล่อนโอกาศนี้ไปได้
เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อสิ่งมีชีวิตออกไปหมดแล้วผมสามารถมุ่งเน้นอย่างเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องฝึกด้วยการแกว่งดาบหรือขยับร่างกาย ผมต้องการสถานที่เงียบๆเพื่อที่จะนักสมาธิ
แม๊กได้แยกมังกรออกเป็นสองทาง หนึ่งคือโจมตีกองกำลังเอเลน เขาชำนาญในการดึงดูดศัตรูและทำลาย.
เขาสามารถจับสิ่งมีชีวิตได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามเรื่องราวก็ต่างออกไปถ้าเขาทำแบบนี้หลายสิบครั้งต่อวัน เอเลนได้ไล่ตามกองกำลังทั้งหมดของเขาและไล่ตามแม๊ก.
"แกเก่งในเรื่องวิ่งหนี!”
ใบหน้าของเอเลนแดงขณะที่ตะโกนใส่แม๊กซึ่งกำลังวิ่งหนี แม๊กไม่ได้หยุดและหายไปอย่างรวดเร็วบนหลังมังกรกระดูก.
ความเร็วของมังกรกระดูกเหนือจินตนาการมาก เมื่อมันกางปีกและบินก็ไม่มีใครตามมันได้.
อย่างไรก็ตามแม๊กก็ไม่ได้หนีอย่างสมบูรณ์ เขาล่อพวกนั้นในที่ไหนสักแห่ง ในขณะเดียวกันมังกรอีกตัวก็ไม่ปรากฎออกมา.
"ถ้าแกเป็นอัศวินเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน!”
“แก!”
เอเลนรูสึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาเกือบจะจับแม๊กได้ เขารู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่เห็นใบหน้าของแม๊ก.
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเอเลนรู้สึกหมดหวัง เขาไล่ล่าแม๊กด้วยวิธีต่างๆของเขา.
ปกติถ้าเขามีนักเวทย์ดวงจันทร์ เขามั่นใจว่าเขาจะมีกำลังมากพอ.
แม๊กจงใจให้เอเลนตามเขาทัน.
"การวิ่งของแกจบลงที่นี่.”
“......”
“ยอมจำนน แล้วฉันจะฆ่าแกอย่างรวดเร็ว.”
"ฉันจะไม่ยอมจำนนกับแกไปอีกหนึ่งล้านปี.”
“ฮ่า! แม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แกยังกล้าพูด!”
เห็นได้ชัดว่าจะมีการสู้รบ
สิ่งมีชีวิตนับพันเริ่มเข้าไปกลุ้มรุมแม๊กและมังกรกระดูก
เอเลนและนักเวทย์ดวงจันทร์ไล่ตามแม๊กในขณะที่มังกรกระดูและเคออสสเกลตัลรับมือกับสิ่งมีชีวิตนับพัน
ก่อนที่พวกเขาจะปะทะกัน แม๊กได้ยกดาบของเขาและมีแสงสีทองพุ่งลงมาจากฟ้า.
“ดาบ!”
ตึงงงงง!
ท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีทองและในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงคำรามจากที่ไกลๆ
ทันใด...ทักรและเคออสสเกลตัลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
สองในสี่ของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง!
มันเป็นจำนวนที่น้อย แต่พลังของเขาเพิ่มเป็นสองเท่า.
เอเลนได้เลือกสิ่งมีชีวิตที่เร็วที่สุดโดยไม่สนใจคุณภาพ ยกเว้นนักเวทย์ดวงจันทร์ความได้เปรียนกำลังตีกลับ
“กรอดด...!”
ในทางตรงกันข้ามเอเลนได้บดฟันของเขา
“แกไปจัดการมังกรตัวนั้น ฉันจะดูแลเขาเอง.”
เขาอยากจะรับมือกับแม๊กให้เร็วที่สุด แต่สถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จัดการกับมังกระกระดูกและเคออสสเกลตัล.
แม๊กยิ้มเมื่อเห็นนักเวทย์ดวงจันทร์แยกตัวออกไป
‘มันเป็นไปตามแผน.’
มันอยู่ระหว่างกลาง
นักเวทย์ดวงจันทร์ก้มหัวเล็กน้อย คนที่มีเส้นผมสีดำที่กำลังพองขึ้นไปบนฟ้าและเผยดวงตาที่ดำสนิททั้งสองข้าง เหมือนหลุมดำอยู่ในตาของเขา ร่างกายของเขาแห้งมากจนยากที่จะยอกว่าเป็นนักเวทย์ชายหรือหญิง
นักเวทย์ดวงจันทร์ลอยขึ้นไปในอากาศ ความมืดมิดขยายเป็นวงกว้างและบริเวณโดยรอบก็มืดสนิท ดวงจันทร์ที่ลอยขึ้นมาในดวงตาที่ดำสนิทของเขาและมันก็เริ่มเรืองแสงสีเหลือง.
มังกรกระดูกหันไปรอบๆทันที มันสังเหตเห็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่.
นักเวทย์ดวงจันทร์ยื่นมือออกมาและดวงจันทร์ก็ส่องสว่างมากขึ้นไปอีก
วิ้งงงงง!
ลำแสงรวมกันอยู่ปลายนิ้วของเขา หลังจากนั้นแสงเหล่านั้นก็พุ่งกระจายออกมาเป็นหลายกลายลำแลง พวกเขาเหมือนกับยิงดาวเข้าไปหามังกรกระดู.
ฮู่มมมมม!
คู่ววววว!
มังกรกระดูกพ่นลมหายใจออกมา มันเป็นสกิลเริ่มต้นของมังกร ลมหายใจมังกรเป็นหนึ่งในสกิลที่อยู่ในระดับสูงสุด เป็นเรื่องปกติที่ทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าลมหายใจหายไป.
อย่าไงก็ตามแสงดาวได้สัมผัสลมหายใจและเริ่มดูดซับพลัง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา.
มังกรกระดูกสังเกตเห็นและเริ่มหยุดพ่นลมหายใจและดูดกลับเข้าไป สิ่งมีชีวิตได้วิ่งเข้ามาและมังกรกระดูกกระพือปีกและออกจากรัศมีสีดำ.
นักเวทย์ยังตามต่อไปด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ความเร็วของเขาไม่ช้ากว่ามังกรกระดูก
การไล่ล่าของแมวและหนู พื้นที่กลางคืนที่อยู่กับเขาก็ได้เคลือนไหวตามเขาไปเหลือไว้แสงดาวเพียงเล็กน้อย.
นักเวทย์ดวงจันทร์ไม่สนใจว่าเขาจะอยู่ห่างเอเลนเกินไปหรือไม่.
เขาได้รับคำสั่งเดียว จัดการมังกรกระดูกนี้ซะ