Chapter 190: Fight with Oneself (2)
Chapter 190: Fight with Oneself (2)
เมื่อจำนวนครั้งเพิ่มขึ้นการต่อสู้ก็เริ่มเข้มข้นขึ้น.
ทีละนิดทีละน้อยผมเริ่มเข้าใจการดำรงอยู่ของ ‘ตัวเอง’
‘ขณะที่การต่อสู้เกิดขึ้นเขาก็เริ่มคล้ายกับฉันมากยิ่งขึ้น ในทางตรงข้ามกับฉัน...’
แตกแรกมันแตกต่าง แต่ในขณะที่เกิดการต่อสู้ซ้ำๆมันก็เริ่มที่จะไม่ต่างกันมาก
ไม่ ผมกำลังจะเดินไปยังเส้นทางใหม่ในอนาคต ชายคนนี้ก็แค่คนที่ไล่หลังผมมาจากอดีต
'ฉันกลายเป็นเหมือนเขา.’
ผมเดาะลิ้น.
จากนั้นผมก็รู้แจ้งอย่างหนึ่ง ผมตระหนักได้ว่ามันไม่ได้เพียงเป็นแค่สิ่งที่โคลนใช้เท่านั้น.
และในที่สุด ความพยายามครั้งที่100
ผมต้องการกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง.
ใครกันแน่ที่เป็นโคลน?
ตอนนี้ผมไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างจากตัวของเขาได้
ผมกลายมาเป็นสมบูรณ์มากขึ้นในขณะที่เขากลายเป็นไม่สมบูรณ์.
และ...ผมกลายเป็นคนที่ไม่แยแสมากขึ้น หรือไม่ก็กลายเป็นเหี่ยวเฉา?
สายตาของผมเย็นเฉียบ ผมแสดงให้เห็นถึงการเคลือนไหวที่เล็กน้อยเท่านั้น
มันเหมือนกับเครื่องจักร.
ชายคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมอีกแล้ว เขาเริ่มอ่อนแอมากขึ้นในขณะที่ผมเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น.
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมีความว่างเปล่าอยู่ในตัวผม.
ในสถานการณ์เช่นนี้แม้แต่เลือดของผมก็เย็นเฉียบในขณะที่ต่อสู้.
ผมก็ได้คิดว่า ‘นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ’.
ผมเริ่มแข็งแกร่ง แต่ผมไม่ต้องการที่จะสมบูรณ์ถ้ามันไม่ใช่ในแบบฉบับของผม.
'ฉันต้องการหัวเราะเสียงดังเมื่อฉันได้เป็นเดวิล.’
นั่นคือความปราถนาของผม ความฝันของผม เป็นความปราถนาที่ผมจะได้นั่งอยู่ที่นั่นและหัวเราะเสียงดังไม่ใช่แค่นั่งลง
หัวเราะเยาะทุกคนที่พยายามจะแย่งที่นั่งของผม แต่ถ้าผมไม่สนใจความรู้สึกของตัวเองแล้วผมจะเป็นอะไรเมื่อผมได้กลายเป็นเดวิล.
‘มันไม่ใช่’
เพื่อความสมบูรณ์ผมต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ไม่สมบูรณ์?
ถ้าใช่ ก็ไม่ใช้สิ่งที่สมบูรณ์ ผมเคยผ่านการทดลองและข้อผิดพลาดมากมายแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม..การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเหมือนกับการหัวเราะความพยายามของผม.
เหมือนกับว่าผมปฏิเสธความฝันของผม.
ผมพอใจกับความหยิ่งและความมั่นในตนเองสูง แต่มันได้ถูกเอาออกเพราะว่ามันอ่อนแอ.
ผมจะยอมรับมัน.
มันไม่ใช่เรื่องตลก.
‘ฉันไม่ชอบสิ่งนี้.’
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย.
ผใหันหลังให้กับมัน.
มันเป็นการต่อสู้กับตัวเองอย่างแท้จริง
ต้องใช้ความพยายามมากในการกลับมาคิดแบบเดิม.
- ความคล่องตัวลดลง1 |
สถานะของผมลดลลง หลังจากกลับมาใช้กรอบความคิดเดิมสถานะของผมก็หายไป แต่ผมคิดว่าการสำเร็จนี้ไม่สามารถเกิดได้จากความคิดเท่านั้น.
มันอาจจะช้า แต่ผมจะประสบความสำเร็จในแบบของผมเอง...
จากนั้นสายตาของโคลนก็เปลี่ยนไป.
“คนโง่ คุณไม่สามารถทิ้งมันไปได้ คุณมาเพื่อทั้งหมดนี้และเตะมันทิ้งออกไป?”
คำพูดของเขาหยาบแต่สายตาของเขาเปลี่ยนไป
ประหลาดใจ เขารู้สึกประหลาดใจกับความคิดของผม.
ดวงตาของเขาเหมือนจะถามว่านี่เป็นไปได้อย่างไร.
ผมเข้าใจแล้วเพราะว่าผมกำลังหลอมรวมกับเขา.
“ทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป?”
ผมหัวเราะ สิ่งที่ผมได้รับหลังจากได้ความสมบูรณ์ ผมกำลังทิ้งเขาตอนนี้.
จากนั้นโคลนก็บดฟันของเขา.
"การเลือกความไม่สมบูรณ์! มีแต่คนโง่!"
“อย่ามาทำให้ผมหัวเราะ ไม่ใช่คุณเองหรอกหรอที่ต้องการความโง่นี้?”
ผมหัวเราะในขณะที่ผมจ้องมองเขา.
เขาแตกต่างไปทุกครั้งจากการต่อสู้ทีละเล็กทีละน้อย และบางครั้งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็คุ้นเคย ผมไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งของผม.
ตอนแรกมันก็ไม่มีอะไร แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างนับสิบๆอย่างถูกนำออกมา.
ผมสามารถมองเห็นด้วยการดูสิ่งที่เขาแสดงออกมา
"คุณไม่ต้องการความสมบูรณ์? ความสมบูรณ๋เริ่มต้นได้ด้วยดารทิ้งความไม่สมบูรณ์! คุณไม่ต้องการความแข็งแกร่ง?”
เขาถามด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง.
"ผมต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าตัวเองไม่สมบูรณ์.”
สิ่งที่เขาเอามาจากผม ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นจุดอ่อนของผม โคลนของผมคิดอย่างอื่น ..ดังนั้นผมจึงแตกต่างจากเขา.
จากนั้นเขาก็วิ่งพล่าน.
"ไม่สมบูรณ์! คุณจะไม่ชนะฉัน!”
"ผมไม่คิดว่าตัวเองไม่สมบูรณ์.”
ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย ดูเหมือนกับว่าผมจะไปยังทิศทางที่ถูกต้อง.
"ความไม่สมบูรณ์คือสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์?คุณจะไม่สามารถกลายเป็นเดวิลได้!”
"มันอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่มาตรฐานของเราต่างกัน.”
ผมยกวาฑและดาบจักพรรดิ
จากนั้นก็ตะโกนออกมา.
“ไม่มีทาง! คุณไม่สามารถเอาชนะฉันได้จนกว่าคุณจะสมบูรณ์!”
"คุณเป็นจุดอ่อนของผม”
แต่ต่างจากโคลนผมมั่นใจ
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ.
และได้กวัดแกว่งวาธและดาบจักพรรดิออกไป
"คุณกำลังทำอะไร?”
"ผมจะไม่ขายวิญญาณของผมให้กับความแข็งแกร่ง และ...”
มีรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของผม.
“ฉันไม่ยอมให้อะไรก็ตามในสิ่งที่ฉันมีอยู่ กลับมา.”
เขาและผมแตกต่างกัน เราไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามมีความค้ลายคลึงกัน ในที่สุดผมก็รู้เหตุผล เขาเป็นส่วนหนึ่งของผมที่ถูกแยกออกมา
ลึกเขาไปนในจิตใจสิ่งที่ผมคิดว่ามัน‘อ่อนแอ’ ได้ถูกนำออกมา.ผมไม่เข้าใจตัวเองนั้นมันจึงแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของผม.
สายตาของชายคนนั้นมีอาการสั่นอย่างรุนแรง.
“วางมันซะ นี่คือเส้นทางที่เร็วที่สุดในการก้าวเข้าไปอยู่ในความสมบูรณ์ คุณไม่รู้ตัวหรอ? คุณไม่ได้ตระหนักถึงความเป็นจริงและเผชิญหน้ากับพระเจ้าและกลับมาไม่ใช่รึ? คุณรู้อย่าวชัดเจนสิ่งที่พูดออกมาคือความจริงที่เขาบอกคุณ...?”
"ทำไมผมต้องทไแบบนี้?”
“ใช่ ทำไม? หัวใจของคุณได้ถูกทำความสะอาดแล้ว? แต่คุณยังลังเลอยู่?”
ส่วนที่ซ่อนของผม นั่นคือสิ่งที่เป็นโคลนแสดงออกมา ผมส่ายหัว.
“พระเจ้าไม่ได้ขอให้ผมสมบูรณ์ อย่าไรก็ตามพวกเขายอมรับว่าพวกเขาไม่สมบูรณ์ แน่นอน แม้ว่าความหมายจะซับซ้อนแบบนั้นก็ไม่มีทางไหนที่จะทำตามแบบคนอื่น.”
ผมจะทำทางของผมเอง.
ควาทรงจำเกี่ยวกับชีวิตที่แล้วของผมเป็นแค่รากฐานเท่านั้นและผมจะเดินไปตามเส้นทางใหม่ มันไม่ถูกต้อง แต่อย่างไรผมจะทำงานจนจบ.
บางที่ผมลังเลใจเพราะว่ามันอาจจะเป็นเส้นทางที่ผิด.
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกันแล้ว
“คุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน ฉับแทบไม่สามารถแยกตัวออกจากคุณได้ ...เมื่อคุณยอมรับมันแล้วคุณจะไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก.
"แม้ว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของผมที่ผมไม่สนใจที่จะกลายเป็นคนที่สมบูรณ์มากขึ้นโดยการทิ้งคุณ.”
"หลอกลวง!มันก็แค่คำพูดของคนโง่!.”
"มีคนบอกผม ผมยังเล็กเกินไปความภาคภูมิใจมันจะรั้งคอตัวผมเองไว้ อย่างไรก็ตามคนที่พูดแบบนั้นได้ตายด้วยน้ำมือของผม.”
ผมต่อสู้กับโอคูลอสที่ได้ทำลายข้อห้าม.
ผู้ชนะถูกต้องและโอคูลอสก็พ่ายแพ้ พวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูด
“...ตกลง.จะรอดู.หัวใจของคุณที่หงุดหงิด.”
โคลนของผมเดินช้าๆเหมือนกับเขายอมแพ้.
ผมหัวเราะและกางแขนออก.
เขาเข้ามาในจตัวผม
สิ่งแรกที่ผมเห็นคือแฟร์รี่ตัวน้อยๆข้างหน้าผม.
“คุณตื่นแล้วมาสเตอร์?”
"ยิฮิ.”
ผมลุกออกจากที่ผมอยู่ มันเป็นอาคารไม้ขนาดเล็กดูเหมือนจะอยู่ในหมู่บ้านดาร์กเอลฟ์.
"คุณไม่ตื่นขึ้นมาเลยตลอดสามวัน ยิฮิเป็นห่วงจริงๆ.”
ยิฮิปาดน้ำตาด้วยนิ้วมือของเธอ
“สามวัน..มีอะไรเกิดขึ้นมั่งในระหว่างนี้?”
"คริสปี้ได้ออกไป ต้นไม้แห่งชีวิตและความตายได้โตขึ้นอย่างปลอดภัยและมีการเสนอชื่อเข้าชิง7คน ยิฮิถามมนุษย์สองคนที่มาสเตอร์รู้จัก.”
"คริสปี้ออกผมมาแล้วเหมือนหลายวันก่อน.”
ยิฮิกระพริบตา.
“หืม? มันแปลก ยิฮิบอกได้เลยว่ามันผ่านมาไม่กี่วัน...”
การพูดคุยไม่ปกติ ผมรู้สึกถึงบางอย่างและถาม
“ยิฮิ วันนี้วันอะไร?”
“12 กันยายน ตอนนี้อากาศหนาวเล็กน้อย ยิฮิไม่ชอบความหนาว.”
“12 กันยายน?”
“มีอะไรผิดหรอ มาสเตอร์?”
"ไม่มี."
ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย.
ครั้งแรกที่ผมไปที่ต้นไม่ดั้งเดิมและต่อสู้กับโคลนของผมคือวันที่ 9 กันยายน มันเป็นเพียงสามวันนับแต่วันนั้น.
แม้แต่การสนทานากับคริสปี้...
'มันคือการมองอนาคต?’
ผมนึกถึงตาของมาร์ติน แต่ผมจำไม่ได้ว่าปลูกฝังมันโดยตรง ดูเหมือนว่าผมจะได้พลังอะนาจของเขานิดหน่อย.
ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น.
‘หรือว่ามันเป็นผลกระทบจากการครอบงำ?’
บางทีอำนาจของการครอบงำถูกเรียกใช้ก่อนที่มาร์ตินจะตาย ผมเห็นข้อความจำนวนมากในการสังหารหมู่ของสิ่งมีชีวิตดังนั้นผมจึงไม่ได้สนใจกับทุกอย่าง.
'ในระดับนี้...ถ้าเวลาไม่ได้ผ่านไปสถานของฉันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง.’
สถานะของผมเพิ่มขึ้นตอนสู้กับโคลน แม้ว่าบางอย่างจะลดลง แต่ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ผมจะอารมณ์เสียถ้ามันไร้สาระ.
‘หน้าต่างสถานะ.’
ผมมองไปที่หน้าต่างสถานะเพื่อยืนยัน
ชื่อ: รัลดาลบิกิเซล [Randolph Brisiel] | |||
อาชีพ | ดีม่อนแกร์นดยุค
(ดันเจี้ยนมาสเตอร์) |
ฉายา | * ดันเจี้ยน ฮันเตอร์ (จะได้รับสถานะพิเศษ 1 แต้มจากการครอบครองดันเจี้ยนหรือสักหารดีม่อนตนอื่น)
* นักรบทรหด (Ex U, All stats +2) * คนแรกที่ได้พรแฟร์รี่ (U, Magic Power +6) * เจ้าของดั้งเดิม (Epic, all stats +3) * อันเดต (Ex U, Intelligence and Stamina +5) * เจ้าของโลกเบื้องล่าง (Legend, สถานะทุกอย่าง +5, สกิลตั้งแต่ระดับอีปริกลงมาเพิ่ม +0.5) |
สถานะ | |||
Strength | 89 (+20) | Intelligence | 96 (+15) |
Agility | 85 (+20) | Stamina | 90 (+22) |
Magic Power | 100 (+16) | ||
ศักยภาพป: (460+93/570)
แต้มคงเหลือ: 13 พลังงานไฟฟ้า: 21 GW เอกลักษณ์: เจ้าของโลกเบื้องล่าง หัวใจของราชานรกได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ สกิล: ผสมทุกอย่าง (Ex U), มัทอาย (Epic), ดาบทมิฬ (Epic), ดาบศักศิทดิ์แห่งเอกภพ (Epic, Passive), ธาตุสายฟ้า (Epic), ไพน์ (Epic), ทุจริต (Ex Epic),พลังแห่งการครอบงำ (Ex Epic, Passive), การติดต่อกับสปิริต (Epic, Passive) สกิลและความสามารถของไอเทม: วาธ (Strength +7), สล๊อต (Agility +7), ไพน์ (Stamina + 7), ดาบศักศิทดิ์แห่งเอกภพ (Strength and Agility +3) |
[เปรียบเทียบก่อนและหลัง]
Strength 105 Intelligence 107 Agility 100 Stamina 107 Magic 113 Potential (434+93/555) Strength 109 Intelligence 111 Agility 105 Stamina 112 Magic 116 Potential (460+93/570) |
ผมตัวแข็งหลังจากที่ตรวจสอบสถานะ
‘สถานะเพียวๆของฉัน...’
พวกมันเพิ่มสูงมาก สถานะของผมเพิ่มกว่า20แต้ม.
มีเสียงหัวเราะออกมา.
‘ฉันไม่ได้คาดหวัง.’
ผมดีใจที่ได้เห็นมัน ผมได้ต่อสู้ในความฝันดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่คิดว่ามันจะกลับไปที่เหมือนเดิม
แต่ผลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
‘แม้แต่ศักยภาพยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย.’
ผมไม่ได้ทำเรื่องเฉพาะเจาะจง.
ผมแค่ไม่รู้จุก ‘ตัวเอง’
การรับรู้คือการรู้แจ้ง แต่ผมไม่ได้คาดหวัง ก่อนที่จะตรวจสอบผมคิดว่าสถานะของผมอยู่ในระดับเดิม
‘ฉันไม่ได้หงุดหงิด แต่เต็มไปด้วยความหวัง.'
มุมปากของผมยกขึ้น
โคลนบอกว่าผมจะหงุดหงิดแต่ผมไม่ได้หงุดหงิด.
“มาสเตอร์?”
ยิฮิเงยหน้าถาม.
"ปลดปล่อยวิญญาณ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำสัญญากับมนุษย์.”
“ใช่ มาสเตอร์ แต่อย่างไรก็ตาม...มาสเตอร์.”
"บางทีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น?”
"ใบหน้าของคุณดูดีมาก มาสเตอร์ ยิฮิฮิ”
"ฉันไม่มีคำตอบ.”
"หืม ดีจริงๆ.”
ยิฮิบินขึ้นและเริ่มทำภารกิจ