Chapter 185: Half Awakening (3)
Chapter 185: Half Awakening (3)
ความจริงแล้วผมไม่สามารถสู้กับสิ่งมีชีวิตกว่า30,000ตัวได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว
แม้จะก้าวเขาไปอยู่ในเขตแดนที่เหนือกว่าผมก็ยังเป็นแค่คนๆนึง แน่นอนว่าผมสังเกตเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่ในหมู่พวกเขา
อย่างไรก็ตามเหตุผลที่การกระทำของผมยังอยู่ในท่าทางสบายๆ
‘มาร์ตินมาที่นี่.’
ไม่มีเหตุผลอื่น
มาร์ตินอยู่ในสถานที่ของผม.
ไม่จำเป็นต้องลงมือฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั้ง30,000ตัว ผมแค่ฆ่ามาร์ตินเท่านั้น
‘ครึ่งนึงของพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในเกาหลี ถ้ามาร์ตินถูกฆ่าตายการควบคุมของเขาจะหายไปและพวกมันจะสู่กันเอง.’
ผมไม่จำเป็นต้องไปแตะต้องสิ่งมีชีวิตตัวอื่นๆนอกจากสู้กับมาร์ติน
พวกเขาจะสู้กันเองและไม่จำเป็นต้องให้มือของผมเปรอะเปื้อน
‘มันเป็นภายที่ยิ่งใหญ่’
รอยยิ้มของผมไม่ได้หายแม้กระทั่งสิ่งมีชึวิตได้เข้ามาใกล้ผม
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เผชิญกองทัพขนาดใหญ่ด้วยตัวคนเดียว
มันเป็นฉากที่ผมเคยฝันถึงหลายครั้ง อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีข้อกำหนดมากมาย ตอนนี้ผมจำเป็นจำเป็นครี่คลายสภาวะด้านหน้าของผม
ผมแข็งแกร่ง
ไม่ต้องเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้านี้ของผม!
มีความแตกต่างในตอนที่ผมมองไปที่โลกหลังจากที่แข็งแกร่งขึ้น.
ผมเรียบรู้วิธีที่จะจัดการกับสิ่งนี้.
ผมยื่นมืออกทั้งสองข้าง
พรึ่บบบ!
เปลวไฟของไพน์ได้ลุกขึ้นมาครอบคลุมร่างกายของผม
ในเวลาเดียวพลังอื่นๆก็โผล่ออกมาด้วย
มันคือ‘พลังแห่งการครอบงำ’
‘สกิลที่มีโอกาศน้อยมากที่จะควบคุมฝ่ายตรงข้ามในช่วงเวลาคับขัน ตอนนี้ฉันควรใช้มันกับกองทัพนี้.’
จะมีอะไรที่เหมาะสมไปกว่านี้ในการจัดการกองทัพเพียงคนเดียว?
กรรร!
สายฟ้าพระเจ้าคำรามออกมา
ไฟและแสงสว่างออกมารอบๆตัวผมพร้อมที่จะออกไปทำลายรอบๆข้าง
‘ตอนนี้...’
ผมหันหน้าของผม
ผมดึงดาบวาธและดาบจักพรรดิออกมา
‘มาเริ่มกันเถอะ มาร์ติน.’
ผมหรือเขาที่จะเป็นผู้ชนะ.
ความรู้สึกที่ท่วมท้นสของผมทำให้วาธสั่นสะเทือน มันน่าจะเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับแพนเดอโมเนี่ยม ถ้าเขาเห็นพลังของผม แต่มันจะเป็นอุปสรรคของผม.
ถ้าแพนเดอโมเนี่ยมเสียมาร์ตินเขาจะต้องลังเลก่อนที่จะแสดงตัวออกมา ความเสียหายสะสมมากเกินไปหมายความว่าเขาจะต้องใช้เวลามากในการฟื้นฟู
ผมจะใช้ระยะเวลานี้เพิ่มระยะห่างของเรา.ไม่สิ มันเป็นไปได้มากที่จะกินแพนเดอโมเนี่ยมหากเขาปราศจากมาร์ตินก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมช้ ‘คำทำนาย’ ในการหาจุดจบ.
‘ถ้าผมเคลื่อนไหวเพียงคนเดียวน่าจะทำให้เขาประเมิณฉันต่ำขึ้น’
ผมรู้อย่างคร่าวๆว่ามาร์ตินคาดหวังอะไรบางอย่าง ถ้าสิ่งมีชีวิตหลายตัวของผมมาที่นี่มาร์ตินจะไม่ปรากฎตัวขึ้น ตั้งแต่ที่ผมอยู่คนเดียวมาร์ตินก็มาที่นี่แม้ว่าจะมีความเสี่ยง.
แต่นี้ก็ยังเป็นเหมือนกับการเดิมพันอยู่ดีสำหรับผม
ถ้าผมพลากในการจัดการมาร์ตินในวันนี้ การโจมตีของแพนเดอโมเนี่ยมจะมีความรุนแรงมากขึ้นและเขจะใช้สิ่งมีชีวิตหลายชนิดเข้ามาโจมตี ดังนั้นผมต้องจัดการมาร์ติน
ถ้าผมเคลื่อนไหวกองทัพแล้วมาร์ตินจะรู้ตัวได้จากระยะไกล
"ออกไปให้หมด”
ซุ่มมมมม!
ผมเปิดพลังเวทย์ของผมและหันเหความสนใจไปสู้สภาวะแวดล้อม อิทธิพลของผมแผร่กระจายออกไปไม่กี่กิโลเมตร ในเวลาเดียวกันมาร์ตินและสิ่งมีชีวิตก็สั่นสะเทือนและหยุดการเคลื่อนไหว
คนที่ไม่สามารถทนต่อพลังเวทย์ของผมได้ล้มลง มาร์ตินและผมต่างก็เป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์ ถึงแม้จะเป็นเขาแต่มันก็ยังมีผลกะรทบจากพลังเวทย์อยู่
สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำและต่ำสุด ล้มลงด้วยความหวาดกล้วต่างถูกเหยียบย่ำตายจากพวกเดียวกันเอง
ผมขยับข้อเท้าของผม ทุกครั้งที่ผมขยับขาไปตามพื้นพลังเวทย์ก็ออกมาล้อมจากร่างกายของผมมันเหมือนกับเป็นการต้อนรับผม การปกฏการนี้เกิดขึ้นเมื่อมีพลังเวทย์มากเกินไป
ผมมีพลังเวทย์สูงดังนั้น...เปลวเพลิงของไพน์ก็โตขึ้นและขยายใหญ่มากยิ่งขึ้นไปอีก ปีกของเปลวไฟได้กลืนกินสิ่งมีชีวิตรอบๆที่ถูกสัมผัส
มันอยู่ในรูปแบบสุดท้ายหลังจากปลดปล่อยพลังเวทย์ทั้งหมด แน่นอนว่าสายฟ้าพระเจ้าก้ได้รับผมกระทย
เปรี๊ยงงงง!
สายฟ้าพระเจ้าเป็นสายฟ้าอย่างแท้จริง มีสายฟ้ากระจายไปทุกที่ที่สายฟ้าพระเจ้าได้เคลื่อนที่ผ่าน หลายร้อยสายฟ้าที่ผ่าลงมาที่ศัตรูและเผ้าไหม้อย่างสิ้นซากและได้สร้างพายุฟ้าคะนองเกิดขึ้น.
สายฟ้าผ่าลงมาจากท้องฟ้าและเปลวไฟของไพน์ก็ลามเลียอยู่บนผืนดิน!
ผมคนเดียวที่ใช้พลังอำนาจทั้งสองอย่างนั้น
ตูมม!
ตัวแรกที่ผมเข้าหาคืออร์กี้สองหัว ผมกดลงด้วยพลังที่เหนือกว่าของผมและปิดกั้นกำปั้นได้เปลวไฟของไพน์ที่กำลังเผา1ในหัวของมัน
เคี๊ยกก!
เปลวไฟของไพน์จะไม่หยุดจนกว่าผมจะสั่งมัน มันได้ลุกลามไปตามลำตัวของออกี้สองหัวและกระจายออกไปตามตัว ผมได้แทง1ในหัวใจของมันด้วยวาธ
-พลังแห่งการปกครองถูกเรียกใช้.ออร์กี้สองหัวที่ได้เสียหัวใจ1ใน2ดวงจะปฎิบัติตาม รัลดาล บิกิเซล.
พลังจะค่อยๆบั่นทอนจิตใจฝ่ายตรงข้าม ตอนแรกมันอาจจะขัดขืน อย่างไรก็ตามมันจะไม่เป็นอันตรายต่อเจ้านายและจะเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ตามกาลเวลา |
ผมโชคดี.
นี่เป็นครั้งแรกที่มันแสดงอำนาจของมันออกมา
ผมหยุดเปลวไฟของไพน์ออกจากร่างกายของมัน และมันก็มองกลับมาด้วยอารณ์ที่ซับซ้อน
มันยังคงไม่เชื่อฟังผม แต่ร่างกายของมันแตกต่าง
“โจมตีคนที่เข้ามาทำร้ายฉัน.”
เมื่อได้รัยคำสั่งแล้วออกี้สองหัวเริ่มขยับทันที ใบหน้าของมันสับสน แต่กำปั้นของมันก็มุ่นไปยังสิ่งมีชีวิตใกล้เคียง
ปั๊ก! ปั๊ก!
ออคที่ถูกระดมโจมตีด้วยหมัด การโจมตีเพียงฝ่ายเดียวทำให้มันไม่สามารถทำอะไรได้
‘สนุก.’
มันเป็นความรู้สึกใหม่
มันดูเหมือนกับว่ามีหลายบสิ่งที่ถูกใช้งานนั้นมันขึ้นอยู่กับวิธิการ
ในการที่จะทำแบบนี้ผมจะต้องดึงดูดสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
มันเหมือนกับเป็นการเพลอดเพลินไปกับเบียร์ฟรี
วาธและดาบจักพรรดิเคลื่อนที่ไปพร้อมๆกัน เทคนิคดาบของมูนก็ขยายออกไปอย่างราบลื่น การเคลื่อนไหวของผมเหมือนกับเขาแต่มันมีการแสดงออกที่รุนแรงกว่า
ผมขัยบตัวเหมือนกับดวงจันทร์
ผมได้ปรับปรุงเทคนิคดาบของมูนมาเป็นแบบฉับบของผมเองแล้ว
เคร้งง!
สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาจากทุกทิศทางก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
แต่พวกมันก็ยังน่ารำคาญ ผมกระทืบเท้าลง เท้าของผมจมลงไปที่พื้นดินอย่างแน่หนาและแผ่นดินก็ระเบิดพลังเวทย์ออกมา
แผ่นดินได้พลิกขึ้นมาเป็นกำแพงดินและกั้นสิ่งมีชีวิต ผมทำแบบนี้สองครั้งและเพื่อความยาวของการป้องกัน สิ่งมีชีวิตได้โจมตีอย่างมีระเรียบมากขึ้น
ผมยิ้มแป้น อย่างไรก็ตามมันก็ร่าเริงมากกว่าปกติ
ไม่รู้สึกเป็นห่วง!
ถูกต้อง ตอนนี้ผมรู้สึกถึงการปลดปล่อย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้พลังจากร่างกายของผมอย่างเต็มที่หลังจากต่อสู้กับโอคูลอส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมก้าวเข้าไปในขอบเขตที่เหนือกว่า
ผมเคยจิตนาการถึงขอบเขตของมัน ผมสงสัยมากพอว่ามันจะมีอิสระขนาดไหน
ผมคิดถึงมันทุกวัน แต่ตอนนี้มันก็เริ่มเป็นจริงแล้ว
‘ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน.’
ฉันรู้สึกมั่นใจว่าทำได้ทุกอย่าง
ผมมีอำนาจแบบนั้น
ความจริงแล้วผมแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดไว้อีก
นี่คือพลังที่เหนือกว่า.
ผมตื่นเต้นกับตัวเอง
ผมไม่สามารถรู้สึกได้เลยว่ามาร์ตินจะมองผมอย่างไร
หน้าของเขาดำทะมึน แน่นหน้าออกและสีหน้าซีดๆ
ผมมีประสบการณ์แบบนี้ไม่กี่ครั้งในชีวิตที่แล้วของผม ส่วนใหญ่แล้วมันจะเกี่ยวกับแกร์นดยุค.
'ฉันจะชนะ.’
ก่อนที่จะเริ่ม ผมไม่แน่ใจนัก
อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว
เมื่อการต่อสู้นี้สิ้นสุดลง ผมจะเป็นผู้ชนะ!
ผมแสดงพลังของผมด้วยตวัดดาบไปทั่วทุกที่ ยิ่งผมโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตมากเท่าไรก็จะมีสิ่งมีชีวิตที่ล้มลงข้างๆผมมากเท่านั้น.
ความโกลาหลซ้อนทับกันและผมก็เข้าใกล้มาร์ตินขึ้นเรื่อยๆ
“แก....รัลดาล บิกิเซล!!”
มาร์ตินตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
มันไม่น่าเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลย
พลังเวทย์ขนาดนี้ การปรากฎตัวนี้...
อำนาจที่ครอบงำที่เขารู้สึกได้จากแกร์นดยุค!
พวกเขากลายเป็นคนอ่อนแอหลังจากที่พวกเขาข้ามมายังโลก พวกเขารีบฟื้นพลังของเขา แต่ไม่มีใครใครกำแพงนั้นไปได้.
แต่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาก็ปีนขึ้นไป ปีนกำแพงที่สูงกว่าใครทั้งหมด
ทำไมมาร์ตินถึงทำนายแบบนั้น?[น่าจะหมายถึงคนที่สมบูรณ์ไม่มีจริงนะครับ/ไรต์]
‘การทำนายของฉันเป็นความจริง บุคคลที่เยี่ยมยอดคือการดำรงตัวตนของเขาไม่มีจริง ความคาดหวังที่ฉันไม่สามารถมองเห็นได้...’
ถ้าเป็นไปได้รัลดาลจะเคลือนไหวพร้อมกับสิ่งมีชีวิตหลายชนิด
แต่การทำนายอานาคตของเขาไม่สามารถทำได้เมื่อเขาอยู่คนเดียว
รัลดาล บิกิเซล.
บอกตามตรงมาร์ตินไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมโอคูลอสและเอเรียลกังวลเกี่ยวกับตัวเขา แม้กระทั่งแพนเดอโมเนี่ยมก็จดจ้องอยู่กับเขา
แต้มทั้งหมดที่เขามียิ่งกว่าคนอื่นๆ มาร์ตินคิดว่าพลังของเขาไม่เท่าไรนัก
ไม่.เขาดูผิด. เขารู้สึกภูมิใจในสายตาของเขาที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้มากที่สุด.
ตอนนี้รัลดาลอยู่ข้างๆกองทัพของเขา เมื่อใดที่เขาเหวี่ยงดาบจะมีสิ่งมีชีวิตไปอยู่ข้าง.
มาร์ตินสั่งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ได้ฟังเขา
‘ไม่น่าเชื่อ.’
อำนาจเหนือยิ่งกว่าดันเจี้ยนมาสเตอร์!
เขาไม่เชื่อว่าจะมีดีม่อนที่ทรงพลังขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม...มันก็อยู่ตรงหน้าเขา นี่เป็นความจริง
มาร์ตินหงุดหงิด เขารู้สึกปวดท้อง เขาได้เดิมพันในครั้งนี้เพื่อพลังทำนายอนาคตอย่างสมบูรณ์ มันเพียงที่จะทำให้ดีม่อนที่ยอดเยี่ยมปรากฎขึ้นและหัวเราะเยาะโดยเขา.
เป็นไปได้ยังไง?
เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลย
เขาทำอย่างไรที่ทำให้ความแข็งแกร่งทะลุขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าความผิดพลาดของเขาจะไม่ถูกต้องขนาดไหน.
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังมองไม่เห็นจุดจบของเขาในมือรัลดาล
ดังนั้นเขายังไม่สามารถเชื่อได้
“แก...รัลดาลบิดิเซล!!”
เขาตะโกนอย่างหมดหวัง
แล้วการทำนายของเขาก็ถูกเรียกออกมา
มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ‘ฉันจะตายที่นี่!’
เขากัดฟันแน่น เขาไม่สามารถตายได้
"เปลี่ยนแปลงห้วงเวลา เวลาของคุณและฉันไหลต่างกันออกไป.”
สกิลที่แข็งแกร่งที่สุดของมาร์ติน ‘ห้วงกาลเวลา (Epic)’ ถูกเรียกใช้.
มันเป็นสกิลที่ส่งผลต่อสิ่งโดยรอบรักศมี3กม. บางคนอาจจะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ,เชื่องช้าหรือแม้แต่ไม่สามารถขยับได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดเป้าหมายโดยการใช้สกิลนี้ แต่มันเป็นเรื่องของอัตราการรอดจากการเดิมพัน.
แต่...
-’ห้วงกาลเวลา[Time Axis] (Epic)’ ถูกค้นพบโดย ‘มัทอาย.’
การป้องกัน 50%! ปกป้องเพิ่มขึ้น 13%! เนื่องจากความฉลาดและพลังเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามทำให้สกิล ‘ห้วงกาลเวลา’ เป็นโมฆะ |
“อะไร...?”
มันถูกยกเลิกทั้งหมด
สกิลนี้ที่เริ่มต้นไปแล้วมันยังสามารถถูกทำลายลงได้ด้วย?
แต่คนนั้นหัวเราะ
มันเปล่าประโยชน์สำหรับเขา
รัลดาลใกล้เข้ามาและใช้ดาบของเขา
มาร์ตินไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย?
มันสายเกิดไป
มาร์ตินใช้ไม้เท้าของเขา ภาพลวงตาถูกเรียกใช้กับคนตรงหน้า
-’เทคนิคลวงตา[Illusion Technique] (Epic)’ ถูกค้นพบโดย ‘มัทอาย’ |
“บ้าน่า...”
ทั้งหมดถูกป้องกัน
มันเป็นกรณีที่แย่ที่สุดในเวลานี้.
อำนาจแตกต่างกันเป็นอย่างมาก...
"ฉันไม่สามารถตายได้พลังทำนายของฉันจะต้องสมบูรณ์!”
มาร์ติดกัดฟันแน่น.
ผมแทงเขาด้วยวาธและดาบจักพรรดิ
มาร์ติดตายแล้ว ในเวลาเดียวกันสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเริ่มบ้าคลั่ง
ผมดึงสายตาทั้งสองออกมจากมาร์ติน
‘ฉันจะมอบเขาให้ปาการาม.'
ตาของเขาสามารถทำนายอนาคตได้ ผลที่ได้จะหายไปเนื่องจากการตายของมาร์ติน แต่ถ้าพวกเขาทั้งหมดได้รับการฟื้นฟูแล้วบางส่วนอาจจะสามารถใช้ได้ ตาจะเป็นวัสดุที่ดีที่สุดของโอมุนครูส
ผมเอาดวงตาของเขาใส่กระเป๋าเวทย์และปิดการใช้ไฟของไพน์ สายฟ้าพระเจ้ากลับมาหาผม
‘ตอนนี้ฉันต้องไปดูนักบุญแล้ว.’
ผมได้ทิ้งเธอไว้กลางทางตอนที่เธอกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ผมต้องยืนยันผล
ผมหันกลับไปมองรอบๆโดยไม่มีความกลัว ผมวิ่งไปหายังนักบุญ
คิมยูรานอนอยู่บนพื้น
ร่างกายของเธอฟื้นฟูขึ้นมาขณะที่พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอและของผมเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์
ผมรู้สึกไม่สบายใจ แต่มันก็สมดุลกัน.
'การประสานของนักบุญ.’
ผมหัวเราะในขณะที่ผมใช้มัทอายตรวจสอบหน้าต่างสถานะของเธอ
ในช่องอาชีพมันมีอยู่ ‘การประสานนักบุญ.’
ผมได้คาดหวังบางอย่างเหมือยกับ ‘ทุจริต’ แต่ผลที่ได้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง.
อาจเป็นเพราะพลังเวทย์ของผมบริสุทธิ์
‘สัญญาได้เกิดขึ้น ตอนนี้คุณเป็นของฉันแล้ว.'
อย่างไรก็ตามผมได้รับนักบุญ มันไม่ใช่รายรับที่ไม่ดี.
ผมหิ้วคิมยูราไว้และแบกคิมมินจีไว้บนบ่า และ...ผมกลับไปที่ดันเจี้ยน นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของผม ผมรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย
‘ฉันจะออกมาทำความสะอาดทั้งหมดนี้รวมทั้งยิฮิ.’