ตอนที่แล้วChapter 183: Half Awakening (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 185: Half Awakening (3)

Chapter 184: Half Awakening (2)


Chapter 184: Half Awakening (2)


“เธอกำลังอเวค.”

พลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาล.

ผิวหนังได้หลุดร่อนออกมา

ผมได้เฝ้าติดตามคิมยูราในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอคือนักบุญ

และในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้น

สิ่งมีชีวิตรอบข้างไม่สามารถทนต่อแสงและถูกทำลายได้ ในความเป็นจริงแวมไพร์ก็ถูกทำลายโดยแสงนั่น.

แม่แต่ผิวหนังที่เย็นเฉียบของผมก็ยังรู้สึกแสบไปหมด.

‘แต่มันก็แค่เป็นการปลุกพลังได้ครึ่งเดียว’

ผมค่อยๆเดินไปหาเธอ

นักบุญยังอยู่ในสถาพที่แย่มาก เธอตื่นขึ้นจากความเกลียดชังของเธอต่อโลกใบนี้?

อย่างไรก็ตามร่างกายของเธอก็แผ่ออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมารอบๆร่างกายของเธอ

เธอจะกำลังจะทำลายตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้.

ผมเรียกมันว่าปลุกพลังครึ่งเดียว.

เพื่อที่จะหยุดความวุ่นวายนี้ ผมจำเป็นต้องลบอารมณ์ที่กำลังปะทุอย่างที่สุดนี้ก่อน

ดังนั้น...ผมจึงเข้าไปหาเธออย่างเงียบๆ

“คุณต้องการจะช่วยเธอไหม?”

ผมกำลังมองไปที่น้องสาวของคิมยูรา

คิมยูราไม่ได้ตอบ ไม่ เธอไม่สามารถตอบได้ แต่ผมสามารถเห็นการแสดงออกในสายตาของเธอ เธอสงสัยเกี่ยวกับการปรากฎตัวของผม ตั้งแต่ที่ผมกรากฎตัวออกมา.

"ถ้าคุณตอบช้าเกินไปจะไม่สามารถช่วยเธอได้ เหลือเวลาอีก 20 วินาที.”

ผมบอกเธอไปตามความจริง จริงๆแล้วคิมมินจีเพิ่งจะหยุดหายใจ ยังคงเหลือออกซิเจนในร่างกายของเธอพอที่จะช่วยเธอ แน่นอนว่าเธอจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็สามารถช่วยชีวิตเธอได้.

“อ่า...อ่า...”

คิมยูราตอบกลับและพยักหน้า

"ถ้าผมช่วยน้องสาวคุณ คุณจะให้อะไรผม?”

ธรรมชาติของผมไม่ได้ให้การช่วยเหลือฟรี ผมไม่ใจดีพอที่จะให้อะไรบางอย่างออกไปอย่างไร้ความหมาย

ผมเป็นดีม่อนและผมก็ต้องการสัญญาอย่างเคร่งครัด

ไม่ใช่สถานการณ์ปกติดังนั้นสัญญาอาจจะไม่ดีเท่าไรนัก.

ไม่มีทางเลือกเพราะเวลากะชั้นชิด มีสิ่งเดียวที่คิมยูราให้ผมได้

'ฉันจะเป็นเจ้าของเธออย่างสมบูรณ์.’

คิมยูาราดูเหมือนพยายามจะพูด ดวงตาของเธอมีแต่ความปรารถณาที่จะช่วยน้องสาวของเธอ.

ในชีวิตที่แล้วคิมยูราไม่ได้ถูกปลุกมาครึ่งเดียว

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ การบุกรุกจากมาร์ตินเกิดขึ้นจากผม เดิมทีจะไม่เกิดอะไรแบบนี้

ในชีวิตที่แล้วคิมยูราได้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์และได้กลายเป็นนักบุญที่สังหารหมู่ดีม่อนและสิ่งมีชีวิต แม้ว่าชื่อของเธอจะไม่ได้รู้จักมากมายนัก แต่มันก็ยังมีน้ำหนักอยู่บ้างด้วยชื่อของนักบุญ

ผมไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เธอยังคงมีคุณธรรมเหลืออยู่ ผมก็เพียงแค่จะต้องช่วยน้องสาวของเธอก็เท่านั้น.

ผมหยิบขวดออกมาจากกระเป๋าเวทย์มนตร์ของผม

‘เดินสิ่งนี้ถูกสร้างเพื่อผลิตโฮมุนครูส.’

ผมยักไหล่ มันเป็นของที่ถูกสร้างโดยปาการาม เป็นผลจาการซื้อวัสดุราคาแพงส่วมผสมจากต้นไม้ดั้งเดิมและมูลค่าของการทำงานอย่างต่อเนื่องถึง6เดือน(การหมักนั่นแหละ/ไรต์)

มันดีกว่าอิลิคเซอร์ ยานี้แท้จริงแล้วสามารถคืนชีพได้ มันจะไม่ทำงานหากร่างต้นมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่มันก็เพียงพอกับมนุษย์.

ทั้งหมดมีแค่สองขวดและผมมีหนึ่งในนั้น ผมได้ผสมเลือดของผมเข้ากับยานี้

ยาที่ผสมกับเลือดของผมได้กลายเป็นสีดำ

ผมเปิดขวดและใส่ให้เธอครึ่งนึง ยาที่ไหนเข้าไปในร่างกายของคิมมินจีเริ่มที่จะฟื้นฟูสภาพของเธอ ในกรณีที่ร่างกายส่วนร่างของเธอได้ขาดผมสามารถทำให้มันงอกออกมาได้ แต่ผมจะไม่ทำเพราะมันจะต้องใช้ยาทั้งหมด.

อีกครึ่งเป็นของคิมยูรา

เลือดได้ไหลกลับไปยังใบหน้าที่ซีดเซียวของคิมมินจีให้มีชีวิตชีวามากขึ้น

คิมมินจีเปิดดวงตาของเธอด้วยความรู้สึกที่งงงวย

“อันนิ...?”

"อ่า...!"

คิมยูราเหยียดมือออกและกอดเธอไว้ ทั้งน้ำตาที่แห้งขอดของเธอ แต่เธอก็ยังต้องการแสดงความขอบคุณ.

"ดื่ม."

ผมส่งอีกขวดที่เหลืออีกครึ่งให้เธอ

คิมยูราลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ดังนั้นผมจึงพูดกระตุ้น.

"มันจะฟื้นฟูร่างกายของคุณ”

ออร่าที่ร่องลอยออกจากร่างของเธอยังคงอยู่ ผิวที่ถูกเผาไหม้ของเธอเป็นส่วนที่แสดงออกมามากที่สุดเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะตายในไม่ช้า

ปัญหาคือผลข้างเคียงจากการผสมเลือดของผม...

'สัญญาเป็นสิ่งจำเป็น นั่นคือการให้เธอดื่มเลือดของฉัน.’

ผมคิดว่าจะใช้น้องสาวของเธอเป็นตัวประกัน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ย้ายข้าง100% สัญญาจำเป็นสำหรับเธอที่จะช่วยผมโดยสมัครใจ ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

อย่างไรก็ตามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธออาจจะต่อต้านพลังของดีม่อน ไม่ มันมีความเป็นไปได้สูง

ผมยังคงสังเกตของการปลุกพลังมาได้ครึ่งเดียว.

พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์ของเธอกำลังกลืนกินร่างกายของเธอ เลือดของผมอาจจะทำให้มันกลายเป็นกลาง มันเป็นการเดิมพัน 50:50

นักบุญอยู่ในมือผมแล้ว ตราบใดที่มาร์ตินไม่ได้รับเธอมันก็จะไม่สูญเสียมากหากเธอตาย ทั้งสองอย่างไม่ว่าจะเป็นป่าที่เป็น 'สัญญาณ' และมาร์ตินกำลังจะมุ่งหน้ามาที่นี่ เขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากนักดังนั้นฉันจะดูแลเขาก็ไม่ได้เป็นปัญหา

อึก!

คิมยูราหยิบขวดออกมาดื่มโดยไม่ลังเล เธอเห็นน้องสาวของเธอรอดจากความคายดังนั้นเธอจึงคิดว่ายารักษาได้

อน่างไรก็ตาม...

“อ๊าาาค!”

“อะ-อันนิ? ไม่!”

มีผลทันทีที่เธอกลืนมัน.

ร่างกายของเธอบิดไปมาและพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอและพลังดีม่อนของผมกำลังหมุนวนในร่างกายของเธอ

'มันต่อสู้กัน.’

ผมกอดอกมองดูฉากนั้น.

อย่างที่คาดไว้เนื่องจากพลังของเธอมีเพียงครึ่งเดียว พลังเวทย์ของผมได้ทะลุไปยังที่ว่าเหล่านั้นและการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น

“อ๊าาาาค!”

คิมยูรากรีดร้องลั่นและสั่น การต่อสู้กันระหว่างพลังศักดิ์สิทธิ์และดีม่อนอยู่ในร่างกายของเธอ ร่างกายของเธอค่อยฟื้นฟูตัวเอง แผลเป็นต่างๆหายไปและเส้นประสาทด้านร่างนับจากเอวลงมาเริ่มฟื้นตัวและท่าทางที่บิดเบี่ยวของเธอก็ถูกแกไขเรียบร้อย.

"ผืม..."

ผมจับไปที่กราม.

ผมอยากจะสังเกตกระบวนการนี้แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็มาแล้ว

‘มาร์ติน เขาตรงมาทางนี้!’

ผมเริ่มหัวเราะ

ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร

ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เข้ามาใกล้

มันเป็นมาร์ตินอย่างไม่ต้องสงสัย

‘เขาวิตก.’

สิ่งมีชีวิตออกจากดันเจี้ยนและขวางกั้นไม่ให้เขาเข้าไปในป่า ในสุดท้ายมาร์ตินก็พบว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะดึงดาบซึ่งเป็นสัญญาณของนักบุญที่ปรากฎขึ้น

ผมคิดกับตัวเอง

ถ้าผมพลาดโอกาศนี้มันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก!

ผมเคลื่อนไหวโดยตรง

‘ฉันไม่สามารถปล่อยเขาได้.’

จนถึงตอนนี้มาร์ติยได้ซ่อนตัวอยู่ที่ห่างไกล ตอนนี้มาร์ตินโผล่ออกมาและไม่มีเหตุผลที่จะจับเขาไม่ได้.

ผมคิดเล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนไหว

ผมไม่สามารถรีบร้อนได้ขึ้นอยู่กับความต้องการเหล่านั้นเป็นพื้นฐาน

ความอดทดอาจจะเป็นบาป

ผมซ่อนร่องรอยของผมและหายตัวไป

เสาแสงปกคลุมท้องฟ้า

มาร์ตินคิดได้ทันทีว่านักบุญได้ปรากฎออกมา ทันทีที่เห็นมัน.

มันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เขาได้ทำนายเอาไว้

เขาได้สูญเสียแวมไพร์เป็นจำนวนมาก แต่มันจะไม่เสียหายหากเขาได้นักบุญ

"ฉันต้องไปที่นั่นโดยตรง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตามฉันมา!”

เขามีสิ่งมีชีวิตกว่า30,000ตัวติดตามเขามาที่เกาหลีใต้

จากตอนแรกที่เขามีสิ่งมีชีวิต. กว่า 20,000 ตัวและมันได้ตายไปหมดแล้ว

การ์กอยที่อาศัยความมืดบนท้องฟ้า นอกจากนนี้ยังมีไวเวิร์นและราชาไวเวิร์น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนพื้นดินเริ่มสั่นสะท้าน

ปลายทางของพวกเขาคือเสาแสงที่ปรากฎตรงนั้น

'ฉันไม่สามารถปล่อยเธอได้ในเวลานี้ ฉันต้องได้นักบุญ.’

เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าของดันเจี้ยนในเกาหลีใต้ มันน่าสงสารแต่จำนวนและคุณภาพของมาร์ตินด้อยกว่า กองกำลังที่มารวมตัวกันแล้วยังไง? มีกองทัพที่ใหญ่กว่าตามมาอีก

บางที....แพนเดอโมเนี่ยมได้พูดถูกเกี่ยวกับรัลดาล บิกิเซล เขาไม่แน่นอน บุคคลที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ไม่ต้องห่วงรัลดาล บิกิเซล.

อย่างไรก็ตามเป้าหมายของมาร์ตินคือนักบุญ ตราบใดที่เขาสามารถกลับดันเจี้ยนของเขาได้อย่างปลอดภัยเขาก็มั่นใจว่าจะหยุดยั้งศัตรูที่แข็งแกร่งได้

เขาต้องผ่ายสถานการณ์นี้ไปอย่างปลอดภัย

"สะ-สิ่งมีชีวิต...!”

“ช่วยด้วย!”

สิ่งมีชีวิตได้เคลื่อนที่ไปทั้งท้องฟ้าและผืนดิน มันเหมือนกับภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้ จำนวนมนุษย์ที่ย้ายไปอยู่ตรงศูนย์กลางก็ได้ถูกกวาดล้างโดยสิ่งมีชีวิตไม่มีแม้กระทั่งกระดูกเหลืออยู่ในพื้นที่ๆสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ผ่าน

มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและมนุษย์ก็ไม่สามารถรับมือได้ สิ่งที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งและอเวคบางส่วนเท่านั้น

‘การรอของฉันจบลงแล้ว ฉันจะเอานักบุญไปและพลังอำนาจของฉันก็จะสมบูรณ์.’

ความคิดที่สมบูรณ์!

ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร

มาร์ตินเชื่อว่าการคงอยู่ที่สมบูรณ์แบบไม่มีจริง ข้อมูลคืออำนาจและความรอบครอบของเขาสามารถอ่านจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามของเขาได้ แม้กระทั่งความแข็งแกร่งก็ยังคงมีจุดอ่อนเหมือนกัน พวกเขาจะล้มลงให้กับมาร์ตินในไม่ช้า.

นั่นคือเหตุผลที่เขายอมรับความเสี่ยงในครั้งนี้

แม้ว่าตอนนี้จะมีสัญญาณเตือนอ่อนๆก็ตาม. คำว่า ‘อันตราย’ได้ผ่านเข้ามาในความคิดของเขา อย่างไรก็ตามเขาได้มายังที่นี่ด้วยเหตุผลนี้.

“นั่น...?”

มันเกิดขึ้นเมื่อเขาเกือบจะมายังจุดหมายปลายทางของเขา

มาร์ตินขมวดคิ้วและมองขึ้นไปยังสิ่งที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

มันช่างคุ้นเคย เขาได้เห็นมาแล้วสอง-สามครั้งในโรงประมูลโลกปีศาจ

พลังเวทย์ที่ล้นปรี่ มันแปลกที่เขาไม่สามารถสังเกตเห็นได้ก่อนหน้านี้

“รัลดาล บิกิเซล!!”

มาร์ตินกู่ร้องด้วยความตกใจ.

จริง!

มันเป็นดันเจี้ยนของเขาจริงๆ!

แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นั่นหมายความเขาอยู่คนเดียว

เขาหันตัวกลับไป.

“ฆ่าเขา!ตัดเนื้อ ถึ้งหนังหรือปม้แต่แยกร่างเขา!”

สิ่งมีชีวิตกว่า30,000ตัวได้วิ่งเข้าไปข้างหน้าหารัลดาล บิกิเซล


0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด