Chapter 184: Half Awakening (2)
Chapter 184: Half Awakening (2)
“เธอกำลังอเวค.”
พลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาล.
ผิวหนังได้หลุดร่อนออกมา
ผมได้เฝ้าติดตามคิมยูราในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอคือนักบุญ
และในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้น
สิ่งมีชีวิตรอบข้างไม่สามารถทนต่อแสงและถูกทำลายได้ ในความเป็นจริงแวมไพร์ก็ถูกทำลายโดยแสงนั่น.
แม่แต่ผิวหนังที่เย็นเฉียบของผมก็ยังรู้สึกแสบไปหมด.
‘แต่มันก็แค่เป็นการปลุกพลังได้ครึ่งเดียว’
ผมค่อยๆเดินไปหาเธอ
นักบุญยังอยู่ในสถาพที่แย่มาก เธอตื่นขึ้นจากความเกลียดชังของเธอต่อโลกใบนี้?
อย่างไรก็ตามร่างกายของเธอก็แผ่ออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมารอบๆร่างกายของเธอ
เธอจะกำลังจะทำลายตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้.
ผมเรียกมันว่าปลุกพลังครึ่งเดียว.
เพื่อที่จะหยุดความวุ่นวายนี้ ผมจำเป็นต้องลบอารมณ์ที่กำลังปะทุอย่างที่สุดนี้ก่อน
ดังนั้น...ผมจึงเข้าไปหาเธออย่างเงียบๆ
“คุณต้องการจะช่วยเธอไหม?”
ผมกำลังมองไปที่น้องสาวของคิมยูรา
คิมยูราไม่ได้ตอบ ไม่ เธอไม่สามารถตอบได้ แต่ผมสามารถเห็นการแสดงออกในสายตาของเธอ เธอสงสัยเกี่ยวกับการปรากฎตัวของผม ตั้งแต่ที่ผมกรากฎตัวออกมา.
"ถ้าคุณตอบช้าเกินไปจะไม่สามารถช่วยเธอได้ เหลือเวลาอีก 20 วินาที.”
ผมบอกเธอไปตามความจริง จริงๆแล้วคิมมินจีเพิ่งจะหยุดหายใจ ยังคงเหลือออกซิเจนในร่างกายของเธอพอที่จะช่วยเธอ แน่นอนว่าเธอจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็สามารถช่วยชีวิตเธอได้.
“อ่า...อ่า...”
คิมยูราตอบกลับและพยักหน้า
"ถ้าผมช่วยน้องสาวคุณ คุณจะให้อะไรผม?”
ธรรมชาติของผมไม่ได้ให้การช่วยเหลือฟรี ผมไม่ใจดีพอที่จะให้อะไรบางอย่างออกไปอย่างไร้ความหมาย
ผมเป็นดีม่อนและผมก็ต้องการสัญญาอย่างเคร่งครัด
ไม่ใช่สถานการณ์ปกติดังนั้นสัญญาอาจจะไม่ดีเท่าไรนัก.
ไม่มีทางเลือกเพราะเวลากะชั้นชิด มีสิ่งเดียวที่คิมยูราให้ผมได้
'ฉันจะเป็นเจ้าของเธออย่างสมบูรณ์.’
คิมยูาราดูเหมือนพยายามจะพูด ดวงตาของเธอมีแต่ความปรารถณาที่จะช่วยน้องสาวของเธอ.
ในชีวิตที่แล้วคิมยูราไม่ได้ถูกปลุกมาครึ่งเดียว
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ การบุกรุกจากมาร์ตินเกิดขึ้นจากผม เดิมทีจะไม่เกิดอะไรแบบนี้
ในชีวิตที่แล้วคิมยูราได้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์และได้กลายเป็นนักบุญที่สังหารหมู่ดีม่อนและสิ่งมีชีวิต แม้ว่าชื่อของเธอจะไม่ได้รู้จักมากมายนัก แต่มันก็ยังมีน้ำหนักอยู่บ้างด้วยชื่อของนักบุญ
ผมไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เธอยังคงมีคุณธรรมเหลืออยู่ ผมก็เพียงแค่จะต้องช่วยน้องสาวของเธอก็เท่านั้น.
ผมหยิบขวดออกมาจากกระเป๋าเวทย์มนตร์ของผม
‘เดินสิ่งนี้ถูกสร้างเพื่อผลิตโฮมุนครูส.’
ผมยักไหล่ มันเป็นของที่ถูกสร้างโดยปาการาม เป็นผลจาการซื้อวัสดุราคาแพงส่วมผสมจากต้นไม้ดั้งเดิมและมูลค่าของการทำงานอย่างต่อเนื่องถึง6เดือน(การหมักนั่นแหละ/ไรต์)
มันดีกว่าอิลิคเซอร์ ยานี้แท้จริงแล้วสามารถคืนชีพได้ มันจะไม่ทำงานหากร่างต้นมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่มันก็เพียงพอกับมนุษย์.
ทั้งหมดมีแค่สองขวดและผมมีหนึ่งในนั้น ผมได้ผสมเลือดของผมเข้ากับยานี้
ยาที่ผสมกับเลือดของผมได้กลายเป็นสีดำ
ผมเปิดขวดและใส่ให้เธอครึ่งนึง ยาที่ไหนเข้าไปในร่างกายของคิมมินจีเริ่มที่จะฟื้นฟูสภาพของเธอ ในกรณีที่ร่างกายส่วนร่างของเธอได้ขาดผมสามารถทำให้มันงอกออกมาได้ แต่ผมจะไม่ทำเพราะมันจะต้องใช้ยาทั้งหมด.
อีกครึ่งเป็นของคิมยูรา
เลือดได้ไหลกลับไปยังใบหน้าที่ซีดเซียวของคิมมินจีให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
คิมมินจีเปิดดวงตาของเธอด้วยความรู้สึกที่งงงวย
“อันนิ...?”
"อ่า...!"
คิมยูราเหยียดมือออกและกอดเธอไว้ ทั้งน้ำตาที่แห้งขอดของเธอ แต่เธอก็ยังต้องการแสดงความขอบคุณ.
"ดื่ม."
ผมส่งอีกขวดที่เหลืออีกครึ่งให้เธอ
คิมยูราลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ดังนั้นผมจึงพูดกระตุ้น.
"มันจะฟื้นฟูร่างกายของคุณ”
ออร่าที่ร่องลอยออกจากร่างของเธอยังคงอยู่ ผิวที่ถูกเผาไหม้ของเธอเป็นส่วนที่แสดงออกมามากที่สุดเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะตายในไม่ช้า
ปัญหาคือผลข้างเคียงจากการผสมเลือดของผม...
'สัญญาเป็นสิ่งจำเป็น นั่นคือการให้เธอดื่มเลือดของฉัน.’
ผมคิดว่าจะใช้น้องสาวของเธอเป็นตัวประกัน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ย้ายข้าง100% สัญญาจำเป็นสำหรับเธอที่จะช่วยผมโดยสมัครใจ ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธออาจจะต่อต้านพลังของดีม่อน ไม่ มันมีความเป็นไปได้สูง
ผมยังคงสังเกตของการปลุกพลังมาได้ครึ่งเดียว.
พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์ของเธอกำลังกลืนกินร่างกายของเธอ เลือดของผมอาจจะทำให้มันกลายเป็นกลาง มันเป็นการเดิมพัน 50:50
นักบุญอยู่ในมือผมแล้ว ตราบใดที่มาร์ตินไม่ได้รับเธอมันก็จะไม่สูญเสียมากหากเธอตาย ทั้งสองอย่างไม่ว่าจะเป็นป่าที่เป็น 'สัญญาณ' และมาร์ตินกำลังจะมุ่งหน้ามาที่นี่ เขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากนักดังนั้นฉันจะดูแลเขาก็ไม่ได้เป็นปัญหา
อึก!
คิมยูราหยิบขวดออกมาดื่มโดยไม่ลังเล เธอเห็นน้องสาวของเธอรอดจากความคายดังนั้นเธอจึงคิดว่ายารักษาได้
อน่างไรก็ตาม...
“อ๊าาาค!”
“อะ-อันนิ? ไม่!”
มีผลทันทีที่เธอกลืนมัน.
ร่างกายของเธอบิดไปมาและพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอและพลังดีม่อนของผมกำลังหมุนวนในร่างกายของเธอ
'มันต่อสู้กัน.’
ผมกอดอกมองดูฉากนั้น.
อย่างที่คาดไว้เนื่องจากพลังของเธอมีเพียงครึ่งเดียว พลังเวทย์ของผมได้ทะลุไปยังที่ว่าเหล่านั้นและการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น
“อ๊าาาาค!”
คิมยูรากรีดร้องลั่นและสั่น การต่อสู้กันระหว่างพลังศักดิ์สิทธิ์และดีม่อนอยู่ในร่างกายของเธอ ร่างกายของเธอค่อยฟื้นฟูตัวเอง แผลเป็นต่างๆหายไปและเส้นประสาทด้านร่างนับจากเอวลงมาเริ่มฟื้นตัวและท่าทางที่บิดเบี่ยวของเธอก็ถูกแกไขเรียบร้อย.
"ผืม..."
ผมจับไปที่กราม.
ผมอยากจะสังเกตกระบวนการนี้แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็มาแล้ว
‘มาร์ติน เขาตรงมาทางนี้!’
ผมเริ่มหัวเราะ
ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร
ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เข้ามาใกล้
มันเป็นมาร์ตินอย่างไม่ต้องสงสัย
‘เขาวิตก.’
สิ่งมีชีวิตออกจากดันเจี้ยนและขวางกั้นไม่ให้เขาเข้าไปในป่า ในสุดท้ายมาร์ตินก็พบว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่เขาจะดึงดาบซึ่งเป็นสัญญาณของนักบุญที่ปรากฎขึ้น
ผมคิดกับตัวเอง
ถ้าผมพลาดโอกาศนี้มันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก!
ผมเคลื่อนไหวโดยตรง
‘ฉันไม่สามารถปล่อยเขาได้.’
จนถึงตอนนี้มาร์ติยได้ซ่อนตัวอยู่ที่ห่างไกล ตอนนี้มาร์ตินโผล่ออกมาและไม่มีเหตุผลที่จะจับเขาไม่ได้.
ผมคิดเล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนไหว
ผมไม่สามารถรีบร้อนได้ขึ้นอยู่กับความต้องการเหล่านั้นเป็นพื้นฐาน
ความอดทดอาจจะเป็นบาป
ผมซ่อนร่องรอยของผมและหายตัวไป
เสาแสงปกคลุมท้องฟ้า
มาร์ตินคิดได้ทันทีว่านักบุญได้ปรากฎออกมา ทันทีที่เห็นมัน.
มันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เขาได้ทำนายเอาไว้
เขาได้สูญเสียแวมไพร์เป็นจำนวนมาก แต่มันจะไม่เสียหายหากเขาได้นักบุญ
"ฉันต้องไปที่นั่นโดยตรง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตามฉันมา!”
เขามีสิ่งมีชีวิตกว่า30,000ตัวติดตามเขามาที่เกาหลีใต้
จากตอนแรกที่เขามีสิ่งมีชีวิต. กว่า 20,000 ตัวและมันได้ตายไปหมดแล้ว
การ์กอยที่อาศัยความมืดบนท้องฟ้า นอกจากนนี้ยังมีไวเวิร์นและราชาไวเวิร์น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนพื้นดินเริ่มสั่นสะท้าน
ปลายทางของพวกเขาคือเสาแสงที่ปรากฎตรงนั้น
'ฉันไม่สามารถปล่อยเธอได้ในเวลานี้ ฉันต้องได้นักบุญ.’
เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าของดันเจี้ยนในเกาหลีใต้ มันน่าสงสารแต่จำนวนและคุณภาพของมาร์ตินด้อยกว่า กองกำลังที่มารวมตัวกันแล้วยังไง? มีกองทัพที่ใหญ่กว่าตามมาอีก
บางที....แพนเดอโมเนี่ยมได้พูดถูกเกี่ยวกับรัลดาล บิกิเซล เขาไม่แน่นอน บุคคลที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ไม่ต้องห่วงรัลดาล บิกิเซล.
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของมาร์ตินคือนักบุญ ตราบใดที่เขาสามารถกลับดันเจี้ยนของเขาได้อย่างปลอดภัยเขาก็มั่นใจว่าจะหยุดยั้งศัตรูที่แข็งแกร่งได้
เขาต้องผ่ายสถานการณ์นี้ไปอย่างปลอดภัย
"สะ-สิ่งมีชีวิต...!”
“ช่วยด้วย!”
สิ่งมีชีวิตได้เคลื่อนที่ไปทั้งท้องฟ้าและผืนดิน มันเหมือนกับภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้ จำนวนมนุษย์ที่ย้ายไปอยู่ตรงศูนย์กลางก็ได้ถูกกวาดล้างโดยสิ่งมีชีวิตไม่มีแม้กระทั่งกระดูกเหลืออยู่ในพื้นที่ๆสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ผ่าน
มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและมนุษย์ก็ไม่สามารถรับมือได้ สิ่งที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งและอเวคบางส่วนเท่านั้น
‘การรอของฉันจบลงแล้ว ฉันจะเอานักบุญไปและพลังอำนาจของฉันก็จะสมบูรณ์.’
ความคิดที่สมบูรณ์!
ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร
มาร์ตินเชื่อว่าการคงอยู่ที่สมบูรณ์แบบไม่มีจริง ข้อมูลคืออำนาจและความรอบครอบของเขาสามารถอ่านจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามของเขาได้ แม้กระทั่งความแข็งแกร่งก็ยังคงมีจุดอ่อนเหมือนกัน พวกเขาจะล้มลงให้กับมาร์ตินในไม่ช้า.
นั่นคือเหตุผลที่เขายอมรับความเสี่ยงในครั้งนี้
แม้ว่าตอนนี้จะมีสัญญาณเตือนอ่อนๆก็ตาม. คำว่า ‘อันตราย’ได้ผ่านเข้ามาในความคิดของเขา อย่างไรก็ตามเขาได้มายังที่นี่ด้วยเหตุผลนี้.
“นั่น...?”
มันเกิดขึ้นเมื่อเขาเกือบจะมายังจุดหมายปลายทางของเขา
มาร์ตินขมวดคิ้วและมองขึ้นไปยังสิ่งที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
มันช่างคุ้นเคย เขาได้เห็นมาแล้วสอง-สามครั้งในโรงประมูลโลกปีศาจ
พลังเวทย์ที่ล้นปรี่ มันแปลกที่เขาไม่สามารถสังเกตเห็นได้ก่อนหน้านี้
“รัลดาล บิกิเซล!!”
มาร์ตินกู่ร้องด้วยความตกใจ.
จริง!
มันเป็นดันเจี้ยนของเขาจริงๆ!
แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นั่นหมายความเขาอยู่คนเดียว
เขาหันตัวกลับไป.
“ฆ่าเขา!ตัดเนื้อ ถึ้งหนังหรือปม้แต่แยกร่างเขา!”
สิ่งมีชีวิตกว่า30,000ตัวได้วิ่งเข้าไปข้างหน้าหารัลดาล บิกิเซล