Chapter 182: Saintess (4)
Chapter 182: Saintess (4)
แวทไพร์. จ้าวแห่งรัคติกาล.สิ่งมีชีวิตขั้นสูงเลเวล4.แม้ว่าจะมีความภูมิใจพวกเขาและมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่งของดันเจี้ยนมาสเตอร์อย่างช่วยไม่ได้.พวกเขาจะต้องเข้าโจมตีมนุษย์และสร้างซอมบี้โดยการฉีดเลือดของพวกเขาเข้าไปในร่างกาย.
การฉีดเซรุ่มของพวกมันสามารถให้กำเนิด ‘กึ่งแวมไพร์’ ได้ แต่มนุษย์จะต้องมีความเข้ากันด้วยเพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ.
หลังจากนั้น28วันซอมบี้ก็ได้หายไป แม่มันก็สามารถทำให้มนุษย์ตื่นตระหนกได้ คนที่พวกเขารู้จักกำลังโจมตีพวกเขาในฐานะซอมบี้ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องน่ากลัว พวกเขาต้องการจัดการแวมไพร์.
แวมไพร์ยังเป็นพวกความพยาบาทกำสิ่งที่กำลังเป็นอันตราย พวกเขาสั่งให้ซอมบี้โจมตีคนใกล้เคียงที่สุด
"ซึงมีนี่ฉัน. คุณไม่รู้จักอปป้าหรอ? ซึงมี! ได้โปรด!”
"แฮร่ๆๆ!"
ได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากกระท่อมหลังหนึ่ง พี่น้องและสมาชิกในครอบครัวหรือแม้แต่เพือน...ซอมบี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ซทำให้อเวคประสบปัญหา
การประชุมฉุกเฉินได้รับการแจ้งอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีทางออกที่เหมาะสม
ทุกคนต้องอยู่ห่างความมิดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทุกคนตื่นตระหนก เหล่าอเวคต้องจำกัดเวลาในการลาดตะเวน
เหนือสิ่งอื่นใดหากประชาชนหมกแรง ความเครียดของเขาระเบิดขึ้น คนอาจจะก่อกบฏ
ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พวกเขาไม่สามารถให้ความเสียหายเพิ่มมากขึ้นได้
กิลด์ฯ รวมกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์.
"เราระบุได้ว่ามันเป็นแวมไพร์ มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง.”
กิลด์มาสเตอร์และบุคคลหลักๆกำลังนั่งอยู่ร่วมกัน
อึนเฮออกมาและพูดสรุป
เธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในอเวคดังนั้นอึนเฮจึงมีบทบาทสำคัญมากที่สุดในการดำเนินการ
ท่าทางที่สวนงามและความอ่อนเยาว์ของเธอ เธอจึงเป็นที่ชื่อชอบมากในหมู่มนุษย์ แต่เธอใช้ดาบเวทย์สายฟ้า ถ้าให้พูดปกติเธอเป็นที่รู้จักในนามหญิงแกร่ง
มันคงเหมือนเดิมปกติ.
เธอไม่รู้สักกังวลเมื่อเธอกำลังอธิบายรูปแบบอย่างเป็นทางการ
"ก่อนอื่น...ดูแวมไพร์ที่ฉันจับได้ก่อน.”
แป๊ะ! อึนเฮปรบมือ ยองวูและแจฮีลากกรงเหล็กออกมา ยองวูที่ถูกใช้ในสถานะการณ์แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วน ความจริงจังภายในห้องเริ่มเข้มข้นขึ้น.
หมายคนประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่กำลังนอนอยู่เหมือนซากศพที่อยู่ภายในกรง
“นี่...”
"แวมไพร์?"
อึนเฮพยักหน้า
"ถูกต้อง.นี่เป็นแวมไพร์ที่จับได้ ฉันสามารถจับมันได้หลังจากการต่อสู้อย่างหนัก จริงๆแลัว...มันมีความเสียหายมากมาย เป็นเพราะแวมไพร์ตัวนี้ฉันถึงต้องเรียกพวกคุณมาที่นี่.”
อึนเฮขบฟันแน่น ที่เป็นแวมไพร์พันธุ์แท้ มีหลายร้อยอเวคที่ตาย.
พวกเขาต้องระมัดระวังในการสื่อสารให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับแวมไพร์
เฉพาะสมาชิกหลักของกิลด์เท่านั้นที่จะได้รัอนุญาติ
“ฮ่า!”
"มีเยี่ยมมาก."
แต่ประชาชนประหลาดใจกับผลลัพธ์.
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แวมไพร์ปรากฎตัว พวกเขาได้รับการกล่าวขานในหลายๆประเทศและได้ยืนยันว่ามันถูกต้อง มันน่าแปลกใจที่คนๆนึงสามารถจับมันเป็นๆได้
“เราถามว่าทำไมแวมไพร์ถึงเข้ามาโจมตีเกาหลรใต้และเปลี่ยนคนให้เป็นซอมบี้ หลังจากที่ทำให้ร่างกายของมันอ่อนแอ เราจึงสามารถสกัดตัวยารักษาและโรคต่างๆ.”
มันค่อนข้างเสี่ยง แต่มันก็ดีกว่าที่จะอธิบายตอนนี้เทียบกับภายหลัง ถ้าเธอพูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องระแวงด้านหลัง.
“ดูนี่ แวมไพร์มีขวดที่มีสารสีขาวเป็นจำนวนมาก.”
อึนเฮหยิบขวดเล็กๆออกมาและมียาสีขาวอยู่ข้างใน
“มันคืออะไร?”
อีนเฮตอบคำถามหัวหน้ากิลด์แพตตินั่ม
"มันเหมือนกับยาเสพติดร้ายแรงอะไรบางอย่าง ถ้ากินโดยคนปกติมันจะเป็นยาพิษร้ายแรง.”
“แตกต่างอย่างไร?”
"ก่อนหน้า...มีกี่อเวคได้หายตัวไป ตั้งแต่การโจมตีของสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น?”
"การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่รุนแรง.”
"ทุกคนคิดอย่างนั้น มันไม่ควรจะหาศพ แต่นั่นไม่ใช่”
อึนเฮสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูด
“พวกเขากำลังหานักบุญ ยานี้เป็นเครื่องมือตัดสินความศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าเสียดายที่เราพบว่า....ดีม่อนอยู่เบื้องหลังครั้งนี้”
“ดีม่อน...!”
“บ้าเอ้ย!พวกมันยังไม่ไปกันอีก?”
พวกเขาพึมพำตามปกติ.พวกเขาได้สัมผัสกับความชั่วร้ายของดีม่อน.พวกเขาคิดว่าพวกมันเสร็จสิ้นไปแล้วหลังจากที่ ‘ผู้ช่วยชีวิต’ดูแลพวกเขา แต่ตอนนี้ดีม่อนก็ได้ปรากฎขึ้นอีก.
พวกเขากอดตัวเองและร่างกายของเขาก็สั่นสพท้าน อเวคที่รวมตัวกันทั่งหมดที่นี่เป็นชนชั้นสูง
"สิ่งสำคัญของนักบุญ ดีม่อนกลัวการเกิดขี้นของนักบุญ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตกำลังเคลื่อนไหวหาเธอ.”
“จากนั้นเราต้องหานักบุญ.”
“ใช่.จะเป็นไปได้ถ้าเราจะใช้ยานี้.”
"แต่ยานั่นไม่ทำให้ตายหรอกหรอ?”
"นั่นสำหรับคนทั่วไป ฉันบอกแล้วว่ามันสำหรับนักบุญ.”
มีช่องว่างจากคำพูดของอึนเฮ
ทุกคนตระหนักได้
"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือนักบุญ? ไม่ เราไม่จำเป็นต้องใช้ยา.”
“คุณไม่คิดว่ามันแปลกหรือว่าเด็กของผู้ช่วยชีวิตและกิรินไม่ได้อยู่ที่นี่? บางกิลด์ยังหายไป.”
“......? พวกเขาอาจจะยุ่งมาก นอกจากนี้การรวมตัวของกิลด์ก็ยากที่จะร่วมกันได้ทั้งหมด.”
ไม่มีใครคิดว่ามันแปลก รอย,โรสและกิรินไม่ค่อยเข้ามาร่วมประชุม.
"ฉัน...สู่สวรรค์ได้รับการสงสัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกิลด์ที่ไม่ได้มาที่นี่ โดยเฉพาะรอย,โรสและคุณกิรินได้ใช้คนที่น่าเชื่อถือของพวกเขาในการค้นหาใครบางคน.”
"สัญญาณอันตราย คุณสงสัยหรือไม่?”
อย่างน้อยที่สุดเกาหลีใต้พวกเขาก็เป็นถึงเทพปกปักษ์ กิรินได้รับการยักย่องเหมือนกับเทพพระเจ้าในขณะที่โรสและรอยได้การต้อนรับเป็นพิเศษในฐานะเด็กของผู้ช่วยชีวิต
ในเหาหลีใต้ถ้าใครสงสัยเขาจะได้รับการถูกหมิ่นประมาณ
แต่อึนเฮไม่ลังเลที่จะพยักหน้า
“ฉันเชื่อว่าคนที่พวกเขากำลังมองหาคือ ‘นักบุษ’และพวกเขามีข้อมูลมากกว่าเรา พวกเขากำลังเคลื่อนไหวด้วยความมั่นใจ”
"งั้น...อะไรที่คุณจะสื่อกับเรื่องเหล่านี้?”
"ต้องมีการร่วมมือ เป็นเรื่องยากที่สู่สวรรค์ที่เดียวที่จะกดดันพวกเขา ฉันต้องการให้พวกเขาเปิดเผยข้อมูลนี้แก่เราหรือเราจะบอกต่อสาธารณะ”
“บ้าไปแล้ว.”
สรุปได้คำเดียวคือคำว่า บ้า
ไม่ใช่สถานะการณ์ที่สงบพวกเขาจึงไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเขาได้ ไม่จำเป็นต้องแบ่งอำนาจออกไป.
พวกเขาจะทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องเล็กน้อยและปล่อยให้มันผ่านไป
แม้ว่าคำพูของอึนเฮจะเป็นจริงแต่พวกเขาก็จะต้องปิดบังเอาไว้.
"ฉันไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องบ้าๆเหล่านี้ ฉันจะไม่ฟังอีกต่อไป.”
หัวหน้ากิลด์แพลตินั่มได้ลุกขึ้นพร้อมกับสมาชิกกิลด์ของเขา
ในเวลาเดียวกันประตูก็เปิดเผยให้เห็นอเวคจำนวนหนึ่ง
ทั้มหมดเป็นอเวคของสู่สวรรค์หรือคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
อึนเฮพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก.
"เฉพาะผู้ที่เห็นด้วยเท่านั้นที่จะออกจากที่นี่ได้ ผู้ที่ไม่เห็นด้วย...จะต้องถูกกักตัวไว้จนกว่าจะแก้ไขสถานกาณณ์ได้”
"คุณพยายามบังคับเรา?กิลด์สู่สวรรค์ได้บ้าไปแล้ว! ตัวตนที่แท้จริงของคุณได้ออกมาแล้วหลังจากที่คุณถูกจัดให้เป็นกิลด์ที่ยอดที่สุด! สงครามกำลังจะเกิด!”
"เราไม่กลัวสงคราม สิ่งที่เรากลัว...”
อึนเฮเงียบลงในขณะที่จะพูดต่อ
“ความเป็นไปได้ที่จะให้สิทธิแก่เราและไปตามเส้นทางที่ถูกต้อง.”
ผมกำลังเดินตามรอยมาร์ติน.
ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาจะโจมตีป่าหรือไม่
ในขณะเดียวกันมาร์ตินได้บุกรุกเข้าไปในป่าสองครั้ง.
'ความพยายามทั่งหมดล้มเหลว.’
แผนการที่ใช้หนอนในการขุดอุโมงค์ถือว่าเป็นเรื่องดี เขาเข้ามาใกล้ดาบและพยายามจะขู่เทวดา
อย่างไรก็ตามเทวดาได้บังคับให้เขากลับไปอุโมงค์และหลีกเลี่ยงความเสียหาย ตรงข้ามกับมาร์ตินที่เสียสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเขา
ความพยายามครั้งที่สองเป็นทางอากาศ เขาได้ส่งกลุ่มไวเวิร์นซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาก เทวดาไม่ได้บินขึ้นไปต่อสู้แต่พยายามหลบอยู่ในป่าและใช้การโจมตีจากระยะไกล เทวดาดูเหมือนยากจะสู่กับสิ่งมีชีวิตบรอากาศเนื่องจากพวกเขาก็มีปีก.
‘น่าสนใจมาก.’
สิ่งเหล่านี้ชี้ให้ผมเห็นประเด็น
ตอนนี้ผมอยู่ในป่า ผมซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆดาบศักดิ์สิทธ์และเฝ้าดู แม้แต่เทวดาก็ยังไม่รู้ว่าผมอยู่ตรงไหน.
อย่างไรก็ตาม...
“แอ๊อออ~”
แฮซ.
เขาแตกต่าง
เขาหาตำแหน่งของผมและเขามาหาผม
เทวดาที่เกิดมาไม่กี่สัปดาห์มาเกาะที่ไหล่ผม มีพลังงานจากพลังเวทย์หยินและเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านกัน แต่เขาก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก.
พลังภายในตัวเขาทั้งแข็งแรงและบริสุทธิ์.
“เพื่อนคนนี้ปิดปกติ.”
ปกติเทวดามักเกลียดดีม่อน ผมก็ไม่ได้แต่ต่างไปจากมันมาก เขาเพิ่งจะลงมือป้องกันอย่างหนักกับดีม่อนตนอื่น
ผมใช้มัทอาย
ชื่อ: แฮส [Hash] | |||
อาชีพ | เทวดาระสูง(เชอเรฟ)
[Cherub] |
ฉายา | * อำนาจแห่งเชอเรฟ (ตำนาน, All stats +7)
|
สถานะ | |||
Strength | 12(+7) | Intelligence | 35(+7) |
Agility | 20(+7) | Stamina | 12(+7) |
Magic Power | 44(+7) | ||
ศักยภาพ: (123+35/548)
เอกลักษณ์: เทวดาที่เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของเทวดาตกสวรรค์.มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำว่าเขาจะเติบโตแค่ไหนเนื่องจากการรวมตัวกันของพรจาราชาสวรรค์,พรดั้งเดิมและตัวแปรอื่นๆ สกิล: ศรแห่งแสงขนาดเล็ก (U) |
ดีม่อนมีศักยภาพในการเอาชนะขีดจำกัดได้เมื่อมันเกิด แล้วเทวดาระดับสูงหล่ะ? ผมไม่เข้าใคความแข็งแกร่งของสวรรค์.
อย่างไรก็ตาม...เมื่อมองไปที่เทวดามันทำให้รู้สึกว่าดีม่อนอ่อนแอกว่า
หลังจากที่เข้าถึงแก่นแท้ของดีม่อนด้วยสกิลทุจริตดูเหมือนว่าดีม่อนจะอ่อนแอกว่าในโดยรวม
‘โอคูลอสได้ตระหนักถึงมัน.’
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โอคูลอสร้องออกมาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
ถ้าเขารู้ว่าเขาอยู่ไกลเกินกว่าดีม่อนตนอื่น เขาอาจจะกลับไปคิดใหม่ เขาตายไปแล้ว แต่ผมเข้าใจเขาขึ้นอีกนิด.
“แอ๊ออ~”
แฮซยังเด็ก แต่เขาก็อยู่ไม่เป็นสุข เขาเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากเขาได้รับผลจากสภาวะแวดล้อม เขาไม่กลัว และมันยิ่งดีเข้าไปอีกที่เขาไม่ได้เป็นศัตรูของผม อย่างไรก็ตามสถานะของผมในฐานะดันเจี้ยนมาสเตอร์จะส่งผลต่อเซอเรฟ
ผมเพิ่งจะถูกชนไปที่หน้าผากโดยแฮซขณะที่ได้ยินอะไรบางอย่าง
-มาสเตอร์ของฉัน.
มันเป็นเสียงของคริสปี้
“เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะที่ผมดึงคริสตัลบอลออกมาเพื่อพูดคุยคริสปี้ได้ตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมาก.
-ฉันพบนักบุญแล้ว