ตอนที่แล้วChapter 174: Unique Dungeon (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 176: Quickening Period (2)

Chapter 175: Quickening Period (1)


Chapter 175: Quickening Period (1)

[TL Note]: Hey, a reader pointed out something in yesterday’s chapter. In order to confirm it, I double checked with the original raws and my copy of the raws that I use in the program that splits it into individual sentences. I’ve discovered that for some reason, the raws in this chapter were a little bit messed up, with some parts of certain sentences missing. I’ve doubled checked previous chapters and it only seems to be this chapter. Therefore, I’ve made some edits to the previous chapter, mainly at the end of it. Please go back and read the last part again about the dungeon floors. Thanks and I will be extra careful with the raws in the future.


'วงแหวนเวทย์ยังอยู่.’(เพื่อใครลืมมันเป็นวงแหวนที่เทเลพอตระหว่างชั้นของดันเจี้ยนที่ใช้ได้เฉพาะมาสเตอร์,แฟร์รี่หรือคนที่ถูกอณุญาติ)

ผมยังคงมองดูการผลานกันของพื้นที่และพบว่าวงแหวนเวทย์ยังอยู่.

นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มวงแหวนเวทย์ได้อีกเล็กน้อย.

มันจะไม่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวรอบๆกันเจี้ยน

"มันเป็นไปได้ไหม นายท่าน ยิฮิคิดว่ามันอาจจะมีปัญญาถ้าเราลดชั้นลงอย่างฉับพลัน.”

ผมแตะไปที่คาง.

คำพูดของยิฮิก็สมเหตุสมผล มันจะยากกับสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน แต่ผมตัดสินใจว่าจะไม่มีปัญหาใหญ่.

‘สิ่งมีชีวิตในดันเจี้ยนของฉันมีความแข็งแกร็ง พวกเขาจะดีกว่าเมื่อเทียบกับดันเจี้ยนอื่นๆและยังมีความปราถนาที่จะสร้างสังคมเป็นของตนเองเป็นอย่างมาก ความสามารถในการปรับตัวของพวกเขาสูงมาก.’

ผมไม่รู้ว่ามันเป็นที่การจัดระดับของดันเจี้ยนหรือว่าจากต้นไม้ดั้งเดิม แต่สิ่งมีชีวิตในดันเจี้ยนของผมเก่งแทบจะทุกอย่าง มันไม่มีเพียงพอที่จะทำให้เขามีอำนาจครอบงำ แต่มันก็แตกต่างอย่างชัดเจน.

ดังนั้น...ผมเชื่อมั่นว่ามันจะเป็นการกระตุ้นการ‘พัฒนาการ’

ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่จะทำ.

แม๊ก,รอย,โรสและคริสปี้กำลังดึงดูดความสนใจจากภายนอก ผมสามารภที่จะใช้เวลาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ปรับตัว.

‘การพัฒนาจะไม่เกิดหากไม่มีการกระตุ้น.'

ผมพยักหน้า ชั้นทั้งหมดจะรวมเข้าด้วยกัน ผมคิดในใจ.

เนื่องจากมีความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตที่กินสิ่งมีชีวิตด้วยกันจะสามารถเกิดสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าได้ ถ้าประสบความสำเร็จผมจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดทั้งหมดจากโรงประมูลโลกปีศาจ.

"ทำไม.”

“ฉันเข้าใจแล้วมาสเตอร์ ฉันควรจะเตือนพวกเขาหน่อยไหม?”

"นั่นก็ดี.”

“ยิฮิฮิฮิ. ค่าา~”

ผมไม่คิดว่าจะยินยอมรับคับแนะนำของยิฮิ(ปกติเธอไร้สาระครับ) มันไม่ควรจะเตือนพวกเขาเพื่อลดผลพวงที่ตามมา.

ขณะที่ยิฮิเคลื่อนตัวผงแป้งก็หล่นออกมาจากปีกของเธอ มันเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.ผงนั่น ‘ผสาน’ เข้ากับแสง.

‘เธออาจจะเป็นราชินีแฟร์รี่ได้’

มันเป็นปารกฎการณ์ที่ผมเคยอ่านจากวรรณคดีเกี่ยวกับราชาแฟร์รี่ สถานที่พวกเขาผ่านจะเกิดสิ่งมีชีวิตใหม่ออกมา.

ยิฮิยังไม่ถึงขนาดนั้น...แต่มันคงไม่นานที่เธอจะได้กลายเป็นราชินีแฟร์รี่.

ผู้ปกครองแฟร์รี่.

มันก็ผ่านไปหลายพันปีตั้งแต่ราชินีแฟร์รี่ได้ปรากฎตัว.

แฟร์รี่จะถูกบังคับในการเชิญไปสังสรรค์.

มันเป็นการเฉลิมฉลองของการได้ผู้ปกครองแฟร์รี่คนใหม่.

จะเกิดอะไรขึ้น..ถ้ายิฮิได้กลายเป็นราชินีแฟร์รี่ที่จะมาจากดันเจี้ยนที่เธอเลือก?

พวกเขาจะฉลองกับราชินีองค์ใหม่หรือไม่?จะไม่มีความจำเป็นในการทำสัญญากับดีม่อน แน่นอนว่าจะมีดี่คนที่จะต้องถูกบังคับให้ทำลายจิตวิญญาณของพวกเขา อย่างไรก็ตามแฟร์รี่ก็มีจิตใจที่แข็งแกร่งพอที่จะรักษาตัวตนได้.

ขึ้นอยู่กับทัศนคติของพวกเขา.

‘การทำลายล้างของจิตวิญญาณ.’

ชื่อของจักพรรดิเงาปรากฎขึ้นในหัวของผมอีกครั้ง ถ้าผมไม่รู้ว่าเขาเคยสาปแช่งดาร์กเอลฟ์ซิลลา ผมคงคิดว่าเขาตายแล้ว ไข่อีกเตอร์ใบแรกที่ผมได้รับเป็นหัวใจของเขาและข้อความก็ระบุว่าเขาถูกทำลายแล้วให้กับการพ่ายแพ้แก่ผม.

อย่างไรก็ตาม...ไม่มีร่องรอยของเขาในโลกปีศาจ.

แมีกก็ยอมรับมัน พลังเวทย์ของผมคล้ายกับจักพรรดิเงา.

นอกจากนี้คำสาปยังสามารถสาปใส่ดาร์กเอลฟ์ชั้นสูงเลเวล4ได้อีกด้วย เธอพยายามที่จะสู้แต่ไม่มีร่องรอยของการต่อต้าน.

คกสาปคนแข็งแกร่ง

แกร์นดยุคทั้งหมดอยู่บนโลก ไม่ว่าผมจะคิดอย่างไรผมไม่ก็สามารถหาคำอธิบายได้นอกเหนือจากจักพรรดิเงา อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มีความเป็นไปได้ที่จะมีบุคลลที่สามที่มีพลังเวทย์คล้ายๆกับจักพรรดิเงา.

‘เขาพยายามที่จะกลับมาอีกครั้งในฐานะพระเจ้า อาจจะมีทริคหรือบุลคลที่3เข้ามาเอี่ยว.’

ผมยักไหล่ ในไม่ช้าจักพรรดิเงาก็ได้เตรียมสถานที่ที่เรียกว่าโลกเบื้องล่างเพื่อเป็นพระเจ้าที่สมบูรณ์แบบ

‘พระเจ้า.ถ้าเขาพร้อมที่จะเป็นพระเจ้า แสดงว่าเมล็ดพันธุ์ของโลกต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง.’

และพวกเขาก็มีโอกาศสูงที่จะอยู่ในกองสมบัติ.

ผมค้าหาผ่านรายการจากร้านค้าเกรียติ

อย่างไรก็ตามผมไม่พบอะไรที่คล้ายเมล็ดพันธุ์

‘ชื่อมันอาจจะแตกต่างไป อาจจะเชื่อโยงกับบางอย่าง ลองดูอีกสักหน่อย.’

ผมใช้เวลาอีก2-3วันในการค้นหาผ่านร้านค้าเกรียติ.

การเยาะเย้ยของกลุ่มคนที่รวมตัวกันในกรุงโซลเริ่มสร้างพลังของเขาขึ้นเมื่อใกล้ดันเจี้ยน มีบางคนที่แสดงความกังวล แต่ไม่มีมอนเตอร์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่การรุกรานจากดีม่อน4ตนจากประเทศอื่น.

นอกจากนี้ ‘แก่น’ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันและไฟฟ้าสามารถหาได้จากในดันเจี้ยนเท่านั้น.เป็นสถานที่ดีที่สุดในการจัดหาสิ่งพื้นฐาน ยกเว้นว่าจะมีมอนเตอร์เวฟ.

รัฐบาลของกรุงโซลเริ่มกลับมาอีกครั้ง.

"แม่ง พวกมันมุดหัวอยู่ที่ไหนในตอนที่เรากำลังยุ่ง?”

คิมยองวู เขาเป็นหัวหน้ากิลด์สู่สวรรค์ อึนเฮย์และเอ็ดเวิร์ดก็หายตัวไป สองคนหลักของสมาคมได้หายตัวไปดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะรักษาการดำเนินงานในกิลด์.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองคนได้หายตัวไปในเวลาสำคัญ.

คิดยองวูถอนหายใจในขณะที่กำลังเครียร์เอกสาร

ปัง!

ในขณะนั้นแจฮีก็เข้ามา.

"หัวหน้ากิลด์ คุณจะไปทำงานได้หรือยัง?”

แทนที่จะสวมผ้าคลุมเธอสวมเสื้อสบายๆและถือผลั่ว ผุ่งปกคลุมเต็มใบหน้าของเธอเหมือนกับเธอเป็นคนงานเหมือง.

ขณะเดียวกันยองวูก็ออกอาการตัวแข็ง.

“นี่.ผมเป็นหัวหน้ากิลด์.ผมต้องไปที่นั้นใช่มั๊ย? ทำไมผมต้องไปจัดการมัน?”

"มันเป็นเพราะว่าคุณเป็นหัวกิลด์คุณจึงต้องไป ผู้นำตัวอย่าง! ประชากรจะมาเพิ่มทุกวันและมันเป็นการยากที่จะสร้างกระท่อม คุณคิดว่าควรจะแสดงความเป็นระเบียบวินัยในกิลด์เราหรือไม่?”

"อย่าปากมากนักนะ. เฮ้ยๆๆ~”

"ไม่มีใครมาทำหน้าที่ในการเป็นยามรักษาการณ์ของคุณหรอก? นี่เป็นโอกาศที่จะมีเหตุการก่อการร้ายเมื่อมีผู้คนมากขึ้น.”

"หน่วยรักษาการเก่าของรัฐ...”

การปรับปรุงกรุงโซลแบ่งเป็นสองกลุ่ม.

บรรดาผู้ที่ติดตามกิรินเพื่อรอคอย ‘ราชาที่ฉลาด’ ปรากฎตัว.หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูประธานาธิบดีเหมือนกับในอดีต.

การโต้เถียงเกิดขึ้น ในท้ายที่สุดกลุ่มหลังก็ได้เริ่มลงมือบังคับ พวกเขาไม่ลังเลที่จะใช้การก่อการร้ายและโจมตีกรุงโซล.

"ปัญหายังคงดำเนินต่อไป.”

แจฮีคราง ยองวูพยักหน้า.

“มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้มากเกินไป เราต้องเตรียมพร้อม ประเทศจะได้กลายเป็นระเบียบ.”

โอกาศมีมากมาย การรุกรานครั้งนี้จะเกิดขึ้นฉับพลัน แต่จะไม่มีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากหากพวกเขารวบรวมพลังและเตรียมพร้อมอย่างสงบ.

ความกลัวและความไม่พอใจของพวกเขาถูกบดขยี้.

หลังจากนั้นคนอื่นๆจะละทิ้งคนอื่นๆเพื่อเอาชีวิตตนเองไว้.

เขาไม่อยากผิดหวังอีกครั้งในการทำซ้ำข้อผิดพลาดในอดีต.

แจฮีหัวเราะ.

"สุดท้ายเราก็ต้องการราชา ฉันตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ฉันหวังว่าเขาจะปรากฎตัวอย่างรวดเร็ว.”

การถือกำเนิดของราชาถือเป็นการกระทำที่ฉลาดเพื่อหยุดยั้งเหตุการณ์!

อเวคทั้งหมดที่มารวมตัวอยู่ในกรุงโซลต้องการเช่นนี้.

"ราชา...มันจะดีถ้าเขามาจากกิลด์ของพวกเรา.”

"เสียงของคุณเหมือนกับคนเสแสร้ง ใครจะสนใจว่าเขาจะมาจากกิลด์ไหน? สิ่งที่เขาต้องทำคือการปรากฎตัว?.”

“มันจะดีกว่านี้ ถ้าเขาเป็นคนที่มาจากกิลด์เรา? ตัวแทน แทนที่จะมาจากที่อื่นฉันต้องการให้พวกเขาปรากฎตัวออกมาจากกิลด์ของเราเพื่อให้ฉันรู้ว่าพวกเขาจะทำงานได้ดดี ผมจะสนับสนุนเขาจากเบื้องหลัง.”

"ฉันจะปลักดันคุณ.”

“ใช่.ผลักดันผม.อย่างไรก็ตามมีข่าวใหม่เกี่ยวกับอึนเฮย์และเอ็กเวิร์ดหรือปล่าว?”

"พวกเขาทิ้งจดหมายไว้และหายไป ฉันจะรู้ได้อย่างไร? พวกเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?.”

"มันรู้สึกแปลกๆ.”

"หัวหน้ากิลด์นี่คุณกังวล? คุณไม่ต้องกังวลพวกเขาไม่ใช่เด็ก.”

แจ่ฮีดูเหมือนไม่กังวลอะไร เธอเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะกลับมา.

ยองวูเลียริมฝีปากและพูด.

“ง่า กลับไปทำงานเถอะ ถึงเวลาแล้วเราค่อยคุยกัน?”

"คุณต้องการคุยอีกรอบ.”

"เฮ้ คุณ...”

ทั้งสองมีความเป็นกันเองมากขึ้นหลังจากผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีบุคลิคที่อีกฝ่ายไม่ชอบแต่พวกเขาก็จับคู่กัน.

ยองวูเดาะลิ้นและเปลี่ยนเป็นชุดทำงาน.

และเช่นเดียวกันเขาก็หยิบพลั่วขึ้นมา.

ครึ่ก. ครึ่นนนนน

โลกสั่นไหว.

“แผ่นดินไหว?”

ยองวูวิ่งเข้าหาแจฮีอย่างรวดเร็ว.

ครึ่นนนน.

การสั่นสะเทือนของผืนดินรุนแรงขึ้น

“แม่รง มันเกิดห่าอะไรวะ?”

"โอ้พระเจ้า..."

"นั่นมันอะไร?"

"ดันเจี้ยน...”

ดันเจี้ยน?

แจฮีกำลังมองไปยังจุดหนึ่ง.

ยองวูมองตามสายตาของแจฮี.

เขาพูดด้วยความยากลำบาก.

“ดันเจี้ยน...กำลังเปลี่ยนแปลง?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด