Chapter 172: Spirits (5) 05-12-2017 อ่านฟรี
Chapter 172: Spirits (5)
จ๋อม...
เหมือนกับสปิริตไฟ สปิริตน้ำอยู่ในรูปของหยดน้ำ พวกเขากลัวและไม่เข้ามาใกล้.
มีบรรกากาศที่เงียบสงบ.
-ไม่ต้องกลัว ฉันชื่อเรอิ.
-เซร่า! คือชื่อของพี่สาว.
เรอิและเซร่ายื่นมือของพวกเขา.
หลังจากนั้นสักครู่ หยดน้ำทั้งห้าก็ได้แตะไปที่มือของพวกเขา.
-พ่อ! โปรดตั้งชื่อให้เด็กเหล่านี้ มันไม่ดีที่ไม่มีชื่อ.
-ถูกต้อง.
ชื่อ ชื่ออีกแล้ว
เมื่อไม่กี่วันก่อนผมเคยใช้เวลาคิดเกียวกับชื่อถึง1แสนชื่อ เหลือแค่ห้าเท่านั้นแต่ผมไม่ต้องการขั้นตอนการตั้งชื่ออีกครั้ง.
“น้ำ1 น้ำ2 น้ำ3 น้ำ4 น้ำ5.”
วิธีที่ตั้งชื่อง่ายๆของยิฮิเป็นประโยชน์กับผม.
ยิฮิอาจจะรู้อนาคต.
ตอนแรกผมหัวเราะ แต่ไฟ1 ไฟ2 ไฟ3 ก็ไม่ได้ไม่เชื่อฟัง
-...ชื่อสวยๆ.
―......ฉันไม่รู้จะพูดอะไร.
สปิริตสองคนตอบกลับช้าๆแต่ผมไม่สนใจอะไร.
ผมทำสัญญากับสปิริตที่เพิ่งเกิด แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะปล่อยพวกเขา พวกเขาต้องการความสามารถมากขึ้นในการปรับตัวเข้ากับโลก
อิทธิพลของผมมีความจำเป็น สปิริตมีความรู้สึกไวต่ออารมณ์ของผมโดยเฉพาะ.
แต่ผมมักจเหยียดหยามอยู่เสมอดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากในการเปลี่ยนความคิดของผม ส่วนใหญ่ดีม่อนก็มีความคิดแบบนี้และผมก็มีชีวิตอยู่ด้วยตัวของผมเอง
‘โดยปกดิแล้วคนอื่นจะเคลื่อนไหวเมื่อเห็นผม.’
มันดีกว่าการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น.
อย่างไรก็ตามสปิริตมีความสำคัญมากดังนั้นฉันจังต้องมีการจัดการพวกเขายอย่างละเอียด
เมื่อเวลาผ่านไป เรอิและเซร่าก็แตกต่างกันขึ้นเรื่องๆ มันไม่ดีเมื่อเวลาผ่านไป
'เปลี่ยนวิธีที่ฉันปฎิบัติต่อคนอื่น.’
เป็นไปได้ไหม?
ถ้ามันช่วยให้การเป็นมิตรมีมากขึ้น.ผมก็จะทำอีกหลายๆครั้ง. อย่างไรก็ตามสปิริตก็จะรับรู้ได้ว่ามันเป็นการ ‘แสดง’.พวกเขาจะสังเกตเห็นข้อเท็จจริงและรักษาระยะห่างที่มากขึ้นไปอีก.
ผมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขณะเดียวกันหน้าต่างข้อใความก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าผม
-แฟร์รี่ดั้งเดิม ‘ยิฮิ’ ได้รับความทรมาณจากจิตวิญญาณ.
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา‘ยิฮิ’ ได้สนับสนุน ‘ดันเจี้ยน’ และ ‘ต้นไม้ดั้งเดิม’ ผลที่ตามมาคือการบกพร่องของจิตวิญญาณ. -โปรดระวัง.แฟร์รี่เป็นรากฐานของดันเจี้ยน.ถ้าเธอหายไปดันเจี้ยนจะไม่ปลอดภัย. |
ผมขมวดคิ้ว มันเป็นข้อความที่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มันเกี่ยวกข้องกับยิฮิ ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถทำอะไรได้และยิฮิก็ไม่ได้บอกอะไร.
ผมสามารถทนต่อไปได้ แต่ธรรมชาติของยิฮินั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถปิดบังข้อมูลเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามนั้นคือหน้าที่ทั่วไปของเธอ.
พูดอีกอย่างก็คือยิฮิไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้
‘จิตวัญญาณของเธอกำลังหาย...’
พื้นที่เกี่ยวกับจิตวิยญาณที่ม่มีความรู้มากนัก นักเวทย์,นักเล่นแร่แปรธาต,ฯลฯ ทั้งหมดเหล่านั้น ผมมีความเข้าใจแค่คลุมเครือ.
มันน่าแปลกใจที่ผมไม่สังเกตเห็นหลังจากที่ผมเข้าไปสู้เขตแดนที่เหนือกว่า
- จิตวิญาณถูกทำร้ายอย่างรุนแรง 28.2% -> 28.1% |
‘ตอนนี้ไม่มีเวลามาเล่นอีกแล้ว.’
ผมส่ายหัวของผมและเคลือนไปหายิฮิทันทีอย่างเห็นได้ชัด.
ที่สวน.
ที่นั่นเป็นสถานที่ยิฮิแอบสร้างขึ้นมากเอง.
มันอยู่ที่ขอบชั้น32มันไม่ได้เป็นภาระเกี่ยวกับผมดังนั้นผมเลยไม่สนใจและให้ความสำคัญกับสวน ในชีวิตก่อนหน้านี้ขอวผม ผมได้ให้เธอจัดการสวนด้วยตนเองโดยที่ผมไม่ได้ก้าวก่ายหรือย่างก้าวเข้าไปหามัน.
มันไม่ได้สร้างแรงบัลดาลใจอะไรให้ผมดังนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าไป.
แต่มันไม่ใช่ว่าตอนนี้มันกำลังเกิดปัญหา
ที่ชายขอบชั้น32มีผืนป่าเล็กๆที่ทอดยาวกว่า100เมตร มีต้นไม้และดอกหญ้าพร้อมทั้งดอกไม้ที่หายากที่มาจากโลก มีแมลงและกวางหลายตัวมองมาที่ผม
ปกติผมจะบอกว่า‘เธอสามารถรวบรวมพวกมันมาได้ทั้งหดม’ แต่อย่างไรตอนนี้ผมก้าวเข้าไปสู่ใจกลางของป่า.
ดอกไม่นิรันดร์ รายการที่ผมได้ประมูลมาจากโรงประมูลถูกปลูกอยู่ใจกลางของป่าและยิฮิอยู่ข้างๆ.
ลูกไฟสามดวงบินอยู่รอบๆยิฮิ พวกเขาเป็นสปิริตไฟที่ยิฮิให้กำเนิดมัน
'มันคงไม่ช้า.’
รูปลักษณ์ของยิฮิเบลอๆกว่าปกติ เหมือนเธอกำลังจะหายไปจากพื้นที่ เป็นสัญญาณว่าพลังกายของเธอหายไปและการปรากฎตัวของเธอจะหายไป.
แต่นั่นจะเกิดขึ้นถ้าผมไม่สามารถแก้ไขมันได้ทันเวลา.
ผมรีบเข้าไปหายิฮิและอัดพลังเวทย์เข้าไปที่เธอทันที.
ผมเป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์และเธอเป็นแฟร์รี่ ถ้าเธออ่อนแอเธอก็สามารถฟื้นฟูด้วยพลังเวทย์ของผม.
อย่างไรก็ตามไม่มีปฎิกิริยาใดๆ เธอดูเหมือนจะคงสภาพได้เพียงครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็โปร่งแสงอีกครั้ง.
ทำไม?
ผมต้องทำอย่างไร?
ผมรู้สึกท้อแท้ใจจิตใจของผม.
ผมเอายิฮิไว้ที่มือข้างหนึ่งและมุ่งหน้าไปชั่นบนสุด.
เธอเป็นแฟร์รี่ของแกนดันเจี้ยนเพราะงั้นมันอาจจะช่วยเธอได้
‘ไม่...’
ผมไม่ว่าเธอไว้บนแกนดันเจี้ยน อย่างไรก็ตามแสงจากแกนก็อ่อนลง เมื่อแสงหายไปผมสามารถรู้สึกได้เลยว่ายิฮิก็จะหายไปเหมือนกัน.
“คริสปี้ จูรอม ....โอเว่น.รวมทั้งลิซและหมอผี(ชาแมน).”
ผมใช้ฟังชั่นของแกนในขณะที่ฉีดพลังเวทย์เข้าไปเหมือนกัน.
"ขึ่นมาชั่นบนสุดเดี๋ยวนี้.”
สิ่งมีชีวิตกว่า500ได้มารวมกันอยู่ที่นี่
บางคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ถูกกันแต่มาเจอกับเป็นครั้งแรก.
โคลโบลพรีส, ออคชาแมน, ลิซ, ก๊อบลินนักเวทย์, ฯลฯ...
มีสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกันนั้นก็คือพวกเขามี ‘เวทย์มนตร์’ เวทย์มนตร์และคาถา.พลังที่ไม่มีตัวตนเป็นของตัวเองมันใกล้เคียงกับจิตวิญญาณ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีน้อยคนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณ. แม้ว่าพวกเขาจะอ่านและศึกษา ‘จิตวิญญาณ’ผลลัพท์ก็ยังแตกต่าง.
ผมได้เรียกพวกเขามาทั้งหมด.
โดยใช้สิทธิ์ที่ผมเป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์.
“คุณรู้จักอาการนี้หรือไม่?”
ผมยกยิฮิขึ้นและถาม
ยิฮิยังคงหายใจแต่เธอไม่ได้สติ.
เธอดูราวกับว่าเธอหลับอยู่ แต่เธอตัวเย็นเป็นอย่างมาก.
ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ผมไม่ได้ศักษา ผมไม่เคยรู้สึกว่าต้องการเรียนมัน ผมยอมรับอย่างแท้จริงและรวบรวมพวกเขาทั้งหมดมารวมกัน.
ไม่โง่พอที่จะยึดถือศักศรีของผมไว้ ผมไม่สามารถสูญเสียแฟร์รี่ของผม แน่นอนว่ามีคนที่คิดอ่านลึกซึ้งกว่าผม.
มันจะประสบความสำเร็จถ้ารู้จะอาการของเธอ.
แต่ไม่มีใครเปิดปาก.
"ไม่มีใครจริงๆ? มันเป็นเรื่องที่ดีแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล่า.”
"จิตวิญญาณ...ชวิค! อ่อนแอ."
หนึ่งในออคชาแมนเปิดปากของเขา.
ผมมองไปราวกับบอกว่า ‘ผมรู้’ แต่ยังคงเป็นหนึ่งเดียวที่พูดหลังจาก500คน.
"จิตวิญญาณอ่อรแอ? นั่นหมดแล้ว?”
“ชวิค! ฉันไม่รู้.”
ออคชาแมนตอบตามเครื่องหมายที่ปรากฎ(ยิฮิเบลอๆ) มันไม่ได้ช่วยผม แต่รู้สึกผิดหวัง
ความเงียบปกคลุมเป็นเวลานาน ไม่มีใครลุกขึ้นมาตอบได้.
พวกเขาทั้งหมดรู้อารมณ์ของเขาดี
ในกรณีนี้พวกเขาไม่รู้ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดอย่างไรกับผม.
"ตอนนี้แฟร์รี่ดันเจี้ยนได้อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ เธอจะจางหายไปเนื่องจากจิตวิญญาณของเธออ่อนแอ มีใครบ้างที่รู้ถึงวิธีฟื้นฟูจิตวิญญาณ?”
ผมไม่สนใจว่าพวกเขาจะไม่รู้จักมันตราบที่พวกเขารู้อะไรบางอย่าง
ยิฮิอยู่ในสถานะนี่เนื่องจากความบกพร่องทางจิตวิญญาณ ถ้าผมแก้ปัญหานี้ได้ยิฮิจะกลับมา
แต่ปฎิกิริยาก็เหมือนกัน ความจริง...ดูเหมือนนักเวทย์และชาแมนหลายคนไม่ได้ศักษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ.
ในขณะเดียวกันผมก็ละเลยในการลงทุนด้านเวทย์มนตร์ ผมคิดว่ามันเป็นการดีที่จะยกระดับความแข็.แกร่งของพวกเขา อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องน่าตกใจนอกจากออคชาแมนตัวนั้นแล้วที่เหลือก็เงียบ.
"น่ากลัวมาก.”
ผมพึมพำ
ผมคิดว่าผมสามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่ผมกลับติดอยู่ที่นี่.
ดันเจี้ยนเกาหลีใต้ก็สำคัญ. รากฐานของผมอยู่ที่นี่.ด้วยกำลังของผมมันง่ายที่จะครอบครองดันเจี้ยนอีก.แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย. ต้นไม้ดั้งเดิมการจัดอันดับดันเจี้ยนที่มีระดับสูงกว่าและผลประโยชน์อื่นๆจากดันเจี้ยนเกาหลีใต้จะหายไป.
บรรกาศเริ่มหนักลงและกดบ่าสิ่งมีชีวิตทุกคนให้ก้มหน้ามองลงที่พื้น.
ขณะที่ผมกำลังหันหลังกลับไปโอเว่นก็เข้ามา.
"ฝ่าบาท.จิตวิญญาณเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการสร้างโฮมุนครูส.บางทีปาการามอาจจะมีไอเดียอะไรบางอย่าง.”
อ่าห์.มันถูกอย่างที่โอเว่นว่า.
มันเป็ฯงานของนักเล่นแร่แปรธาตุเพื่อสร้างจิตวิญญาณปลอมให้กับโฮมุนครูส.ลิซที่กำลังสร้างโฮมุนครูสจะรู้ดีเกี่ยวกับวิญญาณกว่าใครๆ.
แล้วทำไมเขาไม่ออกมา?
ปาการามเขารู้สึกไม่แน่ใจบนใบหน้าของเขา เขาเหลือบมองโอเว่น
“ปาการาม.”
“...ผมไม่สามารถรักษาจิตวิญาณที่อ่อนแอได้.”
"จริงๆ มันไม่มีทางไหนเลย?"
"จิตวิญญารที่อยู่มานานมันจะมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมได้ มันอาจจะเป็นอันตรายหากเติมมันเข้าไปหรือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่แฟร์รี่ทำ.”
"ผมเชื่อต่อกับจิตวิญญาณของแฟร์รี่.”
เพื่อให้มันชัดเจนขึ้นผมต้องพูดสิ่งที่อันตรายออกจากปากของผมเอง.
ความจริงที่ว่าแฟร์รี่มีความเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนมาสเตอร์คือข้อมูลลับสุดยอด
นั่นหมายความว่าดันเจี้ยนมาสเตอร์อาจจะได้รับบาดเจ็บผ่ายแฟร์รี่
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ มันจะดีกว่าที่ได้อธิบายออกไป.
ปาการามส่ายหน้า.
"มันน่าสงสาร แต่...จิตวิญญาณแลกเปลี่ยนไม่ได้ ไม่มีความเป็นไปได้ ถ้าเป็นไปได้มันจะต้องอยู่ในสถานที่ๆแตกต่างไปจากความเชื่อและวิทยาศาตร์ อาจเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า?”
นี่เป็ฯเหตุผลที่เขาไม่อยากก้าวออกมาข้างหน้า.
มีแต่คำพูดเชิงลบที่ได้ยิน.
ปาการามดูเสียใจจริงๆ
ผมเข้าใจความคิดของเขา
- จิตวิญาณถูกทำร้ายอย่างรุนแรง 27% -> 26.9% |
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผมแต่ไม่พบมัน หนึ่งต่อ500คนที่อยู่ที่นี่อาจจะมีทางได้.”
"...มันไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง.”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรวมทั้งปาการามปิดปากและเฝ้ามองด้วยความกระวนกระวาย
"ผมจะให้เวลาพวกคุณสามวัน ค้าหามันเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าคุณต้องการอะไรก็สามรถบอกได้ทันที.”
ผมหันไปรอบๆและออกไป.
-คุณพ่อเศร้ามาก.
-ฉันต้องการให้พ่อหัวเราะ.
-เขาไม่เคยหัวเราะ.
-บางครั้งก็มีความรู้สึกดีๆออกมาจากเขา ฉันชอบแบบนั้น.
สปิริต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสปิริตไฟกลายเป็นบึ้งตึงมากขึ้น
-มีบางอย่างที่เราสามารถทำได้ไหม?
-คุณพ่อจะมีความสุข.
สปิริตรีบบินที่ด้านข้างของ ‘พ่อ’ พวกเขาพยายามทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือจูบที่ร่างกาย แต่ความรู้สึกของพ่อก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย.
มันคล้ายกับคนที่เศร้าหมอง สปิริตไม่สามารถอยู่เฉยๆได้ พวกเขากลาบเป็นหกหู่.
-แฟร์รี่ที่เรียกว่ายิฮิเธอสำคัญต่อคุณพ่อมาก.
-เราจำเป็นต้องแก้ไขแฟร์รี่เพื่อให้คุณพ่อรู้สึกดีขึ้น.
-จิตวิญญาณของเธออ่อนแรง.
-อะไรคือจิตวิญญาณ?
น่าเสียดายเนื่องจากพวกเขาเพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน ไม่ว่าพวกเขาจะเติบโตเร็วแค่ไหนความรู้ของเขาก็ยังไม่เยอะเกินไป นอกจากนี้เรื่องจิตวิญญาณก็เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น.
สุดท้ายเรอิและเซร่าที่เป็นผู้ฟังอย่างเงียบๆก็ก้าวไปข้างหน้า.
-เราจำเป็นต้องเติมสิ่งที่ขาดให้กับคุณแฟร์รี่.
-ทำความสะอาดดันเจี้ยน.
-เราจำเป็นต้องกำจัดสิ่งมีชีวิต...
-เล่นกับต้นไม้ดั้งเดิม.
งานที่สปิริตสามารถทำได้มีอยู่อย่างจำกัด.
อย่างไรก็ตามสปิริตกว่า1แสนตนก็ตัดสินใจว่าจะดำเนินดีกว่าที่จะอยู่เฉยๆ.
ผมกำลังตอบโต้ตาม ‘เกณฑ์’ ที่ถูกเซ็ตไว้. ผมจะจัดการให้มากที่สุด.
อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก มันเหมือนกับธรรมชาติของผมที่ไม่สามารถทำอะไรได้.
- จิตวิญาณถูกทำร้ายอย่างรุนแรง 8.2% -> 8.1% |
ในอัตตรานี้ เธอคงจะไม่หายไปหรอกนะเมื่อถึง 0%?
เมื่อร่างกายของยิฮิจางหายคุณสมบัติของดันเจี้ยนจะหยุดทำงาน ถ้ายิฮิเสียชีวิตแล้วดันเจี้ยนจะพังทลายลงเหมือนกับของ
ปราการ กิกอลิ
‘มันเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ.’
ผมไม่สามรถอยู่เฉยๆได้.
ผมค้นหาผ่านร้านปกติและร้านค้าเกรียติยศ.
ผมเรียกสิ่งมีชีวิตหลายชนิดและขอความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้อะไร.
ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งที่สามารถฟื้นฟูจิตวิญญาณได้.
‘แน่นอนว่ามันต้องมีวิธี?’
ผมกัดฟัน ผมไม่ได้คิดว่าผมจะเสียยิฮิหลังจากอยู่ด้วยกันมานาน ยิฮิและดันเจี้ยน ถ้าผมสามารถช่วยใครได้สักคนแล้วหล่ะก็ แต่ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้.
เช่นเดียวกับสิ่งที่ผมคิดอย่างเมามัน.
-บางอย่างที่ดันเจี้ยนหายไปได้กลับมาอีกครั้ง
การไหลเวียนของพลังเวทย์กลับมาเป็นปกติ |
-แฟร์รี่ดังเดิม ‘ยิฮิ’ กำลังฟื้นตัว 0.1%.
8.1% -> 8.2% |