ตอนที่ 93 การก้าวกระโดดของสัมผัสเวทย์ 3
“อ่า ปฏิกิริยาของเด็กน้อยทีเกิดขึ้นหลังกินยาเข้าไปมันฉับพลันเกินไป”เวโรนิก้าพูดพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในขณะที่ธีโอรู้สึกตื่นเต้น
พวกเขารู้ว่าสัมผัสที่เพิ่มขึ้นนั้นต้องมีผลข้างเคียงบางอย่าง แต่ปฏิกิริยาของธีโอนั้นกลับแย่กว่าที่พวกเขาคิด มีโอกาสที่เขาอาจจะหายใจไม่ออกจริงๆ แม้กระทั่งผู้นำYellow Tower ผู้สร้างยาตัวนี้เขาก็คาดเดาไม่ได้ว่าจะเป็นเช่นนี้
เขาจ้องไปที่กล่องที่ว่างเปล่าและพึมพำด้วยน้ำเสียงจริงจัง [แปลก สำหรับปฏิกิริยาที่รุนแรงนี้ สัมผัสเวทย์นั้นควรจะอยู่ใกล้เคียงกับต่ำสุด....แต่กับคนที่เป็นจอมเวทย์ขั้น5ด้วยอายุเพียง20ปีไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น...มันยังไม่เสถียรงั้นรึ?ฉันคงต้องไปตรวจสอบมันอีกครั้ง]
นี่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่ผู้นำYellow Tower ไม่ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นถูก วีรบุรุษหนุ่มแห่งเมลเทอร์ ผู้ซึ่งได้รับการกล่าวถึงว่าจะกลายเป็นจอมเวทย์ระดับสูงสุด นั้นแท้จริงแล้วเขากลับมีสัมผัสเวทย์ที่ต่ำที่สุด
ในตอนท้ายผู้นำYellow Tower จะทำการวิจัยเรื่องนี้หลายเดือนโดยที่ไม่ทราบถึงเรื่องนี้
“เด็กน้อย ความคิดของเธอฟื้นคืนรึยัง?”เวโรนิก้าเอื้อมมือผ่านสายฟ้าที่อยู่รอบๆตัวธีโอและคว้าไหล่ของเขา
ธีโอดอร์ที่ยังคงผวาจากมาน่า แม้จะได้รับความร้อนที่เกิดจากเธอแล้วก็ตาม เขารู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่มันก็รุนแรงพอที่จะทำให้เขาสับสนจนนึกว่ามันเป็นความรู้สึกจริงๆ
คอของเขาที่ถูกคว้าเมื่อไม่นานมานี้ยังคงร้อนอยู่
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ ท่านผู้นำ”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”
เขายังคงมีความรู้สึกอิดโรยอยู่ แต่ธีโอก็ขอบคุณเวโรนิก้าสำหรับความช่วยเหลือของเธอ การปรากฏตัวของเตาหลอมเช่นเธอนั้นได้ปลุกจิตสำนึกของเขาให้ตื่นขึ้น ดังนั้นเขาจึงสามารถที่จะทนแรงกดดันของมาน่าได้ ในแง่นึงแล้ว เวโรนิก้าถือเป็นผู้ช่วยเหลือที่เหมาะสมที่สุด
ขณะที่ผิวของธีโอกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เวโรนิก้าก็ได้เริ่มพูดว่า
“ในตอนนี้เธอควรระมัดระวังเมื่อใช้เวทมนต์ สัมผัสเวทย์ของเธอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นความเร็วและพลังของอำนาจเวทมนต์ของเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามความสามารถในการควบคุมมันนั้นของเธอยังไม่ดีพอ อาจจะเกิดภัยพิบัติขึ้นถ้าเธอใช้เวทมนต์ที่กินวงกว้าง”
“…ครับ”
ธีโอเพียงแค่ต้องมองไปที่ Lightning Bolt จากก่อนหน้านี้ พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว แม้ว่าจะไม่ได้ผลกับเวโรนิก้าก็ตาม แต่พลังของเวทย์บทนี้มันมากกว่าเวทย์ขั้น3เสียอีก ถ้ามันโจมตีใส่คนธรรมดาละก็ พวกเขาจะไปที่โลกเบื้องหลังทันที
เขารู้สึกราวกับมีปีกปรากฏขึ้นบนขาของเขา! อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้สำหรับธีโอดอร์ผู้ที่พึ่งจะเริ่มหัดบินเพื่อที่จะจัดการกับสัมผัสของเขาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับคำพูดถัดไปของเวโรนิก้า
“เวทมนต์ของเธอก็เหมือนกับขวดน้ำที่ถูกบังคับให้บรรจุลงในถ้วย จากนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องควบคุมระดับน้ำโดยการเปิดและปิดอ่างเก็บน้ำ เธอต้องมีสมาธิมาก”
“ผมไม่สามารถที่จะเชี่ยวชาญแค่สัมผัสเวทย์ได้”
“แน่นอน สัมผัสเวทย์หรือพลังเวทย์นั้นเป็นเหมือนอาวุธ ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ใช้ มีพวกโง่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เกิดมาพร้อมกับสัมผัสเวทย์ที่ดีใน1รุ่นและใช้มันไม่เป็น”
เวโรนิก้าหัวเราะให้กับพวกโง่เหล่านั้น พวกเขาเป็นคนขี้เกียจที่เอาแต่จะพึ่งพาความสามารถโดยธรรมชาติของพวกเขาและไม่ทราบความยากลำบากของเวทมนต์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงต้องใช้เวลาหลายปีหรือหลายสิบปีเพื่อข้ามกำแพง
พวกเขาส่วนใหญ่รู้สึกสิ้นหวังและหยุดอยู่ที่หน้ากำแพงแรกที่พวกเขาพบ ในขณะที่คนที่มีความสามารถปานกลางที่ฝึกฝนอย่างหนักนั้นพวกเขาจะกลายเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าอัจฉริยะบางคน
พรสวรรค์อาจจะมาจากฟากฟ้า แต่จิตวิญญาณกฌถูกบรรเทาด้วยความยากลำบาก
ห้าปีที่ถูกใส่กุญแจมือโดยขาดความสามารถทั้งหมดได้ทำให้จิตใจของ ธีโอดอร์ มิลเลอร์ กลายเป็นเหล็ก นีเป็นเหตุผลที่ทำให้อัตราการเติบโตของเขาเป็นที่น่าเหลือเชื่อหลังจากได้รับหนังสือเวทย์โบราณ เขาฝึกฝนอย่างหนักและขยายขีดจำกัดของเขาอยู่ตลอด
“นอกจากนี้ถ้าเธอก้าวขอบกำแพงสู่วงกลมที่7ได้ เธอก็จะกลายเป็นจอมเวทย์ระดับสูงสุด เธอจะไปถึงขีดจำกัดของสัมผัสเวทย์ ดังนั้นอย่าหลงระเริงในความรู้สึกของเธอและทำสิ่งที่เธอต้องทำไปเรื่อยๆ สรุปแล้วคำแนะนำของพี่สาวเวโรนิก้า เป็นยังไงบ้าง ช่วยได้มั้ย?”
“ครับ ช่วยได้เยอะเลยครับ” ธีโอจ้องมองไปที่เธอด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง
คำแนะนำของเวโรนิก้ามีค่ามากกว่า1000เหรียญทอง ในยุคนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ถึงขอบเขตของขั้น8 ดังนั้นหนึ่งพันทองสำหรับคำแนะนำของเธอจึงถูกมาก อย่างไรก็ตามเวโรนิก้าผู้ให้ความกรุณาดังกล่าวกลับไม่กล้าสบตากับธีโอ ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงหัวเราะเยาะไปแล้ว
แต่อารมณ์ก็ได้ถูกทำลายโดยเสียงของผู้นำYellow Tower [อย่าหันหน้าหนีสิ จิ้งจกสาว ทำไมเธอถึงทำท่าเช่นนั้นกับเด็กที่อายุน้อยกว่ากัน?]
“อ้า ฉันจะจัดการกับคุณหลังจากนี้”เวโรนิก้าตกอยู่ในความโกรธชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเธอก็ได้ส่ายหัวไปมาและหันหน้าไปหาธีโอ เพราะเธอต้องการให้ผู้นำYellow Tower หยุดล้อเธอ แน่นอนว่าเธอจะจัดการกับเขาในภายหลัง แต่อนาคตที่โชคร้ายนั้นก็ล่าช้าออกไป
หัวของโทรลได้จ้องไปที่ธีโอและพูดขึ้น [หืม....เป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ นอกจากนี้ฉันยังได้กลิ่นของจิตวิญญาณธาตุที่ยิ่งใหญ่จากเธอ ฉันเคยคิดว่าผู้นำRed Tower นั้นพูดเกินไปเมื่อเธอบอกว่าเธอจะเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่คนต่อไป]
“อ่า ขอบคุณครับ....?”
[ฉันแค่ตัดสินด้วยเหตุล ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วย....ไม่สิ ผู้รับผลประโยชน์จากยาของฉัน ฉันจะจำชื่อของเธอไว้]
จากนั้นเขาก็พูดอีกเล็กน้อยกับธีโอ [ฉันจะไม่ได้เจอเธอสักพัก แต่เราจะได้พบกันอีกสักวันหนึ่ง ธีโอดอร์ มิลเลอร์ เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะพูดถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ]
“….?!”
[เอาละ มันจบแล้ว]
ขณะที่ธีโอรู้สึกประหลาดใจ หัวของโทรลก็ได้กลายเป็นฝุ่น
ดวงตาของธีโอดอร์มองไปที่ฝุ่นที่ยังเหลืออยู่ในมือ แต่ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ไม่ว่าในกรณีใด พลังเวทมนต์ของผู้นำYellow Tower ดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่สูงโดยไม่คำนึงถึงจำนวนของวงกลม
‘ไม่สิ บางทีเขาอาจจะก้าวไปไกลกว่าวงกลมที่7’
การดำรงอยู่ของเขานั้นเป็นความลับสุดยอด ในความเป็นจริงมันเพียงพอที่จะบอกว่าความสามารถของเขามันเกินขอบเขตของขั้นที่7ไปแล้ว
ธีโอคิดอยู่ในหัวของเขาก่อนที่จะปัดฝุ่นออกไป เขาไม่สามารถที่จะเข้าใจกับสิ่งใดๆที่ผู้นำYellow Towerได้ทำเอาไว้เลย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไร้สาระที่จะทำให้จิตใจของเขาเครียด
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในหัวเขา
-ผู้ใช้ ระวังคนที่เรียกว่าผู้นำYellow Towerเอาไว้
ความตะกละได้ตื่นขึ้นจากการนอนหลับและเตือนธีโอ ก่อนที่ธีโอจะได้ถามเหตุผล ความตะกละก็ได้พูดต่อ
-ยาที่ผู้ใช้กินเข้าไปนั้น.....เป็นเอกลักษณ์ที่น่าจะทำได้โดยลูกหลานของสายพันธุ์โบราณหรือเจ้าของหนังสือเวทย์โบราณคนอื่นๆ
‘อะไรนะ?’
-ขั้นตอนและเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้ในการทำตัวยานั้นเกิดขึ้นมานานกว่า2000ปีแล้ว ไม่เพียงแค่ได้รับความรู้แต่มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการแพทย์ได้...ตอนนี้ข้าได้คิดถึงหนังสือเวทย์โบราณ2-3เล่ม แต่ข้ายังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้
‘เจ้านายของหนังสือเวทย์โบราณ’
ใบหน้าของธีโอดอร์แข็งค้างเมื่อเขานึกได้ถึงความทรงจำของความหายที่เกิดขึ้นในอดีตจากหนังสือเวทย์โบราณ’Death’s Worship’ กองทัพอันเดทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเอลเดอร์ลิชถือเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรง อย่างไรก็ตามมันได้กลับคืนสู่ความสงบแล้ว
‘เจ้าของหนังสือเวทย์โบราณ....นั่นหมายความว่าผู้นำYellow Tower ไม่ได้ถูกหนังสือเวทย์โบราณกลืนกินงั้นหรอ?’
-ถ้าเขาเป็นเจ้าของที่ถูกต้อง นั้นก็ใช่ เขาได้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติต่างๆอย่างเต็มที่
‘จริง’
มันไม่จำเป็นที่ต้องกลัวหรือหลบหนี ผู้นำYellow Tower ในตอนนี้เพราะมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ธีโอจะถูกโจมตีเช่นเดียวกับเอลเดอร์ลิช ถ้าผู้นำYellow Tower เป็นคนเช่นนั้น เขาคงจะไม่คอยช่วยเหลือทำให้เมลเทอร์เจริญมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
นอกจากนี้ไม่มีเหตุผลสำหรับธีโอที่จะคิดไปไกลเกี่ยวกับความลับของเขา ตอนนี้ข้อมูลที่ธีโอมีมันน้อยเกินไป
อาณาจักรแห่งเวทมนต์ เมลเทอร์.....มีความลับอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของมัน พร้อมด้วยความลับของผู้นำYellow Towerและผู้นำWhite Towerที่ซ่อนใบหน้าไว้ภายใต้หน้ากาก มันมีความลับอีกหลายเรื่องที่กำลังหลับไหลอยู่ภายในหอคอยเวทมนต์ สักวันหนึ่งธีโออาจจะเข้าถึงความลับนั้นได้ แต่ไม่ใช่วันนี้
“….แล้วฉันจะได้พบกับคุณอีกสักวัน”เขาพูดซ้ำคำพูดของผู้นำYellow Tower
มีหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้เกี่ยวกับเมลเทอร์ และมันก็ล้นไปด้วยความลึกลับ เขาไม่ควรที่จะบุ่มบ่ามเข้าไปหาสิ่งเหล่านั้น มันถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและอุทิศตัวให้กับการฝึกฝน
‘อย่างแรก ฉันต้องแก้ไขปัญหานี้’ดวงตาของธีโอส่องประกายขณะที่เขารู้สึกถึงความกดดันของมาน่าอีกครั้ง
พรสวรรค์ที่เขาปราถนามานานได้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
***
จากนั้นเป็นต้นมา กิจวัตรประจำวันของธีโอดอร์ก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากผ่านมาครึ่งปีเขาได้เรียนรู้เวทมนต์ขั้น5แล้ว อาจจะมีความแตกต่างในความชำนาณสำหรับแต่ละเวทย์ แต่เขาก็ภูมิใจที่จะบอกว่าเขาได้เรียนรู้ทุกอย่างอย่างถูกต้อง
ตั้งแต่นั้นมา ธีโอก็ได้เพิ่มพูนประสบการณ์ขึ้นเรื่อยๆจากการฝึกฝน เขาฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันความท้าทายก็ได้มาถึง มันทำให้เขาล้มลงบนที่สูง
บูมมม!ไฟที่ระเบิดขึ้นก่อให้เกิดเสียงกัมปนาทที่น่ากลัว มันปะทะเข้ากับกำแพงของห้องฝึกที่มีเวทย์ป้องกัน
พลังและรูปร่างของมันดูเหมือนกับเวทย์โจมตีขั้น5 Fire Blast นี่เป็นเวทมนต์ที่จะสามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆนับสิบเมตร มีเพียงเฉพาะจอมเวทย์ระดับปรมาจารย์จากRed Tower เท่านั้นที่สามารถใช้มันได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตามใบหน้าของธีโอกลับไม่สดในความสำเร็จของเวทมนต์
“…นี่...Blaze Shell”
สูตรเวทมนต์และระยะเวลาในการร่ายนั้นสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามผลที่ได้นั้นแตกต่างไปจากที่เขาตั้งใจให้มันเป็น มันเป็นความผิดพลาดของมือใหม่ที่เพียงแค่เรียนรู้วิธีสร้างเวทมนต์
ธีโอดอร์ถอนหายใจขณะที่เขามองลงไปที่ฝ่ามือของเขาและห้องฝึกซ่อมที่เละเทะ เขาไม่รู้ว่าเขาล้มเหลวมาแล้วกี่ครั้ง
‘ฉันรู้ว่าทำไมฉันถึงล้มเหลว เหตุผลก็คือ....’
มาน่าของเขานั้นไหลเวียนเร็วเกินไป และปริมาณของมาน่าที่เขาวาดมันมากเกินไป นอกจากนี้พลังมาน่าก็ได้แข็งแกร่งกว่าเดิมเนื่องจากมันตอบสนองกับอารมณ์ของเขา สรุปได้ว่าเนื่องจากความไวของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป
ปัญหาก็คือมันยากที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากความพยายามของตัวเอง ธีโอไม่ได้เกิดมาพร้อมกับสัมผัสเวทย์ที่ดี ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ พลังมาน่าจำนวนมากได้ตอบสนองต่อการเรียกของเขา จากนั้นเวทมนต์ก็ได้ยุ่งเหยิงโดยมาน่าที่เขาไม่ได้เรียกออกมา
‘มันจำเป็นที่ต้องเรียนรู้เทคนิค’ เขาไม่ได้ใช้เวลานานเลยสำหรับธีโอดอร์ที่จะตระหนักถึงเรื่องนี้
แต่ทว่า คนที่สามารถให้คำแนะนำเขาได้มีจำกัด มีเพียงเหล่าผู้นำเท่านั้นที่มีสัมผัสเวทย์ที่เหนือกว่าเขา แต่เหล่าผู้นำหอคอยเวทมนต์และประธานMagic Society นั้นไม่สามารถมาเป็นผู้สอนให้ธีโอได้ เวโรนิก้านั้นให้คำแนะนำเขาเล็กน้อยเป็นบางครั้ง แต่สัมผัสเวทย์ของสายเลือดมังกรนั้นแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป
ในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น คนๆนั้นคือหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของธีโอและเป็นคนที่มีสัมผัสเวทย์อยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่เกิด และจากนั้นก็ถูกปลุกฝังเวทมนต์ในสภาพแวดล้อมที่มีความสุข
เธอเป็นอัจฉริยะที่แม้จะไม่ดีเท่ากับธีโอดอร์แต่ก็ได้สร้างผลงานมามากมายและกำลังจะได้รับการเลื่อนต่ำแหน่งให้เป็นจอมเวทย์ระดับปรมาจารย์ในไตรมาสถัดไป
“ขอฝากตัวด้วยนะ!” เธอ ซิลเวีย แอทลันคัส พูดกับเขาอย่างเขินอาย