Chapter 169: Spirits (2)
Chapter 169: Spirits (2)
ผมเป็นมือใหม่ในการให้กำเนิดสปิริต พวกเขาจะตื่นขึ้นมาในที่สุด แต่ส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของสิ่งแวดล้อม.
ผมเรียกคริสปี้ทันที เธอเป็นคนเดียวที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสปิริต ยิฮิก็ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับพวกเขา แต่ผมไม่อยากถามเธอ คงดีกว่าถ้าฟังจากคริวปี้อย่างละเอียด
“...สปิริตไฟ. นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพวกเขามากมายขนาดนี้.”
ดวงตาคริสปี้เบิกกว้างอย่างประหลาดใจ.
ยิฮิก็มีปฎิกิริยาคล้ายๆกัน อย่างไรก็ตามคริสปี้จ้องมาที่ดวงตาของผมก่อนที่จะพูดว่า.
“มาสเตอร์ของฉัน คุณจะให้กำเนิดพวกเขาทั้งหมด?”
“ถูกต้อง มีปัญหาอะไรไหม?”
"ถ้ามีสปิริตเกิดมากมายพร้อมกันในทีเดียว...มันอาจจะไม่มีพลังเวทย์เหลืออยู่เลย.”
“พลังเวทย์จากดันเจี้ยนก็เพียงพอแล้ว.”
การจัดอันดับของดันเจี้ยนได้เพิ่มขึ้นจากต้นไม้ดั้งเดิม มันสามารถจัดการกับการใช้พลังเวทย์ได้ค่อนข้างมาก.
แต่คริสปี้ส่ายหัวของเธอ.
"พลังเวทย์ทั้งหมดอาจจะดี แต่พลังเวทย์ไฟจะหมดไปอย่างรวดเร็ว หากมันลดไปขนาดนั้นมันอาจจะมีปัญหาในการรักษาดันเจี้ยน.”
ความจริง...ผมก็คิดแบบนั้น
ดันเจี้ยนสร้างจากพลังเวทย์ชนิดต่างๆ ผมจำเป็นไตร่ตรองคุณสมบัติของพลังเวทย์ถ้ามีส่วนใดที่ไม่สมดุลมันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต
"ผมควรทำอย่างไร?”
ผมถามตรงๆ.
คริวปี้ไม่ใช่คนอื่น.จิตใจของเธอค่อนข้างดี.สกิลของเธอค่อนข้างใช้ได้,และเธอมักจะช่วยเหลือผม ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
คริสปี้ตอบโดยไม่ลังเล
“มาสเตอร์ควรอยู่ข้างสปิริตไฟ ที่จริงแล้วมาสเตอร์มีเปลวเพลิงของไพน์และตอนนี้ยังมีแก่นแท้เปลวเพลิง...ทั้งสองอย่างเป็นพลังเวทย์ไฟบริสุทธิ์ มันอาจจะขาดบางอย่างเพื่อที่จะให้กำเนิดสปิริตไฟแต่...คุณควรมีอาหารให้เพียงพอ.”
ในที่สุดผมก็ได้คำตอบ.
ผมได้ดูดซึมแก่นแท้เปลวเพลิง มีเพียงเก้าคนเท่านั้นที่อยู่ในโลกสปิริต นอกจากนี้ผมยังมีเปลวเพลิงของไพน์ดังนั้นผมจึงเหมาะเป็นแหล่งพลังเวทย์ไฟให้แก่เขา.
"ฉันต้องอยู่ข้างๆเขา มันต้องใช้เวลาตลอดวัน?”
“ใช่ มันอาจจะใช้เวลาสักครู่ในการให้เมล็ดคุ้นเคยและตอบสนองกับคุณ มาสเตอร์จะเป็นอิทธิพลต่อสปิริต.”
คริสปี้ยืนกราน ผมรู้สึกผ่อนคลายหลังจากได้ฟัง มันดีกว่าการจิกเล็บหลังจากที่เริ่มต้น.(เสียใจตอนสุดท้าย/ไรต์)
นี่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของผม
ผมไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้และต้องทำให้ดีที่สุด.
แม้ว่ายิฮิ...ธรรมชาติของเธอก็ไม่ได้แตกต่างจากชีวิตที่แล้วของผมเท่าไร ไม่มีอะไรจะบอกได้
คริสปี้เป็นดาร์เอลฟ์ที่โดดเด่นเพราะงั้นเธอจึงสามารถจัดการเรื่องอื่นๆได้อย่างง่ายดาย.
"คุณรู้ไหมว่าพวกเขาจะเกิดเมื่อไหร่?”
อย่างไรก็ตามผมยุ่งมาก.ผมไม่สามารถดูแลเมล็ดสปิริตเพียงอย่างเดียวได้.ถึงแม้ว่าผมจะไม่มั่นใจว่ามันจะดี....แต่ผมก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย. ตอนนี้ผมมี ‘งาน’ ที่ผมต้องทำ.
"ให้เมล็ดมันสมบูรณ์กว่านี้ก่อนและฉันจะได้เห็นมัน....มันอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนนั่นคือมากที่สุด.”
"1เดือนนานเกิดไป.”
“มาสเตอร์ของฉัน ทิ้งทุกอย่างไว้ให้ฉัน ฉันสามารถควบคุม โรส,รอยและแม๊กได้บ้าง.”
คริสปี้หัวเราะ.
ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้.
1เดือน.สถานการณ์ของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงทุกๆวัน
มันอาจจะฉลาดถ้าอยู่ในดันเจี้ยนเฉยๆ1เดือน.
'ฉันอาจจะไม่ต้องลงมือเองและฉันอาจจะเอาชนะศัตรูที่กำลังเหนื่อยล้า.’
มันเป็นกลยุทธ นอกจากนี้ผมยังเชื่อคริสปี้
'สปิริตมีค่า.’
สปิริต 100,000 ตน.
มันคุ้มค่าที่จะอยู่เฉยๆเป็นเวลา1เดือนเมื่อคิดถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อพวกเขาเกิดขึ้นมา ในขณะเดียวกันผมอาจจะพัฒนาตนได้
“คริสปี้.ผมจะปล่อยให้คุณ คุณต้องจัดการอย่างใกล้ชิด ไม่ควรมากเกินไป แต่มันก็มีตัวแปรเกี่ยวกับรอยและโรสมากเกินไป.”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยและโรสจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงแม้โรสจะฉลาดแต่เธอก็ยังเป็นเด็กดาร์กเอลฟ์เท่านั้น พวกเขาเป็นตัวแปรที่ผมไม่รู้
ตอนนี้เกาหลีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายคนกำลังชุมนุนอยู่และกรุงโซลกำลังฟื้นตัว เทคโนโลยีถูกแทนที่ด้วยแกนพลังงาน รัฐบาลใหม่และประเทศใหม่กำลังจะถูกสร้างขึ้น.
มันเป็นไปได้ที่จะให้มนุษย์เคลื่อนไหวไปในทิกทางเดียวกับรอยและโรส นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมอบดาบเวทย์นั่นให้.
ผมให้คำแนะนำแก่เขา แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่งานจะเสร็จก่อนที่สปิริตจะเกิด.
“มาสเตอร์ของฉัน ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะไปในทิศที่มาสเตอร์ต้องการ.”
“ผมจะไว้ใจคุณ”
นี้ก็เพียงพอแล้ว.
หลังจากนั้นคริสปี้ก็ถอนตัวออกไป
ผมหันหัวไปมองทีเมล็ดเหล่านั้น
‘ตอนนี้...’
สปิริตจะต้องเกิดมาอย่างรวดเร็วมันเป็นสิ่งที่ดีกว่า.
ผมต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของผม.
ผมกระจายพลังเวทย์ไปรอบๆเมล็ด.
ผมไม่แน่ใจ แต่ผมใช้วิธีนี้ก่อน
ผมนั่งลงท่ามกลางเมล็ดมากมาย
ผมค่อยๆปกคลุมเมล็ดด้วยเปลวไฟของไพน์และแก่นแท้เปลวเพลิง
-พลังเวทมนตร์ของ รัลดาล บิกิเซล ได้กระจายไปทั่วพื้นที่
เมล็ดของวิญญาณได้ตอบสนอง ตัวตนของเขากำตื่นขึ้นอย่างช้าๆ อัตราการรับรู้: 18.5% |
- พลังแห่งไฟแข็งแกร่งเกินไป! สปิริต358ถูกทำลายโดยไม่ไดเเกิดมา |
- พลังแห่งไฟอ่อนแอเกินไป! อัตราการรับรู้ลดลง |
- พลังแห่งไฟเพียงพอ อัตราการรับรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราการรับรู้: 19.9% ... |
มันยากกว่าที่ผมคิดในการรักษาพลังเวทย์ มันเป็นิส่งสำคัญที่จะไม่ใช้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมขมวดคิ้วเมื่อมีข้อความระบุว่าเมล็ดถูกทำลาย.
‘มันยาก.’
ผมควงดาบอย่างดุดัน มันน่ารำคาญที่จะนั่งนิ่งๆและควบคุมพลังเวทย์ของผม มันไม่ต่างจากการถูกทรมาณ
‘อัตราการตื่นมันช้ามาก.’
นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นนึง คริสปี้พูดถึง1เดือน แต่สองสัปดาห์ผ่านไปและอัตราการรับรู้ก็แค่20%เท่านั้น
ในอัตรานี้ผมต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนถึงจะเสร็จสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการรับรู้ลดลงเมื่อเปอร์เซนต์เพิ่มขึ้น.
ความเข้มข้มของผมลดลงเล็กน้อยหลังจากผ่านไป14วัน ผมตระหนักได้ว่ามันยากที่จะควบคุมพลังเวทย์.
‘ฉันได้เข้าสู่เขตแดนใหม่ แต่มันก็แค่ครึ่งทาง ปัจจุบันฉันไม่ต่างอะไรจากเด็กที่แข็งแกร่ง ความสามารถของฉันในการเคลื่อนย้ายพลังเวทย์ค่อยข้างอ่อนแอ.’
ผมต้องยอมรับมัน ผมคิดว่าผมกำลังเติบโตอย่างช้าๆ แต่ผมยังไปไม่ถึงรับดับนั้น
ผมต้องการเพิ่มสถานะทั้งหมดให้มากกว่า100 ผมไม่รู้กับการควบคุมความแข็งแกร่งนี้ ตั้งแต่ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้านี้ของผม.
‘ในขั้นต้นฉันต้องควบคุมพลังเวทย์ในการต่อสู้ แต่การต่อสู้ไม่ได้เป็นวิธีการเดียวให้แข็งแกร่งขึ้น ฉันต้องตระหนักว่าฉันกำลังขาดอะไร’
มันเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาเมื่อมีการ ‘รู้แจ้ง’
มันไม่ได้เป็นกับการต่อสู้เท่านั้น
การรู้แจ้งเป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ ผมเพิ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้.
'พลังเวทย์ของฉันหยาบเกินไป มันเหมือนกับม้าป่า รู้แค่วิธีการใช้งาน’
ผมคิดถึงสิ่งที่ผมขาดหายไปและได้ข้อสรุปนี้.
การควบคุมพลังเวทย์ของผมไม่เหมาะสมกับเมล็ดสปิริต.
ถ้าไม่มีความหยาบของพลังเวทย์อัตราการรับรู้จะเพิ่มขึ้น.
เมล็ดก็เหมือนกับไข่ พวกเขาต้องการอากาศที่อบอุ่น.
'พลังเวทย์อุ่นๆ...’
ผมจำเป็นต้องควบคุมพลังเวทย์ การควบคุมความละเอียดอ่อนของมัน มันไม่ใช่ธรรมชาติของผม
'ฉันไม่สามารถยอมแพ้ได้เนื่องจากมันไม่เหมาะกับฉัน.’
ถ้ามันไม่ดีพอแล้วผมต้องบังคับมัน การให้มากขึ้นหมายความว่าไม่มีการพัฒนา ผมต้องผ่านความท้าทายนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้า
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องอยาก แต่ในที่สุดผมก็จะถูกแขวนคอจากมัน
(Of course it was difficult, but I would eventually get the hang of it.)
ผมคิดถึงช่วงเวลาที่ผมรู้สึกถึงพลังเวทย์ที่อบอุ่น.
'ผู้พิทักษ์แห่งดิน เอซิส.’
มนูษย์ เธอเป็นอเวคจากอเมริกา เธอรู้วิธีที่จะเคลื่อนย้ายไปยังผืนดิน ก่อนอื่นเลยเธอคล้าย แต่ลักษณ์ของพวกเขาแตกต่างกัน
เธอไม่ชอบการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือมนุษย์....เธอสั่นแม้ว่าจะเห็นดีม่อนบาดเจ็บ เธอไม่สามารถช่วยได้ในการต่อสู้
พลังเวทย์ของเธอคือความรู้สึกอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึก.
เธอคิดว่าเธอทุกคนสามารถกลับตัวได้ แต่สุดท้ายเธอก็ถูกฆ่าโดยแวมไพร์เพราะเหตุนี้ แต่เธอก็มีความสำเร็จมากมาย.
เอซิสมีบางอย่าง.
ผมสงสัยว่ามันคืออะไร
‘การแสกงออกจากจิตใจ.’
เป็นเพราะเธอรักและเป็นห่วงผู้คน?
ผมหัวเราะกับความคิดนี้
การนึกภาพว่าเป็นตัวของผมเองแล้วมันอดไม่ได้ที่จะขนลุก บอกตรงๆมันไม่อาจะคิดออกมาได้.
ผมส่ายหัว.
ผมไม่ใจดีเหมือนกับเอซิส ถ้ามันเป็นสิ่งจำเป็นมันก็จะเป็นความท้าทายที่เป็นไปไม่ได้ ผมไม่สามารถเปลี่ยนวิถีของผมได้.
ดังนั้น...ผมต้องหาทางของตัวเอง
‘ตื่นขึ้น ฉันจะนำทางคุรเอง’
ผมจ้องมองไปที่เมล็ดด้วยความเหยียบหยาม ผมต้องการที่จะทำเส้นทางของผมเอง สปิริตจะเป็นผู้ติดตามเรา นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้.
เป๊าาา!
แป๊ะะะะ!
ในขณะเดียวกันเมล็ดก็ดีดลั่นออกมา.
-พลังเวทย์ของไฟอุ่นขึ้นเล็กน้อย อัตราการรับรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราการรับรู้: 32.7% |
-พลังเวทย์ของ 'รัลดาล บิกิเซล' เพิ่มขึ้นหนึ่งแต้ม |
การเปลี่ยนความคิดเป็นเรื่องง่าย.
อย่างไรก็ตามมันก็เพิ่มขึ้นแค่10%
‘นี่คือสิศทางที่ถูกต้อง.’
นอกจากนี้พลังเวย์ของผมเพิ่มขึ้นทีละหนึ่ง
มันน่าอัศจรรย์มาก เมื่อพลังเวทย์เกินกว่า90แต้มมันจะไม่เพิ่มอย่างง่ายๆ พลังเวทย์เพียวๆของผมคือ95แต้ม.
ผมรู้สึกสบายขึ้นนิดหน่อย.
ทิศทางนี้ถูกต้องดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นรู้สึกต้องเร่งมากมายนัก.