Chapter 168: Spirits (1)
Chapter 168: Spirits (1)
100,000!
แม้ว่ามันจะเป็นเมล็ดพันธ์สปิริต แต่มันก็เป็นจำนวนที่ไม่สมเหตุสมผล แฟร์รี่และสปิริตกว่าจะเกิดมามันต้องใช้เวลานานเป็นอย่างมาก ผมได้บอกความต้องการไป100,000เพือเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจ
อย่างไรก็ตามถ้ามันได้มาน้อยมันก็ไม่มีความหมาย การทำสัญญากับสปิริตระดับต่ำจะไม่เป็นประโยชน์กับผม บางทีมันอาจจะเป็นไปได้ แต่มันก็ไม่ได้มีโอกาศสูง
อย่างไรก็ตาม...
'ฉันสามารถผลัดกันพวกเขาจากด้านหลัง มนุษย์เกาหลีจะทำหน้าที่เป็นกำแพงขวางกั้นมอนเตอร์เวฟ...’
รอยและโรสได้กลายเป็นศูนย์กลางของพวกคนเกาหลีไปแล้ว กิรินสนับสนุนผมเป็นอย่างมากดังนั้นผมสามารถผลัดดันจาอเบื้องหลังพวกเขาได้.
ดันเจี้ยนของผมจะปลิดภัยมากขึ้นถ้าอเวคเกาหลีสามารถทำสัญญากับสปิริต. พวกเขาจะเป็นเหมือนกำแพงหากผมออกจากดันเจี้ยนอีกครั้ง.
แน่นอนว่าสัญญากับสปิริตมีมาตฐานที่เข้มงวด พวกเขาต้องการความจริงใจ ความสิ้นหวังของพวกเขาในขณะที่ติดตามผมเพื่อที่จะสัมผัสท้องฟ้า
นอกจากนี้...อาจจะมีความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนี้.
ผมมีหลายเหตุผลที่สามารถบอกแกรราสได้เพื่อรับเมล็ด.
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะปฎเสธ ปัญหาคือเขาจะยอมให้กี่เมล็ด เป็นโอกาศที่จะรับรู้กับความใจกว้างของเขากับการแจกจ่าย.
ผมเฝ้ามองแกรราสอย่างระมัดระวังในขณะที่เขาเปิดปาก
“นั่นเป็นจำนวนที่มากเกินไป มันใช้เวลาไม่น้อยในการดูและ1000,000เมล็ด?”
แกรราสชี้ได้ถูกจุดแต่สปิริตจะตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วในดันเจี้ยน
ผมพูดอย่างใจเย็น
"นั่นไม่ใช่ปัญหา”
แกรราสยิ้มเล็กน้อย.
"โอเคร ผมจะให้พวกเขากับคุณ.”
เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง มันใช้เวลาไม่นาน.
"คุณต้องการอะไร?”
"ผมต้องการข้อมูล ของราชาดาร์กสปิริต.ไม่...แอบนอล เป้าหมายสูงสุดของไอ้กบดำนั่นคืออะไร?”
กบดำ.มันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแกรราสคิดอย่างไรกับแอบนอล ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะว่าพวกเขาเป็นราชาทั้งคู่.
'เขาถามเพราะไม่รู้จริงๆ?’
นอกเหนือจากนั้นผมขมวดคิ้วของผมกำคำถามของเขา.
ถามหน่อยเถอะแกรราส คุณไม่รู้จริงๆหรอที่ดาร์กสปิริตโจมตีสปิริตไฟและน้ำในงานประมูล?
“ควบคุมโลกสปิริต.”
ผมเล่นเกมส์ไว แกรราสไม่หยี่หร่ะ เขาส่ายหน้าและประกาศ
"มันเป็นเป้าหมายหลัก.ผมจะไม่เรียกว่ามันสุดยอด.ผมต้องการให้เขาแสดง ‘ระบบ’ แต่เขาปิดเป็นความลับ.เพิ่มและลดระดับ,เปิดรอยแยก,ฯลฯ...มันดูไม่ค่อยสมจริง.ผมต้องการจะรู้ว่าแอบนอลจะทำอะไรกับระบบดังกล่าวในที่สุด.”
อ่าาห์.
ผมจำได้ว่าได้ยินอะไรค้ลายๆกันแบบนี้.
หลังจากที่อัญเชิญผู้บัญชาการที่โหดร้ายแม๊กซิมั่มตราประทับของโลกก็สั่นสะเทือนและสปิริตไฟและน้ำได้สังเกตเห็นระบบ.
แกรราสดูเหมือนจะสนใจระบบนี้.
‘ดาร์กสปิริต. แอบนอลพยายามใช้ระบบนี้.’
ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบบนี้ใช้กับทุกคนในเกมส์และไม่สามารถเป็นเจ้าของได้.
ในชีวิตก่อนผมไม่เคยได้ยินว่าแอบนอลพยายามใช้ระบบนี้.แต่...บอกตามตรงมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าแอบนอลพยายามใช้มันควบคุมโลกสปิริตเป็นที่แรก.
โลกสปิริตค่อนข้าวกว้าง จำนวนสปิริตมีมายมายและหลากหลายประเภท มีคนที่เรียกว่าราชาสปิริตอย่างน้อย20คน.
ในอีกทางแอบนอลอยู่คนเดียว.แม้ว่าเขาจะใช้ระบบนี้เพื่อทำลายขีดจำกัดแต่เขาก็ไม่สามารถรับมือกับสปิริตได้ด้วยตัวคนเดียวใช่มั๊ย? เขาได้รับความช่วยเหลือจากแต้มของดีม่อนในโรงประมูล แต่มันก็ยังไม่ใช่เหตุผล.
ไม่เหมือนกับดีม่อน สปิริตไม่ได้ให้ความสนใจกับศัตรู. ถ้า ‘สัญญา’ ได้ประโยชน์พวกสปิริตก็สามารถทำงานร่วมกันได้.
ดังนั้น...จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขารวมตัวกันอย่างแท้จริงด้วยระบบนี้? ผมไม่เคยได้ยินว่าแอบนอลเกี่ยวข้องกับสปิริตอื่นๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องแปลกอย่างแท้จริง
‘ดาร์กสปิริตมักกะรตือรือล้นในการหาช่องโหว่ของระบบ’
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขามองหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับรอยแยก
พวกเขาเคยใช้ช่องโหว่เล็กๆในการติดต่อผม
จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาสามารถเป็นรอยแยกและปิดมันได้อย่างอิสระ?
มันเป็นไปได้หรือที่จะแยกที่ละธาตุ ความสมัพัยธ์ของสปิริตจะกลายเป็นไม่ได้และพวกเขาจะยอมแพ้.
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดหลุมในโลกด้วยรอยแยก.
ในชีวิตที่แล้วของผมแอบนอลได้ปกครองโลกสปิริตเช่นเดียวกับที่เอเรียลได้ปกครองโลกดีม่อน ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น..บางทีแอบนอลและโลกสปิริตได้เริ่มต้นทำสงครามกันเพื่อกลายเป็นเดวิล
เป็นสมมติฐานหรือไม่?
แม้ว่าจะไม่เหมือนกันแต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในลักษณะเดียวกัน.
ตอนนี้ผมตระหนักว่าแอบนอลได้ทำหลายๆอย่างที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก.
ปกครองโลกสปิริตเป็นเพียงเป้าหมายหลักเท่านั้น.
"ผมคิดว่าเขาต้องการเป็นพระเจ้าที่มีพลังยิ่งกว่าองค์ใดๆ.”
พระเจ้า!
นั่นก็คือมัน.
ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า แต่ก็ไม่ใช่สำหรับเขา เป็นไปได้ที่จะเป็นพระเจ้าทั้งที่ยังมีชีวิต.
แอบนอล. เขามีความโภลเป็นอย่างมาก
"คุณก็เห็นมันเหมือนกัน?”
ตาของแกรราสสว่างวาบ.
เขาพูดต่อ.
"ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับระบบและเกมส์ที่คุณกำลังเล่นอยู่ ดังนั้นผมจึงเดาว่าเป้าหมายสูงสุดของแอบนอลคืออะไร.”
ตอนนี้เขาเชื่อมั่นแล้ว
การแสดงออกของแกรราสดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจตอนนี้.
“อย่างที่ผมบอก ผมชอบมองคนที่ตกอับ มันน่าตื่นเต้นที่เห็นพวกเขาแสดงพลังของพวกเขาในการเผชิญหน้ากับผม มันยังไม่หยุดแค่นั้น ใช่...ผมต้องรอให้เขาผ่านมันไปได้.”
พูดอีกอย่างก็คือเขาต้องการรอให้แอบนอลทะลุขีดจำกัด
ผมไม่เข้าใจวิธีคิดของเขา.
'เขาคงไม่ปกติเท่าไรนัก’
ทำไมเขาถึงยอมให้ศัตรูข่มขู่เขา?
ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ
ผมจะต้องทุบตีพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะมีระดับเท่าผม
ใช่ แต่เขาจงใจให้แอบนอลเติบโตขึ้น.
ไม่ว่าจะคิดแบบไหนก็ตามแกรราสไม่ปกติ.
มีความเงียบเกิดขึ้นชั่วเวลาหนึ่ง ในที่สุดแกรราสก็กล่าวว่า
“รัลดาล บิกิเซล.ผมจะให้เมล็ดผ่านจีวาส ใช้มันให้ดี และ...เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับอิฟริดแต่ไฟที่เก้าได้เข้าสู่”จิตสำนึก"เพื่อให้เปลวไฟของเขาแข็งแกร่ง เขาจะหลับไปตลอด3ปี.”
"งั้นแก่นแท้เปลวเพลิงมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์?”
"ไฟที่เก้าจะเป็นครั้งสุด้ทายที่จะได้เห็น ในเรื่องอื่นๆ..คุณสามารถถามอิฟริดโดยตรง.”
ปัจจุบันอิฟริดติดอยู่ในหัวใจของราชานรก ผมลังเลที่จะเอาเขาออกเพราะว่าผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.
มันไม่สำคัญดังนั้นจึงไม่ต้องเสี่ยง.
"ผมคาดหวังกับ1แสนเมล็ด.”
ผมย้อมกลับไปยังคำพูดก่อนหน้า แกรลาสมองมาที่ผมและพูดพึมพำ
“ดีม่อนที่น่าสนใจ ผมจะมองตามเส้นทางของคุณ.”
ผมกลับมาในดันเจี้ยนหลังจากการพบปะ.
‘ผมมีความรู้สึกไม่ดี’
แกรราส.เขาแข็งแกร่ง.ความแข้งแกร่งที่สามารถสู้ได้กับแกร์นดยุคในชีวิตที่แล้วได้เลย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กดดันแอบนอล.
ในที่สุดแกรราสก็ได้ให้แอบนอลกลืนกินเขา
‘แอบนอล.ตอนนี้เขาคงจะทะลุขีดจำกัดของเขาผ่านแก่นแท้ดั้งเดิม.’
จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำลายขีดจำกัดและเติมเต็มศักยภาพ ขึ้นอยู่กับความคิดของแกรลาสเขาจะให้แอบนอลในเวลานั้น ถ้าแอบนอลเริ่มโจมตีแกรราสเต็มรูปแบบ เขาจะสามารถหยุดยั้งได้หรือไม่?
'ฉันแค่คิดจะกลายเป็นปีศาจ.’
แน่นอนนั่นมันมาจากความรู้สึก ผมจะหัวเราะเมื่อผมได้กลายเป็นเดวิล นั่นคือความฝันของผมและผมจะทำให้มันไม่เปลี่ยนแปลง.
ผมไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรหลังจากที่ผมได้กลายเป็นเดวิล มันยังอยู่อีกไกลดังนั้นผมเลยยังไม่ได้เตรียมเอาไว้.
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน ผมมีเวลาเตรียมตัวให้มากที่สุด.
แอบนอลน่าจะเป็นศัตรูที่อาจเกิดขึ้น ผมได้หันกลับมาต่อต้านเขาในระดับหนึ่งจากการสัญญาของสปิริตไฟและน้ำ...
‘มีข้อสรุปเพียงข้อเดียว.’
ตาของผมหม่นลง.
ผมหยิดวาธและดาบจักพรรดิ.
'ฉันต้องแข็งแกร่งกว่าตัวฉันในตอนนี้.’
ความตกใจจากการเผชิญหน้ากับแกรราสยังคงอยู่ ผมอาจจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดีม่อนแต่มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป.
มันเหมือนกับสถานการณ์โอคูลอส
ดังนั้น...ผมจะต้องแข็งแกร่งขึ้นจนกว่าจะไม่มีศัตรูเหลืออีก.
หลังกจากนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกลัวจากแอบนอลและโลกสปิริต.
ดูเหมือนว่าแกรราสจะยอมรับความแข็งแกร่งของผม
ในเวลาสามวันเขาได้ส่งผ่านเมล็ด1แสนผ่านทางจีวาส.
ส่วนใหญ่เป็นกิ่งไม้หรือใบไม้ที่ไหม้ไปกว่าครึ่งที่มีชีวิตอ่อนแอ.
“ผู้ทำสัญญา. อย่าปฏิบัตต่อเด็กๆเหล่านี้ไม่ดี หากพวกเขายกระดับขึ้นมาอย่างถูกต้องและส่งมันกลับมาให้เราแลัวคุณจะได้รับรางวัลใหญ่.”
จีวาสอธิบายกับผม มันเป็นสัญญาณของความรักที่มีต่อเมล็ดของเขา
"จำเป็นต้องคืนมันด้วย?”
"โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปตามที่ผู้ทำสัญญา อย่างไรก็ตาม..คิดอย่างรอบคอบเมื่อคุณตัดสินใจ เรามีสมบัติมากมาย มีสิ่งที่เป็นตำนานที่ราชาอื่นๆไม่เคยได้สัมผัส.”
แกรราสสวมใส่ไอเทมที่โดดเด่นอย่างมาก.
แต่อย่างไร....มันก็เป็นเพียงเล็กน้อยที่น่าแปลกใจว่ามีไอเทมระดับตำนานอยู่.
'เขาพยายามจะดึงดูดฉัน.’
ผมรู้ถึงผลกระทบของไอเทมระดับตำนานดังนั้นมันไม่สามารถดึงดูดความสนใจผมได้.
"เข้าใจแล้ว”
"ดี ผทได้ส่งเมล็ดให้คุณแล้ว ผมจะกลับไปผักพ่อนเสียหน่อย.”
เขาเหนื่อยจากการทำงานต่อเนื่องในสามวันนี้ ผมพยักหน้าและจีวาสก็กลับไปที่โลกสปิริต.
“มาสเตอร์ นี่คืออะไร?”
ยิฮิที่กำลังรออยู่ตรงหน้าผม
ผมตอบเรียบๆ
“เมล็ดสปิริต.”
"อ่าห์! นั่นคือเหตุผลที่ฉันสามารถรู้สึกได้ถึงพลังเวทย์ไฟ. ว้าว! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเมล็ดมากมาย.”
ยิฮิบินไปรอบๆเมล็ด.
หลังจากนั้นเธอก็กลับมานั่งที่ไหล่ผมและยิ้่มอย่างภูมิใจ.
“ยิฮิฮิ. มาสเตอร์. คุณจะปล่อยพวกเขาทุกคนในดันเจี้ยนหรือไม่?”
"ผมจะทำให้พวกเขาปรากฎตัวออกมาก่อนเป็นอย่างแรก.”
"งั้น ~ ให้ยิฮิบ้างได้ไหม?”
ผมรู้สึกกังวลกับสิ่งที่ยิฮิจะทำ แต่พวกเขาก็มีมากมาย.
"เอาไปได้แค่สาม.”
ในกรณีนี้ผมจะจำกัดจำนวนไว้.
“ยิฮิฮิฮิ! ตอนนี้ ~ ยิฮิสามารถไปเอามาได้แล้ว?”
ผมยักไหล่และพูด
“ไปเลย.”
“ยิฮิฮิฮิฮิ!”
เสียงหัวเราะของยิฮิดังไปทั่วดันเจี้ยน.