ตอนที่ 90 การเผชิญหน้าระหว่างคมดาบและเวทมนต์ 4
การแสดงออกของธีโอดอร์กลายเป็นหนักหน่วงจากคำพูดของเธอ เขามาที่นี่เพราะเขามีเรื่องต้องคุยกับเธอ แต่เธอกลับเข้าใจเขาผิด เช่นเดียวกับผู้คุ้มกันที่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันสองคนตามลำพังในห้องนี้
เช่นนั้นธีโอจึงตัดสินใจที่จะถามว่าสิทธิของผู้ชนะคืออะไร“สิทธิของผู้ชนะคืออะไรงั้นหรอ?”
“....ฉันขอโทษ แน่นอนว่าเซอร์ธีโอดอร์คงจะไม่รู้เกี่ยวกับหลักการของจักรวรรดิแอนดราส”รีเบคก้าจ้องมาที่เขาและเริ่มอธิบาย“จักรวรรดิจะไม่รับประกันชีวิตของผู้แพ้ มีเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่สามารถไว้ชีวิตผู้แพ้ได้ และผู้แพ้จะต้องมอบสิ่งตอบแทนให้กลับคืน นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขในการประลอง และจะมีการลงโทษอย่างรุนแรงจากครอบครัวของคุณหากคุณปฏิเสธมัน”
“…..”ธีโอดอร์ถึงกับหมดคำพูดกับคำอธิบายที่รุนแรงนี้
มันไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงเลยที่จะกล่าวว่าจักรวรรดิป่าเถื่อนนี้พูดด้วยคมดาบและความแข็งแกร่งแทนคำพูด ผู้ชนะคือผู้ที่แข็งแกร่งและผู้แพ้เป็นผู้อ่อนแอ มันเป็นห่วงโซ่อาหารที่ใช้ความรุนแรงเป็นตัวตัดสินอย่างเดียว เปรียบเสมือนกลุ่มของสัตว์ร้าย
ธีโอรู้สึกประหลาดใจว่าชนชาติที่ป่าเถื่อนเช่นนี้กลายมาเป็นจักรวรรดิได้อย่างไร
‘ไม่สิ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้มันเป็นไปได้’
ผู้คนต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ในช่วงวัยเด็ก จากนั้นเมื่อเข้าร่วมกับกลุ่มสังคม พวกเขาต้องอยู่รอดให้ได้ในการแข่งขันที่เรียกว่าการประลอง กระบวนการที่รุนแรงนี้ย่อมสร้างนักฆ่าออกมา จนกลายเป็นกองทัพที่มีอำนาจมากที่สุดในตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปจักรวรรดิแห่ง7เทพดาบ.....เลือดและเครื่องบรรณาการอาจจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้จักรวรรดิแอนดราสมีขนาดใหญ่ในหลายๆด้าน มันเป็นประเทศที่อยู่นอกเหนือสามัญสำนึก
ธีโอรู้สึกเวียนหัวจากวัฒนธรรมที่น่าตกตะลึงนี้ อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็ฟื้นสติของเขาและตัดบทสนทนาไป“ที่นี่ไม่ใช่แอนดราส เธอยังจะฟังคำขอของฉันอยู่ไหม?”
“ใช่ ฉันเป็นอัศวินแห่งแอนดราส”
“….มันยากที่จะเข้าใจได้ ฉันไม่รู้ว่าฉันสามารถขอได้มากแค่ไหน”
รีเบคก้าเงียบสักพักก่อนที่จะเปิดปากขึ้น “มันเป็นไปได้ที่จะเรียกร้องความมั่งคั่ง รูปปั้น และแม้กระทั่งทักษะมันไม่มีทาสอีกต่อไปดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกร้องให้เป็นทาส แต่คุณสามารถจ้างให้เข้าร่วมกลุ่มฟรีสักหนึ่งครั้ง ถ้าทั้งสองฝ่ายมีเพศต่างกันอาจจะมีคำขอที่พิเศษ”
“คำขอพิเศษ?”
“….หนึ่งคืน” มันเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับรีเบคก้าและเสียงของเธอก็แผ่วเบาลง หน้าของเธอกลายเป็นสีแดงขณะที่เธอมองต่ำลง
ธีโอดอร์สูญเสียการตอบสนองไป เขาตรวจดูรูปร่างของเธอที่นอนอยู่บนเตียงโดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะกระแอมออกมาสองสามครั้ง อย่างไรก็ตามรีเบคก้านั้นกลับเห็นสายตาของธีโอ
รีเบคก้าจ้องมาที่ธีโอดอร์ด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า “ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ร่างกายของฉันอยู่ในสภาพนี้ ดังนั้นถ้าคุณต้องการฉัน คุณต้องจัดการเองทุกอย่าง เสื้อผ้าของฉันหนามากดังนั้นคุณต้องถอดมันออกเอง”
ธีโอรู้สึกอับอายกับคำพูดของเธอและรีบโบกมือไปมา “ไม่ๆ ฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้น!”
“เป็นเช่นนั้นหรอ?ฉันเดาว่าเซอร์ธีโอดอร์คงจะไม่พึงพอใจกับคนเช่นฉัน ฉันขอโทษด้วย”
“…บ้าจริง รีเบคก้า โปรดอย่าพูดล้อฉันเลย” ธีโอดอร์ทึกทักเอาเองว่าเธอล้อเล่นและทิ้งหัวของเขาพร้อมกับถอนหายใจ
“อ่า ฉันขอโทษ คุณดูไร้เดียงสากว่าที่ฉันคิดไว้”
ธีโอดอร์เคยคิดว่ารีเบคก้าเป็นอัศวินที่คร่ำเคร่ง แต่เธอสามารถที่จะล้อเลียนเขาได้ด้วยวิธีนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของรีเบคก้าดูซุกซนอย่างมาก และรอยยิ้มเล็กๆของเธอดูเหมือนกับแรนดอล์ฟอย่างมาก
จากนั้นธีโอก็ได้นึกถึงสิ่งที่เขาต้องการจะถาม “แต่ฉันอยากจะถามอะไรกับเธอบางอย่าง รีเบคก้า”
“อะไร?”
“เธอรู้จักชายที่ชื่อแรนดอล์ฟไหม?”
ชื่อที่หลุดออกมาจากปากของเขา ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเธอถึงกับสะดุด
รีเบคก้าจ้องไปที่ใบหน้าของธีโอดอร์ราวกับเธอกำลังมองดูปีศาจและสีผิวของเธอได้แปรเปลี่ยนเป็นขาดซัดราวกับเธอเป็นรูปปั้น ปฏิกิริยาที่เธอไม่สามารถซ่อนได้บ่งบอกได้ว่าเธอรู้จักกับแรนดอล์ฟ
เธอพูดตะกุกตะกักขณะที่เธอถามธีโอ “ชะ-ชื่อนั้น คุณได้ยินมาจากที่ไหน?”
“ก่อนอื่น ฉันต้องการที่จะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ฉันไม่สามารถเปิดเผยได้ก่อนที่จะรู้ในเรื่องนี้”
“…ฉันเข้าใจ”เธอรู้สึกร้อนใจชั่วขณะ แต่เธอก็รีบฟื้นคืนลมหายใจของเธอ ไม่นานสีผิวของเธอก็กลับมาเป็นปกติอ
ความสงบของเธอคล้ายกับธีโอดอร์ นี่คือจิตใจและร่างกายที่มีพรสวรรค์ของคนที่ได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ดาบ รีเบคก้าต้องมองไปที่ธีโอเงียบๆก่อนที่เธอจะตัดสินใจ “เซอร์ธีโอดอร์ คุณสามารถทำให้เสียงไม่รั่วไหลออกไปจากห้องนี้ได้หรือไม่?”
เขาสร้างกำแพงที่จะป้องกันเสียงออกมาอย่างเงียบๆ
***
จักรวรรดิแอสดราสเป็นประเทศที่ทุกอย่างกำหนดโดยความรุนแรง 7เทพดาบแห่งจักรวรรดินั้นอยู่บนจุดสูงสุดและอาจจะเรียกได้ว่าพวกเขาเป็นผู้นำของประชาชน ในความเป็นจริงพวกเขามีสิทธิที่จะปกครองทุกคนยกเว้นองค์จักรพรรดิ
สินทรัพย์เช่นที่ดินหรือทรัพย์สินไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา อะไรเล่าที่จะมีค่าสำหรับปรมาจารย์ดาบที่เปรียบเสมือนพายุเดินได้?พวกเขามีอำนาจทุกอย่างภายในจักรวรรดิ
ตระกูลของ7เทพดาบนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของจักรวรรดิแอนดราส
“ครอบครัวของเรา โครวิส เคยเป็นที่รู้จักกันดีในจักรวรรดิเมื่อเราได้สร้าง1ใน7เทพดาบขึ้นมา”
ตามที่รีเบคก้ากล่าวเมื่อประมาณ130ปีก่อนครอบครัวโครวิสได้โด่งดังขึ้นเนื่องจากมีปรมาจารย์ดาบอยู่ในตระกูล เป็นครั้งแรกที่บ้านของพวกเขาเต็มไปด้วยโคมระย้าและเฟอร์นิเจอร์หรูหรา พวกเขาเชื่อว่าเขาจะนำพาไปสู่ความรุ่งโรงจ์อีกหลายร้อยปี
อย่างไรก็ตามความเชื่อนั้นก็ได้ถูกทำลายลง
“วันหนึ่ง องค์จักรพรรดิได้มอบคำบัญชาลงมา ให้ติดตามเนโครแมนเซอร์ที่คอยสร้างความวุ่นวายแก่จักรวรรดิและนำหัวของเนโครแมนเซอร์มา”
7เทพดาบนั้นเชื่อฟังองค์จักรพรรดิอย่างสุดหัวใจ ปรมาจารย์ดาบบรรพบุรุษของตระกูลโครวิสได้รับคำสั่งและข้ามเขตแดนไป แต่ทว่าเขาไม่เคยกลับมา
ความหายนะของตระกูลได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ปรมาจารย์ดาบไม่สามารถที่จะทำตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิได้ทำให้เกิดเสียงไม่ดีมากมาย จากนั้นตระกูลโครวิสก็ถูกถอดทิ้ง
แรนดอล์ฟและรีเบคก้าได้เกิดมาในครอบครัวที่กำลังจะตาย
“พ่อของฉันมีทักษะของเขา เขาไม่มีความแข็งแกร่งมากนักแต่เขาก็ได้ค้นหาหญิงสาวที่มีพรสวรรค์และหว่านเมล็ดพันธุ์ของเขาลงไป”
“เธอหมายถึง...”
“แรนดอล์ฟและฉันเป็นพี่น้องกันครึ่งหนึ่ง”ดวงตาเย็นชาของเธอจ้องมองไปในระยะไกลราวกับกำลังจ้องมองคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ “เด็กส่วนใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นนั้นเป็นความล้มเหลว นอกเหนือจากแรนดอล์ฟและฉัน คนอื่นๆต่างถูกขายให้กับครอบครัวอื่นๆ ในการที่จะสร้างปรมาจารย์ดาบขึ้นมาครอบครัวจำเป็นต้องทุ่มเททุกอย่างให้กับคนๆหนึ่งเท่านั้น”
เหล่าจอมเวทย์นั้นเป็นตั้งแต่โดยกำเนิด แต่จักรวรรดินั้นมีแนวทางในการอุปถัมภ์ผู้ใช้ออร่าในแบบวิธีของพวกเขา เด็กอัจฉริยะจะถูกคัดเลือดและอิลิกเซอร์จะถูกเทชโลมลงบนพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็จะได้รับการดูแลจาก1ใน7เทพดาบ และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นปรมาจารย์ดาบรุ่นต่อไป
แรนดอล์ฟและรีเบคก้าทั้งคู่ต่างได้รับการกล่าวว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่ทว่า โคลวิสนั้นไม่ได้มีอำนาจมากพอที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองคน มันเป็นสถานการณ์ที่ตระกูลต้องเลือกละทิ้งหนึ่งคนไป ในเวลานั้นจึงมีการทดสอบเพื่อวัดประสิทธิภาพระหว่างรีเบคก้าและแรนดอล์ฟ พวกเขาทั้งคู่จึงถูกบังคับให้อยู่คนละฝั่งกัน
ดังนั้นแรนดอล์ฟ โคลวิส จึงได้เดินทางออกจากบ้านไปตอนกลางดึก มันเป็นเพราะผลประโยชน์ของน้องสาวเขา
“เขาได้ทิ้งจดหมายไว้ว่าเขาจะมาพบกับฉันอีกครั้ง แต่....ตั้งแต่ตอนนั้นมาฉันก็ไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเขาอีกเลย”รีเบคก้าพูดขึ้นและมองไปที่ธีโออย่างเงียบๆ ดวงตาสีเขียวของเธอชื้นเล็กน้อย เรื่องราวของเธอดูเหมือนจะเป็นความจริง นอกจากนี้เธอยังไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหก ทำไมเธอต้องสร้างละครให้กับธีโอดอร์ ผู้ที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับสภาพการณ์ของจักรวรรดิแอนดราสกัน?
นั่นเป็นเหตุผลที่ธีโอตัดสินใจที่จะพูดคุย “ฉันได้พบกับแรนดอล์ฟเมื่อครึ่งปีที่แล้ว”
เสียงของเขาดังขึ้นในห้องที่ล้อมรอบด้วยเวทมนต์ปิดกั้นเสียง และดวงตาของรีเบคก้าก็ได้สว่างขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องราวของเขา
เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าแรนดอล์ฟได้ตามหาดาบคู่ของบรรพบุรุษและรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินว่าเขาพบมันในดันเจี้ยนของเอลเดอร์ลิช ในขณะนั้นเธอดูราวกับเด็กผู้หญิงที่สมกับวัยของเธอ
“เขายังคงเป็นพี่ชายของฉันอยู่”
รีเบคก้าได้ฟังเรื่องราวที่เธอโปรดปรานอีกครั้งก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความพึงพอใจ เธอดูเหมือนจะลืมเรื่องความเจ็บปวดของซี่โครงที่หักไป การสนทนาระหว่างทั้งสองคนและเวทย์ปิดกั้นเสียงได้สิ้นสุดลงแล้ว
ติ้ง!เมื่อตอน3ทุ่ม เสียงระฆังก็ได้ดังก้องในราชวัง เป็นสัญญาณเริ่มต้นของค่ำคืน
มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่จะอยู่ในห้องเดียวกัน ธีโอนั้นไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก่อนที่จะได้ยินเสียงระฆังเขาจึงรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าพอใจในหลายๆด้าน
“งั้นฉันจะไปแล้วนะ เป็นเรื่องที่ตลกสำหรับฉันที่พูดคุยเรื่องนี้กับคนที่ฉันทำให้บาดเจ็บ แต่โปรดรักษาตัวด้วย”
“อ่า เซอร์ธีโอดอร์—”รีเบคก้าพยายามจะเรียกเขา แต่เธอกลับเจ็บที่ซี่โครงของเธอ เพราะฉะนั้นเสียงของเธอจึงดังออกมาแค่นิดเดียว
ในที่สุดประตูก็ได้ปิดลงและทิ้งเธอไว้คนเดียว ทั่วห้องกลายเป็นเงียบขณะที่รีเบคก้าพยายามเหยียดมือไปที่ประตู เธอยังไม่จ่ายราคาสำหรับความพ่ายแพ้เลย
“….ฉันขอสัญญาว่าเมื่อเราพบกันอีกในอนาคตฉันจะชดใช้ เซอร์ธีโอดอร์”
เธอสาบายว่าจะชดใช้หนี้ให้กับเขาในสักวันหนึ่งขณะที่เธอหลับตาลง
***
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันน่าขบขันจริงๆ
ธีโอออกจากห้องและจ้องไปที่ผู้คุ้มกับด้วยสายตาอุ่นๆ ก่อนที่จะกลับไปที่ห้องของเขาด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ เช่นทุกครั้ง เขาได้ให้หนังสือสองเล่มแก่ความตะกละ และฝึกฝนตามตารางการฝึกก่อนที่จะนอนหลับไป
จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ธีโอได้วางแผนที่จะขอร้องให้เวโรนิก้าฝึกซ้อมเขา เมื่อเขาต้องหันอย่างฉับพลันหลายครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของซิลเวียและบลันเดลล์
ตอนนั้นเองที่ธีโอดอร์ได้ตระหนักถึงข่าวลือที่แพร่กระจายออกไป และเขาก็นึกถึงรอยยิ้มที่สดใจของรีเบคก้า
‘พี่ชายและน้องสาวทั้งคู่ช่างน่าชิงชังเหมือนกัน!”