Volume 1 / Chapter 30
LM Volume 1 Chapter 30
Volume 1 / Chapter 30
TL: LightNovelCafe
[TN: So Campbell…hm]
สถานที่แคมเบลนำพวกเขาไปยังที่จัดการอาวุธของไลฟ์เตอร์ ปืนพก SMGs, หน้าไม้และธนู มันเป็นการรวมอาวุธทุกอย่างไว้ด้วยกัน.
“มีอาวุธดีๆจำนวนมาก.”
“มาเก็บวัสดุเหล่านี้กัน เราสมควรได้รับสิ่งนี้หลังจากที่เราได้เจออะไรมา.”
จุนซังได้แยกอาวุธต่างๆให้กับกลุ่มของลอยด์ มันสะดวกที่จะให้พวกเขาเก็บเอาไว้ แต่คานิบาลได้แยกพวกเขาทั้งหมด(คนในตี้)ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์อย่างมาก.
การเป๋ามิติได้เต็มไปด้วยของที่ยกเค้า หากพวกเขาเอาอาวุธเหล่านี้กลับไปพร้อมกับชีวิตเขาได้ เมื่อพวกเขาได้ขายอาวุธเหล่านี้มันมีราคามากพอที่จะซื้อรถได้เลยทีเดียว.
“แต่.”
“หืม?”
“ทำไมพวกคานิบาลไม่ใช้ปืนและระเบิดเมื่อพวกเขาสามารถใช้ตาข่ายไฟฟ้า?”
ปืนและระเบิด เมื่อปลดล๊อคทั้งหมดแล้วมันก็เหมือนกับผู้ใช้เป็นแรมโบ้ ในวิถีอื่นๆอาจจะบอกได้ว่าตาข่ายไฟฟ้าอาจจะใช้ยากมากกว่านี้อีก.
ถ้าคานิบาลเผชิญหน้ากับจุนซังและจินฮยอกในสถาพติดอาวุธในลักษณะนี้ พวกเขาอาจจะต้องตายหรือไม่ก็ถูกจับ.
“ถ้าฉันเป็นผู้นำที่นี่ ฉันจะจัดการต่อผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต่อต้านโดยการเอาอาวุธทั้งหมดไว้ที่นี่.”
“ทำไม?”
“เพราะพวกเขาอาจจะแทงฉันข้างหลังได้”
ด้วยปืน คานิบาลสามารถฆ่าพวกเราได้อย่างง่ายดาย ถ้าเขาไม่ควบคุมพวกมันคำสั่งต่างๆอาจจะถูกต่อต้านและกฎทั้งหลายจะถูกทำลาย.
“เมื่อคุณพูดแบบนั้นมันก็สมเหตุสมผล.”
“ไปเถอะ.”
จุนซังเก็บอาวุธชุดสุดท้ายขึ้นและเดินกลับไปยังกลุ่มของลอยด์
เขาได้ให้SMGsแต่ละคนพร้อมกับกระสุนกว่า300นัด พร้อมระเบิดอีกจำนวนนึงโดยไม่เว้นแม้แต่คนเดียว.
“อาวุธนี่ของพวกมัน?”
“ไม่.”
คาไลล์ถามถึงที่มาของอาวุธ มันต้องมีอาวุธมากกว่าหลายสินชิ้นจากไลฟ์เตอร์ที่ตาย จุนซังพูดตรงๆ.
“ฉันเก็บส่วนที่เหลือไว้ทั้งหมด.”
“ทำไมคุณพูดแบบนั้น?”
“ต้องขอบคุณ ผมได้ให้คุณมามากแล้ว ผมจะทิ้งพวกคุณไว้ที่นี่.”
คาลไลล์รู้สึกอับอายหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของจุนซัง มันเหมือนกับเขากำลังพูดว่า‘คุณกำลังทำอะไร คุณจะเอาอาวุธไปทั้งหมด?’
“มิสเตอร์ชา หยุดก่อน.”
“เรากำลังจะออกไปทันที?”
“ออกไปเพราะไม่มีอะไรดีกับการอยู่ในสถานที่ๆน่ากลัวนี้.”
ทันทีที่พวกเขาตัดสินใจ ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน พวกเขาได้ออกจากฐานใน2ชั่วโมงผ่านเส้นทางที่จุนซังจำได้.
สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือพวกเขาไม่ถูกโจมตีขณะที่พวกเขากำลังออกไป.
พวกมันซ่อนตัวอยู่เพราะกลัวถูกทำลาย? มันอาจจะเป็นอย่างนั้น แม่ว่ามันจะโกรธ แต่มันก็เป็นอีกวิธีนึงในการรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันไว้.
กี๊!
อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจผิด ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะออกไปจากสถานที่นี้ได้อย่างง่ายดาย.
วิ้งงง!
ทันทีที่พวกเขาออกไป พวกเขาก็สวมใส่แว่นช่วยวิสัยทัศน์แบบเดิม ในเวลาเดียวกันความร้อนของคาลนิบาลที่ถูกจับได้.
“จินฮยอก เอาหน้าไม้และไรเฟิลของนายออกมา พวกมันเข้ามาใกล้แล้ว”
“แม่ง!”
จินฮยอกจับปืนไรเฟิล เขารู้ว่าพวกมันปล่อยเขาง่ายเกินไป พวกมันรู้ว่าพวกเขาอยู่ในพื้นที่แคบๆและพาพวกเขาออกมายังพื้นที่โล่ง.
“เราอยู่ในวงล้อม?”
“พวกมันมีประมาณ300คน ผมคิดว่าเราต้องฆ่าพวกมันให้หมด.”
เขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคานิบาลอย่างชัดเจน พวกมันกำลังเฝ้าดูการเคลื่อไหวของกลุ่มจุนซังห่างออกไป 40 เมตร สิ่งมีชีวิตเจ้าเล่ห์พวกนี้กำลังรอให้พวกเขาเข้าไปในป่า.
‘ตัวใหญ่5ตัว....ตัวใหญ่โครตๆอีก1 นั่นคือผู้นำ.’
มันคงไม่ใช่เลเวล 3.
ความสมดูลจะถูกทำลายหากเป็นเลเวล 3 คานิบาลเป็นมิวแทนที่เก่งดังนั้นเขาจึงประเมิณว่า หากเป็นเลเวล 2 เขาสามารถเข้าต่อสู้ได้โดยไม่ต้องใช้ปืน.
ฉีบ.
จุนซังเดินไปรอบๆและค้นหาพวกมันด้วยธนู คานิบาลไม่ได้ตั้งใจปล่อยพวกเขาออกไปและปินกั้นเส้นทางแต่ละแห่งเอาไว้.
พวกเขาต้องการล่อคานิบาลตัวอื่นๆมาไว้ในพื้นที่ๆพวกเขาจัดเตรียมเอาไว้ นี่คือบ้านของพวกมัน ดังนั้นคนในปาร์ตี้จึงเสียเปรียบ.
“พวกมันกำลังประลองปัญญากับคน? งั้นก็มาดูกันว่าใครชนะ.”
“คุณมีแผน?”
“ถ้าเราพวกเราฆ่าพวกมันสักครึ่งก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว เราจะเล่นกับพวกมัน”
จุนซังขัดแย้งกับคำพูดที่ว่า ‘แม้ว่าพวกเราอาจจะไม่ตาย.’ เรามีความมั่นใจที่จะปกป้องจินฮยอก ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม.
“ปรมาณ 36-49 เมตร.”
เขาวัดระยะทาง คาลนิบาลที่อยู่ใกล้พวกเขามากที่สุดคือ36เมตรแต่ไม่เกิน49เมตร พวกมันมีความแข็งแกร่งมากเป็นไปได้ก็ไม่ต้องเข้าสู้ระยะประชิดกับพวกมัน.
“รอผมยิง.”
“จำนวนเท่าไร?”
“พวกมันทั้งหมด!”
ตัวจุนซังเองรับมือได้ 5 จินฮยอก 6 และยังมีกลุ่มของลอยด์อีกกลุ่ม เมื่อพวกเขาจัดการกับพวกมันที่มีถึง 16 คน.
จุนซังโยนบางอย่างเข้าไปในป่าและจับเวลา.
36-49เมตร Fever shots(ไข้บิน)หนักกว่า 1 กิโลกรัม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะโยนสิ่งของออกที่หนักขนาดนี้ออกไปเกินกว่า36เมตร
“อึด!”
“คุณกำลังทำอะไร!”
“มิสเตอร์ชา!”
ทีมของลอยด์แหกปาก เนื่องจากการทำลายล้างของไข้บินมีอานุภาพมาก เขาโยนสิ่งของแบบนั้นราวกับว่าไม่มีอะไรและไม่ได้ตั้งเวลา.
เคี๊ยกๆ!
คานิบาลออกจากมาจากจุดของเขาหลังจากที่เห็นไข้บินไปทางพวกมัน คนที่รู้สึกความอันตรายของมันคือคนที่ไม่ได้อยู่ด้านนอก.
ในระยะทางดังกล่าวของพวกเขากับคานิบาลอยู่ไกลมาก ตอนนี้เขาไม่สามารถตรวจพบพวกมันได้ในระยะ 50 เมตร.
“คุณสามารถมองเห็นไข้บินได้ด้วยแว่นตา?”
“ฉันสามารถยิงและตั้งค่ามันได้อย่างถูกต้อง?”
“คุณฉลาด”
ฮี่ ฮี่!
มีข้อจำกัดมากมายในการตั้งเวลา เขาอาจจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ถ้าเขาโยนหลังจากตั้งเวลา แต่ถ้าเขาโยนมันทันทีหล่ะ? มันจะไม่ด้านอย่างแน่นอน.
“เนื่องจากพวกมันยังคงมีความสงสัย เพราะงั้นเราจะรอสักพักก่อนที่จะไปยังสถานที่ของพวกมัน.”
คานิบาลไม่รู้จักคำว่า ด้าน พสกมันแยกแยะออกเพียงแค่ว่ามีบางอย่างหายไปและบางอย่างยังคงเดิม พวกมันจะกลับมาหลังจากที่พวกมันรู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
ลอยด์เดาะลิ้น การดำเนินการแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีแว่นตาวิสัยทัศน์.
แซ่กๆ!
จุนซังยิ้ม เป็นไปดังที่เขาคาดไว้ คานิบาลเกิดความสงสัยหลังจากผ่านไป 30 นาที และพวกมันก็อยู่ห่างออกไป 40 เมตร.
“ดู. ไม่ว่ามันจะฉลาดแค่ไหนมันก็ไม่สามารถฉลาดไปกว่ามนุษย์ได้.”
“ค่อนข้าง?”
“ใช่.”
คาลนิบาลถูกมองว่ามันมีความฉลาดเมื่อเปรียบเทียบกับมิวแทน ไลฟ์เตอร์ถูกหลอกโดยพวกมันเพราะพวกเขาคิดว่าพวกมันติดโรคและมีระดับใกล้เคียงกัน.
หากพวกมันคิดที่จะต่อสู้และมีความคิดในระดับเดียวกันพวกมันอาจจะต้องกลับมาพร้อมกับจำนวนที่มากกว่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่ตายหลังจากอยู่ในโกดังเนื้อ.
มันไม่สมเหตุผล? มันไม่ใช่ยุคดึกดำบรรพ์และพวกเขาตกลงไปในหลุม หรือว่าพวกมันพยายามที่จะวางกับดัก แต่มันก็ติดอยู่ในตาจ่ายไฟฟ้าแทน?
“ระยะการยิงของไข้บินอยู่ที่ 15 เมตร ดังนั้นจะมีการระเบิดอีกหลายครั้งมันก็จะต้องมีการระเบิดแน่นอนครั้งนึง.”
“มันสามารถฆ่าทุกตัวได้ไหม?”
“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่รวดเร็ว เพราะงั้นมันจะมีการตอบสนองทันทีเมื่อมันดับลง.”
การทำลายล้างคือการทะเยอทะยาน มองไปที่วิธีการที่พวกมันกระจายออกไป 50% จะไม่สามารถหลบหนีได้และจะถูกเผาตาย เห็นได้ชัดว่ามันยกกาดสูงมาก.
ส่วนที่เหลือพวกเขาเพียงแค่ยิงหรือใช้เทคนิคต่างๆในการส่งพวกมันลงหลุม มันเป็นการแสดงออกที่น่าสงสารเมื่อไม่สามารถจัดการพวกมันด้วยวิธีเดียวกัน.
“ผมควรจะยิงไหม?”
“หนึ่งตัวไกลที่สุด.”
“หนึ่งจากทั้งหมดที่? มีอุกสรรคจำนวนมาก มาลองดูกันว่าผมจะผ่านมันได้หรือไม่.”
จินฮยอกเล็งเป้าและยิงไข้บินไปยังที่จุนซังบอก.
มีต้นไม้ไม่กี่ต้นที่ขวางทางเขา เขาไม่แน่ในว่ากระสุนจะผ่านไปได้ไหมเนื่องจากความหนาของมัน แต่มัเขาก็ไม่ได้ใช้เวลานานเกิน.
“ถ้ามันไม่อาจผ่านไปได้ ก็จะใช้ลูกที่ 2 หรือ 3”
“นั่นคือจิตวิญญาณ.”
เพียว!
กระสุนตัดผ่านอากาศ มันผ่านต้นไม้และดูเหมือนว่ามันจะไปถึงไข้บินขณะที่มันหมุนอย่างรุนแรง แต่มันเสียพลังและหยุด.
เพียว!
เมื่อความร้อนเกิดขึ้นหลังจากที่กระสุนผ่านไปยังเป้าหมายที่เขาต้องการเล้งเป้าไว้ เขายิงอีกครั้งเข้าไปยังรูเดิม.
มันเป็นการยิงกระสุนซ้อนในที่เดียวกันผ่านอุปสรรคที่ขวางกั้น.
ผลัก.
คว้างง!
สุดท้ายมันก็ถึงไข้บิน ความร้อยก็ระเบิดตามออกมา
คว้างๆๆๆ!
ไขบินทั้ง 16 ลูกระเบิดต่อเนื่อง ระยะ 15 เมตรกับการระเบิด 5-6 ครั้งในเวลาไม่กี่วินาที.
เคี๊ยก!
มันใช้ได้ คาลนิบาลถูกกวาดล้างและวิ่งไปรอบๆทั้งที่โดนเผา ไม่แน่ใจว่ามันเป็นการเผาป่าโดยมีคานิบาลอยู่ข้างใน.
ตึง!
หัวหน้าโกรธมาก กลุ่มที่รอดได้ได้มารวมตัวกันและคำรามเพื่อที่จะเข้าใส่กลุ่มของจุนซัง พวกเขายอมแพ้สงครามจิตวิทยา.
ปุปุ!
ทีมของลอนด์มุ่งเป้าไปที่การฆ่าพวกมัน คาลไลล์ได้โจมตีร่วมด้วยในขณะที่เขาเองก็กล้วคาลนิบาลและยุ่งวุ่นวายมาก.
ตูมตูม!
เมื่อระเบิดทั้ง4ะรเบิดขึ้น คาลนิบาลถูกฉีกเป็นชิ้นๆในท้ายที่สุด พวกเขาจะเป็นต้องรวมพลังและผ่านภารกิจให้สมบูรณ์.
“เราไม่สุดท้าย! เราต้องออกไปให้ได้!”
“ตามผมมา!”
จุนซังนำทาง มีตัวที่รอดมากกว่าตัวที่ตายจากไข้บิน มันเป็นอันตรายหากเขายังคงอยู่จุดนี้ พวกเขาต้องเคลื่อนไหว.
อึก!
คาลนิบาลเข้าจู่โจมจากทุกทาง พวกมันสร้างแรงกดดัน พวกมันไม่ได้ป้องกันชีวิตตามคำสั่งของผู้นำ มันเป็นทีมพลีชีพ
ชึกฉึบ!
ปะปัง!
เขายิงปืนเพื่อเครียร์เส้นทาง ทุกคนต่อสู้อย่างสุดแรงแต่คานิบาลก็มีจำนวนมาก คาลไลลกลายเป็นไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ.
“เราต้องทำตามมิสเตอร์ชา!”
“มันมากเกินไป! มีคาลนิบาลมากมายอยู่ในป่าและไฟไหม้!”
“ครับ!”
คาลไลล์ป้องหู จุนซังได้ออกจากพวกเขาออกไปและเลือกคนที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะตาย เขาไม่สามารถหาแรงจูงใจที่จะตามไปได้.
“ลองมองไปข้างหน้า! มองไปที่มัน คานิบาลกำลังติดตามเขา!”
ส่วนใหญ่ได้ไล่ตามจุนซัง พวกมันรู้ว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าพวกพ้องของพวกมันซะส่วนใหญ่ เขาฆ่าพวกมันกว่า 1000 ตัว ดังนั้นพวกมันไม่อาจลืมเขาได้.
“มิสเตอร์ชา ช่วยพวกเรา!”
“หุบปาก!”
ฉึกแชะ!
คาลไลล์ออกจากกลุ่มและเดินออกไปด้านข้าง กลุ่มของลอยด์เป็นทีมจากกองกำลังพิเศษเพื่อปกป้องเขา พวกเขาไม่มีสทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามเขาไป.
ซวบ.
แคลเบลกำลังมองไปที่คาลไลล์ในฐานะบุลคลที่สาม.
การแสดงออกที่น่าสงสารของคนเห็นแก่ตัวในการประเมิณสถานการณ์ ลักษณะของเขาเป็นคนที่มักจะตายโดยไม่จำเป็น.
จุนซังกำลังพาพวกเขาออกนอกเส้นทางแม้ว่ามันจะลำบากแต่เป็นเพราะว่าเขารู้เส้นทางและใช้เวลาน้อยที่สุดในการเข้าถึงพื้นที่ซัมม่อน.
นี่คือบ้านเกิดของคาลนิบาล ถ้าพวกเขาหายออกไปในเส้นทางอื่นๆพวกเขาจะถูกจับทันทีโดยไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าพวกเขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่พวกเขาต้องไม่เปลี่ยนเส้นทาง.
ฉึกแชะ!
แคมเบลจำเป็นต้องเลือกระหว่างลอยด์และจุนซังหรืออยู่ด้านหลัง เจาอยู่ห่างจากจุนซังมากและมักหนักเกินที่จะตามเขาไปเพียงลำพัง.
“โอ้ โห! 4 คนดีกว่า 2 คน และอ่อนแอก็ยังดีกว่าแข็งแรง.”
แคมเบลไปอีกด้าน ด้วยเหหตุนี้พรรคพวกถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน.