ตอนที่แล้วChapter 43 Escape (Part 1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 45 Escape (Part 3)

Chapter 44 Escape (Part 2)


Chapter 44 Escape (Part 2)

มันเป็นช่วงเวลาที่คับขัน.

ผมเป็นนำทีมของผมก้าวไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.

‘เราไม่มีเวลา.’

ถ้าผมเป็นผู้นำไลแคน ผมจะจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ไม่จำเป็นต้องให้ชาวบ้านมีเวลามากมายในการเตรียมการต่อสู้.

สิ่งที่ฉันมั่้นใจคือพวกเขาจะไม่โจมตีหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว.

พวกเขาจะรู้ว่าเราอยู่กับชาวบ้าน

กลัวการทำลายล้างของปืนไรเฟิล พวกมันจะไม่เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง.

ยิ่งสู้นานเท่าไรยิ่งดี.

ยิ่งมันนานเท่าไรเวลาที่เราหลบหนีได้ก็นานขึ้นเท่านั้น.

‘ตอนนี้คนในหมู่บ้านจะรู้แล้วว่าพวกเราได้หนีไปแล้ว?’

ผู้นำหมู่บ้านที่เห็นอะไรผิดปกติเล็กน้อยเหล่านี้คงจะรู้ถึงความผิดปกติแล้ว.

แต่ก็ไม่มีประโยชน์.

ลูกเต๋าได้ถูกทอยแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นแม้ว่าจะไม่มีเรานอกจากการสู้รบ ถ้าพวกเขายอมจำนนตอนี้ก็ไม่ได้มีการรับประกันว่าไลแคนจะยกโทษให้พวกเขา.

คูณเติบโตและคุณก็ถูกกิน.

คุณจะอยู่ภายใต้ชะตากรรมแบบไหน? ผมไม่สามารถอยู่ได้กับชีวิตที่น่าสมเพชและไม่มีอนาคตแบบนี้.

นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ขาวบ้านรู้สึกตอนนี้.

สิ่งที่เขาต้องการคือการระเบิดจากแรงกดดัน มันระเบิดอยู่ในตอนนี้และพวกเขาจะต่อสู้อย่างประมาท.

ความจริงที่คนหลายร้อยตายเพราะผมก็มีน้ำหนักอย่างมาก.

‘ตาของผมไม่ผิด ผมไม่ได้พูดแบบนี้หรอ? ผู้เข้าสอบคิมฮยอนโฮเป็นคนที่มีความสามารถ.’

คำพูดของเด็กเทพ(ไอ้หนอนด้วง)นั่นเข้ามาในใจผม

‘ทุกการตัดสินใจของคุณหนักแน่นและใจเย็น สิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ขณะที่คิมฮยอนโฮตัดสินใจคืออะไร? ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่มั๊ยว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่พิเศษมาก?’

“ระยำเอ้ย…”

ผมสถบคำหยาบออกมา

“มันคือ?”

จูนโฮถามผมด้วยความประหลาดใจ แฮซูและจุนชอยก็มองผม.

“ทุกคนคิดว่าสิ่งที่ผมทำผิดไหม?”

ผมถาม.

“มีทางเลือกอื่นนอกจากการเสียสละชาวบ้าน?”

บรรยากาศมาคุ.

“คุณมีสิทธิ์.”

คนเดียวที่พูกคือจุนชอย.

“คนในหมู่บ้านไม่ได้อ่อนแอและไม่ใช่เด็ก ถ้าคุณไม่รู้ว่าผู้นำหมู่บ้านมีแผนอะไร ชะตากรรมที่เราต้องเผชิญจะเป็นอย่างไร.”

“…”

“คนเหล่านั้นพยายามที่จะฆ่าเราเพื่อที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ มนฐานะมนุษย์แทนที่จะให้ศีลธรรมพวกเขาให้ความสำคัญกับการอยู่รอดของตัวเองเราก็แค่ทำแบบเขา ถ้าเขามาหาเราด้วยความปรารถนาดีเราก็คงไม่ต้องตัดสินใจแบบนั้น.”

“…คุณคิดงั้น?”

“เพราะงั้น ผมเลยคิดว่ามันไม่มีอะไร”

จูนโฮและแฮซูพูด.

“คุณคิดถูกแล้วฮยอง.”

“ฉันคิดว่าคุณไม่ผิดหรอกนะโอปป้า มันก็เป็นแค่...ฉันเพิ่งพบเจอกับสถานการณ์ที่จะต้องตัดสินใจแบบรุนแรงแบบนี้.”

“ผมเข้าใจแล้ว ผมไม่ได้ตัดสินใจเพราะผมชอบมัน เอาหล่ะไปกันเถอะ.”

ผมเดินต่อและคนในทีมก็เดินตาม

จุนชอยคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาด้วยความปรารถนาดีพวกเราก็คงจะไม่ทำแบบนี้.

… ผมจะทำยังไงดี?

ถ้าผมเป็นคนดีผมคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้?

ผมไม่มั่นใจ.

ผมเป็นคนแบบไหน การสอบทำให้ผมเปลี่ยนเป็นอีกคน.

เวลาผ่านไปการสอบก็มากขึ้นและในเวลาที่ผ่านมาผมจะไม่ทุกข์ทรมาณ อารมร์ต่างๆที่กัดเซาะออกมามันอาจจะทำให้ผมตกลงมาได้.

หลังจากที่ผมกลายเป็นแบบนั้นผมยังคงหัวเราะกับครอบครัวได้ไหม?

‘ผมไม่รู้.’

ลองหยุดความคิดเหล่านี้ไว้.

ก่อนอื่นผมต้องรอด.

เราเดินไม่ค่อยรอบคอบ เราไม่ได้พูดคุยกันและเราเพียงแค่เดิน.

สุดท้ายแฮซูก็พูด

“พักแล้วค่อยไปเถอะ.”

“โอ้ โทษที ตอนนี้ผมพึ่งรู้ว่าเรายังไม่ได้พักสักครั้ง เท้าคุณเป็นไงมั่ง?”

“ไม่มีปัญหา แค่แผลพุพองเล็กน้อยทำให้รำคาญเท่านั้น ฉันจะทำอะไรกับมันสักหน่อย.”

“ตกลง.”

เราได้พักช่วงเวลาสั้นๆ.

แฮซูเอาเท้าออกจากรองเท้าและถอดถุงเท้าออก เผยให้เห็นเท้าที่ผุพองของเธอ

โชคดีที่เรามียารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพ ทีมของยูจีโซที่ผ่านมา19รอบแล้วได้มอบให้พวกเรา.

แฮซูเปิดยารักษาและเทมันออกมาในปริมาณที่น้อยบนเท้าและทามันเหมือนครีม จากนั้นไม่ต้องตกใจปากแผลที่เปิดก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว.

จูนโฮมองไปที่มันด้วยสายตาที่เปิดกว้าง.

“ว้าว เห็นผมทันที.”

“จริงจังดิ.”

ในระดับนี้แม้ว่าจะมีแผบที่กว้างกว่านี้มันก็จะได้รับการรักษาทันที.

หลังจากที่ทำบาดแผลทั้งหมดของเธอแล้ว แฮซูก็ใส่ถุงเท้ารองเท้าเหมือนเดิม.

ผมเรียกซิล.

“ซิล สดแนมให้หน่อย.”

-เมี๊ยว.

ซิลหายตัวไปอย่างรวดเร็ว.

แต่เธอก็กลับมาเร็วกว่าปกติและร้องออกมา.

-เมี๊ยว!

เรารู้สึกตกใจและลุกขึ้นยืนทันที

“ศัตรู?”

ซิลพยักหน้าและเคลื่อนตัวไปยังพื้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเขียน.

เลข‘1.’

“1 ตัว?”

-เมี๊ยว.

ซิลพยักหน้า.

“มันเป็นไลแคน?”

ผมคิดว่าบางทีอาจจะเป็นมันและคราวนี้ซิลก็พยักหน้า.

มีเพียงไลแคนตัวเดียวที่ตามเรามา คิดว่าอย่างไง? มันลืมไปแล้วว่าพวกมันตายด้วยน้ำมือเราไปถึง 13 ตัว?

“ระยะทาง?”

ซิลเขียนเลข 272.

‘เอาหล่ะ นัดเดียวด้วยปืน.’

“อาวุธ.”

ไรเฟิลได้ปรากฎขึ้นมาในมือของผม ผมเอากระสุนที่เก็บไว้และขึ้นลำกล้องก่อนจะมอบให้ซิล.

“มาจับมันกันดถอะ.”

-เมี๊ยว.

ซิลพยักหน้าและรีบไปยังตำแหน่งนั่นก่อนที่จะเหนี่ยวไก.

ปัง-

เสียงจากลำกล้องดังกังวาล.

“เธอเก็ยมันแล้ว?”

ซิลส่ายหัวของเธอ.

ผมสงสัย.

ซิลยิงปืนออกไปและไม่โดนภายในนัดเดียว? ซิลไม่เคยทำพลาด.

“ยิงจนกว่าจะเก็บมันได้.”

-เมี๊ยว.

จากนั้นซิลก็ยิงอีก4ครั้ง.

ขณะที่เธอยิงมันไปทั้งหมด5ครั้ง แต่มันก็ยังมีความกังวลบนใบหน้าของเธอขณะที่มองมาที่ผม.

ผมให้กระสุนอีก 5 นัด.

ซิลขึ้นลำอย่างรวดเร็วและยิงมันอีกครั้ง.

ปัง, คลิก, ปัง, คลิก.

ซิลยิงต่อเนื่อง

เธอยิงมันออกไปหลานครั้งแต่ก็ยังจัดการไม่เสร็จ?

บางทีอาจจะเป็นที่ผมคิด ผมถาม.

“มันถืออะไรบางอย่างที่คล้ายๆโล่?”

เธอพยักหน้า

‘ฉันรู้ว่าจะใช่.’

ครั้งสุดท้ายก็มีตัวนึงที่ใช้ซากของเพือนเป็นโล่และวิ่งหนี ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะคล้ายๆกัน.

“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมมีบางอย่างไม่ถูกต้อง.”

“ครับ ฮยอง.”

“เรียบร้อย.”

จูนโฮและแฮซูเอาอาวุธออกมา.

จาอนั้น.

-เนี๊ยววววว!

ซิลกรีดร้องดูเหมือนว่าเธอจะเตือนเรา เมื่อเรารู้สึกตกใจกับเสียงของเธอ บางอย่างที่เหมือนกับแฟลชก็บินผ่านเราไป.

ชวิง คว้างงง!

“คุเฮือก!”

ด้วยเสียงที่น่ากลัวมันเหมือนกับเสียงกรีดร้องก่อนตาย มันเป็นเสียงของจูนโฮ.

“อ๊าา! จูนโฮ!”

แฮซูร้องเสียงดัง.

มันเกิดอะไรบนโลกนี้ ผมหันหลังกลับมา.

‘…?!’

ผมตกใจและผมไม่สามารถพูดอะไรได้.

ลูกศรได้แทงเข้าไปในอกของจูนโฮ ลึกไปถึงหัวใจ.

ดวงตาของจูนโฮยังเบิกกว้าง เขายังคงจ้องมอง ตาย

เขาตายคาที่

เมื่อกี้จูนโฮยังมีชีวิตอยู่.

“ซิล! จัดการศรทั้งหมดที่มาหาเรา!”

-เมี๊ยว!

ซิลตอบ.

แต่มันก็สายเกินไป จูนโฮ ตายแล้ว

‘จะดีกว่านี้ถ้าเรารู้ล่วงหน้า!’

ผมโกรธตัวเอง.

ใช้โล่และมีความฉลาดเหมือนมนุษย์ ถ้าเป็นแบบนี้ผมควรจะคิดว่ามันอาจจะใช้อาวุธ.

ผมรู้สึกว่าโทษซิล.

ทำไมเธอถึงไม่บอกเรื่องนี้ ทำไมเธอถึงร้องออกมาและไม่ขวางกั้นลูกธนูที่บินไปยังจูนโฮ!

มันเป็นข้อจำกัด สปิริตไม่สามารถพูดได้และถ้าไม่มีคำสั้งก็จะไม่ทำอะไร.

จากนั้นโล่และหอกของจูนโฮก็หายไป เจ้าของตายไปแล้วไอเทมทั้งหมดก็หายไป.

-เมี๊ยว.

ซิลเตือนผมอย่างเงียบๆ.

วูซซซ-

ลูกศรอีกอันได้บินออกมา.

ในเวลานั้น ซิลก็ใช้คมมีดลมฟันไปยังลูกศร.

เป๊าะ!

ลูกศรถูกหั่นเป็นชิ้นๆ และกระจายอยู่บนพื้น มันเป็นลูกศรที่มุ่งมาหาผม.

“งั้น นายก็เป็นซัมม่อนสปิริต.”

จากเบื้องหน้าที่ไหนสักที่ได้ยินเสียงผู้ชายใหญ่ๆดังออกมา.

มันคือไรแคน.

ไอ้สารเลวนั่นพูด.

“โอ้ ให้อาวุธกับสปิริต นั่นคือปัญหา.”

“…”

“สิ่งมีรูปร่างยาวๆและรู...เหล็กนั่นถูกยิงออกจากรูนั่น? งั้นฉันก็แค่หลีกเลี่ยงที่รูนั่นชี้.”

การสังเกตและการตัดสินค่อนข้างน่าประทับใจ.

“ดูเหมือนว่าอาวุธของพวกนายจะมีอย่างเดียว มันค่อนข้างง่ายเกินไป?”

“…”

“ตระกูลเงินมากเกินไป แต่ไลแคนก็ไม่ได้สนใจมนุษย์เท่าไร นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่ได้สนใจสิ่งที่มนุษย์สร้างมากมายเหล่านั้น แต่ถ้าใช้มันก็ได้ผลดีมาก เหมือนกับตอนนี้.”

ไอ้สารเลวนี่น่าถึง.

ผมพูดในสิ่งที่ผมสงสัย.

“คุณเป็นผู้นำตระกูลไลแคน?”

เขาตอบ.

“ฉันเอง.”

ถูกต้อง!

ความแข็งขันนี่มัน…

จิตใจที่ยืดหยุ่นและรู้วิถีการใช้สิ่งของของมนุษย์.

นี่คือผู้นำด้าน ‘ปศุสัตว์’ และยังเพิ่มจำนวนในตระกูลเงินมากกว่า5เท่า.

การพูดคุยหยุดลงตรงนี้.

ศัตรูกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งและไม่ได้พูดอะไรอีกและเราไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แต่เพียงเตรียมตัวสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป.

วูซซซซ-

ลูกศรอีกดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาและซิลใช้มีดลมเพื่อกำจัดลูกศร.

การกระทำและพฤติการของผู้นำตระกูลเงินไม่ค่อยรีบร้อนเท่าไร มันดูแปลกๆ ราวกับว่าเขาอยู่ข้างๆเราดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะรีบร้อน…

‘เดี๋ยว เวลา?’

เวลา!

ตอนนี้ผมสามารถรู้แผนของผู้นำตระกูลเงินได้.

ไอ้สารเลวนั่นรู้เรื่องการซัมม่อนสปิริต เขารู้ดีว่าการซัมม่อนมีจำกัดเวลาและการเรียกที่ค่อนข้างจำกัด.

เขากำลังรอเวลาให้ซิลหมดเวลา!

“ซิล เขาอยู่ไหนน?”

ซิลใช้จาหน้าชี้ไปที่ 1 นาฬืกา.

“ระยะทาง?”

คราวนี้เธอใช้หางเขียนเลข16.

16 เมตร.

มันอยู่ใกล้ๆ.

การโจมตีไอ้สารเลวนั่นไร้ประโยชน์และเห็นได้ชัดว่าชัยชนะด้านแผนการนั้นฉลาดสุดๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทีมของเราจะมีข้อจำกัด ในการเรียกใช้สปิริต.

จาอนั้นซิลก็เขียนตัวเลขอีกครั้ง.

32.

จากนั้นเธอก็ลบตัวเลขและเขียนใหม่.

59.

ผมตกใจและถามเธอ.

“เขาถอยกลับ?”

-เมี๊ยว!

ซิลพยักหน้าของเธอ.

ผมรู้สึกหยาวสั่น.

ฝ่ายตรงข้ามถอยออกไปเพื่อที่จะไม่โดนโจมตีจากสปิริต

ผ่ายตรงข้ามรู้ได้อย่างถูกต้องกับการซัมม่อนที่ถูกกำหนดเวลาและยิ่งห่างจากสปิริตเท่าไรการโจมตีก็ยิ่งลดลง

แผนของมันชัดเจน; การรักษาระยะห่างออกไปปานกลางและมีการลากเวลาให้นานขึ้นกับการสู้รบ.

ถ้าผมพยายามจะเซฟเวลาของซิลโดยการเรียกกลับไปกลับมา เขาอาจจะเข้ามาใหล้และยิงขึ้นอีกครั้ง.

ผมต้องเรียกซิลออกมาบ่อยๆเพื่อประหยัดเวลาในการซัมม่อน.

‘ฝ่ายตรงข้ามฉลาด.’

ผมใจของผมเต้นแรงขึ้น.

ความกลัวค่อยๆเข้ามา

กับสิ่งเหล่านี้ ที่เรากำลังต่อสู้กับมอนเตอร์ที่ไม่มีเพียงแค่มีพลัง แต่ยังฉลาดด้วย?

ผทไม่สามารถเข้าใจวิธีเอาชนะในสถานการณ์นี้ได้.

ก่อนอื่นเราต้องเคลื่อนไหว.

“ไปเถอะ เราต้องออกไปก่อน.”

“ไอ้สารเลว?”

จุนชอยถาม.

“เขาพยายามที่จะสู้ยืดเยื้อ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะเสียเปรียบ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกจากป่านี้.”

“ฉันเข้าใจ.”

“โอปป้า… แล้วจูนโฮ…”

แฮซูถามพร้อมกับกลั้นน้ำตา…”

เมื่อเห็นจูนโฮที่กำลังนอนอยู่พร้อมกับลูกศรที่อยู่ตรงหัวใจ ในใจผมรู้สึกว่ามันกำลังจพฉีก ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะลุกขึ้นและโทรหาผมพร้อมกับพูด ‘ฮยอง.’

“…ไปเถอะ เราต้องไป.”

ผมเดินนำออกไปและแฮซูที่เดินตามด้วยน้ำตา.

จุนชอยอยู่ข้างหลังและระวังหลังให้พวกเรา.

----------------------

คิดไว้แล้วว่ามันต้องตาย 555 จะได้พิมพ์ชื่อไม่งงสักที เดวEng มา จูน(Joon) จุน(Jun) ยูน(Yoon) ด้วยบทตระประกอบที่จืดจางและไม่มีอะไรเลยนอกจากโล่เน่าๆกับหอกควยๆสกิลกาก ไม่ได้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็น ทำอาหาร หาเมไจ พยาบาล ไม่มีอะไรสักอย่างที่ตัวละครนี้ทำ

ผมไม่รู้ว่าหลายๆคนเคยอ่านป่าวนะผมคิดว่าคาแร๊คเตอร์ของพระเอกเราจะเหมือนกับเรื่อง มาสเตอร์กันมาสเตอร์ (Master Gun X Master)<<ชื่ออิ้งไม่รู้ถูกเปล่านะ 55

0 0 โหวต
Article Rating
7 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด