Chapter 44 Escape (Part 2)
Chapter 44 Escape (Part 2)
มันเป็นช่วงเวลาที่คับขัน.
ผมเป็นนำทีมของผมก้าวไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.
‘เราไม่มีเวลา.’
ถ้าผมเป็นผู้นำไลแคน ผมจะจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ไม่จำเป็นต้องให้ชาวบ้านมีเวลามากมายในการเตรียมการต่อสู้.
สิ่งที่ฉันมั่้นใจคือพวกเขาจะไม่โจมตีหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว.
พวกเขาจะรู้ว่าเราอยู่กับชาวบ้าน
กลัวการทำลายล้างของปืนไรเฟิล พวกมันจะไม่เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง.
ยิ่งสู้นานเท่าไรยิ่งดี.
ยิ่งมันนานเท่าไรเวลาที่เราหลบหนีได้ก็นานขึ้นเท่านั้น.
‘ตอนนี้คนในหมู่บ้านจะรู้แล้วว่าพวกเราได้หนีไปแล้ว?’
ผู้นำหมู่บ้านที่เห็นอะไรผิดปกติเล็กน้อยเหล่านี้คงจะรู้ถึงความผิดปกติแล้ว.
แต่ก็ไม่มีประโยชน์.
ลูกเต๋าได้ถูกทอยแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นแม้ว่าจะไม่มีเรานอกจากการสู้รบ ถ้าพวกเขายอมจำนนตอนี้ก็ไม่ได้มีการรับประกันว่าไลแคนจะยกโทษให้พวกเขา.
คูณเติบโตและคุณก็ถูกกิน.
คุณจะอยู่ภายใต้ชะตากรรมแบบไหน? ผมไม่สามารถอยู่ได้กับชีวิตที่น่าสมเพชและไม่มีอนาคตแบบนี้.
นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ขาวบ้านรู้สึกตอนนี้.
สิ่งที่เขาต้องการคือการระเบิดจากแรงกดดัน มันระเบิดอยู่ในตอนนี้และพวกเขาจะต่อสู้อย่างประมาท.
ความจริงที่คนหลายร้อยตายเพราะผมก็มีน้ำหนักอย่างมาก.
‘ตาของผมไม่ผิด ผมไม่ได้พูดแบบนี้หรอ? ผู้เข้าสอบคิมฮยอนโฮเป็นคนที่มีความสามารถ.’
คำพูดของเด็กเทพ(ไอ้หนอนด้วง)นั่นเข้ามาในใจผม
‘ทุกการตัดสินใจของคุณหนักแน่นและใจเย็น สิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ขณะที่คิมฮยอนโฮตัดสินใจคืออะไร? ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่มั๊ยว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่พิเศษมาก?’
“ระยำเอ้ย…”
ผมสถบคำหยาบออกมา
“มันคือ?”
จูนโฮถามผมด้วยความประหลาดใจ แฮซูและจุนชอยก็มองผม.
“ทุกคนคิดว่าสิ่งที่ผมทำผิดไหม?”
ผมถาม.
“มีทางเลือกอื่นนอกจากการเสียสละชาวบ้าน?”
บรรยากาศมาคุ.
“คุณมีสิทธิ์.”
คนเดียวที่พูกคือจุนชอย.
“คนในหมู่บ้านไม่ได้อ่อนแอและไม่ใช่เด็ก ถ้าคุณไม่รู้ว่าผู้นำหมู่บ้านมีแผนอะไร ชะตากรรมที่เราต้องเผชิญจะเป็นอย่างไร.”
“…”
“คนเหล่านั้นพยายามที่จะฆ่าเราเพื่อที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ มนฐานะมนุษย์แทนที่จะให้ศีลธรรมพวกเขาให้ความสำคัญกับการอยู่รอดของตัวเองเราก็แค่ทำแบบเขา ถ้าเขามาหาเราด้วยความปรารถนาดีเราก็คงไม่ต้องตัดสินใจแบบนั้น.”
“…คุณคิดงั้น?”
“เพราะงั้น ผมเลยคิดว่ามันไม่มีอะไร”
จูนโฮและแฮซูพูด.
“คุณคิดถูกแล้วฮยอง.”
“ฉันคิดว่าคุณไม่ผิดหรอกนะโอปป้า มันก็เป็นแค่...ฉันเพิ่งพบเจอกับสถานการณ์ที่จะต้องตัดสินใจแบบรุนแรงแบบนี้.”
“ผมเข้าใจแล้ว ผมไม่ได้ตัดสินใจเพราะผมชอบมัน เอาหล่ะไปกันเถอะ.”
ผมเดินต่อและคนในทีมก็เดินตาม
จุนชอยคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาด้วยความปรารถนาดีพวกเราก็คงจะไม่ทำแบบนี้.
… ผมจะทำยังไงดี?
ถ้าผมเป็นคนดีผมคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้?
ผมไม่มั่นใจ.
ผมเป็นคนแบบไหน การสอบทำให้ผมเปลี่ยนเป็นอีกคน.
เวลาผ่านไปการสอบก็มากขึ้นและในเวลาที่ผ่านมาผมจะไม่ทุกข์ทรมาณ อารมร์ต่างๆที่กัดเซาะออกมามันอาจจะทำให้ผมตกลงมาได้.
หลังจากที่ผมกลายเป็นแบบนั้นผมยังคงหัวเราะกับครอบครัวได้ไหม?
‘ผมไม่รู้.’
ลองหยุดความคิดเหล่านี้ไว้.
ก่อนอื่นผมต้องรอด.
เราเดินไม่ค่อยรอบคอบ เราไม่ได้พูดคุยกันและเราเพียงแค่เดิน.
สุดท้ายแฮซูก็พูด
“พักแล้วค่อยไปเถอะ.”
“โอ้ โทษที ตอนนี้ผมพึ่งรู้ว่าเรายังไม่ได้พักสักครั้ง เท้าคุณเป็นไงมั่ง?”
“ไม่มีปัญหา แค่แผลพุพองเล็กน้อยทำให้รำคาญเท่านั้น ฉันจะทำอะไรกับมันสักหน่อย.”
“ตกลง.”
เราได้พักช่วงเวลาสั้นๆ.
แฮซูเอาเท้าออกจากรองเท้าและถอดถุงเท้าออก เผยให้เห็นเท้าที่ผุพองของเธอ
โชคดีที่เรามียารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพ ทีมของยูจีโซที่ผ่านมา19รอบแล้วได้มอบให้พวกเรา.
แฮซูเปิดยารักษาและเทมันออกมาในปริมาณที่น้อยบนเท้าและทามันเหมือนครีม จากนั้นไม่ต้องตกใจปากแผลที่เปิดก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว.
จูนโฮมองไปที่มันด้วยสายตาที่เปิดกว้าง.
“ว้าว เห็นผมทันที.”
“จริงจังดิ.”
ในระดับนี้แม้ว่าจะมีแผบที่กว้างกว่านี้มันก็จะได้รับการรักษาทันที.
หลังจากที่ทำบาดแผลทั้งหมดของเธอแล้ว แฮซูก็ใส่ถุงเท้ารองเท้าเหมือนเดิม.
ผมเรียกซิล.
“ซิล สดแนมให้หน่อย.”
-เมี๊ยว.
ซิลหายตัวไปอย่างรวดเร็ว.
แต่เธอก็กลับมาเร็วกว่าปกติและร้องออกมา.
-เมี๊ยว!
เรารู้สึกตกใจและลุกขึ้นยืนทันที
“ศัตรู?”
ซิลพยักหน้าและเคลื่อนตัวไปยังพื้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเขียน.
เลข‘1.’
“1 ตัว?”
-เมี๊ยว.
ซิลพยักหน้า.
“มันเป็นไลแคน?”
ผมคิดว่าบางทีอาจจะเป็นมันและคราวนี้ซิลก็พยักหน้า.
มีเพียงไลแคนตัวเดียวที่ตามเรามา คิดว่าอย่างไง? มันลืมไปแล้วว่าพวกมันตายด้วยน้ำมือเราไปถึง 13 ตัว?
“ระยะทาง?”
ซิลเขียนเลข 272.
‘เอาหล่ะ นัดเดียวด้วยปืน.’
“อาวุธ.”
ไรเฟิลได้ปรากฎขึ้นมาในมือของผม ผมเอากระสุนที่เก็บไว้และขึ้นลำกล้องก่อนจะมอบให้ซิล.
“มาจับมันกันดถอะ.”
-เมี๊ยว.
ซิลพยักหน้าและรีบไปยังตำแหน่งนั่นก่อนที่จะเหนี่ยวไก.
ปัง-
เสียงจากลำกล้องดังกังวาล.
“เธอเก็ยมันแล้ว?”
ซิลส่ายหัวของเธอ.
ผมสงสัย.
ซิลยิงปืนออกไปและไม่โดนภายในนัดเดียว? ซิลไม่เคยทำพลาด.
“ยิงจนกว่าจะเก็บมันได้.”
-เมี๊ยว.
จากนั้นซิลก็ยิงอีก4ครั้ง.
ขณะที่เธอยิงมันไปทั้งหมด5ครั้ง แต่มันก็ยังมีความกังวลบนใบหน้าของเธอขณะที่มองมาที่ผม.
ผมให้กระสุนอีก 5 นัด.
ซิลขึ้นลำอย่างรวดเร็วและยิงมันอีกครั้ง.
ปัง, คลิก, ปัง, คลิก.
ซิลยิงต่อเนื่อง
เธอยิงมันออกไปหลานครั้งแต่ก็ยังจัดการไม่เสร็จ?
บางทีอาจจะเป็นที่ผมคิด ผมถาม.
“มันถืออะไรบางอย่างที่คล้ายๆโล่?”
เธอพยักหน้า
‘ฉันรู้ว่าจะใช่.’
ครั้งสุดท้ายก็มีตัวนึงที่ใช้ซากของเพือนเป็นโล่และวิ่งหนี ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะคล้ายๆกัน.
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมมีบางอย่างไม่ถูกต้อง.”
“ครับ ฮยอง.”
“เรียบร้อย.”
จูนโฮและแฮซูเอาอาวุธออกมา.
จาอนั้น.
-เนี๊ยววววว!
ซิลกรีดร้องดูเหมือนว่าเธอจะเตือนเรา เมื่อเรารู้สึกตกใจกับเสียงของเธอ บางอย่างที่เหมือนกับแฟลชก็บินผ่านเราไป.
ชวิง คว้างงง!
“คุเฮือก!”
ด้วยเสียงที่น่ากลัวมันเหมือนกับเสียงกรีดร้องก่อนตาย มันเป็นเสียงของจูนโฮ.
“อ๊าา! จูนโฮ!”
แฮซูร้องเสียงดัง.
มันเกิดอะไรบนโลกนี้ ผมหันหลังกลับมา.
‘…?!’
ผมตกใจและผมไม่สามารถพูดอะไรได้.
ลูกศรได้แทงเข้าไปในอกของจูนโฮ ลึกไปถึงหัวใจ.
ดวงตาของจูนโฮยังเบิกกว้าง เขายังคงจ้องมอง ตาย
เขาตายคาที่
เมื่อกี้จูนโฮยังมีชีวิตอยู่.
“ซิล! จัดการศรทั้งหมดที่มาหาเรา!”
-เมี๊ยว!
ซิลตอบ.
แต่มันก็สายเกินไป จูนโฮ ตายแล้ว
‘จะดีกว่านี้ถ้าเรารู้ล่วงหน้า!’
ผมโกรธตัวเอง.
ใช้โล่และมีความฉลาดเหมือนมนุษย์ ถ้าเป็นแบบนี้ผมควรจะคิดว่ามันอาจจะใช้อาวุธ.
ผมรู้สึกว่าโทษซิล.
ทำไมเธอถึงไม่บอกเรื่องนี้ ทำไมเธอถึงร้องออกมาและไม่ขวางกั้นลูกธนูที่บินไปยังจูนโฮ!
มันเป็นข้อจำกัด สปิริตไม่สามารถพูดได้และถ้าไม่มีคำสั้งก็จะไม่ทำอะไร.
จากนั้นโล่และหอกของจูนโฮก็หายไป เจ้าของตายไปแล้วไอเทมทั้งหมดก็หายไป.
-เมี๊ยว.
ซิลเตือนผมอย่างเงียบๆ.
วูซซซ-
ลูกศรอีกอันได้บินออกมา.
ในเวลานั้น ซิลก็ใช้คมมีดลมฟันไปยังลูกศร.
เป๊าะ!
ลูกศรถูกหั่นเป็นชิ้นๆ และกระจายอยู่บนพื้น มันเป็นลูกศรที่มุ่งมาหาผม.
“งั้น นายก็เป็นซัมม่อนสปิริต.”
จากเบื้องหน้าที่ไหนสักที่ได้ยินเสียงผู้ชายใหญ่ๆดังออกมา.
มันคือไรแคน.
ไอ้สารเลวนั่นพูด.
“โอ้ ให้อาวุธกับสปิริต นั่นคือปัญหา.”
“…”
“สิ่งมีรูปร่างยาวๆและรู...เหล็กนั่นถูกยิงออกจากรูนั่น? งั้นฉันก็แค่หลีกเลี่ยงที่รูนั่นชี้.”
การสังเกตและการตัดสินค่อนข้างน่าประทับใจ.
“ดูเหมือนว่าอาวุธของพวกนายจะมีอย่างเดียว มันค่อนข้างง่ายเกินไป?”
“…”
“ตระกูลเงินมากเกินไป แต่ไลแคนก็ไม่ได้สนใจมนุษย์เท่าไร นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่ได้สนใจสิ่งที่มนุษย์สร้างมากมายเหล่านั้น แต่ถ้าใช้มันก็ได้ผลดีมาก เหมือนกับตอนนี้.”
ไอ้สารเลวนี่น่าถึง.
ผมพูดในสิ่งที่ผมสงสัย.
“คุณเป็นผู้นำตระกูลไลแคน?”
เขาตอบ.
“ฉันเอง.”
ถูกต้อง!
ความแข็งขันนี่มัน…
จิตใจที่ยืดหยุ่นและรู้วิถีการใช้สิ่งของของมนุษย์.
นี่คือผู้นำด้าน ‘ปศุสัตว์’ และยังเพิ่มจำนวนในตระกูลเงินมากกว่า5เท่า.
การพูดคุยหยุดลงตรงนี้.
ศัตรูกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งและไม่ได้พูดอะไรอีกและเราไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แต่เพียงเตรียมตัวสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป.
วูซซซซ-
ลูกศรอีกดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาและซิลใช้มีดลมเพื่อกำจัดลูกศร.
การกระทำและพฤติการของผู้นำตระกูลเงินไม่ค่อยรีบร้อนเท่าไร มันดูแปลกๆ ราวกับว่าเขาอยู่ข้างๆเราดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะรีบร้อน…
‘เดี๋ยว เวลา?’
เวลา!
ตอนนี้ผมสามารถรู้แผนของผู้นำตระกูลเงินได้.
ไอ้สารเลวนั่นรู้เรื่องการซัมม่อนสปิริต เขารู้ดีว่าการซัมม่อนมีจำกัดเวลาและการเรียกที่ค่อนข้างจำกัด.
เขากำลังรอเวลาให้ซิลหมดเวลา!
“ซิล เขาอยู่ไหนน?”
ซิลใช้จาหน้าชี้ไปที่ 1 นาฬืกา.
“ระยะทาง?”
คราวนี้เธอใช้หางเขียนเลข16.
16 เมตร.
มันอยู่ใกล้ๆ.
การโจมตีไอ้สารเลวนั่นไร้ประโยชน์และเห็นได้ชัดว่าชัยชนะด้านแผนการนั้นฉลาดสุดๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทีมของเราจะมีข้อจำกัด ในการเรียกใช้สปิริต.
จาอนั้นซิลก็เขียนตัวเลขอีกครั้ง.
32.
จากนั้นเธอก็ลบตัวเลขและเขียนใหม่.
59.
ผมตกใจและถามเธอ.
“เขาถอยกลับ?”
-เมี๊ยว!
ซิลพยักหน้าของเธอ.
ผมรู้สึกหยาวสั่น.
ฝ่ายตรงข้ามถอยออกไปเพื่อที่จะไม่โดนโจมตีจากสปิริต
ผ่ายตรงข้ามรู้ได้อย่างถูกต้องกับการซัมม่อนที่ถูกกำหนดเวลาและยิ่งห่างจากสปิริตเท่าไรการโจมตีก็ยิ่งลดลง
แผนของมันชัดเจน; การรักษาระยะห่างออกไปปานกลางและมีการลากเวลาให้นานขึ้นกับการสู้รบ.
ถ้าผมพยายามจะเซฟเวลาของซิลโดยการเรียกกลับไปกลับมา เขาอาจจะเข้ามาใหล้และยิงขึ้นอีกครั้ง.
ผมต้องเรียกซิลออกมาบ่อยๆเพื่อประหยัดเวลาในการซัมม่อน.
‘ฝ่ายตรงข้ามฉลาด.’
ผมใจของผมเต้นแรงขึ้น.
ความกลัวค่อยๆเข้ามา
กับสิ่งเหล่านี้ ที่เรากำลังต่อสู้กับมอนเตอร์ที่ไม่มีเพียงแค่มีพลัง แต่ยังฉลาดด้วย?
ผทไม่สามารถเข้าใจวิธีเอาชนะในสถานการณ์นี้ได้.
ก่อนอื่นเราต้องเคลื่อนไหว.
“ไปเถอะ เราต้องออกไปก่อน.”
“ไอ้สารเลว?”
จุนชอยถาม.
“เขาพยายามที่จะสู้ยืดเยื้อ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะเสียเปรียบ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกจากป่านี้.”
“ฉันเข้าใจ.”
“โอปป้า… แล้วจูนโฮ…”
แฮซูถามพร้อมกับกลั้นน้ำตา…”
เมื่อเห็นจูนโฮที่กำลังนอนอยู่พร้อมกับลูกศรที่อยู่ตรงหัวใจ ในใจผมรู้สึกว่ามันกำลังจพฉีก ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะลุกขึ้นและโทรหาผมพร้อมกับพูด ‘ฮยอง.’
“…ไปเถอะ เราต้องไป.”
ผมเดินนำออกไปและแฮซูที่เดินตามด้วยน้ำตา.
จุนชอยอยู่ข้างหลังและระวังหลังให้พวกเรา.
----------------------
คิดไว้แล้วว่ามันต้องตาย 555 จะได้พิมพ์ชื่อไม่งงสักที เดวEng มา จูน(Joon) จุน(Jun) ยูน(Yoon) ด้วยบทตระประกอบที่จืดจางและไม่มีอะไรเลยนอกจากโล่เน่าๆกับหอกควยๆสกิลกาก ไม่ได้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็น ทำอาหาร หาเมไจ พยาบาล ไม่มีอะไรสักอย่างที่ตัวละครนี้ทำ
ผมไม่รู้ว่าหลายๆคนเคยอ่านป่าวนะผมคิดว่าคาแร๊คเตอร์ของพระเอกเราจะเหมือนกับเรื่อง มาสเตอร์กันมาสเตอร์ (Master Gun X Master)<<ชื่ออิ้งไม่รู้ถูกเปล่านะ 55