Chapter 42 The Ranch (Part 2)
Chapter 42 The Ranch (Part 2)
ผมพร้อมจะทำเรื่องแย่ๆกับผู้นำจริงๆ.
ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมไว้ไอ้สารเลวที่เอามนุษย์ไปเป็นอาหารกลับมอนเตอร์ เขาเป็นคนเลวยิ่งกว่าโกชางเป็นร้อยๆเท่า.
แต่ความเชื่อมั่นเหล่านั้นไม่จำเป็น.
“ฉันจะ ฉันจะทำ ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะทำมัน ฉันต้องทำอะไรบ้าง?”
จากการตอบกลับของผู้นำ ผมยิ้ม.
‘ฉันรู้ว่าคุณต้องการ.’
คนภายนอกที่เข้ามาในหมู่บ้านหรือแม้แต่คนในหมู่บ้านเอง เขาก็เสนอให้พวกนั้นเป็นอาหารของไลแคน.
โดยทั่วไปแล้วเขาเป็นผู้จัดการของไลแคน.
ไม่มีทางที่คนเห็นแก่ตัวคนนี้จะเป็นประโยชน์คนอื่นๆ.
“เมื่อไหร่ที่ไลแคนมาถึงหมู่บ้านนี้?”
“พวกเขากำลังมาคืนนี้ พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า”
“เท่าไหร่?”
“ปกติพวกเขาจะมาเป็นคู่”
“พวกเขาจะเข้ามาทางเข้าของหมู่บ้านใช่มั๊ย?”
“ใช่.”
“บอกผมเกี่ยวกับไลแคนทุกสิ่งทุกอย่าง.”
ด้วยคำพูดของผม ผู้นำหยุดแปปนึงก่อนที่จะเริ่มอธิบายเกี่ยวกับไลแคน.
“ไลแคนที่ควบคุมพื้นที่แถวนี้คือตระกูลเงินที่มีขนสีเงิน และความรู้เกี่ยวกับจำนวนของพวกเขาก็มีกว่า 100 ตัว.”
“ร้อย?!”
ผมช๊อค.
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยบอกว่ากลุ่มไลแคนมีไม่มากนัก.
แต่เป็นร้อย?
“พวกเขาไม่ได้มีมากมายแต่เริ่ม เมื่อ20ปีที่ผ่านมาพวกเขาแทบจะมีไม่เกิน 20 ตัว.”
ตามข้อมูลของศูนย์วิจัย ไลแคนมักจะอยู่กันเป็นครอบครัว.
พ่อได้กลายเป็นผู้นำและอยู่กับกลุ่มลูกๆและภรรยาของเขา ตามความสามารถของพ่อเขาสามารถรวบรวมภรรยาและลูกหลานของเขาเพิ่มมากขึ้น.
ขนาดของกลุ่มจะพิจารณาจากพื้นที่ๆเขาควบคุม.
เนื่องจากจำนวนของลูกหลานจะถูกกำหนดโดยเหยื่อที่สามารถรวบรวมได้จากการล่า.
กลุ่มพวกนี้สร้างมาจากครอบครัวและสามารถอยู่รอดได้หลังจากการล่าดังนั้นขนาดกลุ่มจึงยังคงสม่ำเสมอ.
แต่กลุ่มตระกูลเงินประสบความสำเร็จด้วยการเพิ่มจำนวนกลุ่มและการอยู่รอดในวิธีแบบใหม่.
‘การปฏิวัติที่น่าทึ่ง!’
ผมพบว่าผู้นำตระกูลเงินนั้นยอดเยี่ยม.
มันสามารถนำมาเทียบกับวิธีที่มนุษย์สมัยก่อนประวัติศาตร์ที่จะมีระเบิดเรื่องการทำฟาร์ม.
(เมื่อก่อนมนุษย์ก็เลี้ยงเพื่อกินก่อนที่จะมีระเบิดและล่าอาณานิคม)
ไอ้ห่าพวกนั้นกำลังเปลี่ยนจากการล่ามาเป็นการเลี้ยง ‘ปศุสัตว์!’
ปศุสัตว์.
มันเป็นคำน่ารังเกียจ.
โดยบังเอิญเมื่อมนุษย์ได้หลุดเข้าไปในดินแดนของตระกูลเงินเลยทำให้พวกมันได้โอกาสใหม่ๆ.
ปล่อนให้มนุษย์ปลูกบ้านของพวกเขาและเลี้ยงพวกเขาเหมือนกับปศุสัตว์โดยการให้พวกเขาส่งอาหารให้เป็นระยะๆ.
ขณะที่พวกมันได้รับอาหารอย่างปลอดภัยพวกมันเลยขยายาพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จในการมีคนในตระกูลเป็นร้อยๆตัว.
การเตอบโตของตระกูลแรกในรอบ 20 ปี แสดงให้เห็นว่าผู้นำตระกูลเงินมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในความทะเยอทะยานของเขาตระกูลของเขาเลยมีอำนาจมากขึ้น.
‘แมร่งเอ้ย ความคิดของศูนย์ไม่ถูกต้อง เราควรจะเข้าไปยังดินแดนของโทรลล์!’
หากมันเป็นกลุ่มของไลแคนปกติ ด้วยความสามารถของคนในกลุ่มเราก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะพวกมัน.
มันศัตรูดันเป็นกลุ่มไลแคนที่มีมากกว่า100ตัวและฉลาดพอที่จะทำสิ่งใหม่ๆ.
มันจะดีกว่านี้หากผ่านดินแดนของโทรลล์.
ไม่ว่าพวกโทรลล์จะแข็งแกร่งแค่ไหนพวกมันก็ไม่มีความคิดที่จะทำแบบนี้ด้วยความสามารถกลุ่มเราสามารถหลีกเลี่ยงมันได้และเดินผ่านไป.
‘ในกรณีนี้ ถ้าเราไม่มาที่หมู่บ้านนี้ เราก็ไม่สามารถเครียร์ภารกิจนี้ได้!’
มันอาจจะทำให้ฉันตัดสินใจที่จะทำอย่างโหดเหี้ยมหว่าผู้นำที่กระทำเอาไว้.
คืนนี้ผมได้ให้ผู้นำบอกคนในหมู่บ้านไม่ให้ออกจากบ้าน.
จากนั้นผมก็จะออกไปพร้อมกับคนในทีมไปยังถนนของหมู่บ้านและออกที่ทางเข้า แผนการคือจัดการไลแคนทั้งหมดในครั้งเดียวเมื่อพวกมันมาถึงหมู่บ้าน.
-เมี๊ยว!
จากนั้นซิลที่กลับมาหลังจากสอดแนมก็วาดเลข4ขึ้น.
มันหมายความว่ามีไลแคน4ตัวกำลังมุ่งหน้ามาหาเรา.
ผมพูดกับจุนชอย
“เมื่อผมให้สัญญาณให้ออกไปก่อนหลังจากนั้นเมื่อคุณดึงดูสายตามันชั่วครู่ผมจะเอาสไนเปอร์ออกมาส่องดูการเคลื่อนไหวของเขาและเราต้องปล่อยให้พวกมันหนึ่งตัวรอดออกไปก่อนที่พวกมันจะกลับมา.”
“เข้าใจแล้ว.”
ในที่สุดไอ้ไลแคนสารเลวพวกนั้นก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าทางเข้าหมู่บ้าน.
และมันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
“เอาหล่ะตอนนี้.”
ผมแตะไปที่ไหล่ของผู้นำหมู่บ้าน.
“อุ…!”
ผู้นำที่เสียใจและกลัวมาในตอนแรก เขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้.
ผมกระซิบเข้าไปที่หูเขา.
“ถ้าคุณพยายามจะลองอะไรซักอย่างซิลจะเฉือดคอคุณ”
“ฉัน ฉันเข้าใจ.”
“ไปเดี๋ยวนี้.”
ผู้นำที่ดูเหมือนกับจะร้องไห้ได้ถูกผลักให้ก้าวออกไป
ผู้นำหันหน้าเข้าไปหาไลแคนที่เข้ามาในหมู่บ้าน ผู้นำที่กำลังตกอยู่ในความกลัวและทำตัวเหมือนกับไม่เคยก้มหัวให้กับใครกำลังทำแบบนั้นกับไลแคน.
“โอ้ ยินดีต้อนรับ เรากำลังรอการมาของคุณ.”
นี่ไม่ใช่คำทักทายจริงๆ แต่มันก็ทำให้พวกเขายอมรับได้.
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
หนึ่งในไลแคนถามผู้นำชี้ไปยังบ้านพวกเรา.
“เหมือเดิมที่อย่างที่เราทำ พวกเราได้เลี้ยงอาหารและทำให้พวกเขานอน พวกเราไม่สงสัยอะไรจนกระทั่งเวลาผ่านไป.”
“นำทางไป”
“ครับ ครับ ตามผมมา.”
ผู้นำได้เริ่มนำทาง เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม ความลับของการแสดงคือการโง่เขลาจนถึงตอนนี้ที่พวกเขาเป็นคนเสนอคนในเผ่าพันธุ์เพื่อเป็นอาหารของมอนเตอร์และความคิดทั้งหมดนี้เป็นเรื่องน่ารังเกียจ.
“ตอนนี้.”
ด้วยคำพูดของผม จุยชอยพยักหน้าและวิ่งออกไป.
ในเวลาเดียวกันผมก็จะใช้การแทรกแซงอื่นๆ.
“อาวุธ.”
ปืนไรเฟิลปรากฎที่มือของผมและผมก็ให้ซิลไป.
“หืม?”
“นี่คือ?”
ไลแคที่มองไปยังจุนชอยที่กำลังวิ่งมาหาพวกเขาด้วยความสงสัย สำหรับพวกเขามันแปลกที่จะมีเนื้อ(มนุษย์)วิ่งเขามาในหมู่บ้านที่เหมือนกับตู้กับข้าวของพวกเขา.
แต่พวกเขาก็กลายเป็นโกลาหล.
ปัง!
ด้วยกระสุนปืนหัวของพวกเขาหนึ่งตัวก็ระเบิด.
“หึม!”
“ไม่ ไม่?!”
โดยไม่ทราบสาเหตุหนึ่งในไลแคนของพวกเขาก็ตายทันทีและที่เหลือก็ตกอยู่ในความสับสน.
“อุฮิ! เซฟ เซฟ…!”
ด้วยเสียงกรีดร้องของผู้นำที่วิ่งหนีไป.
ขณะเดียวกันจุนชอยที่กำลังวิ่งไปด้วยความเร็วก็หมุนตัวเตะ.
เผล๊ะ!
แต่บางทีการโจมตีครั้งนี้หนักเกินไป ไลแคนกระจายออกทันที.
จุนชอยกลับมาอยู่บนพื้นพร้อมกับหัวที่ลู่ตามขาขวาของเขา.
“มนุษย์ช่างกล้านัก!”
ไลแคนตัวอื่นๆที่อยู่รอบๆเริ่มกลางกรงเล็บของเขา.
จุยชอยปัดแขนซ้ายของเขาและสวนการโจมตี ในเวลาเดียวกันมือขวาก็จับไปยังตัวพวกเขาให้โค้งลงพร้อมกับการตีเข่า การโจมตีที่ต่อเนื่องไปยังจุดสำคัญของไลแคนทำให้พวกมันเสียสมดุล.
จุนชอยใช้ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของเขาจู่โจมไปที่ตาอย่างรวดเร็ว.
ปึกๆๆๆๆๆๆ-
จุนชอยได้เปลี่ยนไลแคนให้เห็นเค้กข้าวด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง.
ในเวลาเดียวกันซิลก็ชักลูกเลื่อนเพื่อเปลี่ยนกระสุนอีกครั้งพร้อมกำหนดเป้าหมาย.
ปัง-
“คุฮุ!”
คราวนี้ไลแคนถูกยิงเข้าที่หัวใจ การเอามือกุมอกที่มีแต่หลุมและตายลงขณะที่ยืนช่างน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง.
ตอนนี้เหลือเพียงแค่สองเท่านั้น ไม่,
ตึกๆๆ!
หมัดของจุนชอยบดไปที่คอของไลแคนตอนนี้เหลือเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น.
“วิธี วิธีนี้อาจจะเป็น! พวกเขาหลอกเรา!”
ตัวที่เหลือของไลแคนกำลังหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธที่ตกไปยังผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจึงสั่นด้วยความกลัว.
“รอก่อน! เราจะจัดการพวกแกทั้งหมด!”
ไลแคนหันหลังและเริ่มวิ่งออกไป.
“มันแปลกที่จะปล่อยให้เขากลับไปโดยที่ไม่มีอันตราย ซิลยิงไปที่ขาซ้าย.”
-เมี๊ยว.
ด้วยคำพูดผมซิลเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเล.
ปัง-
“อ๊ากก!”
ได้ยินเสียงรวดร้าวพร้อมกับภาพของไลแคนที่กำลังหนีเข้าไปในเงามืดก่อนจะหายไป.
ดี ไลแคน4ตัวเป็นชัยชนะที่เรียบง่าย ไม่พูดก็ไม่ได้เนื่องจากประสบความสำเร็จในการซุ่มโจมตีฝ่ายเดียว.
แต่ผู้นำที่มีส่วนกับความสำเร็จอย่างมากโผล่เข้ามา
“แต่ ตอนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นหลับจากตัวที่ออกไปจากหมู่บ้านของเรา…”
อะไร.
แกกำลังพูดถึงไลแคนทั้งหมด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้นำที่มีส่วนร่วมในการโจมตีและทำให้ไลแคนตาย ด้วยวิธีนี้เขาไม่อาจที่จะไม่เข้าร่วมกับพวกผมได้.
แต่ผมได้จงใจปล่อยให้อีกหนึ่งตัวออกไป ตอนนี้ อีกไม่นานตระกูลเงินจะรู้ว่าผู้นำหมู่บ้านเข้าร่วมกับพวกเราและวางกับดักในการโจมตี.
หมู่บ้านนี้ได้กลายเป็นศัตรูกับตระกูลเงิน.
ผมเข้าไปใกล้ผู้นำและพูด.
“ตอนนี้พวกห่านั่นจะบอกว่าผู้นำได้เปลี่ยนข้างและร่วมกับพวกผมในการสู้กับตระกูลเงิน”
“…”
“ทั้งคุณและคนในหมู่บ้านตอนนี้ต้องเลือก คุณต้องเข้าร่วมกับเราและต่อสู้กับพวกเขา.”
“คุณพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้…!”
“คุณไม่ได้เห็นด้วยตาทั้งสองข้างหรอ? เราสามารถจัดการพวกมันได้ง่ายๆ.”
“เยี่ยม แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตระกูลเงินก็มีมากกว่าร้อย! แม้ว่าพวกคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเราจะร่วมพลังต่อต้านพวกเขาเท่าไร แต่มันก็ไม่มีโอกาสชนะ!”
“งั้น? คุณกำลังบอกว่าคุณจะลดหางของคุณ? คุณจะพยายามอธิบายว่ามันเป็นการเข้าใจผิด ไม่ว่าคุณจะถูกข่มขู่อย่างไรคุณก็ไม่มีทางเลือก?”
ผู้นำไม่อาจพูดได้อีก ผมยิ้มเย็นชา.
“แน่นอน ถ้าคุณขอความเมตตาแบบนั้น หมู่บ้านก็อาจจะยังคงอยู่ แต่คุณคิดว่าผู้นำจะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้?”
“…!”
“แม้ว่าคุณจะถูกบังคับแต่คุณก็มีส่วนช่วยฆ่าพวกมัน แต่ก็อาจจะไม่ยอมให้คุณมีชีวิตอยู่ ผมคิดว่าพวกมันจะให้คุณเป็นตัวอย่างและฆ่าคุณอย่างช้าๆ?”
“งั้น งั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้?”
“อย่างที่ผมบอก ต่อสู้กับพวกเรา ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรคุณก็ต้องโน้มน้าวให้คนในหมู่บ้านต่อสู้กับไลแคน เพื่อชีวิตคุณเอง?”
คนที่อยู๋ในหมู่บ้านที่ห่างไกลและอยู่ภายใต้การปกครองของไลแคนจะไม่มีความกล้าในการจับอาวุธและต่อสู้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้.
แต่ถ้าคนในหมู่บ้านบอกว่าไม่สู้เพราะความกลัว ผู้นำจะตาย เขาต้องจ่ายมากในการร่วมมือกับเรา.
เพื่อที่จะช่วยชีวิตผู้นำก็คือตัวเขาเอง เขาต้องกระตุ้นให้คนในหมู่บ้านร่วมต่อสู้
“ผู้นำของตระกกูลเงินเป็นสัตว์ร้ายเป็นอย่างมาก คุณมั่นใจว่าจะชนะ จะ-จริงๆ?”
“คุณเห็นอาวุธที่ผมมีใช่มั๊ย? ไม่ว่าอย่างไร ไอ้พวห่านั้นก็จะตายทันทีที่โดน.”
ผมพูดอย่างมั่นใจ.
ผู้นำที่ร่างกายกำลังสั่นพยักหน้าอย่างรวดเร็ว.
“ฉันเข้าใจ ฉันจะชักจูงชาวบ้านให้ช่วยต่อสู้.”
“คุณเลือกได้ถูกต้อง ลองคิดในแง่ดี นี่ไม่ใช่โอกาสที่จะหลบหนีจากการเป็นสัตว์เลี้ยงและเนื้อให้พวกมัน?”
“…”
ผู้นำที่กำลังแบกภาระอย่างหนักและหัวที่กำลังก้มต่ำลงได้หายไป.
“ฮยอง คุณที่สุดยอด! นี่เป็นแผนคุณแต่แรก?”
จุนโฮวิ่งเข้าหาผมอย่างบ้าคลั่ง.
ผมพยักหน้า.
“ผู้นำเป็นคนเห็นแก่ตัวกดังนั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการเขา”
อาจเป็นเพราะเหตุนี้ไลแคนจึงให้เขาเป็นผู้นำ.
“ถ้าเราต่อสู้ร่วมกับคนในหมู่บ้านก็เพียงพอที่จะสู้กับไลแคน.”
แฮซูดีใจด้วย.
แต่ผมส่ายหัว.
“นั่นไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร.”
“หืม?”
“ลืม? เราเหลือเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ภารกิจของเราคือการหลบหนีออกจากป่าไม่ใช่จัดการไลแคน.”
“โอ้! แล้วสิ่งที่คุณจะทำ?”
ตอบคำถามนั้นด้วยเสียงเย็น.
“เราจะขุดหลุมในหมู่บ้านนี้และเมื่อต่อสู้กับไลแคนเราจะหนีออกไปทันที”