Chapter 40 The Silver Village (Part 3)
Chapter 40 The Silver Village (Part 3)
“มันเป็นไปได้ไง?”
บิดาถาม.
เฮลกิหายใจไม่ออกเนื่องจากความตื่นเต้นและตอบขณะที่กำลังหายใจ.
“ทุกคนตายบิดา”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมาไลแคนที่อยู่รอบๆถูกกระตุ้นทั้งหมด.
“อ๊าาา! ไม่~!”
หญิงไลแคนตัวหนึ่งล้มลงพร้อมกับกรีดร้อง เธอเป็นแม่ของพี่น้องเจสัน ภรรยาคนที่สาม เฮร่า.
เมื่อได้ยินข่าวของลูกชายทั้ง7แม้กระทั่งเจสันที่เป็นความหวังสูงสุดของเธอก็ตาย เฮร่าตกใจและช๊อคเป็นอย่างมากล้มลงกับพื้นพร้อมกับร้องไห้.
“โกหก! เจสันหล่ะ? เขาตายด้วยหรือเปล่า? คุณเห็นมันไหม?”
“ฉันเห็นซากศพของเจสัน ดูเหมือนว่าเขาจะถูกเจาะด้วยอาวุธของมนุษย์.”
เฮลกิตอบอย่างเย็นชา เฮร่ากุมหัวร้องไห้
จากนั้น.
“หุบปาก.”
บิดากล่าวเสียงต่ำ.
เสียงร้องของเฮร่าหยุดทันที เธอตระหนกและมองไปที่สามี
“เธอสามารถคลอดลูกชายได้มากมาย เธอกำลังทำให้ฉันเสียสมาธิ ดังนั้นออกไป.”
“ฮึก ฮึก ฮึก.”
เฮร่าร้องไห้ขณะที่เธอออกจากฝูงชน.
บิดามองมาที่เฮลกิอีกครั้ง.
“ไอ้พวกห่านั่นไปทางไหน?”
“พวกเขาไปทางทิศตะวันตก ถ้าพวกเขาเดินทางไปเรื่อยๆพรุ่งนี้เขาจะถึงหมู่บ้านมนุษย์.”
“แกหมายถึงหมู่บ้านนั้น.”
บิดาเบิกตากว้างในขณะเดียวกัน
เขาคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะฆ่ามนุษย์เลห่านั้นที่มาฆ่าลูกชายของเขาถึง10คน.
จากนั้นเขาก็พูด.
“เราจะดำเนินการตามปกติ”
“ปกติ?”
เฮลกิถามอีกครั้ง บิดาเงยหน้าขึ้น.
“ปล่อยให้วพวกมันอยู่ที่หมู่บ้านนั่น.”
***
เราเดินไปทั้งคืนโดยไม่รู้ว่าฟ้าเริ่มที่จะสว่างแล้ว.
“ฮยอง ดูที่นั่น!”
ทันใดนั้นจุนโฮก็ชี้ไปข้างหน้าและตะโกน มีหมอกหน้าทึบอยู่ข้างหน้ายากที่จะมองเห็น.
แต่ด้วยคำพูดของจุนโฮ ผมมองอย่างตั้งใจ มีบางอย่างแปลกๆที่สามารถมองเห็นได้.
ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาผม.
“หมู่บ้าน?”
ใช่.
หมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่ แน่นอนว่ามันต้องมีไร่และนา รวมทั้งฟาร์มปศุสัตว์เช่นวัวและสุกรที่สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ.
ผมไม่คิดว่าในป่าที่มีไลแคนอาศัยแถวๆนี้จะหมู่บ้านกับผู้คนที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป.
“ตอนนี้เรารอดแล้ว!”
“มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเราจึงออกจากป่านี้แล้ว!”
จุนโฮและแฮซูมีความสุขมากจนแทบจะกระโดดโลดเต้น.
แต่ผมไม่สามารถต้านทานความสงสัยได้.
“สถานที่แห่งนี้ใกล้กับเขตไลแคนและมีหมู่บ้านที่มีผู้คน? มีบางอย่างไม่สมเหตุผล.”
“ฟังนะโอปป้า กำแพงเมืองสูงมาก มันไม่สามารถหยุดยั้งไลแคนได้เลย?”
ตามที่แฮซูบอก กำแพงเมืองสร้างจากไม้มาทำเป็นรั้ว.
“… ดี งั้นก็ไปดูกัน มันอาจจะไม่ใช่หมู่บ้านทั่วๆไป อาจจะเป็นที่หลบภัยของโจรดังนั้นระมัดระวังเป็นพิเศษ.”
“ได้”
“ไปกัน.”
เราไม่สามารถมองโลกของอารีน่าเหมือนกับโลกของเราที่เป็นศตวรรษที่21ได้
จากที่เราได้ยินมาสังคมของอารีน่าล้าหลังโลกของเขาในปัจจุบันมาก ใครจะรู้ว่าคนในหมู่บ้านไม่รวมตัวกันเพื่อปล้นเรา?
เราเข้าใกล้หมู่บ้านอย่างระมัดระวัง.
หมู่บ้านนี้ล้อมรอบไปด้วยรั้วไม้ แต่ทางเข้าหลักก็ยังเปิดอยู่ประมาณครึ่งนึง.
บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันอยู่ในช่วงเวลาเช้ามืดผมเลยไม่เห็นใคร.
แต่ผมตักสินใจที่จะทำอย่างละเอียด.
“ซิล.”
-เมี๊ยว?
ซิลปารกฎขึ้นมากลางอากาศและนั่งลงบนหัวของผมอย่างแผ่วเบา
“ตรวจสอบภายในหมู่บาน.”
-เมี๊ยว!
ซิลกลายเป็นลมและเข้าไปในหมู่บ้าน.
ซิลกลับมาอย่างรวดเร็วและผมก็ถามเธอ
“มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ไหม?”
-เมี๊ยว.
ซิลพยักหน้าเธอ.
“เท่าไร?”
ซิลเขียนตัวเลข234ลงบนพื้น.
คนกว่า200คนเท่ากับจำนวนของหมู่บ้านเล็กๆ แต่เมื่อคำนึงถึงทำเลของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในป่าแห่งนี้น่าประทับใจมาก.
“ทุกคนนอนอยู่หรือเปล่า?”
ตอนนี้เธอเขียดเลข 28 แปลว่า มีคน 28 ตื่นอยู่
“ผมจะนำทางเข้าไป.”
จุนชอยอาสา.
“กรุณาด้วย ขอบคุณ.”
จุนชอยยืนอยู่ด้านหน้าและมุ่งเข้าไปในหมู่บ้านโดยมีพวกเราตามหลังเขาเข้าไป
บรรยากาศภายในหมู่บ้านเป็นปกติ.
มีบ้านที่ทำจากไม้แข็งแกร่งจำนวนมาก.
เมื่อเราผ่านประตูเข้ามาสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของผมคือลานกว้างของหมู่บ้าน.
ใจกลางของหมู่ย้านมีหญิงสายหน้าตาดีที่กำลังตักน้ำจ้องมองมาทางเรา.
“ใคร คุณเป็นใคร?”
หญิงคนนั้นถาม.
มันเป็นเหมือนกับภาษารัสเชียที่เหมือนกับกลุ่มไลแคนเมื่อคืนพูดออกมา และคราวนี้ผมก็เข้าใจการสื่อสารของพวกเขาได้.
“ฮยอง คุณเข้าใตเธอไหม?”
จุนโฮถาม ผมพยักหน้า.
“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะเราเป็นผู้เข้าสอบ.”
แฮซูยืนยัน.
เมื่อการสื่อสารราบรื่นจากการเข้าใจภาษาของโลกอารีน่า ไม่อย่างนั้นคงจะแย่มาก.
“อืม เยี่ยม…”
ผู้หญิงที่แสดงออกทางใบหน้าว่าตกใจพูดกับเราอีกครั้ง
ผมก้าวไปข้างหน้าและตอบกลับ.
“สวัดดี.”
น่าแปลกใจที่ไม่ใช่ภาษาเกาหลีที่ออกมาจากปากของผม แต่มันเป็นภาษาเดียวกับผู้หญิงคนนั้น เพื่อร่วมทีมคนอื่นๆก็ดูแปลกใจเช่นกัน.
“คุณเป็นคนของใคร?”
“เราเป็นนักเดินทาง เราเดินหลุดออกจากถนนและเข้ามาในป่าจนมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้.”
“นักเดินทาง? จากป่าที่นี่?”
“ใช่.”
ดูเหมือนว่าหญิงสาวไม่สามารถที่จะเชื่อได้.
กลับมาอีกครั้งมันก็เป็นการยากที่จะเชื่อว่าเราเป็นนักเดินทางที่ฝ่าจากลิงแดงและไลแคนมาได้.
ผมขยายความ
“ใช่ เรากำลังหลงทางขณะที่ถูกโจมตีโดยไลแคนและมีช่วงเวลาลำบากมาก.”
ขณะที่ผมพูดผมสังเกตปฎิกิริยาของผู้หญิงอย่างรอบคอบ
“ไล ไลแคน?”
ผมมองดูผู้หญิงที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำว่า ‘ไลแคน’ นี้อย่างละเอียด
‘ผมคิดว่าเธอกล้ว ผมควรจะบอกมันมากขึ้น?’
ผมพูด.
“มีลิบตัวที่เข้ามาโจมตีพวกเราและมันก็ถูกพวกเราจัดการทั้งหมด พวกเขาแข็งแกร่งมาก.”
ผู้หญิงคนนั้นกำลังประหลาดใจมากและผมยังอธิบายอยู่.
“เราสามารถพบกับผู้นำหมู่บ้านนี้ได้หรือไม่? เราต้องการได้รับอนุญาติให้พักที่นี่สองถึงสามวัน ไลแคนกลัวเราดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะโจมตี.”
ด้วยคำพูดของผม ผู้หญิงหวาดกลัวมากขึ้น
“อืม รอสักครู่ ฉันจะพาคุณไปพบหัวหน้าหมู่บ้าน.”
ผู้หญิงรีบวิ่งออกไป
“ฮยอง พวกเราจะจัดการพวกห่านั่นที่นี่ได้จริงๆ?”
จุนโฮถาม.
ผมยักไหล่ของผม
“ผมทำเพื่อดูปฎิกิริยาของเธอ.”
“และ?”
แฮซูถาม.
“… มันแปลกเล็กน้อย.”
“หืม?”
“หมู่บ้านที่นี่แปลกมาก มีข้อสงสัยมากกว่าหนึ่งข้อ ทั้งที่นั่นและที่นี่.”
“หมายความว่า.”
จุนชอยถาม
ผมตอบ.
“มันแปลกมากสำหรับหมู่บ้านนี้ที่มีไลแคนยัวเยี้ยเต็มป่า แต่ทางเข้าหลักเปิดอยู่และไม่มีใครคุ้มกัน.”
“อ่า…!”
“ถูกต้อง.”
จากนั้นจุนโฮ,แฮซูและจุนชอยมองไปรอบๆหมู่บ้านและตระหนักถึงความแปลกประหลาด
“คุณเห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? เมื่อผมพูดว่าเราฆ่าไลแคน10ตัวและพวกห่านั่นก็กลัวเรา กลับกลายเป็นว่าเธอยิ่งกลัวมากยิ่งขึ้น.”
“บางทีมันอาจจะเป็นไลแคนที่เป็นคนในหมู่บ้าน? พวกเขาบอกเราว่าไลแคนเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้.”
แฮซูอธิบายถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้ ผมส่ายหัวของผม.
“ซิลบอกว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่ ถูกต้อง ใช่แล้ว ซิล?”
-เมี๊ยว.
ซิลเอาหางพันรอบคอของผม.
“คุณแน่ใจไหมว่าพวกนี้เป็นมนุษย์ไม่ใช่ไลแคนที่แปลงร่าง?”
แฮซูถาม.
ซิลพยักหน้าเธอ.
ถ้าซิลยืนยันแบบนี้ก็ไม่มีข้อสงสัยแล้ว.
นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีทุ่งน่าและปศุสัตว์ มันยากที่จะจิตนาการที่ไลแคนทำฟาร์มและปศุสัตว์.
สักพักก็มีชายสิบกว่าคนล้อมรอบพวกเรา.
“พวกคุณเป็นนักเดินทาง?”
ชายชราที่มีเคราสีขาวกับไม้เท้าถาม.
ผมตอบ.
“ใช่เราเอง.”
“ฉันเป็นผู้นำหมู่บ้าน, เลเบิล.”
เลเบิล? ชื่อแปลกๆแบบนี้ เป็นชื่อปกติในโลกอารีน่า?
“เราเป็นนักเดินทางเราพึ่งมาถึงที่นี่ เราต้องการพักที่นี่สักวันนึง คุณอนุญาติหรือไม่?”
“คุณบอกว่าคุณกำลังสู้กับไลแคน?”
“ใช่ มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเท่าไรนัก.”
“โฮ่โฮ่ ประทับใจจริงๆ ฉันพูดในนามของหมู่บ้านของเราที่ถูกพวกมันดูแลเป็นอย่างดี การติดตามคนที่แข็งแกร่งแบบคุณ เรายินดีต้อนรับเสมอ.”
“ขอบคุณ.”
“มีบ้านว่างอยู่มันอาจจะไม่สะดวกเท่าไรแต่เนื่องจากคุณอยู่ไม่กี่วัน ฉันจะพาคุณไป.”
“ครับ.”
“ตอนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันและกลับไปทำธุระของคุณต่อ.”
ผู้นำได้ไล่ชายทั้งสิบคนให้แยกย้ายออกไป
คนที่เหล่านั้นก็แยกย้ายกันไปหลังจากได้ยินคำพูดของผู้นำ.
“มันไม่แปลก?”
ผู้นำถามสุ่ม.
“คุณหมายถึงอะไร?”
“ไม่แปลกที่หมู่บ้านตั้งอยู่ที่นี่?”
“โอ้ ใช่ ผมก็คิดว่ามันแปลกอยู่ที่มีหมู่บ้านตั้งอยู่ในสถานที่อันตรายแบบนี้.”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ สัตว์ร้ายและมอนเตอร์มากมายที่มายังหมู่บ้านนี้เป็นอันตราย แต่คุณรู้ไหมว่าอะไรน่ากลัวมากกว่า?”
“ผมไม่รู้.”
“ภาษี”
ผู้นำถอนหายใจและอธิบายเพิ่ม.
“ไม่มีอะไรน่ากลัวมากไปกว่าฆาตกรที่ชื่อภาษี. ไลแคนดีกว่าลอร์ดที่โหดร้าย. ทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นคนที่วิ่งหนีและซ่อนตัวจากการปกครองแบบเผด็จการของลอร์ด.”
“คุณต้องได้รับความเดือนร้อนมามากแน่ๆ.”
“ยกเลิกการเจรจาด้วยคำพูด การเก็บเกี่ยวจากการทำไร่และเลี้ยงสัตว์ และการต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของเรากับไลแคน.”
‘ส่วนสุดท้ายเป็นเรื่องโกหก.’
สุดท้ายผมก็ไขข้อข้องใจด้วยคำพูดสุดท้ายนั่น.
ผมเชื่อว่าเป็นความจริงที่หมู่บ้านนี้ถูกสร้างขึ้นจากผู้คนที่หนีการกดขี่.
แต่การมุ่งหน้าออกมาเพื่อต่อสู้กับไลแคนนั่นดูเป็นที่น่าสงสัย.
ผมได้สังเกตชายที่ออกมาพร้อมกับผู้นำก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่ชายที่ได้รับการฝึกอย่างถูกวิธี.
‘ฉันจะรอและดู.’
ผมต้องเดาว่าผู้นำชราเลเบิลคนนี้กำลังวางแผนอะไรอยู่.
ผมคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กับไลแคน
ผมต้องหาตัวตนของหมู่บ้านนี้ให้ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงโกหก.
“เอาหล่ะ มันคือที่นี่ มันดีไหม หืม?”
ผู้นำโชว์อาคารที่ทำจากไม้เบื้องหน้า มันก็ยังดีกว่าที่จะนอนกับพื้น.
“เราขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีของคุณ.”
ผมแสดงความเครารพกับผู้นำอีกครั้ง.
“หากมีอะไรต้องการโปรดบอกเราด้วย.”
ผู้นำยิ้มอย่างมีความสุขและออกไป.
เราถูกปล่อยเอาไว้ แฮซูขมวดคิ้วพูดขึ้น.
“โอปป้าคุณคิดว่าอยู่ที่นี่จะดี? เหมือนกับที่คุณพูดหมู่บ้านนี้รู้สึกแปลกๆ?”
“หลังจากที่แฮซูพูดถึงผมก็สังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดบางอย่างด้วย จะดีกว่านี้ถ้าเราไม่อยู่ที่นี่และรับออกไป?”
แฮซูและจุนโฮรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้ ขุนชอยไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็คิดแบบเดียวกัน.
ผมพูด.
“อย่าที่คุณพูดหมู่บ้านนี้น่าสงสัย แต่เราต้องหยุดพักชั่วคราวที่หมู่บ้านแห่งนี้.”
ทุกคนดูสงสัย ว่าทำไมผมถึงกล่าวแบบนี้.
ผมพูด.
“สมมุติว่าเราผ่านหมู่บ้านนี้และเดินไปตามทางที่เรากำลังจะไป คุณคิดว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงไลแคนไล่เราได้?”
“…”
“… ฉันเดาว่าไม่. พวกเขาเร็วกว่าเรามาก.”
ใช่.
ข้อสรุปของเหมือนกับของผม.
“งั้นคิดดู เมื่อเราไม่สามารถหลบหนีไลแคนได้และมันก็จะมาสู้กับเรามากกว่าทุกครั้งที่เราถูกโจมตี คนเลวนั่นไม่ได้โง่ตอนนี้พวกมันจะไม่ประมาทและพวกมันจะโจมตีพวกเราเป็นกลุ่มใหญ่.”
Mosin-Nagant ไม่ใช่ปืนกลออโต้ที่สามารถยิงกระสุนได้เรื่อยและเราก็มีกระสุนจำกัด.
“แต่พวกเขาก็จะไม่ให้ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้กับเรา ต้องมีคำใบ้ที่ไหนสักแห่งในการเครียร์ภารกิจนี้และผมคิดว่ามันอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้.”