เล่มที่ 1: บทที่ 4-1 (Resident Evil)
เล่มที่ 1: บทที่ 4-1 แปลโดย: กิลด์เทพอสูร
เจี๋ยพ่นควันซิการ์แล้วบอกกับวันว่า "พวกเราทั้งสี่คนจะรออยู่ที่นี่"
วันกำลังเตรียมที่จะอธิบายถึงเรื่องแผนปฏิบัติการต่อไปของพวกเขา คำพูดของเจี๋ยทำเอาเขาถึงกับอึ้ง เขาชะงักชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นมาว่า "คุณหมาย ความว่ายังไง? เราไม่มีเวลาที่มาเล่นตลกนะ"
เจี๋ยดีดก้นซิการ์ทิ้ง ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดว่าพวกเราทั้งสี่คนจะรออยู่ที่นี่ ฉันว่านายเองก็น่าเข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าพวกเขาทั้งสามคนเป็นเพียงแค่คนธรรมดา พวกเขาไม่มีทางวิ่งตามพวกนายได้ทันแน่ แทนที่จะต้องเสี่ยงกับการอยู่รั้งท้าย การรออยู่ที่นี่มันจะปลอดภัยมากกว่า"
วันมองไปที่เจิ้ง และ คนอื่นๆ อีกสองคน เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง" แล้วคุณล่ะ? ทำไมคุณถึงต้องอยู่ที่นี่ด้วย?"
เจี๋ยยักไหล่ของเขา "ต้องขออภัย ความทรงจำบางส่วนของฉันเริ่มกลับคืนมาแล้ว เขาทั้งสามคนเป็นเพื่อนของฉัน ดังนั้นฉันทิ้งให้พวกเขาอยู่ตามลำพังไม่ได้ ฉันจึงต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกเขา"
ทหารรับจ้างส่วนที่เหลือมองไปที่กลุ่มของเจิ้งด้วยความประ หลาดใจ และ วันได้มองไปที่เจิ้งอีกครั้ง "ไม่ เขาช่วยชีวิตผมไว้ ผมปล่อยให้พวกเขารออยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมจะไม่ยอมดูพรรคพวกตาย จำไว้ตอนนี้เราเป็นพวกเดียวกัน เข้าใจไหม? คำสั่งของผมคือการออกจากสถานที่นี้ทันที"
หลานลุกขึ้นยืน "หัวหน้า และ ทุกคน พวกคุณก็รู้ว่าเราไม่ได้มีความแข็งแกร่งพอที่จะตามฝีเท้าของพวกคุณได้ทัน และ แทน ที่เราจะต้องกลายเป็นซอมบี้ คุณไม่คิดว่าการรออยู่ที่นี่พวกเราจะมีโอกาสมีชีวิตรอดมากกว่างั้นเหรอ และ เป็นกำลังเสริมคอยอยู่ที่นี่จะดีกว่าไหม? แต่ถ้าคุณอยากจะให้พวกเราตายจริง ๆ เราก็ไม่มีอะไรที่จะพูดอีก"
วันนิ่งเงียบอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ "ฉันเข้าใจ… แคปแลนเปิดระบบป้องกันทางเดินเลเซอร์ ส่วนพวกนายรออยู่ในห้องของราชินีแดง ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยที่ สุดรอที่นั่นอย่างสงบ ถ้าพวกเรารอดเราจะรายงานสถานการณ์นี้ให้กับทางองค์กร... อย่าตายเสียล่ะ"
เจี๋ยพาเจิ้ง และ คนอื่นๆ ไปที่ห้องของราชินีแดง หลังจากนั้นแคปแลนจะเปิดระบบการป้องกันของทางเดิน ไฟบนทางเดินจะสว่างขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองกลุ่มสามารถมองเห็นกัน และ กันผ่านประตูหน้าต่าง พวกเขาสัมผัสได้ถึงความเห็นอกเห็นใจจากคนอื่นๆ
หลังจากที่พวกทหารรับจ้างได้จากไป หลานหัวเราะขึ้นมา "นายเห็นไหม? พวกเขามองพวกเราด้วยความสงสารฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าต้องเจอกับพวกฮันเตอร์"
ด้วยประตูโลหะที่แข็งแรงถึงสามบาน และ ระบบการป้องกันในส่วนบริเวณทางเดิน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ปลอดภัยมากที่สุด อย่างน้อยถ้าเทียบกับสิ่งที่ตัวละครหลักต้องเผชิญ พวกเขาทั้งสี่เริ่มผ่อนคลายลงเจี๋ยยื่นซิการ์มวนหนึ่งให้กับเจิ้ง
"นายสามารถแลกซิการ์จากพระเจ้าได้?" เจิ้งพ่นควันออกมา ซิการ์มวนนี้มีคุณภาพดีกว่าที่เขาเคยสูบ เขาเลยถามขึ้นมาอย่างสงสัย
เจี๋ยหรี่ตาของเขา "มีอีกหลายอย่างที่นายสามารถแลกจากพระเจ้าได้ ฉันยังไม่ได้อ่านรายการสิ่งของที่สามารถแลกจากพระเจ้าได้จบทั้งหมด มันมีอยู่ทั้งหมด 4 หมวด (1) หมวดวิทยาศาสตร์ : เช่นปืน, เสื้อกันกระสุน หรือ อาวุธบางอย่างที่มีในหนังไซไฟ แต่ราคาพวกมันแพงมหาศาล พวกมันเกินปัญญาที่ฉันจะซื้อ (2) ไอเท็มเวทย์ : เช่นคัมภีย์เวทย์ คาถาเต๋า, และดาบ"
เสี่ยวอี้พูดด้วยความประหลาดใจว่า "อาวุธพวกนั้นเหมือนกับที่อยู่ในเกมส์? พวกมันมีประสิทธิภาพมากเลยใช่ไหม?"
เจี๋ยเหลือบมองไปที่เขา "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันจะมีประสิทธิภาพมาก หรือ เปล่า แต่ราคาของไอเท็มเวทย์มันจะมีราคาเป็นสองเท่าของไอเท็มวิทยาศาสตร์ ฉันคิดว่านายจะได้ใช้พวกมันในหนังแนวเหนือธรรมชาติ"
เจิ้งถามอย่างสงสัย "หนังเหนือธรรมชาติ?"
"ใช่ เหมือนกับเรื่อง..." เจี๋ยนึกอยู่สักครู่ "จูออน! "
ทั้งสามรู้สึกขนหัวลุก ราวกับว่าตอนนี้มีผีซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
"นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงบอกว่าหนังเรื่องผีชีวะอยู่ในระดับง่าย? ก็เพราะว่านายสามารถ แก้ปัญหา และ อธิบายทุกอย่างที่นี่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ นายอาจจะฆ่าสัตว์ประหลาด หรือนายอาจจะวิ่งหนีไปก็ยังได้ ตราบเท่าที่นายไม่ได้ติดเชื้อ และมีปืน นายก็จะ สามารถมีชีวิตรอดได้"
คำพูดที่น่าหวาดกลัว สวนทางกับสีหน้าของเจี๋ยเขาพูดในขณะย้อนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา "หนังที่นายไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์มันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด นายจะไม่รู้เลยว่าถ้าหากนายต้องตาย นายจะตายด้วยวิธีแบบไหน หรือแม้กระทั่งถ้านายรอด ความหวาดกลัวนั้นจะยังคงติดตามหลอกหลอนนายอยู่ร่ำไป ราวกับว่ามันต้องการที่จะลากนายไปลงนรก ... "
เจิ้งตบไหล่ของเจี๋ย แล้วเคลื่อนตัวลงไปนั่งข้างๆ และ ถามว่า "มันเป็นเรื่องนิ้วเขมือบใช่มั้ย?"
เจี๋ยพยักหน้าอย่างเศร้าโศก "นายไม่อาจจินตนาการในสิ่งที่เราต้องพบเจอในหนังเรื่องนั้น พวกเราเกือบยี่สิบคนต้องตาย และ ความตายของแต่ละคนนั้นมันช่างน่าสยดสยอง พวกเราอยากที่จะวิ่งหนีมันไป คนที่ยังรอดและมีประสบการณ์ เขาพาพวกเราไปขโมยรถ พวกเราขับรถเรื่อยๆตามทางหลวง ไม่มีใครกล้าที่จะนอนหลับ หากนายเกิดเผลอหลับไปคนอื่นๆก็จะปลุกนายขึ้นมา ใช้เวลาประมาณ 5 วัน เมืองก็ปรากฎตรงหน้าของพวกเรา เราขับเข้าไปในเมืองอย่างมีความสุข แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในหนังเรื่องนี้! คนขับรถตลอด 5 วันที่ผ่านมาคือผู้รอดชีวิตที่มีประสบการณ์เขาได้กลายเป็นไอ้ปีศาจนั่น! มันหัวเราะเยาะเย้ยพวกเรา ... "
เจี๋ยตัวสั่นไม่หยุด ผู้ชายคนนี้มักจะเยือกเย็นอยู่ตลอดเวลาแต่ในตอนนี้เขากลับไม่สามา รถควบคุมมันได้ เจิ้งพยายามที่จะเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนา "แล้วพวกไอเท็มเวทย์นั้นน่ะ มันจะไอ้ฆ่าปีศาจตัวนั้นได้ไหม?"
เจี๋ยพ่นควัน และ ส่ายหัว "ไม่รู้สิ นั่นคือหนังเรื่องแรกของฉัน ที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะว่าโชคดี นายคงรู้แล้วว่าแผลเป็นบนหน้าของฉันได้มาจากไหน? ไอ้ปีศาจนั่นมันเอากรรไกรกรีด! ฉันไม่ได้ขอให้พระเจ้ารักษารอยแผลเป็นนี้ เพราะฉันต้องการที่จะจดจำทุกอย่าง ถ้าฉันพบกับมันอีกครั้งฉันจะฆ่ามัน! "
เจิ้งและอีกสองมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกกลัวกับสิ่งที่จะต้องเจอในอนาคต
เจี๋ยพูดต่อไปว่า "นายจะได้รับ 5,000 คะแนนสำหรับการฆ่าปีศาจ และ รางวัลภารกิจพิเศษระดับB นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น รางวัลของภารกิจพิเศษ"
หลานถามว่า "รางวัลภารกิจพิเศษระดับ B คืออะไร? สำคัญไหม?"
เจี๋ยพยักหน้า "พวกเราจะต่อกันที่หมวดที่ 3 ในสิ่งที่นายสามารถแลกได้ไอเท็มสนับสนุน: เช่นยาแก้พิษมันจะมีคุณสมบัติในการรักษา ส่วนของที่ใช้หมดไปเช่นกระสุน ไอเท็มไซไฟบางชนิดเช่นเสื้อคลุมล่องหน และ ไอเท็มเพิ่มประสิทธิภาพ"
"ฉันดีใจมากเมื่อได้เห็นรายการเพิ่มศักยภาพ ตัวอย่างเช่น ยีนกลายพันธุ์ของสไปเดอร์แมน ในคำอธิบายบอกว่านายได้รับสายพันธุ์ของสไปเดอร์แมน : สติปัญญาเพิ่ม 20 , พลังจิต 20 กระตุ้นเซลล์ 50 ความเร็วปฏิกิริยาตอบสนอง 100 ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ 100 และ ภูมิคุ้มกัน 150 แต้ม และ นายยังเพิ่มศักยภาพในการยิงใยแมงมุม ทั้งหมดนี้ใช้เพียง 2,000 คะ แนน"
เจิ้งและอีกสองคนรู้สึกประหลาดใจ หลานคิดค่าใช้จ่ายแล้วพูดขึ้นว่า "การเพิ่มศักยภาพเพียงอย่างเดียวต้องใช้ถึง 2,000 คะแนน และนายยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการยิงใยแมงมุม นี่มันคุ้มค่าสุดๆ ทำไมนายถึงไม่แลกมัน?"
เจี๋ยโบกมือด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น "ฉันก็อยากได้ ถ้าฉันเปลี่ยนพันธุ์กรรมกลายพันธ์นี้ฉันคงไม่ตกอยู่ในอันตราย ในหนังเรื่องผีชีวะแบบนี้ เพราะของรางวัลประเภทเพิ่มศักยภาพด้านสายพันธ์ุมันจะเป็นภาระกิจเสริม รางวัลระดับ A จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ B - C - D ฉันเคยเห็นรางวัลแบบนี้แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ"
เจิ้งอดกลั้นโดยไม่บอกว่าเขามีรางวัลระดับบี B เขาถามต่อว่า "การที่กลายพันธุ์เป็นสไปเดอร์แมนต้องใช้รางวัลระดับไหน?"
เจี๋ยดึงซิการ์ขึ้นมาสูบอีกมวน "มันต้องใช้รางวัลระดับ C ฉันเคยเห็นการเพิ่มศักยภาพเป็นระดับ D มาบ้างเหมือนกัน เช่นการต่อสู้ด้วยการใช้ลมปราณ รางวัลระดับ D มันจะช่วยให้นายเข้าถึงระดับของลมปราณได้ แต่ถ้าเป็นลมปราณระดับสูง นายจะต้องใช้รางวัลระดับ B หรือ A "
"นอกจากนี้ยังมีการกลายพันธุ์ของ[ที-ไวรัส] แบบเดียวกับอลิซ มันจะเพิ่มสติปัญญา 20 พลังจิต 20 กระตุ้นเซลล์ 50 ความเร็วของปฏิกิริยาตอบสนอง 50 ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ 50 ภูมิคุ้มกัน 100 การเพิ่มศักยภาพการวิวัฒนาการของ[ที-ไวรัส] ต้องใช้ 1,500 คะแนน และรางวัลระดับ C โชคดีมากที่นายได้ช่วยตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้ นายเลยได้รับมันโดยไม่ต้องทำอะไรเลย"
ตอนนี้เจิ้งรู้สึกว่าเขานั้นช่างโชคดี นี่มันเท่ากับว่าถ้าเขาสามารถรอดชีวิตจากหนังเรื่องนี้ เขาสามารถเพิ่มศักยภาพของเขาได้จำนวนหนึ่ง มันทำให้อนาคตของเขามีความหวังมากขึ้น
จากนั้นเจี๋ยได้พูดด้วยน้ำเสียงลึกลับว่า "นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มศักยภาพระดับสูงบางอย่าง แต่นั่นมันคงเป็นเรื่องชวนเชื่อเพื่อไว้ล่อใจฉันไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง เหมือนอย่างเช่นสายเลือดของพระเจ้า ที่ต้องมีรางวัลระดับ S และต้องใช้ 50,000 คะแนน มันดูไม่เกินความเป็นจริงไปหน่อยหรือ? นอกจากนี้ยังมีวิถีเซียน(เป็นวิธีการที่จะได้รับความเป็นอมตะ ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า) มันมีค่าสถานะขั้นพื้นฐานค่อนข้างต่ำ แต่ว่านายจะได้รับทักษะพิเศษ โดยต้องมีรางวัลระดับ S และ 70,000 คะแนน "
เจิ้งกับหลานต่างหัวเราะในสิ่งที่เจี๋ยเล่า แต่สำหรับเสี่ยวอี้แล้วมันทำให้ดวงตาของเขากลับสว่างวาบขึ้นมา
ติดตามข้อมูลข่าวสารนิยายเรื่องนี้ได้ก่อนใครที่ FB: www.facebook.com/IDTR8 หรือพิมพ์ค้นหา นิยายแปล: เกมส์สยองต้องไม่ตา
***จากตอนปัจจุบันในเพจ เรานำไปแล้ว 150ตอนนะค้า***