ตอนที่แล้วตอนที่ 31 -- ตอนเย็น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 -- ค่ำคืนใต้แสงจันทร์ ตอนกลาง

ตอนที่ 32 -- ค่ำคืนใต้แสงจันทร์ ตอนต้น


แปลโดย Mikky

 

Edit โดย check2534

 

 

ตอนที่ 32 -- ค่ำคืนใต้แสงจันทร์ ตอนต้น

 

 

พวกเรายืนอยู่ในป่าที่มือสนิท

 

โคล้ดมีสีหน้าที่เหมือนกับกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

 

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

“กลับบ้านกันเลยดีไหม?”

 

เสียงที่เป็นกังวลของพวกเราดูเหมือนจะไม่ได้เข้าหูของโคล้ดแม้แต่น้อย

 

พอคิดดูอีกที ดูเหมือนว่าเธอจะทำตัวผิดปกติตั้งแต่สู้กับโคโบลด์ลีดเดอร์แล้ว

 

การต่อสู้นั้นจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมาก แต่หลังจากที่การต่อสู้จบลงแล้วถึงจะทำให้นึกเรื่องอื่นได้

 

ตอนนี้เธอมีเหงื่อออกทั่วตัวพร้อมกับที่ดวงตาสั่นไปมาอย่างรวดเร็ว

 

เหมือนกับเธอกำลังลนลานอยู่

 

“...อืม….ตกลง….รีบกลับกันตอนนี้….”

 

ในที่สุดหล่อนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองออกมา แต่มันดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่

 

พวกเราเทเลพอร์ตกลับมาที่เมืองนานามิ แต่สภาพจิตใจของเธอยังไม่สู้ดีเท่าไหร่

 

[ฉันสงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้นกับโคล้ด?]

 

[ผมเองก็ไม่รู้….บางทีเธออาจมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำก็ได้ หวังว่ามันคงจะไม่แย่หรอกนะ]

 

-เมืองนานามิ

 

“อืม...ขอบคุณมากนะ”

 

ตอนที่ผมได้รับคำขอบคุณด้วยสีหน้าซีดเผือก นั่นทำให้ผู้รู้สึกกังวลขึ้นมา

 

“เธอมีธุระอะไรต้องไปทำรึเปล่า? ถ้าต้องการความช่วยเหลือล่ะก็ บอกพวกเรามาก็ได้”

 

“โคล้ด พวกเราเป็นพวกพ้องกันนะ เข้าใจรึเปล่า?”

 

“อืม...ขอบคุณมาก...แต่ผมไม่เป็นไรหรอก”

 

มันไม่มีทางที่จะไม่เป็นไรอยู่แล้ว

 

ตอนที่เราเห็นโคล้ดเดินออกไป บนท้องฟ้าก็เป็นเวลามืดโดยสมบูรณ์ เมื่อหล่อนจากไปแล้วมิลลี่กับผมก็หันมามองหน้ากัน

 

“โคล้ด...ชั้นล่ะสงสัยจริงๆว่าเธอจะเป็นอะไรมั้ย…”

 

“ผมไม่รู้หรอก...ค่อยไปดูเธอพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ไม่คิดว่าตอนนี้มันดึกมากแล้วหรอ?”

 

“ขอโทษที…”

 

“ตอนนี้ผมต้องรีบกลับบ้านเหมือนกัน ไม่งั้นแม่จะว่าเอาได้ เจอกันพรุ่งนี้”

 

“อา….งั้นเจอกัน เซฟ”

 

หลังจากที่ผมแยกกับมิลลี่แล้ว ผมก็เร่งฝีเท้าขึ้นทันที

 

แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายของผมคือโรงแรมที่โคล้ดพักอยู่

 

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของโคล้ดในตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย

 

ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปกระตุ้นให้โคล้ดเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า แต่ผมไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปอย่างแน่นอน

 

ในตอนที่ผมมาถึงใจกลางเมืองที่เป็นย่านโรงแรมนักเดินทาง จู่ๆผมก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

 

ว่าแต่โคล้ดอาศัยอยู่ที่ไหนกันแน่?

 

นี่มันแย่จริงๆแฮะ

 

ผมรีบมาที่นี่โดยไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย

 

ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี ขณะที่กำลังคิดแบบนั้น ผมก็เหลือบไปเห็นเคนกำลังเดินออกมาจากโรงแรมโกโรโกโส

 

ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นโรงแรมที่ราคาถูกที่สุดและซอมซ่อที่สุด

 

บางทีโคล้ดน่าจะอยู่ที่นี่

 

ตัวเองอาศัยอยู่ที่โรงแรมชั้นสูง ส่วนน้องสาวถูกท้องไว้ในโรงแรมที่แย่ที่สุด ให้ตายสิ พวกที่มีสถานะทางสังคมที่มันดีจริงๆ

 

เขากำถุงเงินในมือขวาแล้วยิ้มเยาะออกมา

 

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว

 

นี่คือเหตุผลที่โคล้ดรีบร้อนถึงขนาดนั้น

 

ผมเฝ้ามองเคนเดินหายไปทางย่านสถานบันเทิง แล้วรีบวิ่งเข้าไปที่โรงแรมที่โคล้ดอยู่

 

โรงแรมซอมซ่อที่เคนเดินออกมานี่ไม่มีเคาท์เตอร์สภาพดีๆเอาไว้รับแขกเลย

 

ผมมองเห็นชื่อของโคล้ดอยู่บนป้ายที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์

 

ตามที่ป้ายนั้นเขียนไว้ ห้องของโคล้ดคือห้องเบอร์ห้า

 

“ยินดีต้อนรับ นี่คือโรงแรมของนัก...เดี๋ยวก่อน! เธอจะเข้าไปตรงนั้นไม่ได้นะ! เจ้าหนู?!”

 

ผมได้ยินเสียงของพนักงานต้อนรับดังมาจากข้างหลัง แต่ผมไม่สนใจแล้วเดินต่อไปข้างในโรงแรม

 

ผมเดินไปยังทางเดินที่ผุพัง แต่ละครั้งที่ผมก้าว มันก็จะส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา เมื่อดูตัวเลขบนแผ่นป้ายแล้ว ไม่นานผมก็เจอห้องหมายเลขห้า แล้วผลักประตูเข้าไป

 

นี่มันโรงแรมประเภทไหนกันเนี่ย ไม่มีกระทั่งกลอนล็อคเลย

 

ขณะที่ผมเดินเข้าไปในห้องนั้น ก็ได้กลิ่นโชยเข้ามาแตะจมูก

 

ภายในห้องที่อับเหม็นนั้น โคล้ดกำลังร้องไห้ด้วยความกลัวอยู่

 

ดูเหมือนว่าเธอจะถูกซ้อม ผมเห็นรอยแผลฟกช้ำตามร่างกายของเธอ

 

ดูเหมือนว่าบริเวณที่เปิดโล่งอย่างใบหน้ากับแขนจะไม่มีรอยอะไรเลย

 

“...โคล้ด…!”

 

ทันทีที่โคล้ดได้ยินเสียงของผม เธอก็หันใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำหูน้ำตามาที่ผม

 

“.....เซฟคุงไม่ใช่หรอ นายต้องการอะไร?”

 

หล่อนรีบเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วฝืนยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ดูแข็งกระด้าง

 

ผมรีบวิ่งเข้าไปโดยไม่พูดอะไร แล้วเริ่มถลกเสื้อของเธอออกเพื่อดูบาดแผลทันที

 

“เดี๋ยวก่อนสิ...หยุดเลยนะ! เซฟคุง คนลามก!!”

 

“หุบปากไปเลย! อยู่เงียบๆซะ!”

 

เมื่อเจอกับแรงกดดันของผม โคล้ดก็ปิดปากเงียบทันที

 

ทันทีที่ผมถอดเสื้อของเธอออก ก็เห็นรอยม่วงเขียวอยู่ตามผิวที่ขาวนวลที่กำลังสั่นเทา

 

ทั่วตัวของโคล้ดเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำที่ดูน่ากลัว ช่างเป็นภาพที่โหดร้ายจริงๆ

 

ผมพูดอะไรไม่ออก

 

เธอถูกตีมามากขนาดไหนถึงได้มีรอยฟกช้ำมากขนาดนี้…!

 

ผมรีบร่ายฮีลเพื่อรักษาโคล้ดทันที แต่เนื่องจากสภาพจิตใจของผมไม่มั่นคง ผมจึงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

“บ้าจริง!!”

 

“....ถูกเห็นผิวที่เปลือยเปล่าแบบนี้...มันออกจะน่าอายจริงๆนะ โธ่…”

 

“ไอ้หมอนั่น….ตอนที่เคนออกจากโรงแรม เขากำเงินไปถุงหนึ่ง นั่นเป็นเงินของโคล้ดใช่ไหม…?”

 

“การแต่งตัวให้ดูดีตลอดเวลา ถือเป็นงานอย่างหนึ่งของอัศวิน”

 

“เธอว่าการแต่งตัวให้ดูดีถือเป็นงานของพวกนั้นงั้นหรอ?! ปล่อยให้น้องสาวตัวเองอยู่ในโรงแรมที่ใกล้จะพังแบบนี้! คิดว่าผมจะยกโทษที่เขากล้าขโมยเงินน้องสาวตัวเองหรอ?”

 

“โรงแรมที่ใกล้จะพัง...พูดซะเสียเลยนะนาย….”

 

*อ้ะฮ่าฮ่า* โคล้ดหัวเราะออกมา

 

นั่นไม่ใช่รอยยิ้มสดใสตามปกติ

 

ตอนนี้รอยยิ้มของผมยังดูดีกว่าหน้าแบบนั้นซะอีก โธ่เว้ย!

 

ผมไม่อยากเห็นโคล้ดทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว

 

ผมถอนเสื้อโค้ทของตัวเองออกแล้วนำไปคลุมตัวโคล้ด นั่นทำให้ไหล่ของเธอเริ่มสั่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาจนผมไม่สามารถนึกคำพูดดีๆออกมาได้

 

ผมหันหลังแล้วออกจากห้องของโคล้ด

 

*ปึก* ดูเหมือนว่าไหล่ของผมจะชนเข้ากับอะไรบางอย่าง

 

ดูเหมือนว่าผมจะชนเข้ากับพนักงานต้อนรับที่ไล่ตามมา

 

“โอ้ะโอ๋ เจ้าหนู? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอนึกจะเข้าก็เข้าได้นะ เข้าใจไหม? ที่นี่เป็นโรงแรมของนักเดิน…”

 

จู่ๆพนักงานต้อนรับก็หยุดพูด

 

ผมแผ่พลังเวทย์ออกมาบางส่วน

 

เขาหน้าซีดลง ปิดปากเงียบ แล้วก้าวหลบไปด้านข้าง

 

เมื่อทางเดินเปิดโล่ง ผมก็เดินตรงไปบนพื้นที่แต่ละก้าวส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา

 

ผมออกจากโรงแรมแล้วหันไปทางย่านสถานบันเทิง จากนั้นก็ออกเดินไปทางนั้นทันที

 

นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับเด็กก็จริง แต่มันก็ไม่สามารถหยุดไม่ให้ผมเข้าไปได้หรอก

 

ขี้เมาที่อยู่ข้างถนนตะโกนใส่ผม ผมก็เลยยิงเวทย์ไปทางเขาจนเหมือนว่าเขาจะสร่างเมาทันที

 

ผมเดินผ่านร้านเหล้าที่มีแสงจากเวทย์มนต์ส่องสว่างมากมาย ก่อนจะเข้าไปที่ร้านเหล้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้

 

“เห้ย ไอ้หนู ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเด็กหรอกนะ รู้ไหม?”

 

“มาหาป๊ะป๋างั้นหรอ? บอกชื่อมา บางทีฉันอาจจะเรียกเขาออกมาให้ก็ได้?”

 

ชายสองคนที่มีหน้าตาหน้ากลัวส่งเสียงเรียกผม

 

รูปร่างแบบนี้นี่มีประโยชน์จริงๆ

 

ดุเหมือนว่าพวกมันจะรับรู้ได้ว่าผมเป็นนักเวทย์ ก็เลยตะโกนเรียกผม

 

“เคน เคน เลออนฮาร์ต อัศวินที่สวมเกราะเงาวับ ได้โปดเรียกเขาให้ที”

 

ผมตอบอย่างตรงไปตรงมา

 

ดูเหมือนว่าคำตอบของผมจะไม่ดีพอเท่าไหร่ ผมคงต้องทำหัวให้เย็นลงก่อนจะตอบอะไรซะแล้ว

 

“ขอโทษนะ แต่นี่เป็นร้านเหล้าชั้นสูง คนทั่วไปไม่สามารถเข้าออกที่นี่ได้ตามใจชอบหรอก ที่พวกเราทำอยู่ก็เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งไม่พึงประสงค์เข้าไปได้”

 

“เคนซังเป็นแขกที่ร่ำรวยของที่นี่ พวกเราคงจะงานเข้า หากปล่อยให้เด็กอย่างเธอเข้าไปทำลายบรรยากาศ”

 

จะไม่ปล่อยให้เข้าไปง่ายๆสินะ?

 

ไม่ไหวไม่ไหว

 

-ภายในร้านเหล้าชั้นสูง หางแมวดำ

 

ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังรินเหล้าให้แก่เหล่าอัศวิน พวกเขาต่างก็กำลังชนแก้วกันอยู่

 

ขวดเหล้าเปล่าราคาแพงมากมายตั้งอยู่รายล้อมเหล่าอัศวินที่กำลังหน้าแดง

 

เคยเองก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ เขากำลังนั่งโอบไหล่ผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง

 

“ทุกคน! การสำรวจในวันนี้ทำได้ดีมาก! ดังนั้นการแวะมาที่นี่ถือเป็นรางวัลขอบคุณในความเหนื่อยยากของพวกนายทุกคน!”

 

ดูเหมือนว่าเคนจะกำลังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขายกแก้วสาเกขึ้นกระดกแล้วแกว่งแก้วที่ว่างเปล่า

 

“วันนี้ชั้นเลี้ยงเอง! สนุกเท่าที่พวกนายต้องการเลย!”

 

“โอวววววว!!!”

 

“สมกับที่เป็นเคนซามะ!”

 

“ขอบคุณมากครับ!”

 

ตู้มม!!

 

ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวก็ดังไปทั่วร้าน

 

เมื่อหันไปเห็นบรรดาคนเฝ้าประตูที่ถูกอัดติดกับผนัง ทุกคนก็หันมามองที่ผมพร้อมกัน

 

พวกนั้นน่าจะยังไม่ตาย…

 

น่าจะนะ…

 

ผมเดินตรงเข้าไปแล้วพบว่ากลุ่มของเคนที่กำลังสนุกสนานกันอยู่ ภาพที่พวกนั้นกำลังหัวเราะไร้ความกังวลทำให้พลังเวทย์ของผมเดือดพล่านจนแทบจะทะลักออกมา

 

ความพุ่งพล่านนี่ไม่ยอมลดลงเลยแฮะ

 

นี่มันแย่จริงๆ

 

เขาเป็นพี่ชายของโคล้ด เพราะงั้นมันคงจะแย่หากฆ่าเขาทิ้งไป แต่ผมก็ไม่สามารถปล่อยไอ้สารเลวนี่โดยไม่ทำอะไรได้เหมือนกัน

 

==========

 

อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร

 

==========

 

ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด