Chapter 149: Guardian Deity (3) 13-09-2017
Chapter 149: Guardian Deity (3)
เจฮีสับสน.
"ขะ-ขอโทษนะ ฉัน? เดี๋ยว! หยุด! นี่คุณทำไมถึงทำแบบนั้น? หน้ากากนี่เป็นสัญลักณณ์ของกลุ่มเดวิล ฮันเตอร์!”
เธอหยิบหน้ากากที่คล้ายกันออกมาจากหน้าอกของเธอและโบกมือให้ดู เธอพยายามจะตามผมแต่ถูกโรสป้องกันเอาไว้
"อย่า หาง เขา!”
"หาง? ไม่...นี่คงไม่ใช่ ดาร์กเอลฟ์...?”
ดวงตาของเจฮีกว้างขึ้น.
ดาร์กเอลฟ์!
เธอเคยต้าขายกับคนแคระในอดีต แต่เหล่าดาร์กเอลฟ์มักกร้าวร้าวอยู่เสมอ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องระวังในดันเจี้ยน.
แต่ตอนนี้ดาร์กเอลฟ์อยู่กับมนุษย์ เป็นเรื่องปกติที่เขาต้องประหลาดใจ.
เธอแลบลิ้นออกมาเล็กน้อยในขณะที่พูด.
“แฟร์รี่บอกฉันว่าควรจะหยุดยั้งผู้หญิงรอบๆมาสเตอร์ แบร่ เห็นได้ชัดว่าในสายตาของฉันคุณมันน่าเกลียดมาก.”
บางครั้งยิฮิจะมาหาโรสและจะให้คำแนะนพแก่เธอ คำแนะนำเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับผู้หญิง.
แจฮีสับสันไม่คิดว่าจะมีเด็กน้อยดาร์กเอลฟ์มาพูดกับเธอแบบนี้.
“...พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”
"มนุษย์ได้เรียกมาสเตอร์ว่า ‘ผู้ช่วยชีวิต’ เขาทำให้สิ่งที่ไม่มีใครทำเหมือนเขาได้!”
"ผู้ช่วยชีวิต...”
เจฮีหันไปรอบๆ
เกือบทุกคนที่อยู่ที่นี่กำลังติดตามคนเพียงคนเดียว.
เขาจรดหน้าผากลงพื้น คำเดียวที่พวกเขาตะโกนคือ‘ผู้ช่วยชีวิต’
โรสสะบัดหัวและเธอก็หันหลับมา
"เรากำลังยุ่งอยู่ ถ้าคุณต้องการตามมาก็ตามมา ไปกันเถอะรอย”
"อึ๊ม.”
โรสจูงมือรอยและเดินไป.
อึนเฮย์และเอ็ดเวิร์ดเดินเข้ามาใกล้เจฮีพร้อมกับการแสดงออกที่ซ้อน
“พี่ พวกเขาจะไปไหนอะ?”
"ฉันไม่รู้ ฉันเดาว่าคำที่ได้ยินทางวิทยุคงจะเป็นจริง...”
การติดต่อมักจะขาดห้วง มีการติดต่อเป็นระยะๆกับผู้ที่มีวิทยุระหว่างคนที่ดูแลโกดังแยกออกจากคนธรรมดาจากกัน.
เธอได้ยินว่า ‘ผู้ช่วยชีวิต’ มาแล้ว.ทำให้กลุ่มเดวิล ฮันเตอร์มาที่นี่เพื่อยืนยัน.
“คนนั้น..เขาดูเหมือนใครบางคน”
ชายสวมหน้ากาก อึนเฮมองไปที่หลังของเขา.
เขาเป็นคนซื่อบื้อ เจฮีมองไปที่เขา.
"คุณลืมแล้วหรอ? เขาตายแล้ว.แม้ว่าเขาจะตายไป แต่เราก็ยังมีชีวิต.”
“อย่างไรก็ตาม..มันคือการตัดสินใจของพี่สาว พี่สาวเป็นผู้นำ เดวิลฮันเตอร์”
อึนเฮ ถอนหายใจ ดวงตาของเธอหม่นหมอง.
เจฮีคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
“เราจะเข้าร่วม ดูเหมือนว่าการมีอเวคจำนวนมาก จะเป็นประโยชน์กว่า”
การรุกรานมาอย่างกระทันหันและคืยหน้าต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ดีม่อนและสิ่งมีชีวิต พวกเขารู้จุดอ่อนของมนุษย์คืออะไรและครอบครองเกาหลีอย่างรวดเร็ว.
เมืองหลวงถูกทำลายก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้น พวกเขาไม่ต้องการที่จะให้คนฉลาดที่รู้ทันมาเข้าร่วมต่ต้าน.
แต่..พวกเขายังคงเป็นปึกแผ่น มนุษย์มารวมตัวกัน ถ้าพวกเขาสามารถรวบรวมผู้คนได้พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
‘เขาคือใคร?ผู้ช่วยชีวิตคือใคร?’
เธอไม่รู้ แต่ที่แน่นอนเลยก็คือความแข็งแกร่งของเขาอยู่ไหลเกินจิตนาการของเธอ เขาทำลายออคลอร์ดและออคตัวใหญ่หลายร้อยตัว ขนาดอึนเฮที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่สามารถเลียนแบบเขาได้.
แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยแต่เขาก็ไม่เคยถูกเรียกว่า ‘ผู้ช่วยชีวิต’ เจฮีเริ่มละทิ้งความคิดของเธอ.
มนุษย์ช่างน่ากลัว.
เมื่อพวกเขาเริ่มเชื่อให้สิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น.
พวกเขาเชื่อในความศัรทธาของตนนั่นคือสิ่งที่นำพวกเขาไปสู่ความรุ่งเรื่อง.แน่นอนว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นการก้าวไปสู้ความต้องการมี ‘ชีวิต’ แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะนำผลร้ายเกินกว่าจินตนาการมาได้.
Wuuuuuu.
Wooooo.
เสียงพึมพำน้อยๆดังไปทั่วยริเวณ มันไม่ได้เป็นเพลงที่เป็นระเบียบเท่าไรนัก มันเหมือนกับเป็นเสียงสวดที่แปลกประหลาด.
"ผู้คนดูแปลกๆ."
เอ็ดเวิร์ดกล่าวขณะมองไปรอบ ๆ.
"มันไม่แปลก.”
อึนเฮปฎเสธคำพูดเขา
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ด้านหลัง.
เฉพาะผู้ที่มีความเชื่อมั่นในผู้ช่วยชีวิตเท่านั้นที่สามารถยืนใกล้ ๆ เขาได้.
"พี่สาว พี่ไม่คิดว่ามันแปลกหรอ? มันดูแปลกเหลือเกิน...”
"ทุกอย่างพังทลาย มันไม่เหลืออะไร เมื่อพวกเขาไม่เห็นอะไร..และมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเขา เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตของพวกเขา.”
มันเป็นเหตุผลที่อึนเฮย์ได้เดินตามชายคนนั้นเมื่อสองปีก่อน แม้จะอันตรายและจะหายไป เขาเป็นคนส่องสว่างให้เธอเสมอ.
แต่ตอนนี้เขาหายไป โลกกำลังจะถึงจุดจบและเขาก็ไม่ได้แสดงตัวออกมาเมื่อมันอยู่ในอันตราย.
แม้กระทั่งคนที่มีค่าเสียชีวิต..หรือเมื่อบ้านของเขาหายไป...
"ความจริงผมคงจะเป็นบ้าถ้าพี่สาวหายไป.”
"อย่าพูดอะไรแปลกๆ.เธอมีพลังแม้ว่าจะอยู่ตัวคนเดียว.”
"แลัวมันจะมีอะไรเกิดขึ้นหากมีพลัง? ผมไม่ต้องการ...ฮี่ฮี่.”
เอ็ดเวิร์ดหัวเราะด้วยท่าทางขี้เล่น บรรยายกาศผ่อนคลายลงมาก.
ถัดจากเขา เจฮีที่จ้องขบวนที่ยาวออกไป และถาม.
"เรากำลังจะไปไหน?”
คำตอบมาจากที่อื่น.
"ดินแดนสวรรค์ ผู้ช่วยชีวิตได้ทรงนำทางเราไปยังดินแดนที่ไม่ต้องกังวล.”
คำที่เดินผ่านมาพูดทั้งน้ำตา.
แต่จีเฮกังขากับคำพูดเหล่านั้น.
"คุณไม่เห็นเทวดาหรอ? พวกเขาเชื่อมั่นแต่การทำลายดีม่อน มนุษย์ไม่ได้มีความสำคัญต่อพวกเขา.”
"พวกเขาเป็นเทวดาปลอมๆ! ผู้ช่วยชีวิตคือคนเดียวที่รู้เส้นทางสวรรค์! ตามที่ผู้ช่วยชีวิตและลูกๆของเขาจะพาเราไปสู้สวรรค์.”
"ฉันยังเด็กเกินไปที่จะไปที่นั้น.”
"คุณไม่มีความเชื่อ! คุณยังมีข้อกังขากับผู้ช่วยชีวิต?”
เจฮีตอบ
"ฉันรู้ว่าเขาแข็งแรง เขาดูแลสิ่งมีชีวิตที่เราไม่สามารถสู้ได้ ดังนั้นจึงรู้สึกขอบคุณ แต่มันไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะนำทางไปสู่สวรรค์.”
คนเดินผ่านถอนหายใจเหมือนที่เขาเสียใจ จากนั้นคนอื่น ๆ ก็ได้เข้ามาและล้อมรอบลีจีฮเย.
"คุณไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้!”
"นอกรีต!"
"นอกรีต!"
การคึกคะนองของเจฮีส่งผลให้เธอต้องอยู่ในช่วงวิกฤตอย่างฉับพลัน.
"ฉันเป็นพวกนอกรีตเพราะว่าฉันไม่เชื่อ? รอเดี๋ยว หยุดก่อน!”
จีเฮไม่สามารอยู่ได้อีกต่อไปเพราะผู้คนได้เริ่มรุมทึ่งเสื้อผ้าและผมของเธอ กลุ่มเดวิล ฮันเตอร์ได้เข้ามาช่วยเธอและเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเหล่านั้น.
"ผู้หญิงน่าเกลียด!”
ในขณะนั้นก็มีเสียงตะโกนอันดังออกมา
“อ่า?”
"อ่าลูกของผู้ช่วยชีวิต...”
มันเหมือนกับการดูปาฏิหาริย์ของโมเสส
ผู้คนหลบทางให้ทันทีที่เด็กดาร์กเอลฟ์เดินมา
พวกเขาหยุดรุมด่าเจฮี
เด็กสาวยืนอยู่ตรงหน้าเจฮีและกลุ่มเดวิล ฮันเตอร์
"มาสเตอร์บอกว่าเราต้องเดินต่อไป! อย่างไรก็ตามโรสจะไม่ยกโทษให้หากคุณแทงข้างหลังมาสเตอร์ มีเพียงราชินีคนเดียวเท่านั้นที่อยู้ข้างมาสเตอร์ได้ คุณเข้าใจไหม?"
พวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นราชินี.
บรรยากาศก่อนหน้านี้หายไป.
โรสออกไปหลังจากพูดเสร็จ
"ผู้ช่วยชีวิต!"
"โฮๆ...”
"โฮฮฮฮฮฮ..”
พวกเขาก้มลงแบนราบกับพื้นเพื่อคำนับ
“พี่สาว ไปเถอะ.”
เสียงของอึนเฮปลุกเจฮี
“ชะ-ใช่ ไป...”
เจฮีกลืนน้ำลายของเธอและเดินออกไป.
เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในปากสิงโต