Chapter 145: Roy, Rose (1)
Chapter 145: Roy, Rose (1)
สิ่งที่ผมต้องการที่สุดก็คือข้อมูล ผมต้องการรู้ว่าผมพลาดอะไรไประหว่างที่ไม่ได้อยู่ที่โลก พลังที่น่ากลัวมากที่สุด..มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหวโดยไม่ทราบการเคลื่อนไหวของเทวดาหรือดีม่อน.
และลิซปาการามเป็นคนที่เหมาะที่สุดที่จะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้.
ปาการาม!
ผมจำได้.
เขาเป็นนักวิจัยชีวิต ไม่ใช่ว่าเป้าหมายของเขาคือการสร้างโอมุนครูสหรอกหรอ?
"ผมจะทำตาม สัญญาแม้ว่าจะมาสายไปนิด.”
"ไม่เป็นไร แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับโอมุนครูสแต่ผมก็ได้สร้างอะไรที่มันก้าวหน้าด้วยต้วของผมเอง.”
ห้องทำงาน.ผมสัญญาว่าจะให้การสนับสนุนเพื่อที่เขาจะได้สร้างโอมุนครูสต่อไป อย่างไรก็ตามผมก็ได้ใช้เวลาโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นเวลา1.8ปีในโลกเบื้องล่าง แต้มไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นเขาเลยไม่อาจจะได้ทำวิจัย.
ถึงกระนั้นปาการามก็ไม่ใช่ไม่พอใจ เขาดูเหมือนกับว่าไม่ค่อยสนใจมัน.
ผมหันไปมองเด็กทั้งสองคนข้างปาการาม.
"เด็กพวกนี้?"
"ผมเป็นอาจาร์ยพวกเขา พวกเขามีการเรียนรู้ที่เร็วมากและน่าทึ่ง ตอนนี้ทำไมไม่แนะนำตัวหน่อยหล่ะ?”
ผิวคล้ำและหูแหลม เด็กสองคนนี้น่าจะเกิดมาประมาณ4-5ปี.
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรอที่พวกเขาเป็นฝาแฝด แต่พวกเขาก็ดูคุ้นๆเหมือนกัน.
ในหมู่พวกเขาเด็กหญิงเดินออกมาแนะนำตัวก่อนและโค้งคำนับ.
"สวัดดี ดันเจี้ยนมาสเตอร์ หนูชื่อโรส ได้ยินว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่มาสเตอร์ตั้งให้ รู้สึกเป็นเกรียติอย่างยิ่ง.”
“ผะ-ผมชื่อรอย.”
พวกเขาสองคนออกอาการประหม่า.
‘พวกเขาโตได้ขนาดนี้แล้ว’
ตอนที่ผมจำได้ว่าพวกเขาพึ่งเกิดใหม่ๆ
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเกิดผมได้ตั้งชื่อพวกเขา ผมตั้งชื่อด้วยตนเอง แต่ตอนนี้รู้สึกแตต่าง
โรสเงยหน้ามองด้วยสายตาเบิกกว้าง
"ราชินีที่ได้ดูแลได้บอกกับหนูว่า หนูจะต้องเรียนรู้ให้ไวที่สุดเพื่อที่จะได้ช่วยงานมาสเตอร์ได้ไวที่สุด แม้ว่าจะมีปัญหานิดหน่อยเนื่องจากว่าโรสยังเป็นเด็ก.”
"ผ-ผมด้วย..”
ผมหัวเราะนิดหน่อย เด็กหญิงตัวเล็กๆที่กำลังพูดเรื่องตลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่ไม่ยอมแพ้ ผมความหวังว่าเมื่อเธอโตขึ้นความมั่นใจนี้จะยังคงอยู่.
"มันยอดเยี่ยม”
"แก้ไขนิด เด็กเหล่านี้มีเพียงอย่างเดียวคือเรียนรู้ได้ไวกว่าคนอื่น เด็กเหล่านี้ช่วยได้อย่างมากในการวิจัยของผม แม้ว่ารอยจะมีลักษณะที่ขี้อายเล็กน้อยแต่มันก็สามารถแกไขได้?”
ในการประมูลครั้งที่สามผมได้ซื้อสกิลที่เรียกว่า การติดต่อทางจิตของฝาแฝด ผทจะเชื่อมั่นมากกว่านี้หากได้ตรวจสอบอีกครั้ง.
เห็นได้ชัดว่าสกิลได้รับการเรียนรู้อย่างประสบความสำเร็จทำให้เกิดความสามารถมากขึ้น.
“กาปาราม ผมได้ยินมาว่าคุณสามารถช่วยผมได้ คุณช่วยได้อย่างไร?”
นี่เป็นเหตุผลที่ผมมาพูดคุยกับเขา.
เมื่อผมถามอย่างจริงจังปาการามก็มอบหนังสือให้ผม
"ก่อนอื่นเลย โปรดรับสิ่งนี้ นี่คือหนังสือที่ผมจดบัญทึกงานที่ผ่านมาและความคิดของผม คุณอาจจะเติมเต็มช่องว่างได้บางส่วน.”
ผมเปิดหนังสือและเห็นสิ่งต่างๆเช่นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันสิ่งที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนและการสำรวจจากภายนอก แม้แต่รายละเอียดเกี่ยวกับสภาพอากาศก็ถูกเขียนขึ้น.
ปาการามพูดและเริ่มยิ้มน้อยๆ.
"ผมเป็นนักวิจัย ผมชอบเก็บบันทึกทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรโดยเฉพาะดันเจี้ยนเพราะสถานที่นี้เรียกว่าโลกเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ไม่มีหัวข้อที่กำหนด แต่ควรจะเพียงพอที่จะเติมช่องว่างให้กับคุณ.”
"ก็พอช่วยได้.”
ข้อมูลนี้มาก ดูเหมือนจะใช้เวลาสองถึงสามวันในการอ่าน.
ฉันกำลังอ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อปาการามเงียบและพึมพำเบาๆ.
“และ..คุณจำ M3 ได้ไหม?”
"โกเลมตัวนั้นที่ผมซื้อมาตอนประมูล?”
ผมหันหน้าไปตอบ.
มันเป็นรุ่นที่สมบูรณ์ของ M1 และ M2 ชื่อว่า โกเลม แต่มันดูคล้ายอัศวินเทียม แน่นอนผมจำมันได้.
อย่างไรก็ตามผมไม่รู้ว่าทำไมชื่อนี้จึงถูกกล่าวถึงในขณะนี้ มันไม่ได้รับบาดแผลรุนแรงเหมือนกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอื่นๆ ปาการาม พูดต่อแม้ว่าเขาจะสับสน.
"ผมได้ซ่อมแซมและปรับปรุงทุกครั้งที่เขาพัง.”
Tak!
เขาตบมือและอัศวินที่มีดวงตาสีแดงก็เดินออกมา.
อย่างไรก็ตามมันถูกปกคลุมด้วยเขม่า มีรอยแตกมากมายบนตัวมันแม้ว่าจะเป็นนิ้วของมันก็ไม่เว้นสักนิ้ว.
ห่า! ผมเดาะลิ้น.
มันน่าแปลกที่เขาพังขนาดนี้แล้วทำไมยังทำงานอยู่.
"มีหลายแผลเลย.”
“ศัตรูทั้งหลายพยายามที่จะทำลายมัน แต่ผมได้ซ่อมแซมให้มันมีชีวิตอยู่ได้ เป็นเหตุให้มันแข็งแกร่งขึ้นมาก เนื่องจากว่าผมได้ปรับแต่งมันให้เหมาะสมกับการต่อสู้หลายๆครั้ง.”
"ปรับแต่ง?”
"ผมได้ซ่อมM3 และ..สิ่งที่ผมทำคือสิ่งที่มนุษย์ใช้คือการเชื่อมต่อหลายๆแกนจะทำให้มันมีพลังมากขึ้น.”
ผมแตะไปที่คาง.
เรื่องของปาการามเป็นส่งที่น่าสนใจมาก.
ที่เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ อย่างไรก็ตามผมไม่เคยคิดที่จะใช้เกี่ยวกับมัน มันไม่จำเป็นต้องกังวล เมื่อตอนนี้ปาการามได้ใช้มันแล้ว.
"ผมจะไม่บอกเรื่องราวที่ซับซ้อนเหล่านั้น แต่มีการเชื่อมแกน4ตัวเข้าด้วยกันเพื่อให้เขาเคบื่อนย้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รอยและโรสมีประโยชน์อย่างมากที่นี่ ผมได้เชื่อสกิล ติดต่อทางจิตกับแกนของM2-3 จึงเริ่มเติบโตขึ้น.”
“โฮ...”
M3 มันสมบูรณ์แล้ว ไม่มีที่ว่างในการเติบโต มันพูดจากการอธิบายของเขา แสดงว่ากรอบของมันได้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว.
ผมหันไปมองM3และใช้มัทอายเพื่อยืนยัน.
ชื่อ: M3 | |||
สถานะ | |||
Strength | 92(+5) | Intelligence | 0(+41) |
Agility | 91(+5) | Stamina | 84(+5) |
Magic Power | 85(+5) | ||
ศักยภาพ: (352+61/340)
เอกลักษณ์: หุ่นรบรุ่นสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องให้แข็งแกร่งมากไปกวว่านี้แล้ว มันไม่มีความรู้สึกเนื่องจากคววามฉลาดของมัน เป็น0 แต่มันเป็นโกเลมที่ดีที่สุดโดยมีต้นแบบของM1-2 ** แกนทั้งสี่ถูกนำมารวมกัน ลิซ ปาการาม ทำให้ M3 มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการใช้งาน สกิล:พายุ (Ex U), การโจมตีร่วมกัน (Ex U), รอย และ โรส (Ex U) |
มีหัวข้อที่ถูกซ่อนไว้ปรากฎออกมา สถานะเพียงๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีสกิลอื่นที่เรียกว่า‘รอยและโรส (Ex U)’.
มันเปลี่ยน ผมไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นไปได้ ผมได้แต่ถูกบังคับให้ตกใจ
'มันเป็นการผสมผสานกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เขาเป็นมันเฉพาะเทคโนโลยีเพียวๆเท่านั้น.’
ในเอกลักษณ์มันก็ถูกเขียนว่าM3สมบรูณ์.
'มันอาจจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์เกิดขึ้นได้หาก โอเว่น ปาการามและราชาคนแคระทำงานร่วมกัน.’
เป็นเรื่องปกติที่ผมจะมีความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ผมไม่สามารถคิดออกเลยว่าพวกเขาสามคยทำงานร่วมกันมันจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน.
“รอยและโรส สามารถสนับสนุนM3ได้ มันจะมีประโยชน์อย่างมากในการสู้รบ.”
ผมจำได้ว่าเคยเห็นมันมาก่อน ตอนที่ผมกำลังสู้กับไททันและ4ดีม่อนผมเคยเห็นเกราะเงินแว่บๆเคลื่อนไหว.
รอยและโรสควบคุมมัน ผมมองไปที่พวกเขาด้วยความประหลาดใจ โรสที่ยืดอกรับและรอยที่ก้มหัวอายๆ
"นี่เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย?”
"มันคล้ายๆกัน ถ้าผมมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและห้องทำงานผมคิดว่าผมทำให้มันดีกว่านี้ได้.”
“ตกลง งั้นผมจะให้แต้มกับคุณ3ล้านแต้ม.”
"......!"
ปาการามยืนขึ้น.
เขารู้ว่าสามล้านแต้มมีค่าแค่ไหน.
เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือเป็นเวลา1.8ปีดังนั้นเขาจึงตื่นเต้น.
“จริง? สามล้านแต้ม...”
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การลงทุน.
"คุณควรทำงานร่วมกับโอเว่นและราชาคนแคระ ช่วยเหลือกันและกัน.”
ปาการาม พูดออกจมูก.
"ถ้าเป็นแค่ราชาคนแคระ แน่นอนว่าผมจะรับการช่วยเหลือ ความชำนาญของเขาเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อโอเว่น.”
“ช่างตีเหล็กทไวไลท์โอเว่น คุณไม่เคยได้ยินเขา?”
"ผมไม่รู้ ผมไม่เคยได้ยินชื่อของเขาในขะณที่ค้นคว้าบนภูเขา ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมก็ได้.”
เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่รู้แม้ว่าโอเว่นจะมีชื่อเสียงขนาดไหน.
โอเว่นเดิมทีเป็นมนุษย์ และเขาก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ๆแตกต่างอย่างสิ้นเชิง.
"มันจะเป็นประโยชน์ถ้าคุณทำงานร่วมกัน.”
"หืมม...ฉันจะทำวิจัยร่วมกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ ดันเจี้ยนมาสเตอร์.”
เขาเห็นด้วยท่าทางอ่อนน้อม ผมจะดูว่าเขาจะรักษาท่าทีอย่างนี้ต่อไปได้หรือไม่.
"ผมจะปล่อยให้คุณได้ใช้แต้มตามที่ได้รับ คุณสามารถบอกยิฮิได้ว่าคุณต้องการอะไร เธอจะหามาให้.”
"ผมเข้าใจ. คุณจะไม่เสียใจ.”
ปาการามโค้งหัวสั้นๆ
ขณะที่ผมกำลังหันไปปาการามรับพูดว่า.
"โอ้ ผมจะปล่อยผู้ช่วยของผมไป.ผมคงไม่สามารถสอนเขาได้หลังจากที่ได้ห้องทำงาน.เด็กๆตื่นเต้นมากหลังกจาที่ได้เห็นมาสเตอร์.บางทีคุณอาจจะให้เขาช่วยทำะูระเล็กๆน้อยๆได้.พวกเขาสามารถช่วยได้โดยการใช้M3.”
ปาการาม..ผมไม่ได้ใช้เวลาทำความรู้จักนานพอที่จะรู้จักผมดี.
โดยเฉพาะโรสที่กำลังมองผมด้วยสายตาอันแรงกล้า
'รู้วิธีควบคุม M3 จะเป็นประโยชน์.’
พวกเขายังเด็ก แต่ผมไม่คิดว่าจะไร้ประโยชน์.
'ลอร์ดดาร์กเอลฟ์ พวกเขาสามารถเป็นบอสตามชั้นต่างๆได้.’
ผมจำได้ว่าศักยภาพของเด็กสองคนนั้นดีมาก ตามที่คาดไว้ผมได้ตรวจสอบด้วย มัทอาย และพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นอย่างดี ถ้าผมช่วยพวกเขาสักนิดแล้วพวกเขาก็จะเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในอนาคต.
"กองไว้ตรงนั้น.”
ผมพูดอย่างห้วน ๆ
"ผมจะเริ่มสร้างห้องทำงานทันที หลังจากนั้น...”
ปาการามพูดอย่างสุภาพก่อนจะออก.
อย่างไรก็ตามเด็กทั้งสองคนก็ไม่ได้ตามออกไป.
“ตามผมมา.”
"ครับ!"
โรสตอบด้วยเสียงหัวเราะ.
รอย...เขาตอบด้วยเสียงอันดังและเดินตามหลังผม.
มีข้อความมากมายที่ปาการามส่งมาให้ผ่านหนังสือ ข้อมูลต่างๆถูกจัดเรียงไว้ตามวันเวลามีข้อมูลมากมายที่ได้เข้ามาในหัวของผม และผมก็สรุปเป็นช่วงสั้นได้อย่างนี้.
[5 เม.ย. แพนเดอโมเนี่ยมสังเกตเห็นดันเจี้ยนและฝ่ายของเขาเริ่มไม่พอใจ เขาได้ทิ้งคนเฝ้าไว้อยู่รอบๆดันเจี้ยนเอาอาจจะต้องล่าถอย]
[5 เม.ย. เกิดการสู้รบครั้งที่สอง มันถูกป้องกันไว้อย่างปลอดภัย ดีม่อนได้ล้มรอบเกาหลีใต้ทั้งหมด การเคลื่อนไหวของเขาถุกป้องกันไว้หลายครั้ง.]
[18 พ.ค. มนุษย์ได้เริ่มโต้กลับ การโจมตีของดีม่อนชะลอตัว มนุษย์ที่เรียกตัวเองว่ามเวคชึ่งรวมตัวกันในนาม กิลด์ ได้ประกาศสงครามกับดีม่อน.]
[23 ต.ค. เมืองหลวงของเกาหลีใต้ที่เรียกว่า ‘โซล’ ถูกยึด. ในสถานการณ์นี้เหล่าดีม่อนได้จัดทีมเพื่อบุกเขาดันเจี้ยนเต็มรูปแบบ.]
[31 ธ.ค.เทวดานับหมื่อได้บุกลงมายังโลก อาร์แองเจิ้ลได้รับการยืนยัรในเหตุการณ์นี้ ดีม่อนและเอเรียลได้ออกมจากดันเจี้ยนและได้ประกาศการดำรงอยู่ของพวกเขาไปทั่วโลก เกาหลีใต้ยังคงถูกยึดโดย4ดีม่อนและชั้น7ก็แตกพ่ายไปแล้ว.]
......
[3 ก.ค.มนุษย์จำนวนน้อยที่ถูกเรียกว่าอเวค กำลังถูกทำเหมือนกับ‘ฟาณืมแต้ม’ ของดีม่อน.พวกเขาบังคับให้มนุษย์เติบโตขึ้นปเพื่อที่จะได้รับแต้มมากขึ้นซึ่งสามารถช่วยให้พวกเขาเรียกสัตว์ทรงพลังได้ เทวดาได้โจมตีดันเจี้ยน ในวันนี้ชั้น12ของดันเจี้ยนได้แตกแล้ว.]
......
นี่คือข้อมูลที่มีอยู่ในหนังสือ มันถูกเขียนด้วยเลือด จากข้อมูลนี้ผมได้เข้าใจถึงสถานการณ์.
ผมไม่ได้ขยับไปไหนนานกว่าครึ่งวัน.
เมื่อผมวางหนังสือผมสังเกตเห็นโรสนั่งอยู่บนเข่าของเธอ เธอกำลังถูเท้าของเธอด้วยใบหน้าสีแดง
"คุณกำัลงมองอะไร?”
"ฉันกำลังมองดันเจี้ยนมาสเตอร์.”
คำตอบที่ออกจากปากของโรสเป็นธรรมชาติมาก.
มันยังไม่จบสำหรับคำตอบของเธอ.
"ฉันอยากรู้เกี่ยวกับดันเจี้ยนมาสเตอร์.”
การแสดงออกของเธอค่อนข้างโจ่งแจ้งดูเหมือนกับเธอจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องรางของผมมาก่อน เธอยากรู้เรื่องของผมเพื่มเติม
เธอฉลาดมากในทางตรงกันข้ามการแสดงออกของรอยจะตรงกันข้ามจากคำพูดของเธอ ถ้าพวกเขาได้ยินมาว่าผมเป็นคนดีมากขนาดไหน เขากังวลว่าโรสจะทำผิดพลาดจากคำพูดของเธอและถูกลงโทษ.
ผมไม่สนตราบใดที่พวกเขาไม่ทรยศผม
และ..ผมต้องการให้พวกเขาเป็นบอสของชั้นต่างๆได้อย่างไร
ผมลุกขึ้นยืนและพูดว่า.
"ฉันจะออกจากดันเจี้ยน เตรียมตัวและทำตามฉัน.”