ตอนที่ 31 -- ตอนเย็น
แปลโดย Mikky
Edit โดย check2534
ตอนที่ 31 -- ตอนเย็น
เซฟ ไอน์สไตน์
เลเวล 29
[เวทย์แดง] ค่าเวทย์มนต์ 29 ขีดจำกัดเวทย์มนต์ 62
”
[เวทย์น้ำเงิน] ค่าเวทย์มนต์ 21 ขีดจำกัดเวทย์มนต์ 87
”
[เวทย์เขียว] ค่าเวทย์มนต์ 20 ขีดจำกัดเวทย์มนต์ 99
”
[เวทย์ท้องฟ้า] ค่าเวทย์มนต์ 21 ขีดจำกัดเวทย์มนต์ 89
”
[เวทย์วิญญาณ] ค่าเวทย์มนต์ 20 ขีดจำกัดเวทย์มนต์ 97
”
พลังเวทย์ 934/956
มันก็ผ่านมาพักหนึ่งแล้วตั้งแต่ผมใช้สเกาท์สโคปกับตัวเอง
ผมใช้เวทย์แดงค่อนข้างบ่อยนิดหน่อย เพราะงั้นมันจึงจบลงด้วยการที่มันมีเลเวลสูงสุด อีกอย่างมันเป็นเวทย์ที่ผมใช้มากที่สุดในอดีต เพราะงั้นมันจึงเป็นเวทย์ที่ค่อนข้างใช้ง่ายจนผมมักเผลอใช้ออกไปโดยไม่รู้ตัว
หากคิดที่จะทำให้เวทย์มีความสมดุลแล้วล่ะก็ ผมก็ควรจะใช้เวทย์สายอื่นด้วยใช่ไหมล่ะ?
ดังนั้น ตอนนี้ผมกับโคล้ดและมิลลี่จึงอยู่ที่ป่าโคโบลด์เพื่อเก็บค่าประสบการณ์
โคล้ดเป็นแนวหน้า ส่วนมิลลี่อยู่แนวหลัง
โคล้ดจะทำหน้าที่ล่อพวกโคโบลด์ ขณะที่มิลลี่จะยิงเวทย์ที่เหมาะกับคุณสมบัติของโคโบลด์ตัวนั้นเพื่อจัดการ
แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิธีที่เก็บค่าประสบการณ์ได้ดีที่สุด แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็น นั่นเพราะผมต้องสอนหลักการพื้นฐานในการต่อสู้เป็นปาร์ตี้เข้าไปในหัวของทั้งสองคน
โคล้ดมักจะล้ำหน้าเข้าไปกำจัดศัตรูมากเกินไป จนมิลลี่ก็ทำตาม เธอเข้าไปสู้โดยไม่คิดแล้วยืนร่ายเวทย์ออกไปมั่วซั่ว
“มิลลี่ซัง! คุณเข้ามาใกล้เกินไปแล้วฮะ!”
”
“โคล้ด ถ้าชั้นอยู่ข้างหลังก็ยิงยากสิ”
”
ไม่ไหวไม่ไหว ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
ต่อให้ผมบอกกับพวกเธอไป ก็คงจะไม่เข้าใจอยู่ดี
ดังนั้นผมจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเธอได้เรียนรู้ด้วยร่างกายของตัวเอง
ถัดไปจากสองคนนั้นเล็กน้อย ได้มีโคโบลด์ตัวหนึ่งที่พยายามจะเข้าไปโจมตี ได้เข้ามาในระยะสายตาของผมพอดี
ผมร่ายไทม์สแควร์ทันที ในตอนที่เวลาถูกหยุดอยู่นั้น ผมก็ร่างเรดแครชกับแบล็คสตอร์มออกไป
เมื่อเวลากลับมาเดินอีกครั้ง พายุเพลิงก็ได้พัดผ่านไปทางนั้นแล้วกลืนกินโคโบลด์ตัวนั้นไป เพียงทีเดียวมันก็ถูกเผาจนไหม้เกรียม
อย่างที่คาด การผสานเวทย์สีแดงกับเวทย์ท้องฟ้า เป็นเวทย์ที่ใช้ง่ายจริงๆ
“ผมว่าจะเรียกมันว่า ไพโรสตอร์ม (Pyro Storm - พายุเพลิง)”
”
แม้ว่าผมจะทดลองอยู่มากพอสมควร แต่ก็มีหลายครั้งที่การผสานเวทย์ล้มเหลว
ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ผมร่ายเรดบอลกับแบล็คแครชออกไปผสานกัน มันก็สลายออกไปโดยไม่ทำงาน
หากเวทย์มนต์ที่ใช้ผสานไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเลย
อีกอย่างยังมีเรื่องของความเข้ากันได้อยู่ด้วย ในตอนที่ผมร่ายบลูบอลกับเรดบอลผสานกัน มันก็ระเบิดออกทันทีจนฝากรอยไหม้ไว้ที่ผมด้วย
ไม่มีใครรู้ว่าการผสานเวทย์จะเป็นอย่างไรจนกว่าจะได้ลงมือทำจริงๆ ดังนั้นมันจะดีกว่าหากได้ทดลองก่อนจะทำไปใช้ในการต่อสู้จริงๆ
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้อยู่ ผมก็ทดลองการผสานเวทย์ไปเรื่อยๆ
“เซฟคุง!”
”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของโคล้ด ผมก็หันไปมอง แล้วเห็นว่าโคล้ดกำลังต่อสู้อยู่กับกลุ่มโคโบลด์อย่างยากลำบาก
มิลลี่เองที่กำลังถูกโคโบลด์สองตัวรุมอยู่ ก็พยายามหลบการโจมตีของมันสุดชีวิต
“มิลลี่ ใช้เรดวอล!”
”
“ถึงนายจะ….บอกแบบนั้น….ก็เถอะ…..!”
”
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถร่ายเวทย์ขณะที่กำลังหลบอย่างเอาเป็นเอาตายได้
ไม่ใช่แค่นั้น โคโบลด์อีกตัวได้ปรากฎตัวขึ้นแล้วเข้าไปร่วมกลุ่มที่โจมตีโคล้ด
ช่วยไม่ได้แฮะ
ผมใช้ยาฟื้นฟูพลังเวทย์สองเม็ด แล้วยิงเวทย์ผสานไปทางโคล้ด
“ไพโรสตอร์ม!”
”
เพลิงนรกได้โหมกระหน่ำขึ้นกลางวงศัตรู แล้วโคโบลด์เหล่านั้นก็ถูกกำจัดจนหมด
โคโบลด์ที่ยังเหลืออยู่….มีอีกห้าตัวเรอะ
โคล้ดน่าจะจัดการจำนวนนี้ได้ไม่ยาก
พูดได้ว่า โคล้ดน่ะมีทักษะเพียงพอที่จะทำงานนี้ได้
ส่วนทางมิลลี่ก็….
“ขอบคุณมากเลยฮะ เซฟคุง”
”
ช่างเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จริงๆ
แม้จะเทียบกับรอยยิ้มของผมไม่ได้ก็เถอะ
“ช่วยทางนี้ด้วยซี่!”
”
“มิลลี่ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเอง”
”
“เอางั้นหรอ!?”
”
การโจมตีของโคโบลด์ไม่ได้พิเศษอะไร แม้ว่ามันจะเข้ามาพร้อมกันสองตัว แต่ผมก็ต้องการให้หล่อนจัดการพวกมันด้วยตัวเอง
ในตอนที่มิลลี่เริ่มตั้งสมาธิเพื่อใช้เวทย์ โคโบลด์ตัวหนึ่งก็เริ่มโจมตีเพื่อขัดขวางไม่ให้เธอร่ายเวทย์สำเร็จ
กลุ่มโคโบลด์สองตัวโจมตีได้อย่างเข้าขา
จนทำให้มิลลี่เริ่มหายใจหอบถี่ ดูเหมือนว่าเธจะถึงขีดจำกัดของตัวเองซะแล้ว
เฮ้อ ให้ตายสิ หลังจากนี้คงต้องดูเธอมากเป็นพิเศษซะแล้ว
“แบล็ควอล”
”
บาเรียสายลมได้ปรากฎขึ้นกั้นระหว่างมิลลี่กับพวกโคโบลด์ โคโบลด์ที่เข้ามาชนกับกำแพงก็ถูกส่งลอยออกไป
“โอ้♪ ขอบคุณนะเซฟ!”
”
“ตอนนี้ก็จัดการสองตัวนี่ด้วยตัวเองล่ะกัน”
”
ตอนนี้เธอสร้างระยะห่างจากโคโบลด์ได้แล้ว จึงได้ใช้บลูเกลเข้าโจมตีจนกำจัดมันไปได้
...แม่นี่….ไม่ใช่ว่ารูปแบบการต่อสู้ของเธอมันออกจะหยาบไปหน่อยหรอ….
”
ฮ่าา อืม ช่างเถอะ ตราบใดที่เธอสามารถกำจัดศัตรูได้ จะทำยังไงก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“หุหุ เซฟเซนเซย์นี่ใจดีจังน้า”
”
“อืมม ไม่ว่ายังไงผมก็ยังอยากให้เธอจัดการกับระดับนี้ให้ได้ด้วยตัวเองน่ะนะ”
”
“ความสามารถในการตั้งสมาธิของมิลลี่ซังยังไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ ทันทีที่เธอรีบร้อนก็จะเสียสมาธิทันที”
”
“เธอเข้าใจปัญหาได้ค่อนข้างดีเลยนี่นา”
”
อืม….ทั้งหมดที่เธอเคยทำมาจนถึงตอนนี้ ก็มีแต่การยิงไวท์บอลใส่พวกซอมบี้เท่านั้น
ว่ากันตามตรง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่หล่อนได้เป็นกองหน้าออกล่าก็ได้
ผมล่ะสงสัยจริงๆว่า การปกป้องเธอแบบนี้จะเป็นการใจดีกับเธอเกินไปหรือเปล่า
“ดูเหมือนว่ามิลลี่จะรอจนเหนื่อยแล้ว งั้นเรารีบไปก่อนต่อเถอะ”
”
“หุหุ ใช่แล้ว”
”
พวกเราควรจะทำแบบนี้ต่อไปซักพัก จนกว่ามิลลี่จะคุ้นสินะ
ผมเข้าฌาณขณะที่เดินไปกับทั้งสองคน
หลังจากนั้น พวกเราก็ออกล่ากันอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ผมต้องรีบกลับแล้ว….”
”
“เอ๋~? ไม่ใช่ว่านี่ยังไม่มืดหรอกหรอ”
”
“มิลลี่ อย่าพูดอะไรที่เห็นแก่ตัวสิ อีกอย่าง ดูที่ท้องฟ้าสิ มันเริ่มมืดแล้ว ผมว่าถึงเวลาที่พวกเราควรจะแยกย้ายกันกลับได้แล้ว”
”
โคล้ดมีธุระต่อจากนี้งั้นหรอ? ดูเหมือนว่าโคล้ดจะอยู่ล่าตอนดึกไม่ได้
แม้ว่าสภาพในตอนนี้จะยังไม่เป็นที่น่าพอใจซะเท่าไหร่ แต่ผมก็คาดไว้ว่ามันน่าจะดีขึ้น ในเมื่อพวกเรามีคนเพิ่มมากขึ้นนี่นา
ขณะที่กำลังปลอบมิลลี่ที่ยังไม่ค่อยยินยอมเท่าไหร่ พวกเราก็กำลังจะถึงทางออกจากป่าโคโบลด์ แต่จู่ๆ เรดโคโบลด์ก็ปรากฎตัวออกมา
นี่มันโคโบลด์ลีดเดอร์
ผมรีบใช้สเกาท์สโคปใส่โคโบลด์ลีดเดอร์ทันที
โคโบลด์ลีดเดอร์
เลเวล 42
พลังเวทย์ 24412/24412
ดูเหมือนว่าเจ้าตัวนี้เองก็เป็นบอสระดับกลาง แบบเดียวกับคิงนิปเปอร์ที่ถ้ำชายหาด
ในตอนที่มันสังเกตุเห็นพวกเรา มันก็คำรามเรียกเหล่าโคโบลด์ออกมา
“อุหวาา….ตรงหน้าทางออกเลยเนี่ยนะ….”
”
“ไม่ต้องห่วง เราแค่ต้องรีบจัดการมันให้เร็วก็พอ”
”
ว่าแต่พวกเราสามคนจะสามารถจัดการมันได้ง่ายๆหรือเปล่า
มิลลี่ร่ายบลูเกลใส่กลุ่มโคโบลด์ทันที แล้วพวกมันก็ถูกกำจัดไปอย่างรวดเร็ว พวกที่เหลืออีกไม่กี่ตัวก็ถูกกรีนสเฟียร์ของผมบดขยี้
โคโบลด์ลีดเดอร์ที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวก็หันมาทางผมแล้วเหวี่ยงดาบลงมา แต่โคล้ดที่ยืนอยู่ด้านหน้าผมรีบยกโล่ขึ้นรับการโจมตี
“วิญญาณแห่งผืนปฐพีผู้ยิ่งใหญ่ จงกลายเป็นเกราะกำบังคอยปกป้อง”
”
“เซฟโปรเทคชั่น!”
”
หลังจากที่ผมร่ายเซฟโปรเทคชั่นให้โคล้ดแล้ว หล่อนก็มองมาทางผมเป็นเชิงขอบคุณ
ตอนนี้ได้เวลาที่ผมจะเริ่มโจมตีแล้วเหมือนกัน ผมคิดว่าโคโบลด์ลีดเดอร์น่าจะมีคุณสมบัติของสีแดง
ดังนั้นการใช้เรดซีโร่จึงไม่น่าจะให้ผลเท่าไหร่
ถ้าเป็นแบบนั้น การใช้ไพโรแครชที่เคยใช้สู้กับคิงนิปเปอร์น่าจะเหมาะกว่า
เมื่อโคโบลด์ลีดเดอร์เข้ามาใกล้ผม ผมก็พยายามร่ายไทม์สแควร์ แต่ด้าบยาวของมันกลับฟาดลงมาขัดจังหวะผม
“ชิ….”
”
ไพโรแครชเป็นเวทย์ที่มีระยะร่ายสั้น เพราะงั้นหากไม่เข้าไปใกล้ก็คงจะยิงไม่โดน
ช่วยไม่ได้แฮะ ผมคงต้องใช้เวทย์อื่นแทน
ผมร่ายไทม์สแควร์ แล้วร่ายเรดช็อต (Red Shot - กระสุนแดง) กับแบล็คช็อต
กระสุนเวทย์มนต์ที่เกิดจากเพลิงกับพายุหมุน ได้พุ่งออกจากฝ่ามือของผม เข้าไปโจมตีโคโบลด์ลีดเดอร์จนหยุดเคลื่อนไหว
“คิย๊าาาก!!”
”
ตอนนั้นเองที่โคล้ดโจมตีมัน แม้ว่าเธอจะหวดดาบลงไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะได้ผลเท่าไหร่
นั่นเป็นเพราะดาบสั้นของโคล้ดยังไม่ได้รับการเอนชานต์
แม้ผมจะเคยพูดว่าไพโรช็อตใช้พลังเวทย์น้อย แต่พลังโจมตีของมันก็ต่ำเช่นกัน
ผมย่อตัวลงแล้วร่ายไพโรแครช…!
ในตอนที่พายุหมุนได้กลืนกินโคโบลด์ลีดเดอร์เข้าไป
มิลลี่เองก็ใช้โอกาสนี้ยิงบลูเกลออกมา
ดูเหมือนว่าเราจะมีคนบ้าอยู่หนึ่งหน่อแฮะ
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่บลูเกลของมิลลี่ก็อยู่ในระดับสูงมาก
ต่อให้มันจะไม่ใช่คุณสมบัติที่มอนสเตอร์แพ้ทาง แต่มันก็ค่อนข้างได้ผลทีเดียว
มิลลี่มีเวทย์ที่สามารถใช้ได้อยู่ไม่มาก ดังนั้นจึงไม่รู้เวทย์มนต์ที่เป็นประโยชน์ในกรณีนี้
ดังนั้นมันจึงเปล่าประโยชน์ที่จะตัดสิน
ช่างเถอะ พวกเราพึ่งจะตัดมันเป็นชิ้นๆเมื่อกี้
ผมยิงไพโรช็อตใส่โคโบลด์ลีดเดอร์ที่ยังอยู่ในพายุหมุน
…..
ผมเข้าฌาณขณะที่ร่ายไพโรช็อตสลับกับบลูเกลใส่โคโบลด์ลีดเดอร์อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็สามารถจัดการมันลงได้
ขณะที่พวกผมกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้กับโคโบลด์ลีดเดอร์ หากถูกโคโบลด์ตัวอื่นรบกวนถือเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาพอสมควร แต่ว่าโคล้ดก็สามารถจัดการพวกมันลงได้ทุกครั้ง
ดูเหมือนว่าพวกเราจะสามารถฝากแผ่นหลังไว้ที่โคล้ดได้
แต่กว่าจะจัดการจนจบมันก็มืดไปเรียบร้อยแล้ว
“อุหวาา~ พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว….ถ้าผมไม่รีบกลับล่ะก็…”
”
“จริงด้วย ต้องขอโทษจริงๆนะโคล้...ด?”
”
ใบหน้าของโคล้ดซีดลงราวกับไก่ต้ม
อีกทั้งมือของหล่อนก็สั่นเทาพร้อมกับมีเหงื่อผุดออกมา
“โคล้ด? เป็นอะไรไปหรอ?”
”
เสียงที่ฟังดูไร้กังวลของมิลลี่กับใบหน้าซีดเผือกของโคล้ดเป็นอะไรที่ไม่เข้ากันอย่างแรง
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/