ตอนที่ 15 ขอเเต่งงาน
ฉันกับเขาได้จูบกันก่อนที่อะไรๆจะเริ่มบานปลายขึ้นไปกลายเป็นว่าวันนี้ฉันกับเขาได้อยู่ด้วยกันสองคน ฉันพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ทำแบบนั้นแล้ว แต่ว่ามันฝืนตัวเองไม่ได้ใจมันสั่งให้ฉันทำ แล้วเราสองคนก็ต่างมีความสุขกันในวันนั้น ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะยอมเขาได้ขนาดนี้ ฉันรักเขาจริงๆแล้วนะแต่ฉันอยู่กับเขาไม่ได้จริงๆเพราะว่าเขามีคนของเขาและฉันก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ฉันคิดว่าฉันควรจะอยู่ในที่ของฉัน เอาเป็นว่าเมื่อวานมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ถึงจะคิดแบบนั้นแล้วทำให้ฉันเสียใจเท่าไหร่แต่ฉันก็คิดว่ามันคงจะดีกว่า เขาตื่นมาแล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะ ฉันรีบไปอาบน้ำก่อนจะใส่เสื้อผ้าเเล้วก็กลับมาทานข้าว
“เมื่อวานนี้ฉันมีความสุขมากเลยนะเบอร์ริน” ฉันพยายามไม่พูดกับเขาแต่เขาก็เดินมากอดฉัน มันทำให้ฉันยิ่งคิดกับเขามากขึ้นแล้วก็คิดถึงเรื่องนั้นมากขึ้นเหมือนกัน
“เธออย่าคิดมากกับเรื่องต่างๆที่มันจะเกิดขึ้นฉันเลือกเธอแล้วแล้วฉันจะไม่เลือกใคร อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดเพราะยังไงฉันก็รักเธอ ได้โปรดแต่งงานกับฉันจะได้ไหม”
ตอนนั้นฉันกำลังดื่มน้ำอยู่เมื่อได้ยินที่เขาพูดฉันแทบจะสำลักน้ำออกมาเลยทีเดียว
“นายว่าอะไรนะ นายบ้าไปแล้วหรอนายรู้หรือเปล่าว่านายพูดอะไรออกมาแล้วเมสเซอร์รี่ล่ะนายจะทำยังไง” เขาพูดออกมาแบบไม่คิดให้ฉันได้ยิน
“ฉันจะไม่แต่งกับเมสเซอร์รี่ฉันจะไปบอกพ่อของฉันเองฉันไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง ฉันสนว่าเธอน่ะคิดยังไงมากกว่า ฉันทำแบบนี้กับเธอไปแล้ว และฉันจะต้องรับผิดชอบมัน”
เขาพูดอย่างงี้ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับเขาแล้วเหมือนกัน ฉันรักเขาแต่ว่าถ้าเกิดเขามาแต่งงานกับฉันจริงๆมันจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นอีกมากมายเลยนะฉันต้องให้เขาคิดให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
“ถึงอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องอย่างที่นายพูด ถ้านายจะรับผิดชอบทำไมนายไม่ไปรับผิดชอบพวกแม่บ้านที่นายได้ทำอะไรกับพวกเขาเอาไว้ล่ะ ทำไมนายต้องมารับผิดชอบฉันคนเดียวด้วยมันไม่จำเป็นสำหรับฉันเลย ฉันไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้เพราะฉันให้มันไปด้วยใจไม่ใช้หลง”
จากนั้นฉันยืนขึ้นก่อนที่เขาจะยื่นมาจับแขนแล้วดึงฉันลงไปบนเตียง พวกเราล้มลงไปบนเตียงพร้อมกัน ก่อนที่ฉันจะพยายามลุกขึ้น แต่ว่าเขาไม่ยอมให้ฉันลุกขึ้นไปกอดฉันจากข้างหลังไว้แน่นมาก
“ปล่อยฉันสิฉันจะออกไปข้างนอกแล้วนายจะมากอดฉันไว้ทำไมเนี่ย” เขาไม่ยอมปล่อยฉันสักทีจนฉันหมดแรงที่จะขัดขืนเขา
“ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอ ถ้าเธอไม่ยอมตกลงที่จะแต่งงานกับฉัน”
ทำไมฉันต้องตกลงด้วยนี่มันบังคับกันได้ด้วยหรอเรื่องแบบนี้เนี่ย ฉันหันไปหาเขาก่อนที่จะมองหน้าเขาเขาก็มองหน้าฉันแล้วทำสายตาแบ๊วๆใส่ฉัน ไอ้บ้าฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะจะน่ารักอะไรขนาดนั้นวะ
“หน้าแดงหมดแล้วนะเธอน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะตอบตกลงได้หรือยัง ตอบมาสิฉันจะได้ปล่อยเธอไม่งั้นเราก็ไม่ต้องไปไหนกัน”
อะไรของเขาเขาจะไม่ยอมไปทำงานเลยหรือยังไงปวดฉี่ปวดอึขึ้นมาเขาก็ไม่ให้ฉันไปใช่ไหมเนี่ย โอ๊ยยอมก็ยอม อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะนะ
“ตกลงก็ได้แต่ว่ามีข้อห้ามหลายอย่างเลยที่นายจะต้องทำนายคิดว่านายทำได้หรือเปล่า”
เขากอดฉันไว้แน่นกว่าเดิมแต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีข้อตกลงเขาก็ทำหน้าตาสงสัยใส่ฉัน
“ห้ามนายทำอะไรเกินเลยกับฉันแม้แต่นิดเดียวในตอนที่เรายังไม่แต่งงานกัน ห้ามนายทำเหมือนว่าฉันเป็นคนธรรมดาเด็ดขาด นายต้องบอกฉันตรงๆทุกอย่างห้ามมีปิดบัง และนายต้องยอมฉันทุกอย่างเช่นกัน”
คิดหนักไปดิ เรื่องพวกนี้ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่งนะฉันขอบอกรู้สึกใหญ่ขึ้นมาทันทีฮ่า ฮ่า ฮ่า เขาลุกขึ้นแล้วอุ้มฉันลุกขึ้นไปด้วย เขาวางฉันลงที่เก้าอี้ก่อนจะใส่เสื้อผ้านี่เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรอฉันลืมไปเลยบ้าบอที่สุด จากนั้นเขาก็อุ้มฉันขึ้นมาอีกครั้งเขาจะไปไหนของเขาเนี่ย ฉันหยิบปากกาวิเศษขึ้นมาด้วยกันลืมเอาไว้ จากนั้นเขาก็อุ้มฉันไปที่ห้องส่วนกลาง คนเยอะมากและมันก็น่าอายมากเช่นกัน เขาจะทำอะไรของเขากันแน่ จากนั้นเขาก็นั่งตรงเก้าอี้ของเขา แล้วให้ฉันนั่งบนตักของเขาในท่าเจ้าหญิง แล้วมาคาโอก็เดินเข้ามาข้างๆกับเลย์
“นายไปบอกให้ทุกคนทั้งแม่บ้านแล้วก็แผนกต่างๆมาหาฉันที่ห้องส่วนกลางด้วย ฉันมีเรื่องปิติยินดีจะมาให้พวกเขาได้ทราบกันในวันนี้”
เขาจะเรียกมาทำไมกันฉันพยายามจะลุกออกจากตักของเขาแต่เขาก็กอดฉันเอาไว้แน่นจนพวกนั้นมา ทุกคนต่างอึ้งทั้งหมดที่ได้เห็นฉันมาทำแบบนั้น รวมถึงเมสเซอร์รี่ด้วยที่ได้มาเห็นแบบนี้ทุกคนต่างคำนับลงยกเว้นเมสเซอร์รี่ ทุกอย่างเงียบมากเมื่อทุกคนเงียบหมดเลก็ได้พูดขึ้นมา
“ฉันมีข่าวดีจะมาบอกกับพวกเธอให้รู้ว่าในวันนี้ฉันได้ขอใครคนหนึ่งแต่งงาน แล้วเธอคนนั้นก็รับคำขอของฉันเช่นกัน เธออยู่ที่หน้าของฉันแล้วในตอนนี้ เธอมีชื่อว่าเบอร์รินเธอจะมาเป็นภรรยาของฉันอย่างแท้จริง ในวันข้างหน้าวันนี้ฉันแค่หมั้นเอาไว้ก่อน”
เฮ้ยบอกแบบนี้เลยหรอทุกคนเริ่มส่งเสียงดังซุบซิบกันใหญ่เมื่อได้ยินสิ่งที่เลได้บอก ฉันก็ตกใจกับเขา
เหมือนกันฉันมองไปที่หน้าของเขาด้วยความตกใจ แต่คนบ้าอะไรหัวเราะอยู่คนเดียวนี่แกล้งกันให้เขินใช่ไหมเนี่ย หน้าฉันแดงไปหมดแล้วนะ เมสเดินมาหาพวกเราก่อนที่เธอจะมองไปที่เลแล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่โกรธมาก
“ยัยนี่มันดีอะไรสำหรับเธอหรอเลย์ ฉันก็เห็นวันๆมันก็ไม่ทำอะไรเลยนอกจากจะอยู่แต่ในห้องบ้าๆนั่นน่ะ”
พาลใส่ฉันซะงั้นไม่ไปด่าเลล่ะฉันเกี่ยวอะไรฉันไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเธอเลย ในเมื่อผู้ชายไม่ได้เลือกก็ยังจะตื้ออีกถ้าจะเพี้ยนมันคือความจริงนะควรไปหาคนที่รักเรามากกว่า เราไปรักคนที่มีเจ้าของไหมล่ะเพราะยังไงเขาก็ไม่ได้ชอบเราอยู่แล้ว
“ฉันไม่ได้เลือกเธอเลยเมสเซอร์รี่ฉันเลือกเขาคนนี้เพราะเขาเป็นคนดีสำหรับฉัน แล้วก็ทำงานให้ฉันตลอดเพียงแต่เธอคิดจะไม่เห็นมันมากกว่า”
โดนจึกเข้าไปในหัวใจเลยไม่น่าถามเนอะถามไปเขาก็ตอบให้ฉันดูดีอยู่ดี อยู่ๆเมสก็ลากฉันลงมาจากตักของเลแล้วกระชากฉันผลักลงไปโดนพวกแม่บ้านข้างล่าง พวกนางก็ไม่อยุ่เฉยนะพวกนางเริ่มจับแขนขาของฉันเอาไว้ เมสลงมาจะตบฉันด้วยแรงที่โคตรจะเยอะตบทีมีหวังหัวหันจริงๆแน่ ฉันหลับตาลงเพราะกลัวว่าจะโดนตบแต่เลย์ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆอะไร รู้สึกว่าเขาจะใช้พลังไม่ให้เมสเซอร์รี่ตบฉันได้ ก่อนที่จะผลักพวกแม่บ้านด้วยแรงดันจากพลังเขาทำให้กระจายไปไม่เป็นทิศเป็นทาง ทุกคนต่างหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็นแล้วก็ลงไปนั่งกับพื้นเช่นเดิม เขาลงมาผลักเมสลงไปนอนก่อนที่เขาจะอุ้มฉันขึ้นมา
“ใครสั่งให้พวกแกมาทำอะไรกับภรรยาของฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้สั่งเลยไม่ใช่หรือไงไอ้พวกไพร่ชั้นต่ำ”
ทุกคนเงียบลงเมสเซอร์รี่ก็ลุกขึ้นมาแล้วนั่งลงเหมือนกัน ไม่มีใครกล้าที่จะพูดหรือตอบโต้เขาเลยจากนั้นเขาก็พาฉันเดินออกไปข้างนอกแล้วทุกอย่างก็เงียบไป
“ฉันขอโทษจริงๆนะที่ทำให้เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะว่าฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นเลยนะเธอคงจะไม่โกรธฉันใช่ไหม”
ฉันไม่โกรธหรอกเอาจริงๆมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเจ้าชู้อย่างเขาเนี่ยแหละที่จะมีสาวมาหวงเยอะขนาดนี้
“ไม่หรอกน่ะนายคงทำเพื่อฉันได้ใช่ไหมแต่นายนี่ก็ไม่เบาเลยนะ คนหวงนายเยอะมาก เมื่อตะกี้ถ้านายไม่ช่วยฉันเอาไว้มีหวังฉันโดนลุมกระทืบแน่ๆเลย ถ้าแรงคนธรรมดาฉันยังพอที่จะสู้ได้หรอกแต่ว่านี่มันแรงของปีศาจฉันสู้ไม่ไหวจริงๆ”
เขายิ้มให้ฉันแบบหวานๆก่อนที่จะลูบหัวของฉันแล้วจับมือฉันพาเดินไปที่ไหนสักแห่งก็ไม่รู้ ซึ่งมันสวยมากเป็นเหมือภูเขาเลย ฉันไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลยนะเนี่ย
“ฉันคิดว่าเธอน่าจะเรียนวิชาจากฉันได้นะจริงๆมนุษย์ก็มีพลังงานในตัวทุกคนนั่นแหละ แต่พวกเราเพียงไม่บอกให้พวกเขารู้เฉยๆเท่านั้น”
จริงหรอฉันก็พึ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย แต่เอ๊ะจะให้ฉันเรียนรู้วิชาจากเขาอย่างนั้นหรอ
“เรียนไปทำไมอะฉันก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่นี่ฉันจะเรียนมันไปเพื่ออะไร นอกจากจะเซนร์เอกสารอย่างเดียวเท่านั้นเอง”
เขาหัวเราะออกมา นี่ฉันพูดอะไรผิดอย่างนั้นหรอทำไมเขาต้องหัวเราะด้วย
“ก็นั่นแหละที่ฉันสอนเธอในขั้นแรก เธอไม่คิดจะแปลกใจเลยหรอว่าเธอพัฒนาในการเขียนด้วยปากกาวิเศษมากขึ้นน่ะ”
พูดถึงมันก็ถูกของเขานะฉันเขียนและวาดได้สวยขึ้นมากตั้งแต่เซนร์เอกสารมาจนถึงวันนี้ กับการวาดอะไรไปมาในห้องนอนของฉัน ทั้งอาหารตุ๊กตาอะไรแบบนั้น มันพัฒนาขึ้นมานี่หรอเป็นวิชาที่เขาสอนให้กับฉันน่ะ
“จริงๆหรอฉันกำลังฝึกอยู่อย่างนั้นหรอไม่จริงใช้ไหม ฉันจะใช้พลังได้หรือป่าวหรือมีแค่ใช้พรสวรรค์ในการวาดรูปอย่างเดียว”
เขาใช้เวลาคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบฉันว่ามันไม่ได้มีแค่นั้นหรอก แล้วเขาก็ยังพูดกับฉันอีกว่ามันก็สามารถเรียนรู้เรื่องการป้องกันตัวได้จากสร้อยที่ฉันได้มาทั้งสองอันเช่นกัน คือเอาง่ายๆว่าไอ้สร้อยนั่นไม่ได้มีไว้แค่ไล่พวกปีศาจ แต่มันมีไว้ต่อสู้เช่นกัน กำไลเอาไว้กลับมิติตัวเอง แต่มันยากมากเพราะพลังของฉันไม่พอ ส่วนไอ้สร้อยสามารถเอาไว้ต่อสู้กับปีศาจที่คิดจะทำร้ายฉัน ในชั้นกลางชั้นสูงจะไม่ค่อยกลัวสร้อยนี้สักเท่าไหร่
"อย่างนี้เองหรอเข้าใจแล้วล่ะแล้วจะฝึกอะไรวันไหนบ้าง ฉันไม่อยากอยู่แต่ในห้องอย่างเดียวแล้วอยากจะทำอะไรให้เป็นเหมือนนายบ้าง”
จากนั้นเขาก็ยิ้มที่มุมปากก่อนฉันจะคิดว่า ฉันตายแน่ๆเลยถ้าเขายิ้มแบบนั้นน่ะ