ตอนที่ 13 ขอเป็นเเฟน
“นี่ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันน่ะ !!”
เสียงของใครคนหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากซากหน้ากำแพงที่ได้หล่นลงมา ฉันแล้วก็เลย์ได้มองไปที่ต้นตอของเสียงก่อนที่จะเห็นว่าเมสเซอร์รี่กำลังมองมาที่พวกเราแล้วกำมือของเธอไว้แน่นก่อนที่จะเดินมาหาฉัน แล้วผลักฉันออกอย่างแรงซึ่งพลังของเธอก็ไม่ใช่น้อยๆ มันทำให้ฉันชนเข้ากับกำแพงทำให้เศษกำแพงที่อยู่บนหัวของฉันกำลังที่จะหล่นลงมาทับร่างของฉันฉันหลับตาลงคิดว่ามันต้องเจ็บแน่ๆ แต่ว่าเมื่อฉันหลับตาลง //ตุบตุบ// พร้อมกับลมที่พัดเข้ามาหาฉันเบาๆเมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบว่าเลย์ได้เอาตัวของเขามารับเข้ากับเศษกำแพงที่ตกหล่นลงมาใส่ฉัน กลายเป็นว่ามันตกลงไปใส่เขาแทนเพราะเขาเอาตัวบังไว้ เลือดของเขาได้หยดลงมาโดนที่หน้าฉัน มันทำให้ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย
“เป็นอะไรหรือเปล่าเบอร์ริน นี่เธอกล้าดียังไงที่มาทำร้ายคนของฉันห้ะเมสเซอร์รี่ ฉันว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้ !!”
เขาหันไปที่เมสเซอร์รี่ก่อนจะเดินไปหาเธอแล้วตะโกนใส่หน้าเธออย่างเสียงดัง แต่ดีที่แถวนี้เป็นเขตหวงห้ามแม่บ้านไม่สามารถที่จะเข้ามาได้พวกเเม่บ้านจึงไม่ได้ยินหรือรับเห็นอะไรเเบบนี้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะเลย์ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายยัยนี่เลยฉันเพียงแต่ผลักเธอเบาๆ ไม่คิดว่าปีศาจอย่างเธอจะปลิวไปได้ไกลขนาดนี้ เเล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าเจ็บตรงไหนไหม”
พูดถึงตอนผลักมันจุกมากเลยนะฉันไม่ใช่ปีศาจอย่างที่เธอบอกหรอกนะ เเต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะให้เธอรู้ได้ว่าฉันเป็นมนุษย์ไม่อย่างนั้นมันอาจจะทำให้ฉันเป็นอันตราย เเล้วก็ผิดคำพูดของเลย์ด้วย
“ฉันบอกให้ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่ฟังคำเเก้ตัวของเธออีกเเล้วเข้าใจไว้ด้วย”
เธอคงไม่ได้ตั้งใจจริงๆเห็นสีหน้าของเธอฉันรู้เลยนะว่าเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะผลักฉันจริงๆ เธอรีบวิ่งออกจากห้องนี้ไป ฉันว่าถ้าเธอเปลี่ยนนิสัยของเธอให้มันดีกว่านี้ฉันว่าเธอคงจะเป็นคนที่เพียบพร้อมเเน่ๆ ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี้จะทำให้ฉันจุกถึงขนาดนี้ด้วยพลังผลักเบาๆเขาพยุงฉันมานั่งตรงเตียงก่อนที่จะมองไปรอบๆฉันเพื่อดูว่าฉันมีแผลอะไรบ้างหรือป่าว
“เธอเป็นอะไรมากไหมเจ็บตรงไหนบ้างหรือป่าว ถ้าไม่ไหวบอกฉันนะฉันจะรักษาเธอให้”
ร่างกายของฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยมีเเต่จุกที่ชนกับกำเเพงเท่านั้น เเต่เขาน่ะสิหัวของเขาเลือดออกอมาเต็มไปหมดเลยนะเขาจะรู้สึกตัวหรือเปล่า
“ฉันว่านายควรจะดูตัวเองเสียมากกว่านะดูสิหัวของนายเลือดไหลออกหมดเเล้ว เดี๋ยวฉันจะทำเเผลให้นายดีกว่าฉันน่ะไม่เป็นอะไรมากหรอก เอาหัวมานี่ฉันจะทำให้”
ฉันเดินไปที่ตู้ก่อนจะหยิบกระเป๋าพยาบาลมาเเล้วก็เริ่มทำความสะอาดเเผลให้กับเลย์ในทันที เเผลของเลย์มันไม่ค่อยหนักมากเเต่เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลย
“เธอนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะเบอร์รินฉันไม่คิดเลยนะว่าฉันจะชอบคนอย่างเธอได้ ทั้งๆที่เธอก็เป็นมนุษย์แล้วฉันก็ไม่ชอบมนุษย์ด้วยซ้ำแต่เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ฉัน..รักเธอถึงเพียงนี้”
เขากำลังบอกรักฉันหรอ. . เขามองมาที่ฉันก่อนจะเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆกับฉันแล้วก็ใกล้เข้ามาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ครั้งนี้ฉันไม่ยอมนายหรอกนะฉันหยิบสำลีขึ้นมาจุ่มกับแอลกอฮอล์ก่อนจะจิ้มไปที่หัวของเขา
“โอ๊ย เจ็บชะมัดเลย ทำเบาๆหน่อยไม่ได้หรือไงเนี่ยมือหนักเหลือเกินทำแบบนี้ก็ตายกันพอดีสิ”
เขาโวยใส่ฉันก็ใครสั่งให้เอาหน้ามาใกล้ฉันขนาดนั้นเล่า ฉันแลบลิ้นใส่เขาก่อนที่จะทำแผลให้เขาต่อเมื่อทำแผลเสร็จฉันก็เก็บของให้เข้าที่ให้หมด
“มันอาจจะไม่เหมือนกับที่เมืองปีศาจนะยาพวกนี้แต่ฉันว่ามันช่วยได้แน่นอนเชื่อมือฉันเถอะ ฉันไม่รู้นะว่าสำหรับนายใช้วิธีไหนในการรักษาแต่สำหรับฉันใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาดและรักษาแผลในระยะยาว ถ้ามันยังไม่หายก็ให้มาหาฉันที่นี่ทุกวันหรือทุกเช้ากลางวันและเย็น ฉันจะได้ทำแผลให้นายได้เข้าใจไหม เเต่ว่าฉันอาจจะไม่ค่อยเก่งเท้าไหร่เพราะเรียนจากคุณเเม่มาน้อย”
พอดีว่าเเม่ของฉันเคยเป็นนางพยาบาลมาก่อน ก่อนที่จะเเต่งงานกับพ่อนั่นเเหละนะก็เลยมีสกิวติดมาจากคุณเเม่ด้วย ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่าเขาใช้วิธีไหนของเขาในการรักษาตัวเองหรือพวกปีศาจใช้วิธีไหนของพวกเขาในการรักษาตัวเอง แต่สำหรับมนุษย์อย่างพวกเราใช้วิธีนี้ในการรักษาอะนะ เมื่อรักษาเขาเสร็จมันก็เริ่มเช้าเเล้วซึ่งพวกเราจะต้องนอนพักผ่อนกัน
“ฉันก็มาทุกวันอยู่แล้วนะสำหรับเธอฉันมาได้เสมอแหละ แต่ก่อนไปวันพรุ่งนี้ฉันมีอะไรที่สำคัญจะมาบอกเธอฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจฉันนะ”
อะไรของเขาพอพูดจบก็เดินหนีฉันไปเลยมีอะไรจะบอกฉันกันแน่ทำไมไม่บอกกันวันนี้เลย เนี่ยทำให้อยากแล้วจากไปตลอดเลยนะเลย์เเต่ช่างเถอะฉันต้องนอนเเล้วเหนื่อยมากเลยวันนี้ เช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นด้วยอารมณ์ที่ค้างจากเมื่อวานเพราะคิดมากกับเรื่องที่เลย์พูดกับฉันตอนทำเเผล มันทำให้ฉันนอนไม่ค่อยหลับแล้วก็พลิกตัวไปมาอยู่ตลอดเลยฉันอาบน้ำอาบท่าเพื่อเตรียมตัวกินข้าวเช้า แต่ไปสดุดกับแสงแวววับที่อยู่ตรงทางเดินไปที่ไหนสักแห่งซึ่งเป็นทางที่ฉันไม่เคยเข้าไปเพราะกลัวหลงทาง แต่แสงแวววาวนี่มันสะดุดตาของฉันจริงๆฉันคิดว่าฉันควรเดินตามมันไปดูหน่อยว่าคืออะไรกันแน่เพราะตอนที่มาก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีแสงระยิบระยับแบบนี้อยู่มาก่อน ฉันเดินตามทางไปแสงแวววับก็อยู่ตามพื้นทางเดินไป แล้วพื้นก็ได้หยุดลงที่ประตูหนึ่งเป็นประตูไม้ธรรมดามันมีรูอยู่ข้างล่างเป็นช่องเล็กๆแสงระยิบระยับนั่นได้ส่องออกมาจากห้องนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไป นี่มัน..เพรชทั้งนั้นเลยนี่เพรชที่เยอะมากเยอะไปทั่วห้องเลย ฉันมองไปรอบๆก็มีแต่เพรชมันสวยมากเลย
“เธอชอบมันไหม” เสียงมากจากข้างหลังของฉันฉันมองไปที่ข้างหลังตามเสียงที่ได้ยินมา ฉันก็ได้พบกับเลย์ที่กำลังมองฉันอยู่นี่เป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นมาหรอ
“ฉันทำมันตั้งนานนะทำคนเดียวเลยด้วยไม่ให้ใครรู้เพราะอยากจะให้เธอรู้เพียงคนเดียว เธอชอบมันหรือเปล่า???”
เขาทำเพื่อฉันหรอ . . .มันสวยมากเลยนะ
“ฉันชอบมันมากเลย. . .นายทำมันขึ้นมาเองหรอ ?? เเล้วทำไมถึงทำขึ้นมาล่ะ ??”
เขาทำได้อย่างไรกัน ??หรือว่าตั้งเเต่เช้าเขาทำคนเดียวเองเลยหรอ เลย์ทำมันมาให้ฉันเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ว่าเพรชพวกนี้มันมูลค่าเยอะมากเลยนะในโลกของมนุษย์ เขาเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะจับมือฉันแล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาอันแสนจะอบอุ่นฉันรู้สึกมันได้เลย
“ฉันชอบเธอมากนะเบอร์รินแล้วฉันก็อยากจะให้เธอได้รู้ด้วยว่าฉันไม่เคยรักใครขนาดนี้มาก่อนนอกจากเธอ ฉันอยากจะบอกกับเธอสักอย่างหนึ่งให้เธอได้รู้ว่า ฉัน..”
อยู่ๆก็มีคนเปิดประตูเข้ามา มาคาโอเปิดประตูเข้ามาสีหน้าของเขาดูจริงจังมาฉันคิดว่ามันน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเเน่ๆเลย
“นายท่านครับเกิดเรื่องแล้วครับนายท่านต้องไปที่ห้องประชุมใหญ่ด้วยเลยครับ”
มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอเขามองมาที่ฉันก่อนที่เราจะพากันไปที่ห้องประชุมใหญ่ ด้วยความที่ฉันเป็นเลขาของเขาฉันเลยสามารถเข้าห้องประชุมนั้นได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นห้ะทำไมถึงทำหน้าตาเดือดร้อนอะไรขนาดนั้นเล่ามาให้ฉันฟังเสียมาคาโอ”
พวกเราตั้งใจฟังมาคาโอเป็นอย่างมากรูปภาพผุดขึ้นมาจากมนตร์ของมาคาโอ
“ตั้งแต่ที่เราตีเมืองกงจิ้นมาทุกอย่างมันก็ไปได้สวยตามแผนของเรา แต่ผมรู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากเดิมเพราะคนของเราเริ่มโดนทางเมืองกงจิ้นเอาคืนแล้วรู้สึกว่าอาจจะไม่พอที่จะไปโจมตีด้วย แต่ว่าผมก็หนักใจอยู่เหมือนกันคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมไอ้พวกนั้นถึงรู้แผนของเราได้เสมอ ผมคิดว่ามันน่าจะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ที่นี่ของเราแต่ผมแค่ไม่รู้ว่ามันเป็นใคร หน้าจะเป็นที่ประชุมคณะโต๊ะกลมนะครับผมไม่กล้าที่
จะไปอะไรมากกับสิบนักรบสงครามหรอก เพราะเหมือนยิ่งบอกแผนให้กับพวกเขาได้รู้พวกนั้นก็ได้รู้แผนของเราเหมือนกัน ยังไงผมก็จะพยายามสืบดูนะครับว่ามีใครที่จะรู้เรื่องนี้อีกนอกจากพวกเรากับสิบนักรบ”
มีพวกที่เป็นหนอนบ่อนไส้ในที่นั้นด้วยอย่างนั้นใครกันนะที่รู้แผนการของพวกเราถ้าไม่ได้บอกใครก็อาจจะเป็นพวกนั้นจริงๆนั่นแหละ ฉันพยายามจดทุกสิ่งทุกอย่างที่มามาคาโอพูดให้กับพวกเราได้ฟัง ก่อนที่ฉันจะมองไปเห็นว่าเลย์กำลังคิดหนักกับเรื่องนี้ แต่ฉันก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าเขาจะบอกอะไรกับฉันตอนอยู่ในห้องๆนั้น
“โอเคขอบใจมากมาคาโอ ไปได้เเล้วล่ะที่เหลือฉันจัดการเอง”
เมื่อประชุมเสร็จพวกเราก็ได้ออกมาจากห้องประชุมของเรา ฉันซึ่งปวดหลังมากเพราะเก้าอี้ที่นี่แข็งเป็นบ้าเลยฉันเลยมาเดินออกมาสูดอากาศข้างนอกปราสาทบ้าง กำลังเดินๆอย่เหมือนกับว่าฉันไปชนอะไรกับใครสักคนฉันเลยหันหน้าขึ้นไปดูก็พบกับเลย์
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้กันล่ะ ทำไมไม่เข้าไปข้างในหืม” วันนี้เขามาเเปลกๆนะฉันรู้สึกได้เลยอะ
“ฉันมาสูดอากาศหน่อยน่ะพอดีว่าฉันปวดหลังตอนที่นั่งเก้าอี้ข้างในห้องประชุม ฉันก็เลยมาเดินเล่นข้างนอกปราสาทหน่อยน่ะ”
ฉันกับเขาเดินคู่กันไปตามทางเรื่อยๆที่นี่มันก็สวยดีนะตอนกลางคืน เเต่ฉันก็ไม่เคยเห็นเลยนะเดี๋ยวนี้น่ะว่าตอนเช้ามันเป็นอย่างไรบ้างมันจะสวยเท่าตอนกลางคืนหรือเปล่า
“ตอนที่อยู่ในห้องเพรชนั่นฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญเธอเลยนะ ฉันลืมไปเสียสนิทเลยเเฮะ”
เขาจับมือของฉันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งมองมาที่หน้าของฉันเเล้วยิ้มให้ เขาจะพูดอะไรกับฉันกันนะ???
“คือว่าที่ฉันจะบอกเธอก็คือว่า ฉันอะ..อยากจะขอเธอมาเป็นแฟนของฉันได้ไหม ที่มนุษย์เขาขอกันแบบนี้หรือ
เปล่า ฉันอยากจะให้เธอมาเป็นคู่ชีวิตของฉันจริงๆนะฉันไม่เคยรักใครเท่านี้มาก่อนจริงๆ ถ้าฉันได้รักฉันจะไม่ทิ้งเธอเลยเบอร์ริน ส่วนนี่เป็นของขวัญถ้าเธอตอบตกลงฉันเอาอันนี้ไปเลยฉันให้เธอด้วยใจของฉัน”
เขายื่นของขวัญมาให้กับฉันฉันตกใจกับสิ่งที่เขาพูดเขาพูดกับฉันจริงๆหรือแค่เล่นๆเท่านั้นเอง นี่เขาพูดจริงๆหรอฉันทำไมรู้สึกใจเต้นแรงเหลือเกินฉันเขินมากจนไม่กล้ามองเขาเลยนะ ฉันไม่รู้จะทำยังดีลนไปหมดแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็หยิบของขวัญมาจากมือของเขาก่อนก็แล้วกันฉันหยิบมาแต่เขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากกล่องของขวัญฉันจึงดึงมาแต่แรงของเขาก็เยอะกว่า ฉันดึงสุดแรงแต่เขาก็ไม่ปล่อยแถมดึงกลับอีกทำให้ฉันล้มลงไปหาเขาเขารับฉันเอาไว้เราสองคนกอดกันอย่างไม่ทันตั้งตัวสำหรับฉันนะ แต่สำหรับเขาฉันคิดว่าเขาตั้งใจมากกว่า
“ถ้าอยากจะรู้ว่าในกล่องนั้นมันคืออะไร เธอก็ต้องยอมรับข้อตกลงของฉันก่อนเธอตอบตกลงสักทีสิ”
ยังมีข้อตกลงมาให้กับฉันอีกอย่างนั้นหรอ นายนี่มันเจ้าเล่ร์เหลือเกินนะอะไรๆก็ต้องเป็นข้อตกลงของเขาตลอดเลย
“ทำไมฉันต้องตกลงกับนายด้วยล่ะ นายก็มีคนของนายอยู่นี่แล้วนายจะมาอะไรกับฉันล่ะเมสเซอร์รี่โกรธนายตายแน่ถ้าเห็นว่านายมาขอฉันเป็นแฟนแบบนี้น่ะ”
พอพูดถึงเมสเซอรรี่เขาก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์กับฉันทันทีทันใด ก็เขายังมีศักดิ์เป็นว่าที่สามีของเมสเซอร์รี่และเมสก็ยังมีศักดิ์เป็นว่าที่ภรรยาของเลเรอร์ ซึ่งฉันก็ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปเป็นแฟนของเลอยู่แล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ
“อย่าพูดแบบนั้นเลยฉันไม่ได้คิดจะยอมรับเมสเป็นว่าที่ภรรยาของฉันเลยสักนิด ฉันโดนบังคับด้วยซ้ำพ่อของฉันคงเห็นถ้าฉันคบหรือว่าเราสองคนแต่งงานกันแล้วสงครามจะได้หยุดลง แต่สำหรับฉันถ้าฉันไม่คิดที่จะรักแล้วหรือฉันไม่ชอบแล้วคือฉันจะไม่ไปยุ่ง เพราะเธอคนนั้นเคยทิ้งฉันมาก่อน แล้วฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาอีกแล้วนอกจากเธอ เพราะเธอคือคนที่ทำให้ฉันฟื้นขึ้นมาจากที่ฉันไม่เคยคิดอยากจะมีใจให้กับใคร กลายเป็นว่าฉันคิดอยากจะมีใจให้กับเธอ และมันไม่ใชเพียงแค่ความคิดแล้ว แต่มันกลายเป็นความจริงที่ฉันได้พูดกับเธอในวันนี้ ฉันไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไงหรือมันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันได้เลือกคู่ของฉันแล้วนั่นก็คือเธอ ฉันอยากให้เธอได้รู้ว่า ฉัน นั้น รัก เธอ มาก เธอล่ะคิดจะเลือกฉันบ้างไหม”
ที่เขาพูดออกมาถ้ามันเป็นความจริงในใจฉันมันดีใจมากอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้มีสงครามกันระหว่างสองโลกสองมิติแบบนี้ ฉันไม่สามารถจะให้มันเป็นไปตามความคิดของฉันได้
“ฉันไม่สามารถที่จะคบกับนายได้ถึงแม้ว่าฉันจะรักนายเท่าไหร่หรือนายจะรักฉันเท่าไหร่ก็ตาม นายคงไม่
อยากให้สงครามมันเกิดขึ้นมาใช่ไหม แล้วนายก็คงไม่อยากให้พ่อของนายผิดหวังด้วยเช่นกัน นายควรรักษาโลกทั้งสองทั้งสวรรค์และนรกไว้นะแทนที่จะเสียเพราะคำว่ารักของนายและฉัน ฉันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะถ้าฉันตอบตกลงไป ฉันรู้ว่ามันจะต้องเกิดอะไรขึ้นแล้วทุกอย่างจะพังทลายไปในพริบตาแน่นอน นายควรทำดีกับว่าที่ภรรยาของนายให้ดีนะ เพราะยังไงฉันก็ไม่สามารถสู้คนๆนั้นได้อยู่ดี ฉันเป็นมนุษย์นะส่วนนายก็เป็นปีศาจ เราสองคนคงรักกันไม่ได้หรอกนะ นายเลิกคิดเรื่องนี้เถอะ เพราะยังไงนายก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของฉันได้ และนายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบังคับฉันให้รักนายหรือยอมเป็นแฟนนายได้เลยแม้แต่นิดเดียว ขอโทษด้วยนะเล”
จากนั้นฉันก็เอาของขวัญที่ฉันได้เอามาให้ใส่ไว้ที่มือของเขาเฉกเช่นเดิม แล้วปล่อยตัวของเขาออกไปจากฉัน ก่อนที่ฉันจะเดินหนีจากที่นั่น ฉันเห็นโซฟียืนมองอยู่ตรงข้างหน้าประตู เธอคงจะไม่ชอบฉันสินะแต่ว่าฉันก็ไม่
ได้สนใจอะไรฉันเดินเข้าไปในห้องของฉัน แล้วก็ไม่คิดถึงเรื่องนั้นจะพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีกเลย