ตอนที่ 12 ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เล่นๆ
เหอะเกาะแขนกันอย่างกับเป็นสามีภรรยากันเลยนะ ก็แค่ว่าที่ภรรยาไม่เห็นจะต้องทำขนาดนั้นเลยนี่ เเต่ว่าฉันจะไปคิดทำไมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเลย์อยู่เเล้วฉันไม่สนใจหรอกไอ้เรื่องแบบนี้ ก็ปล่อยให้เขาอยู่กันสองคนก็แล้วกันฉันไปทำงานของฉันจะดีกว่า จากนั้นฉันก็เดินออกมาจากที่นั่นแล้วก็ไม่ได้หันกลับไปมองเขาอีกเลย เมื่อฉันมาถึงโต๊ะทำงานอันเก่าที่แสนจะน่ารักของฉันเอกสารทั้งหมดที่ฉันไม่ได้ทำเมื่อวันก่อนก็กองมารวมที่นี่เต็มไปหมด ฉันก็เลยจะรับทeหน้าที่นี้ไปก่อนฉันเริ่มเซนร์แล้วดูเอกสารต่างๆก่อนจะแยกเป็นส่วนๆทั้งเอกสารไม่สำคัญแล้วก็สำคัญของเลย์ ตอนที่ฉันกำลังทำเอกสารอยู่นั้นจู่ๆเลย์ก็เข้ามาในห้องทำงานของฉัน
“ทำไมมาที่นี่ไม่คิดจะบอกฉันเลยล่ะเบอร์ริน กลับมาทำงานที่นี่อีกแล้วหรอ เธอไม่จำเป็นจะต้องทำงานนี้อีกแล้วนะเพราะเธอมีงานใหม่ของเธอเเล้วหนิ”
มันไม่มีอะไรทำนี่ก็ดูงานที่เอามาให้วันนี้สิ มันเป็นงานเกี่ยวกับอะไรฉันยังไม่รู้เลยแล้วคิดดูนะว่าไปก็ไปเจอกับอะไรก็ไม่รู้ เเถมวสถานะตำแหน่งของฉันยังเป็นเลขาอยู่ฉันก็สามารถที่จะทำงานนี้ได้ แต่พูดถึงฉันไม่อยากจะเถียงหรือพูดคุยอะไรกับเขาสักเท่าไหร่ เพราะฉันคิดว่าถึงพูดอะไรไปเขาไปก็ไม่ได้มาสนใจอะไรฉันอยู่แล้ว
“ที่รักมาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะคะ คุณไม่ไปรับประทานอาหารกับฉันที่ห้องอาหารพิเศษของเราบ้างหรอ หรือว่าคุณไม่รักฉันเเล้ว??”
จะไปจู๋จี๋กันก็ไปที่อื่นได้ไหมฉันจะทำงานของฉันมันน่ารำคาญเสียงดังมาก อยู่ๆเธอก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของฉันก่อนจะมาคุยกันอะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อเหลือเกิน
“พูดถึงก็ยังไม่ได้ทานอาหารกันเลยนี่นางั้นเบอร์รินไปด้วยกันสิฉันอยากจะให้เธอไปด้วยหน่อย จะได้คุยเรื่องงานแล้วก็เธอยังไม่ได้กินข้าวด้วยหนิ”
ฉันเงียบแล้วเซนร์ต่อแต่เขาก็จับแขนฉันให้ลุกขึ้นมา ก่อนที่จะอุ้มฉันไปเลยฉันพยายามที่จะสลัดฉันให้หลุดจากอ้อมแขนของเขา แต่ว่าเขาก็แข็งแรงเกินไปจนฉันสลัดเขาไม่ออกจริงๆ พอมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเธอดูเหมือนจะไม่ชอบใจเอามากๆที่เลย์ทำเเบบนี้กับฉัน สีหน้าของเธอเหมือนว่าอยากจะตบฉันมากๆเลยตอนนี้ เธอเดินตามพวกเรามาก่อนจะไปถึงห้องรับประทานอาหารพิเศษ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนนะว่าห้องทานอาหารของเลย์มันจะดีขนาดไหน เพราะฉันทานอาหารก็ทานอยู่แต่ในห้องของฉัน ไม่ได้ออกไปทางข้างนอกเหมือนตอนเป็นแม่บ้านเลย เมื่อประตูได้เปิดออกมันกว้างมาก โต๊ะที่ยาวเฟื้อยอย่างกับว่าให้นั่งได้เป็นสี่สิบห้าสิบคน แสงไฟจากกเทียนระยิบระยับไปมามันสวยงามสุดๆไปเลย เลย์วางฉันเอาไว้ตรงเก้าอี้เเล้วเขาก็เข้ามานั่งข้างๆกับฉัน ส่วนเมสเซอร์รี่ก็นั่งตรงข้ามกับเลย์ อาหารเริ่มมาเสิร์ฟให้กับพวกเราก่อนที่ฉันจะลองมองไปที่แม่บ้านคนอื่นๆ เเต่ละคนต่างพากันซุบซิบคุยกันเกี่ยวกับเรื่องยางอย่าง เเต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรก็นั่งทานอาหารต่อไป
“อ้ามสิฉันจะตักกุ้งให้คุณกินนะ คุณชอบกุ้งไม่ใช่หรอเลย์ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นตอนที่เราได้กินกุ้งนี้ด้วยกัน คุณกับฉันก็กินด้วยกันทาง..”
//ปั้ง// ฉันทุบโต๊ะอย่างดังโดยไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างได้เงียบลงแล้วทุกคนก็มองมาที่ฉัน ฉันทำอะไรของฉันเนี่ยฉันไม่ได้ตั้งใจเลยนะฉันทำไปเพราะอะไรก็ไม่รู้
“เอ่อคือว่าแมลงวันมันมาตอมอาหารของฉันน่ะ ฉันขอโทษจริงๆนะคะที่เสียงดัง”
ฉันรู้สึกแปลกๆเมื่อได้เห็นอะไรแบบนั้นต่อหน้าต่อตาของฉัน ทั้งๆที่ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันนั่งที่ของตัวเองเเล้วทานอารหารต่อไป เลย์ได้เอื้อมไปที่ผัดหมึกก่อนจะตักมาวางไว้ที่จานของฉัน
“เธอกินหมึกบ้างสิของที่เธอชอบไม่ใช่หรอ ฉันจำได้ว่าวันนั้นที่เข้าไปในห้องเธอทุกๆวันฉันก็เห็นเเต่เธอกินปลาหมึกอย่างเดียว ฉันเลยคิดว่าเธอน่าจะชอบมันนะ”
เขาเเอบมองฉันมาตลอดเลยหรอรู้เเม้กระทั่งฉันชอบอะไร
"พอแล้วค่ะเลย์ฉันว่ารีบกินรีบอิ่มแล้วไปเดินเล่นกันดีกว่านะคะ อยู่ที่นี่เสียเวลาแถมไม่เป็นส่วนตัวอีกต่างหากค่ะ”
ก็อยากจะให้อยู่ด้วยกันแค่สองคนหรอกนะ แต่ว่าขอโทษนะจ้ะถ้าเกิดเลย์ไม่อุ้มฉันมาที่นี่ ฉันก็คงจะไม่มาเป็นก้างขวางคอของพวกเธอหรอกนะรู้ไว้ด้วย
“ฉันยังไม่อิ่มเลยขอพวกเรากินเสร็จก่อนพวกเราค่อยไปกันก็แล้วกันนะ แต่จริงๆฉันบอกพ่อของฉันว่าไม่ให้เธอมาเหยียบที่ปราสาทนี้เป็นครั้งที่สองนี่ ทำไมเธอถึงยังคิดที่จะมาอีกล่ะ”
คำพูดของเลย์ทำให้เมสเซอร์รี่เงียบไปนานมากก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ฉันกับเลย์เลยอยู่ด้วยกันเพียงสองคนในห้องรับประทานอาหารในตอนนี้
“กินๆเดี๋ยวกินเสร็จพวกเราจะออกไปเดินเล่นกัน แล้วก็ไปตามหาเมสเซอร์รี่มาด้วยเดี๋ยวเธอจะไปพังของทิ้งอีก ฉันไม่อยากจะให้แม่บ้านของฉันต้องมาเก็บซากที่เมสเซอร์รี่ทำเอาไว้”
เธอเป็นคนยังไงกันนะขนาดเลย์ที่ใจเย็นอยู่ตลอดเวลายังไม่สามารถที่จะทนเธอคนนี้ได้เลย ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นดูดีแต่ต่อหน้าพวกฉันล่ะอีกอย่างหนึ่ง เป็นนางฟ้าในคาบซาตานจริงๆ ถ้าฉันเป็นเลย์ฉันคงทนเธอเเบบนี้ไม่ได้หรอกนะเมสเซอร์รี่ เวลาผ่านไปสักพักเมื่อพวกเราสองคนทานข้าวกันจนอิ่มแล้ว พวกฉันก็ออกจากห้องรับประทานอาหาร ก่อนที่เลย์จะสั่งให้พวกเเม่บ้านทั้งหลายพากันตามหาเมสเซอร์รี่ เธอหายตัวไปไหนของเธอกันจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้จะทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนน่ะ
“คุณเมสเซอร์รี่ให้มาบอกว่าเธอเดินเล่นอยู่ที่สวนหิงห้อยพันปีค่ะ”
สวนหิงห้องพันปี ?? นี่เมสเซอร์รี่ไปทำอะไรที่นั่นน่ะ เลย์และฉันพากันเดินไปที่สวนหิงห้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปในสวน จนกระทั่งไปเจอกับเมสเซอร์รี่ที่กำลังมองดูสวนพร้อมกับน้ำตาของเธอ
“เธอรออยู่ที่นี่ก่อนนะเบอร์รินฉันจะไปดูเมสเซอร์รี่หน่อย”
เลย์บอกฉันก่อนจะเดินเข้าไปหาเมสเซอรร์รี่เเล้วคุยอะไรบางอย่างกันค่อยข้างนานมาก เมื่อเห็นเช่นนั้นฉันจึงนั่งรออยู่ตรงหินที่เป็นแท่นวางอยู่ข้างๆกับสวน ซึ่งมีหลายแท่นเลยแหละแต่ตรงนี้เป็นจุดที่สามารถเห็นสองคนนั้นคุยกันได้อย่างชัดเจนมากกว่าจุดหินแท่นอื่น ฉันมองดูพวกเขาคุยกันได้สักพักก่อนที่มันจะเลยเถิดเป็นเริ่มกอดกันเเล้วเปลี่ยนเป็นจูบกันไปเสียอย่างนั้น มันทำให้ฉันเจ็บหัวใจขึ้นมาทันทีมันปวดใจเหลือเกิน เมื่อพวกเขาทั้งสองคนจูบกันเสร็จก็กลับมากอดกันอีกครั้ง ซึ่งเมสเซอร์รี่จะหันมาทางฉัน มันเป็นจังหวะเเรกที่เห็นว่าเธอกำลังทำหน้ายิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่ ฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปจากที่นั่นแล้วก็เดินไปที่ห้องของฉันก่อนจะล๊อกประตูแล้วก็ใช้ปากกาวิเศษวาดกำแพงตรงทางเข้ามาในห้องนี้ทำให้ห้องนี้ไม่มีประตูไม่มีหน้าต่าง มีแต่ฉันและเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ที่อยู่ด้วยกัน ฉันนอนลงบนเตียงแล้วคิดไปต่างๆนาๆว่าเลย์คงตัดใจจากเมสเซอร์รี่ไม่ได้หรอก ฉันรู้ว่าใจฉันรู้สึกอย่างไรกับเลย์นะแต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะบอกอะไรกับเขาได้เลยเพราะคำว่าไม่กล้าเท่านั้น ตอนนี้ฉันว่าฉันไม่อยากจะคิดอะไรและไม่อยากจะเจอกับใครทั้งนั้น อยู่ห้องนี้คนเดียวเงียบๆก็จะดีกว่าแล้วล่ะออกไปข้างนอกก็ต้องไปเจอกับเมสเซอร์รี่ที่กำลังมีความสุขอยู่กับเลย์ ซึ่งฉันก็ไม่อยากจะไปเป็นก้างขวางคอของพวกเขาหรอกนะ ตอนที่ฉันกำลังจะหลับเพลินกับการนอนอยู่แล้วเสียงๆหนึ่งได้ดังขึ้นจากนอกกำแพง
//ตึง ตึง ตึง// “เบอร์รินประตูมันหายไปไหน แล้วทำไมถึงวาดกำแพงขึ้นมาแทนล่ะ เธอกำลังเล่นอะไรของเธอกัน ?? ฉันเกือบจะหลงทางเพราะไม่มีประตูตรงนี้เเล้วนะ ดีนะที่มีโคมไฟติดกำแพงอยู่ตรงนี้เลยรู้ว่านี่เป็นห้องของเธอ เธอเป็นอะไรของเธอทำไมถึงไม่รอฉันอยู่ที่เดิมล่ะ”
ยังมีหน้ามาถามฉันอีกว่าฉันเป็นอะไร นี่เขาไม่คิดจะรู้อะไรหน่อยหรอว่าฉันรู้สึกยังไงบ้าง ตอนที่ฉันเห็นเขาสองคนจูบกันทั้งๆที่บอกให้ฉันรอดูพวกเขา
“อยากได้ประตูก็ร่ายขึ้นมาเองสินายก็ทำมันได้ไม่ใช่หรอ นายอย่ามายุ่งกับฉันได้ไหมถ้าเรื่องงานแล้วก็ฉันจะไปทำของฉันเอง แต่นี่มันห้องของฉันนายอย่ามายุ่งกับฉันให้ฉันได้อยู่คนเดียวบ้างเถอะ”
ฉันนอนต่อไปไม่ฟังอะไรที่เขาพูดมาให้อีกเเต่เเล้วเสียงๆหนึ่งได้ดังขึ้นมาทำให้ฉันต้องลุกขึ้นมาดู //ปั้งง//
“อีกเเล้วหรอนายจะมาทำเเบบนี้ทุกๆครั้งไม่ได้นะ ฉันเป็นคนเก็บกวาดไม่ใช่นาย”
สีหน้าของเขาดูเหมือนจะโกรธฉันมากเลย เเล้วเขาก็เดินมาหาฉันอย่างไวทำให้ฉันต้องถอยจนไปติดกับกำเเพง
“เธอเป็นอะไรเธอก็บอกฉันมาสิเป็นเเบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้นะ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรเลยทำไมถึงไม่บอกกันตรงๆ เธออย่าหลบตาของฉันมองมาที่ฉันเเล้วบอกว่าเธอเป็นอะไร”
ฉันจะไม่มองฉันจะไม่สนแล้วจะไม่คุยด้วยเพราะฉันไม่อยากจะคุยกับเขาแล้วก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรกับเขาอีก แต่ถึงจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ เขาก็ยังจะเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆจนฉันรู้สึกได้ฉันพยายามจะเอาหน้าหนีหลบเขาไป แต่ว่าเขากลับดึงหน้าของฉันเข้าไปหาเขา
“ถ้าเธอไม่บอกฉันจะจูบเธอเดี๋ยวนี้เลยเอาไหมห้ะ” ไม่สนหรอกโว๊ยฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันไม่พูดอะไรแล้วก็จะเดินหนี แต่เขาก็จับแขนของฉันทำให้ฉันทรงตัวไม่อยู่แล้วจะล้ม เขาดึงฉันเข้าไปก่อนที่ปากของฉันกับเขาจะประกบกับปากของฉัรแล้วทุกอย่างก็เงียบ ฉันเงียบและอึ้งมากกับสิ่งที่เห็นต่อหน้าของฉัน ตัวฉันอ่อนไปหมดฉันพยายามดิ้นออกจากเขาแต่เขาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยฉันออกไปจากมือของเขาฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัวก่อนที่ฉันจะหมดแรงดิ้น แล้วฉันก็..ปล่อยไปตามอารมณ์ฉันรักเขาเข้าแล้วสินะ