Chapter 38 The Secluded Village (Part 1)
Chapter 38 The Secluded Village (Part 1)
พี่น้องของเจสันได้ค้นพบร่องรอนการตั้งแคมป์ของมนุษย์ที่หนองน้ำ.
มันเป็นสถานที่ที่พวกเขาได้อยู่ตรงนี้ชั่วระยะเวลานึงและกลิ่นของพวกเขาที่ทิ้งเอาไว้ค่อนข้างแข็งแกร่ง
“มีสี่คน.”
“ฉันคิดว่าหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง.”
“จากที่ได้กลิ่นที่ยังเข้มข้นแบบนี้แสดงว่าพวกเขาตั้งแคมป์กันที่นี่เมื่อคืน.”
พี่น้องได้จดจำกลิ่นของศัตรูไว้ในใจ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ากลิ่นพวกเขาเป็นอย่างไรและยังเพิ่มการไล่ล่าได้ดีขึ้นกว่าครึ่ง.
เจสันมองไปรอบๆและเห็นทิศทางของรอยเท้า.
“พวกเขากำลังเคลื่อนไปทางทิศตะวันตก”
“งั้นพวกเขากำลังเดินเข้าไปยังทิศทางที่ตระกูลเราอยู่?”
“พวกห่านั่นกำลังทำอะไร?”
“เอาจริงๆแล้วพวกเขามาจากที่ไหน?”
เหล่าพี่น้องเอียงหัว
ตระกูลเงินได้ปกป้องอาณาเขตของตน แม้กระทั้งหนูก็ไม่สามารถเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่รู้.
ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ยังขาดความรู้สึกด้านการรับกลิ่นและสัมผัส เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยงการเฝ้าระวังของคนในตระกูลเงิน.
แต่ในใจกลางของป่า ได้ปรากฎมนุษย์ออกโดยไม่รู้ว่ามาจากที่ใด.
มนุษย์เหล่านี้มาจากที่ไหน?
“แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในดินแดนของเราและพวกเขาก็เข้าป่าด้วยการผ่านมาจากดินแดนของโทรลล์?”
เจสันเล่าว่าพวกโทรลล์อยู่ที่ทิศเหนือของป่าและคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้.
โทรลล์แข็งแกร่งและโหดร้าย แม้แต่ตระกูลเงินที่ผลักดันลิงแดงและพื้นที่รอบๆส่วนของป่าในส่วนตะวันตกของป่าต้องหลีกการขัดแย้งกับพวกโทรลล์.
“หากพวกเขาผ่านมาจากดินแดนของโทรลล์แน่นอนว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา.”
“ฉันคิดว่าเราต้องระวังเรื่องพวกนี้.”
“ช่าย ไม่งั้นพี่น้องของเฮลกิจะไม่ตาย.”
เมื่อ พี่น้องของเจสันเริ่มพูดถึงเฮลกิเขาก็เริ่มรู้สึกรำคาญ.
“ไปเถอะ.”
“…?”
“ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นมนุษย์ เมื่อถึงเวลากลางคืนมนุษย์ก็ไม่ต่างจากคนคาบอด.”
“ใช่”
“นั่นก็จริง.”
พี่น้องเจสันเริ่มตามร่องรอย
พวกเขาเดิมตามรอยเท้า แต่สิ่งที่เหลือไว้กับมีเพียงกลิ่นอยู่ในจุดที่เขาเพิ่งผ่านมา.
ใช้จากกลิ่นที่เหลือมากน้อยแค่ไหนในการกะระยะที่พวกเขาอยู่ ดัวยวิธีนี้พวกเขาก็สามารถบ่งชี้กลุ่มที่พวกเขาตามล่าอย่างรวดเร็ว.
พี่น้องของเจสันเริ่มไล่ล่ากลุ่มมนุษย์ด้วยความเร็วที่ค่อยๆช้าลงในการจับพวกมนุษย์
ไม่จำเป็นต้องรีบมาก.
ในขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้น มันจะดีกว่าที่ไปอย่างช้าๆ เนื่องจากมนุษย์มีอาวุธระยะไกลที่แปลกประหลาด
พวกเขาสามารถไล่จับพวกมนุษย์ได้เมื่อตอนที่พวกเขาหลับ เจสันวางแผนที่จะจัดการมนุษย์ทั้งหมดในเวลานั้น.
พี่น้องเจสันติดตามมนุษย์ด้วยท่าทีสบายๆ.
ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นดินแดนของตระกูลเงิน.
มันเป็นการไล่ล่าในสนามหญ้าหน้าบ้านของพวกเขาดังนั้นพี่น้องของเจสันก็ยังสามารถหลับตาเพื่อไล่จับพวกเขาได้ พวกเขาสามารถคาดเดาการเดินทางของคนกลุ่มนั้นได้อย่างชัดเจน.
แต่…
“หืมมม?”
พี่น้องคนนึงทำเสียงสับสน.
คนอื่นๆก็เหมือนกัน.
ความสับสนถูกทาบนหน้าของเจสันเหมือนกัน.
‘กลิ่นหมดแล้ว?’
“กลิ่นพวกห่านั่นได้หายไปอย่างกระทันหัน!”
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“มันไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นหายไปเท่านั้น.”
พี่น้องกำลังหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจสันก็รู้สึกหงุดหงิด แต่เขาก็เชื่อใจพี่น้องของเขา.
“มีรอบเท้าชัดเจน ฉันไม่คิดว่าพวกมันมีความลับอะไรหรือเปล่าแต่เราก็ไล่ล่ามาถึงนี่.”
“คิดว่าไม่เป็นไร?”
“มีบางอย่างผิดปกติ.”
พี่น้องดูกังวลใจ
เมื่อมีการล่า ไลแคนจะอาศัยกลิ่นเป็นหลักและการไล่ล่าที่กลิ่นหายไปมันก็เกิดอาการไม่สบายใจ.
เจสันคำราม.
“งั้น? พวกนายต้องการจะกลับ? เราควรกลับไปบอกพ่อเมื่อกลิ่นพวกเขาหายไป?!”
“ไม่ ไม่.”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น.”
พี่น้องที่ถูกเจสันขู่ปฎิเสธ.
ในขณะที่เป็นสถานการณ์ปกติเขายังคงตามกลิ่นอยู่ แต่กลิ่นก็หายไปและถูกบังคับให้ติดตามกลุ่มคนโดยรอบเท้าของพวกเขา.
แต่เมื่อมันผ่านไป 20 นาทีก็มีกลิ่นแปลกๆออกมาจากกลุ่มคน.
“นี่มันกลิ่นของหญ้า.”
“มนุษย์เหล่านี้กำลังเล่นแง่กับเราแบบแปลกๆ”
ตอนนี้กลิ่นที่เข้มข้นของเขาไม่ใช่กลิ่นของกลุ่มคนอีกแล้ว.
ความลับของกลุ่มมนุษย์ที่กำลังวางแผน พี่น้องของเจสันยิ่งงุนงงมากเข้าไปอีก.
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลิ่นของหญ้าเหล่านี้เป็นเพียงส่วนน้อยในกลุ่มคน.
พี่น้องของเจสันไม่มีทางเลือกอื่นในการเดินตามรอยเท้าและกลิ่นหญ้าต่อไป.
พวกเขาเดินตามสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ
ตอนเช้าและแสงอาทิตย์ขึ้นกลางหัว
พี่น้องของเจสันหยุดสักครู่.
มันเป็นเพราะห่างออกไปไม่ไกลมีกลิ่นของหญ้าลอยอยู่บนอากาศ.
นั่นหมายความว่ากลุ่มมนุษย์อยู่ไม่ไกล
“พี่ ควรจะทำอย่างไร?”
“ฉันคิดว่ามนุษย์หยุดพักแล้ว.”
“พวกเขาต้องกินอะไรสักอย่าง.”
“กลิ่นฉุนเหม็นๆนั่นอยู่รอบๆบริเวณนี้.”
เหล่าพี่น้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
จากการที่กลิ่นของหญ้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่แสดงว่ามนุษย์ก็ไม่น่าจะอยู่ไกลจากที่นี่.
มันเป็นลานกว้าง
พวกเขาไม่สามารถเข้าไปใกล้มนุษย์ได้ในตอนเช้า.
“พวกเลวนั่นมีอาวุธแปลกๆที่ฆ่าพี่น้องของเฮลกิได้ เราไม่ควรจะรอจนกว่าจะถึงเวลากลางคืนเมื่อพวกมันนอนหลับ?”
หนึ่งในพี่น้องเสนอแนะ
เจสันก็คิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดี
“ตกลง เราจะพักจนกว่าพวกห่านั่นเคลื่อนที่.”
“ตกลง.”
“ฉันจะไปหาอะไรกินสักหน่อย.”
“ไปด้วยกัน.”
เหล่าพี่น้องที่ติดตามมาตั้งแต่เมื่อเช้ายังไม่ได้หาอะไรกิน จึงแยกย้ายกันไปหาอาหาร.
ไลแคนพี่น้องเหล่านี้เป็นนักล่าที่พัฒนาแล้วพวกเขาสามารถล่ากวางได้มาอย่างรวดเร็ว
เจสันและพี่น้องของเขาสามารถจับกวางได้ในขณะที่มืออีกข้างทำลายคอ.
กร๊วมมมม!
ด้วยเสียงที่น่ากลัว กวางตายทันที
เจสันค่อยๆกัดเข้าไปที่คอของกวางและดื่มเลือดสดๆจากมัน
พี่น้องที่กำลังสวาปามด้วยความหิว.
ไลแคนทั้งเจ็ดที่ตัวใหญ่และกำลังดื่มกินอย่างหิวกระหาย มันใช้เวลาไม่กี่นาทีก่อนที่มันจะเหลือแต่กระดูกเท่านั้น.
พวกเขากินอาหารจนเต็มท้องก่อนที่พี่น้องเจสันจะกลับมาหันสนใจคนในกลุ่ม.
“กลิ่นยังคงเดิม.”
“พวกเขายังอยู่ใกล้ๆ มันยังไม่ได้เดินไปไหน.”
“พวกเขายังไม่าเสร็จการรับประทานอาหาร?”
กลิ่นของหญ้ายังคงอบอวลอยู่ในอากาศ.
หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วพี่น้องเจสันยังคงรออยู่สักพัก.
ตราบที่มนุษย์อยู่ในดินแดนของพวกเขา มนุษย์ก็ยังอยู่ในอุ้งมือเขาเหมือนเดิม นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิด
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นของหญ้ายังไม่หายไปพี่น้องเจสันก็เริ่มตั้งคำถาม.
“ทำไมพวกเขาไม่เคลื่อนไหว?”
“การเคลื่อนไหวของมนุษย์ดูแปลกๆ.”
“พวกเขายังไม่เคลื่อนไหว พวกไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้? พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ในดินแดนของเรา?”
พวกเขากินเสร็จแล้วนอนเลยหรือเปล่า?
พวกมันคงไม่คิดว่าพวกมันกำลังถูกไล่ล่า?
คำถามหลักทำให้เจสันรู้สึกสับสน.
‘นั่นคงไม่ใช่.’
จะสันเลือกน้องคนสุดท้องของพวกเขาให้ออกไปดู
“นายออกไปดูด้วยตัวเอง.”
“อะไร? ผม?”
น้องคนสุดท้องบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด
“แกกลัว?”
คำถามของเจสันเต็มไปด้วยการข่มขู่
หน้าของน้องชายดูเหมือนว่าเขาพึ่งกินอึ.
เขาไม่ต้องการได้รับการปฎิบัติแบบลูกเมียน้อยโดยเจสัน แต่เจัสนแข็งแกร่งที่สุด เขาไม่สามารถสู้ได้จึงไม่มีทางเลือก
“ตกลง ฉันจะไป จิ๊.”
น้องเล็กพึมพำเล็กน้อยก่อนจะไป.
น้องเล็กเดิมตามรอยเท้าไปประมาณ1ชั่วโมงก่อนที่จะตบกางกลับ.
“เกิดอะไรขึ้น?”
ด้วยคำถามของเจสัน น้องเล็กตอบอย่างรวดเร็ว
“เราต้อวยืนยัน!”
“อะไร?”
“มาดูด้วยตัวเอง!”
เหล่าพี่น้องกับเจสันไปพร้อมกับน้องเล็ก.
หลังจากเห็นสิ่งนั้นเจสันก็รู้สึกสับสน ก่อนที่จะเสียใจ…
และควาฒโกรธก็เพิ่มเข้ามาก่อนที่เขาจะไม่สามารถควบคุมได้.
“ไอ้พวกแมลง!”
ในจุดนั้นไม่มีอะไรที่จะบ่งชี้ว่ามนุษย์อยู่ที่นั่น.
มันเป็นกลุ่มหญ้าที่ถูกบดและกลิ่นมันก็เลยกระจายออกไป.
เพราะกลิ่นของหญ้าเจสันเลยคิดว่ามนุษย์อยู่ใกล้ๆและเสียเวลานานมาก.
‘พวกมันหลอกให้เราอยู่ที่นี่และเคลื่อนที่ไปไกล.’
เจสันได้สรุปแล้วว่ามนุษย์ได้ใช้อุบายและเคลื่อนไหวหนีไป.
“ไปเร็วๆ เราสามารถจับพวกมันได้ในตอนกลางคืน.”
“ตกลง!”
พี่น้องเจสันเริ่มที่จะวิ่งอย่างรวดเร็ว.
หลังจากที่ถูกหลอกเหมือนคนโง่ ความภูมิใจและความทะนงตัวพังเป็นชิ้นๆก่อนที่จะวิ่งไล่เหมือนกับคนตาบอด.
***
เราได้รับรู้ในตอนกลางวันว่ามีไลแคนเจ็ดตัวไล่เรามาตามทาง.
ในความคิดของพวกเขาที่รักษาระยะทางในการติดตามพวกเรา แต่กลุ่มพวกมันก็ถูกรับรู้ได้โดยซิลเนื่องจากระยะสอดแนมเธอค่อนข้างกว้าง.
ผมได้วางแผนการดำเนินของผม
ขั้นแรกคือการเก็บหญ้าครึ่งนึงไว้กลับตัวเราและถือเอาไว้
ตามแผนการของผม ไลแคนไม่สามารถรับรู้กลิ่นพวกเราได้เนื่องจากหญ้าค่อนข้างฉุน.
ใช้เวลานั้นในการเคลื่อนที่ไปให้ไกลและนอนหลับ.
เมื่อรู้ว่าพวกเลวนั่นตามกลิ่นหญ้าและไม่ได้ไล่ตามเรา ก็สามารถที่จะนอนหลับได้อย่างสบายใจและผักผ่อน.
-เมี๊ยว!
สุดท้ายซิลก็กลับมาจากการสอดแนม.
ซิลชี้ไปยังพื้นและวาดมันด้วยขาหน้า ดูเหมือนว่าพวกห่านั้นรู้ตัวว่าโดนหลอกและไล่ตามอีกครั้ง ผมมั่นใจได้เลยว่าพวกมันกำลังโกรธ?
ผมรีบปลุกจุนโฮ แฮซูและจุนชอย.
“ตื่น เราต้องไปเดี๋ยวนี้.”
“ฮยอง ตอนนี้เราจะไปไหน?”
“เราจะได้เห็นคนชนะในคืนนี้”
เนื่องจากกลิ่นของหญ้าได้ติดจมูกมัน จึงทำให้พวกมันรับรู้ระยะทางคลาดเคลื่อน.
เมื่อมันถูกหลอกโดยผม มันก็เร่งรีบเป็นอย่างมาก.
คืนนี้ พวกเหี๊ยจะมาหาเราอย่างฮึกเหิม.
เราต้องทำกับดักและรอมันก่อนที่จะฆ่าพวกมันทั้งหมด.
“ฉันจะเป็นเหยื่อ.”
คนที่อาสาไม่ใช่ใครนอกจากจุนชอย
“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เราสามารถล่อมันด้วยเสื้อผ้าที่มีกลิ่นของหญ้า.”
“นั่นมันเป็นแค่การรับรู้กลิ่น แต่คุณจะหลอกเรื่องการฟังของพวกมันได้อย่างไร? ผ่ายตรงข้ามไม่ใช่แค่หมาป่า แต่มันยังฉลาด.”
“อ่า…”
จุนชอยถูกต้อง.
ถ้าไลแคนเข้ามาใกล้และไม่ได้ยินเสียงอะไรพวกเขาจะรู้สึกว่ามันผิดปกติ พวกมันถูกหลอกมาแล้วครั้งนึงเพราะงั้นมันต้องระมัดระวังมาก.
“คุณจะไม่เป็นไร?”
“ไม่มีปัญหา ผมต้องการสู้เพื่อดูว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ผมยังสามารถรู้ได้ว่าผมแข็งแกร่งขึ้นได้เท่าไร.”
จุนชอยมีความกล้าไม่เหมือนกัน
เขาไม่ได้กลัวคนที่ผ่านการสอบมา19รอบและยังให้แม้กระทั่งการสอนบางอย่างกับชายคนนั้นอีกด้วย.
“ถ้างั้นก็ขอบคุณมาก คุณทำเพียงแค่จับพวกมันเอาไว้”
เราเดินมาไกลแค่ไหน.
ตอนเย็นผ่านไปและท้องฟ้าก็เริ่มที่จะมืดลง
เราเดินต่อไปเมื่อดวงอาทิตย์หายไปเราก็เดินหน้าตามแผนของเรา.
ด้วยเสื้อคลุมของพวกเรา พวกเราได้นำเสื้อที่มีกลิ่นตัวไว้ในที่เดียวกับจุนชอยที่กำลังแกล้งทำเป็นหลับอยู่.
ในบัทเทิลสูทและรองเท้าของเราก็อยู่ไม่ไกล.
“อาวุธ.”
Mosin-Nagant ปรากฎในมือผม.
“นี่ โอปป้า.”
แฮซูเอาลุกกระสุน 7.62 มม. ออกมาจากกระเป๋าของเธอ
ผมรีโหลด Mosin-Nagant และเตรียมพร้อมทุกอย่าง.
ตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้พวหห่านั่นเข้ามา.