ตอนที่ 49 ไม่บอกชื่อตอนนะครับ
มันนั้นพุดออกมาอย่างหยิ่งยโส การปรากฏตัวของเอลเดอร์ลิชที่สวมชุดคลุมสีดำในความมืดนั้นราวกับยมฑูตที่จะพรากชีวิตไปจากพวกเขา คนธรรดนั้นจะตกใจถ้าได้ยินคำพูดของมัน
“ฮ่าๆ แกเห่าได้ดี!”
“ใครมันจะเอาตัวธีโอไปนะ?”
อย่างไรก็ตามทั้งสามคนนั้นไม่ได้มีความกลัวในตัว เอลเดอร์ลิชเลย แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นจอมเวทย์แห่งความมืดขั้น6 ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับสูง แต่พวกเขาทั้งสามคนไม่ได้อ่อนแอ พวกเขานั้นมีปรมาจารย์ดาบ ศิษย์ของผู้นำBlue Tower และเจ้าของหนังสือเวทย์โบราณ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการต่อสู้ไม่ว่าจะยังไงพวกเขานั้นก็ชนะแน่นอน
แรนดอล์ฟยกดาบคู่ของเขาตั้งขึ้นขณะที่น้ำแข็งได้ก่อตัวที่ปลายคฑาของซิลเวีย ทั้งสามคนได้ปลดปล่อยแรงกดดันไปปะทะกับเอลเดอร์ลิช
วูบบบบ!
พวกเขาไม่ขยับ!ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ถูกผลักให้ถอยหลังนั่นหมายความว่าพลังของพวกเขาสามคนนั้นเท่ากับเอลเดอร์ลิช ไม่พวกเขาทั้งสามคนนั้นเหนือกว่าตรงที่พวกเขาสามารถโจมตีแบบสนับสนุนกันได้ นี่เป็นการต่อสู้แบบ3ต่อ1 ที่เอลเดอร์ลิชต้องคอยรับการโจมตีจากสามด้าน
เอลเดอร์ลิชที่ลอยอยู่ในอากาศตระหนักได้ว่าเขาเสียเปรียบ [หึมม....มันยากที่จะปรับตัวให้เข้ากับพลังที่แสนจะน้อยนิดในร่างที่ไม่คุ้นเคยนี้]
แต่เสียงของมันนั้นยังคงมั่นใจอยู่ [เจ้าหนูทดลอง....เจ้ามีพลังที่พิเศษ แต่ในท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นเพียงจอมเวทย์ขั้น4เท่านั้น....ข้าจะจัดการเจ้าเป็นลำดับสุดท้าย]
เมื่อจบคำพูด ธีโอรู้สึกกังวลใจต่อคำพูดของมัน จากนั้นเอลเดอร์ลิชก็ได้ชี้นิ้วไปที่ธีโอและแสงก็ได้พุ่งเข้าใส่ธีโอ
[หายไป!]
“อะไรกัน-?” ร่างกายของธีโอได้หายไปทันที โดยไม่มีรอยแตกของมิติ
“ธีโอ?!”
“นายจ้าง!”
เกิดความรู้สึกสับสน ซิลเวียและแรนดอล์ฟต่างหันไปมองที่ที่ธีโอเคยยืนอยู่ ธีโอนั้นหายไปโดยไม่กลับมา ซิลเวียร้องออกมาเมื่อเธอตระหนักได้ว่าสิ่งที่เอลเดอร์ลิชทำนั้นเธอเคยอ่านมาก่อน มันเป็นเวทย์ของคนที่เขาสู่ขอบเขตขั้น6 มันเป็นเวทย์ที่เรียนรู้ได้ยาก แต่มันกลับทำได้โดยง่ายดาย
“เวทย์บิดเบือนช่องว่าง….!”
[ใช่แล้ว] เอลเดอร์ลิชที่ได้ปรับสมดุลของพลังอำนาจด้วยเวทมนต์ของมันได้กล่าวขึ้น [ถ้ำแห่งนี้อยู่ในอาณัติของข้า....ข้าไม่ได้เคยพูดไปแล้วงั้นหรือ? เจ้าพลาดโอกาสที่จะชนะแต่แรกแล้ว จงเสียใจในโชคชะตาของเจ้าแล้วเกิดใหม่มาเป็นข้ารับใช้ของข้าซะ....!]
ในขณะนั้นก็ได้ปรากฏรูปร่างของชายคนหนึ่งผุดขึ้นมาจากเงาบนพื้นดิน
สิ่งที่ปรากฏตัวออกมานั้นสวมชุดเกราะและหมวกอัศวินแตกๆ ดวงตาของมันนั้นส่องสว่างด้วยสีแดง มันดูราวกับอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ ทุกคนนั้นจะรู้สึกตื่นตระหนกจากการปรากฏตัวของโครงกระดูกอัศวิน
ดวงตาของแรนดอล์ฟไหววูบขณะที่จับดาบทั้งสองเล่มแน่น
“...ไม่ไม่จริง!”
ตราหมาป่าที่ติดอยู่บนดาบที่โครงกระดูกได้ถืออยู่นั้นคือสมบัติที่สืบทอดกันมานานกว่า100ปีก่อนของตระกูลเขา และท่าทางการถือดาบนั่นก็แสนจะคุ้นเคย ดวงตาของแรนดอล์ฟเต็มไปด้วยความโกรธ “ฆ่า....ไม่ว่าจะยังไงฉันจะฆ่าแกให้ได้!”
[โอ้? เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะดาบของบรรพบุรุษเจ้าได้งั้นหรอ?]
“นั่นไม่สำคัญหรอก” แรนดอล์ฟพูดอย่างห้วนๆและตั้งท่าดาบ
อัศวินโครงกระดูกก็ขยับด้วยท่าทางเดียวกันกับแรนดอล์ฟ มันเหมือนกับการมองไปที่กระจก แต่โครงกระดูกอัศวินนั้นมีออร่าสีขาวอมเทาอยู่รอบๆตัวมัน เอลเดอร์ลิชมองดูการเผชิญหน้าของสองนักดาบก่อนที่จะหันไปมองทางซิลเวียผู้ซึ่งกำลังถือคฑาเอาไว้
[เจ้าเป็นศิษย์อัจฉริยะของผู้นำ blue Tower คนปัจจุบัน.....เกิดความรู้สึกแปลกๆจากความด้อยกว่ามาจากร่างกายนี้]
เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างแท้จริง แน่นอนเอลเดอร์ลิชหรือก็คือหนังสือเวทย์โบราณ มันรู้สึกเช่นนั้น ถ้าเจ้าของร่างรู้สึกไปในเชิงลบแล้วละก็อัตราการกัดกร่อนก็จะเพิ่มขึ้น เขาจะมีตัวอย่างทดลองอีกสองตัวและอัตราการกัดกร่อนของมันก็จะเพิ่มมากขึ้น เขาจะทำให้เจ้านักดาบนั่นกลายเป็นดูลาฮาน และหญิงสาวนั่นให้กลายเป็นวิญญาณอาฆาต(banshee)
[มาสิมาเล่นกับข้า]
“แล้วถ้าฉันไม่ต้องการเล่นละ?” ซิลเวียตอบด้วยน้ำเสียงเย็นๆขณะที่เธอโบกคฑาในมือของเธอ
จากนั้นอากาศโดยรอบก็เย็นลง
“ฉันจะนำธีโอกลับมา” ไม่มีการพูดใดๆหลังจากที่เธอประกาศออกมา
การจับคู่กันอย่างไม่ลงตัวของ แรนดอล์ฟและซิลเวีย ต่อสู้กับ โครงกระดูกอัศวิน และ เอลเดอร์ลิช
***
อีกด้านหนึ่ง ธีโอดอร์ ซึ่งถูกยัดเยียดโดยเอลเดอร์ลิชให้ไปที่อื่น ตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
รอบด้านนั้นปกคลุมไปด้วยความมืด ธีโอเรียกบอลแสงออกมา แต่ทว่าพลังเวทย์แห่งความมืดที่ลอยอยู่ในอากาศได้ลดพลังของบอลแสงลงทำให้แสงนั้นสว่างน้อยกว่าเดิมถึงครึ่งนึง แต่อย่างน้อยก็ยังมีแสงสลัวๆอยู่
ธีโอกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นสภาพโดยรอบของตัวเขา
“ที่นี่...?”
มันไม่ใช่พื้นที่โล่งกว้าง มันมีขนาดพอๆกับห้องพักนักศึกษา มันคือห้องแกนกลางของดันเจี้ยน อย่างไรก็ตามแทนที่เขาจะตกตะลึงเนื่องจากเขาถูกส่งมาที่แกนกลางของดันเจี้ยน เขากลับตะลึงกับลักษณะของผลึกสีแดงที่ทำหน้าที่เป็นแก่นพลังงานหลังของดันเจี้ยน
พลังเวทมนต์ที่มีความหนาแน่นสูงมาจากผลึกสีแดงนี่ นี่เป็นแก่นพลังชีวิตของเอลเดอร์ลิช!
“เขาใส่หัวใจของตัวเองไว้ในแก่นดันเจี้ยน.....นั่นคือวิธีที่มันสามารถใช้ การบิดเบือนของช่องว่าง!”
แก่นชีวิต....มันเป็นคำพูดสำหรับหินชีวิตที่เอลเดอร์ลิชได้ปิดผนึกชีวิตของตัวเองไว้
มันแตกต่างจากลิชธรรมดาที่จะเสียชีวิตเมื่อร่างกายของพวกมันถูกทำลาย เอลเดอร์ลิชจะไม่ตายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวมันแม้ว่ากระดูกจะกลายเป็นขี้เถ้าหรือถูกโยนเข้าไปในภูเขาไฟ มันก็จะได้รับการฟื้นฟู
แก่นชีวิตคือเหตุผลว่าทำไมสองจอมเวทย์ ธีโอและซิลเวีย จึงรู้สึกหมดหวังหลังจากที่ได้เห็นเอลเดอร์ลิช
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องกลัวเอลเดอร์ลิชเลยแต่ความจริงที่ว่ามันได้ปิดผนึกชีวิตของมันไว้นอกร่างกาย ทำให้มันไม่มีความเกรงกลัวเนื่องจากมันเป็นอมตะ
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันอยู่ข้างหน้าเขา
“Blaze Shell!” เปลวเพลงสีแดงเข้มโผล่ออกมาจากมือของธีโอดอร์ในทันที
มันเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่สามารถระเบิดก้อนหินขนาดใหญ่และฆ่าโทรลล์ได้ในทันที!การโจมตีที่ทรงพลังของจอมเวทย์เพลิงได้พุ่งเข้าใส่ผลึกสีแดงนั่น
เปลวไฟสีแดงเข้มได้พุ่งเข้าใส่แก่นชีวิตทันที พรึบ!
อย่างไรก็ตามทันทีที่มันพุ่งเข้าใส่แก่นชีวิต มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้มันจะเป็นสิ่งที่เขาคาดไว้อยู่แล้วว่ามันคงไม่ง่ายแต่เขาก็อดที่จะสบถออกมาไม่ได้“…บ้าเอ้ย”
การป้องกันที่ลึกลับนี้เป็นเหตุผลให้เอลเดอร์ลิชนั้นยังคงอยู่ มันจะยกเลิกการโจมตีทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่ามัน1ขั้น ตามบันทึกประวัติศาสตร์มีเพียงออร่าของปรมาจารย์ดาบหรือพลังเพลิงของจอมเวทย์ขั้น7เท่านั้นถึงจะได้ผล
กล่าวอีกนัยนึงคือธีโอดอร์ มิลเลอร์ ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย
‘ฉันต้องกลับไปรวมกับคนอื่น.....มันยากที่จะทำอย่างนั้น ฉันไม่ทราบทิศทางและฉันจะหมดแรงถ้าฉันทำลายกำแพงด้วยเวทมนต์’
กลุ่มของเขาจะตายถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะการป้องกันของแก่นชีวิตได้ อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่จะสร้างทางเดินโดนการทำลายกำแพง ธีโออยู่ในสถานการณ์ที่เขาไม่รู้ทิศทางและไม่รู้ว่าเขาอยู่ห่างไกลจากเพื่อนของเขามากแค่ไหน
นี่เป็นเหตุผลที่เอลเดอร์ลิชกักตัวเขาไว้ที่นี่
“…..ฉันควรจะลองอีกครั้ง?”
ตามสามัญสำนึกแล้วเขาไม่มีทางรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้เลย ธีโอไม่สามารถที่จะหนีหรือทำลายแก่นชีวิตได้
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ธีโอดอร์จึงคิดอย่างเด็ดขาด ‘ถ้าฉันทุ่มเทอำนาจเวทมนต์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดและเสียสละแขนหนึ่งข้างเพื่อใช้กระสุนเวทย์...!’ เขาอาจจะเจาะการป้องกันของแก่นชีวิตได้
แสงสีน้ำเงินปกคลุมไปทั่วแขนของธีโอและเส้นเลือดของเขาเริ่มแตกออกขณะที่เขามุ่งมั่นที่จะรวบรวมเวทมนต์ของเขาให้เกิดขีดจำกัด แสงนั้นมีพลังมากพอที่จะทำลายการป้องกันของเวทย์ขั้น6ได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะสร้างพลังของกระสุนเวทย์ให้คล้ายกับของอัลเฟรด
เขาอาจจะเสียแขนขวาไป แต่ก็ดีกว่าการที่ต้องตาย ขณะนั้น....
“…เอ๊ะ?”
มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขา มันเป็นเสียงที่ความตะกละได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้
-อันเดทนั้นเคลื่อนไหวผ่านเวทมนต์เท่านั้น พวกมันไม่ได้มีพลังเวทย์หรือความรู้
ความตะกละได้พูดต่อ มันต้องการจะสื่อถึงอะไร?
-มีข้อยกเว้นบางประการ แต่....
ความคิดของธีโอเริ่มหมุนเร็วขึ้น
ความตะกละไม่สามารถที่จะกินซอมบี้และกูลล์ ได้แต่มันกินสเป็คเตอร์ได้ อะไรคือความแตกต่าง? ไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นมันสามารถที่จะกินวิญญาณได้ แต่ความตะละนั้นไม่เคยสนใจในตัวมิตรา
และส่วนที่น่าสังเกตก็คือ ‘มันมีพลังเวทย์หรือความรู้อยู่ภายในหรือไม่?’
“นั่นถูกต้องใช่ไหม?”
แก่นชีวิตที่มีความเป็นอมตะของเอลเดอร์ลิชควรเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว! ธีโอได้เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวและยกมือซ้ายขึ้น แก่นชีวิต ต่อต้านการโจมตีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันไม่สามารถสกัดกั้นวัตถุที่อยู่ใกล้ๆได้
ขณะนั้นผู้ทิ่อยู่อาศัยในมือซ้ายของธีโอ นักล่าที่แท้จริง ได้สัมผัสได้ถึงเหยื่อของมันและเหยียดลิ้นออกมา!
“ประเมิณ”
[+13 แก่นชีวิตของ จีโอวานนี่(เครื่องมือเวทมนต์)]
[นี่คือตราผนึกที่สร้างโดยภูมิปัญญาที่ชั่วร้าย มันมีจิตวิญญาณของจีโอวานนี่ผู้ซึ่งได้รับความเสียหายจากเวทมนต์ดำ พลังงานด้านลบนั้นช่วยป้องกันผนึกนี้ ทำให้การโจมตีทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่าระดับที่กำหนดจะไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ ตราบเท่าที่ตราผนึกนี้ยังอยู่ จีโอวานนี่ จะได้รับความเป็นอมตะ
*ระดับของเครื่องมือเวทมนต์ชิ้นนี้คือ ‘สมบัติล้ำค่า’
*เมื่อกินไปแล้วจะได้รับพลังเวทย์จำนวนมหาศาล
*เมื่อกินแล้วใช่เวลาในการย่อย 3 วัน
*เมื่อกินแล้วจะได้รับความรู้แล้วความเชี่ยวชาญของ จีโอวานนี่
*เมื่อกินแล้วจะเกิดความสัมพันธ์ไม่เป็นมิตรกับ ?????]
หลังจากของระดับ หายาก และ ล้ำค่า แล้วนี่เป็นการปรากฏครั้งแรกของ สมบัติล้ำค่า! มันเป็นความจริงที่ว่าแก่นชีวิตนั้นเหมาะสำหรับการกินมาก
ธีโอดอร์จึงกล่าวอย่างรวดเร็ว
“กินมันเร็วเข้า!”
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ให้ ความตะกละ กินมัน เหนื่อสิ่งอื่นใดซิลเวียและแรนดอล์ฟกำลังต่อสู้กับเอลเดอร์ลิชที่ไม่มีวันตายอยู่ ถ้าเขาไม่รีบร้อนเพื่อนของเขาอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข
จากนั้นลิ้นก็ได้พุ่งไปและกลืนกินผลึกอย่างรวดเร็ว
อึก
มันเป็นช่วงเวลาที่แก่นชีวิตของเอลเดอร์ลิชชั้นสูงกำลังถูกกิน....
[คุณได้กำราบ ‘แก่นชีวิตของจีโอวานนี่ ‘ ที่มีพลังเวทย์จำนวนมหาศาล]
[คุณได้รับความรู้และความสามารถบางอย่างของเนโครแมนเซอร์ จีโอวานนี่]
[ใช้เวลาในการย่อย3วัน]
[…….]
[บุคคลที่ลึกลับได้สนใจในตัวตนของคุณ]