ตอนที่ 48 การโต้กลับของทั้งสาม 2
การรวมกันของทั้งสามคนทำให้ประสิทธิภาพการรบของพวกเขาสูงมาก เป็นกลยุทธ์การรบที่ใช้หนึ่งนักรบและสองจอมเวทย์
ฟึบ!
ประกายแสงจากดาบคู่ของแรนดอล์ฟได้เคลื่อนไหวไปมา เขาใช้ออร่าในการเคลื่อนที่ขณะที่ดาบของเขาตัดผ่านร่างกายของกูลล์ ดาบทั้งสองที่สะบัดไปมานั้นราวกับแส้ได้ฟันใส่กูลล์ไปหลายตัว ขณะนั้นได้มีออร์พุ่งเข้ามาโจมตีใส่แรนดอล์ฟ และก่อนที่แรนดอล์ฟจะโดนโจมตีโดยอันเดท เวทมนต์ก็ได้ถูกร่าย
“ทนต่อความหนาวเย็น”
“คลื่นแห่งความหนาวเย็น”
ธีโอได้ร่ายเวทย์ต้านทานให้กับแรนดอล์ฟ ก่อนที่ซิลเวียจะร่ายเวทย์
สิ่งมีชีวิตทุกตัวและอันเดทได้แข็งตัวจากความหนาวเย็น แต่แรนดอล์ฟนั้นมีความต้านทานต่อความหนาวเย็น ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวและทุบเหล่าอันเดทที่ถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว
แรนดอล์ฟเดาะลิ้นของเขาด้วยความชื่นชม มันน่าทึ่งมากนายจ้างของฉันและเด็กสาว กำลังใช้เวทมนต์ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของฉัน ฉันเดาว่ามันไม่ใช่แค่การพูดคุยนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงวางแผนที่จะโจมตีกลับ
แม้ว่าการรวมกันของทั้งสามคนจะดี แต่ทว่ามันก็จะไม่มีประโยชน์ถ้าเขาขัดแข้งขัดขากัน พวกเขาต้องทำงานกันเป็นทีม
ดังนั้นแรนดอล์ฟจึงชื่นชมในตัวของธีโอดอร์และซิลเวีย
“แรนดอล์ฟกกระโดด!”
เขาทำตามคำสั่งทันทีโดยไม่ลังเล
“คมมีดสายลม!”
พร้อมๆกันได้เกิดคมมีดสายลมขึ้นใต้รองเท้าของแรนดอล์ฟขณะที่เขากระโดดขึ้น มันรวดเร็วกว่าคมมีดสายลมอื่นๆและยังมีความคมที่เท่ากัน ! ข้อเท้าของอันเดทตัวนั้นถูกตัดขาดทันทีและล้มลงไป จากนั้นแรนดอล์ฟก็ฟาดดาบตัดคอของมันทันที
การเคลื่อนไหวของทั้งสามที่เข้าขากันได้เป็นต่อไปเรื่อยๆ พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าอันเดท
“ฟู่ๆ....ให้ฉันได้พักหายใจสักครู่” ธีโอดอร์สูดหายใจอย่างแรงและมองไปที่แรนดอล์ฟ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าแรนดอล์ฟจะต้องต่อสู้ระยะประชิดอย่างต่อเนื่องและวิ่งมาโดยไม่พักผ่อน การหายใจของเขานั้นยังคงสงบ เป็นหลักฐานว่าเขายังคงมีพลังงานเหลือเฟือ
‘ฉันรู้สึกมันใจกว่าเดิมเมื่อมีใครบางคนที่ทรงพลังเช่นแรนดอล์ฟอยู่ข้างๆ’
เช่นเดียวกันกับ แรนดอล์ฟที่ชื่นชมในทักษะของธีโอดอร์ ธีโอดอร์ก็ประหลาดใจเช่นกันในความสามารถของเขา ทักษะทางด้านดาบของเขาแม้แต่ออร์คกูลล์ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้
ธีโอรู้สึกโล่งใจที่เขาเป็นพันธมิตร แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นที่ต้องพัฒนาการต่อสู้ในระยะประชิดของตน ถ้าธีโอดอร์ต้องต่อสู้กับแรนดอล์ฟ ภายในสิบวินาทีเขาจะพ่ายแพ้ มันมีวิธีในการต่อสู้ระยะประชิดโดยใช้เวทมนต์ เช่นเดียวกับเทคนิคของซิลเวียและบลันเดลล์ เมื่อธีโอเสร็จงานนี้แล้วเขาจะฝึกฝนมัน
เมื่อธีโอคิดเสร็จแล้ว เขาก็มองไปรอบๆ“ซิลเวีย พลังเวทย์ของเธอเป็นยังไงบ้าง?”
"เหลืออยู่ประมาณ80%? ยังคงเหลือเยอะ”
“แรนดอล์ฟ”
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันสามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆ”
ธีโอดอร์ยืนยันสภาพของพวกเขาและมองไปที่เส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยความมืดอีกครั้ง พวกเขาถูกโจมตีมามครั้งแล้วและมีกูลล์มากกว่า100ตัว มีเพียงความเงียบในความมืดมิดนั่น ถ้าเขาไม่รับเดินทางดูเหมือนว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่อาจจะควบคุมได้ในความมืดมิด
“...งั้นไปกันต่อเถอะ”
เมื่อบอลแสงทั้งสองด้วยได้เคลื่อนที่นำไปข้างหน้า ธีโอดอร์ก็ได้เริ่มเดินเข้าสู่ความมืดอีกครั้ง
***
พวกเขาเดินอยู่ในความมืดนี้นานเท่าไรแล้ว?
ธีโอดอร์รู้สึกสับสนและหยุดเดินชั่วขณะ ตามสิ่งที่เขาอ่านในรายงานความลึกของถ้ำมีเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาควรจะถึงจุดสิ้นสุดของถ้ำได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเส้นทางของพวกเขายังไม่สิ้นสุด ฉะนั้นจึงมีหนึ่งสมมติฐานที่เป็นไปได้เกิดขึ้นในความคิดของธีโอ
“แรนดอล์ฟ”
“หะ?”
“ทำลายกำแพงถ้ำด้วยดาบของคุณ ถ้าเป็นไปได้ ช่วยใช้ออร่าของคุณด้วย”
“....ฉันจะลองดู” แรนดอล์ฟรู้สึกงุนงง แต่ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของธีโอโดยไม่ถามสักคำ
เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขากับธีโอ เขารู้ว่าธีโอไม่เคยพูดอะไรออกมาโดยไม่มีเหตุผล แรนดอล์ฟวางมือลงบนด้ามดาบทางซ้ายมือและจับมันไว้และเล็งไปที่เป้าหมาย
เขาชักดาบออกมาด้วยความเร็ว เกิดแสงสีน้ำเงินฟาดเข้าใส่กำแพงถ้ำและกำแพงได้แตกออก กำแพงธรรมดานั้นไม่สามารถหยุดคลื่นออร่าได้ แต่ทว่าดวงตาของแรนดอล์ฟกลับเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก “ไม่...?”
กำแพงที่แตกออก ได้ถูกสร้างใหม่อย่างรวดเร็ว!
ในฐานะที่เขาเป็นนักดาบมาตั้งแต่เกิด แรนดอล์ฟไม่ทราบว่ามันคืออะไร แต่ใบหน้าของ ธีโอดอร์และซิลเวีย ได้กลายเป็นบิดเบี้ยวเมื่อเข้าใจถึงสถานการณ์ พลังเวทย์อันแสนมืดมิดได้หลุดออกมาจากกำแพงเช่นเดียวกับที่ออกมาจากสิ่งมีชีวิต ทั้งสองคนพึมพำเกือบจะพร้อมกัน
“ดันเจี้ยน…”
มันเป็นพลังเวทย์ที่แสนทรงพลังของจอมเวทย์แห่งความมืดขั้น6 ที่จะทำให้สถานที่ที่ผู้ใช้กำหนดนั้นเปลี่ยนไป
เวลาและทรัพยากรจะถูกกลืนกินไปเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเวทย์นี้เสร็จสมบูรณ์ มันจะสร้างดันเจี้ยนที่มีพลังอย่างมหาศาลขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเวทย์โบราณหรือเนโครแมนเซอร์ที่มาถึงระดับนี้ได้ นี้มันเข้าขั้นวิกฤตอย่างแท้จริงแล้ว
เนโครแมนเซอร์ได้เปลี่ยนถ้ำนี้ให้กลายเป็นดันเจี้ยนและเปลี่ยนโครงสร้างภายในของถ้ำนี้ ขณะนั้นเองก็ดี้มเสียงกรีดร้องดังไปทั่วถ้ำแห่งนี้
กร้าสสสส!
ความหนาวเย็นได้แล่นไปที่กระดูกสันหลังของธีโอดอร์ มันรุนแรงกว่าที่เคยเป็นสามถึงสี่เท่า พวกเขาต่างเรียกใช้พลังออร่าและพลังเวทย์ของมาโดยอัตโนมัติ ขณะนั้นแหล่งที่มาของความหนาวเย็นนนี้ก็ได้ปรากฏตัว มันมีรูปร่างที่ปกคลุมไปด้วยความมืดและลอยอยู่ในอากาศ
“สเป็คเตอร์(ในdota2 อะครับ)?!”
“บ้าจริง ฉันไม่มีน้ำศักดิ์สิทธ์…!”
ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยความมืดมิดไม่เหมือนกับอันเดท สเป็คเตอร์นั้นไม่มีร่างกายที่จับต้องได้ พวกมันจะโจมตีโดยการขโมยร่างกายหรือดูดพลังชีวิตออกจากร่างกาย
เนื่องจากพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรูปลักษณ์ของกลุ่มวิญญาณ การโจมตีทางกายภาพใช้กับพวกมันไม่ได้ผลต้องใช้เวทย์แสงศักดิ์สิทธื๋ถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด การใช้ดาบฟันมันก็เหมือนกับการโยนเป็นลงในกะทะ สำหรับแรนดอล์ฟแล้วพวกมันเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถชนะได้เลยเนื่องจากเขาไม่มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ติดตัวมา
ไม่นานหลังจากที่มันเห็นพวกเขา พวกมันก็พุ่งมาด้วยความรวดเร็ว
“ช่วยไม่ได้ มาลองกันก่อนเถอะ!”
แม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ แต่ถ้าแรนดอล์ฟนั้นถอยหลังจอมเวทย์ทั้งสองจะตกอยู่ในอันตราย การอยู่ในแนวหน้านั้นหมายถึงการสกัดกั้นการโจมตีของศัตรูเอาไว้ราวกับกำแพง พลังออร่าปกคลุมไปทั่วดาบของแรนดอล์ฟ เขาจะหยุดพวกมันเอาไว้แม้ว่าเขาจะต้องใช้พลังออร่ามากแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับคำสั่งที่ทำให้เขาถึงกับตกใจ
“แรนดอล์ฟมาหลบหลังฉัน!”
“อะไรนะ?”
“เร็วเข้า!”
“…บ้าเอ้ย เข้าใจแล้ว!”
เขารู้สึกงง แต่ธีโอนั้นไม่ได้ล้อเล่น เขารีบถอยไปด้านหลังทันที เมื่อเขาถอยไปแล้วธีโอดอร์ก็ได้ก้าวไปข้างหน้าโดยปราศจากความกลัว
กรี้สสสส! กรี้สสส!
ทำไมธีโอถึงไม่รู้สึกกลัวพวกมัน? เหล่าวิญญาณต่างขณะที่บินไปที่ธีโอ มันตั้งใจที่จะพุ่งเข้าใส่และดูดพลังชีวิตจากร่างกายของธีโอ
ขณะที่ซิลเวียและแรนดอล์ฟต่างเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเพื่อเตรียมพร้อมที่จะกระโดดเข้ามาช่วยเหลือ พวกมันก็ได้ประชิดเข้าถึงตัวของธีโอ
-กินทุกอย่างที่ขวางหน้า...
นี่ไม่ใช่เสียงของเขา มันเป็นสัญชาตญาณของความตะกละที่กำลังนอนอยู่ในมือซ้ายของเขา ความหิวที่ไม่ทราบสาเหตุนี้แหละคือเหตุผลว่าทำไมธีโอดอร์จึงหัวเราะออกมาและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
เขารู้สึกได้ว่าลิ้นของความตะกละได้โผล่ออกมาจากรูบนฝ่ามือซ้ายของเขา มีคำกล่าวไว้ว่า ‘ไม่มีนักล่าที่กลัวอาหารของมัน’
จากนั้นมันก็เริ่มกินอาหาร
กร้าสสสสส!
เมื่อเจอกับนักล่าที่แท้จริง เหล่าสเป็คเตอร์ต่างสูญเสียความบ้าคลั่งพวกมันรู้สึกเคียดแค้นและหมดหวังที่จะหลบหนี ความตะกละนั้นได้จับพวกมันเอาไว้หมดแล้ว เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สยองขวัญ และความกลัว กระจายไปทั่ว เมื่อเหล่าสเป็คเตอร์ ได้ถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือซ้านของเขา พวกมันแตกต่างจากอันเดท สเป็คเตอร์นั้นเกิดมาพร้อมกับเวทย์แห่งความมืดและร่างกายของพวกมันนั้นคือเวทมนต์ ดังนั้นความตะกละจึงเห็นพวกมันเป็นอาหาร
[วิญญาณของก๊อบลินชาแมนได้ถูกกินแล้ว]
[วิญญาณของออร์คนักรบได้ถูกกินแล้ว]
[วิญญาณของโทรลล์ได้ถูกกินแล้ว]
[……]
[ผู้ใช้นั้นยังไม่ได้ปลดล็อคความสามารถ]
มันแตกต่างจากการกินอุปกรณ์เวทย์หรือหนังสือเวทย์ แต่ธีโอนั้นรู้สึกราวกับชามของเขานั้นเต็มแล้ว
เมื่อธีโอลืมตาขึ้น ไม่มีพวกมันนั้นเหลืออยู่เลย พวกมันนั้นได้ถูกกินไปหมดแล้ว
“เฮ้ นายจ้าง?”
“...ธีโอ?”
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนั้นต่างพากันอึ้ง
“เกิดอะไรขึ้นกัน? เธอยกมือซ้ายขึ้นจากนั้นพวกมันก็ถูกดูดเข้าไป…”
“ธีโอสอนฉันหน่อย! นายทำยังไง? มันมาจากเวทย์ดูดกลืนงั้นหรอ? หรือเป็นเวทมนต์ปิดผนึกที่นายแก้ไขเอง?”
โชคดีที่ซิลเวียและแรนดอล์ฟอยู่ด้านหลังของเขา ทำให้พวกเขาไม่เห็นรูที่อยู่บนฝ่ามือของเขาและลิ้นที่ยื่นออกมา และนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาแก้ตัวได้โดยการกล่าวว่านี่คือความสามารถของจี้ที่เขาดึงออกมา
อย่างไรก็ตามพื้นที่โดยรอบกลับสั่นสะเทือนก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา
“ว้า! เกิดอะไรขึ้น?”
“นี้มัน…!”
“มันกำลังกว้างขึ้น....?”
นี่เป็นการขยายตัวของมิติ!
ทันใดนั้นพื้นที่ที่ทั้งสามคนกำลังยืนอยู่ก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขาปรากฏตัวไปที่ห้องขนาดใหญ่ มีเพียงเนโครแมนเซอร์ที่เป็นเจ้าของดันเจี้ยนแห่งนี้เท่านั้นถึงทำเช่นนี้ได้
และข้างหน้าของพวกเขาได้มีประตูที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต
กึก-
ประตูห้องได้เปิดออกและมีคนที่สวมชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้น แทนที่เขาจะเดินออกมาเช่นคนปกติ เขากลับลอยอยู่ในอากาศและเคลื่อนที่อย่างช้าๆ
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากภายในชุดคลุมสีดำนั่น
[ดีจริงๆ...พวกเจ้าได้ทำลายผลงานอันสร้างสรรค์ของข้า]
เสียงที่ดังและน่ากลัวดังขั้น ร่างกายภายในเสื้อคลุมดูเหมือนจะไม่แข็งแรง แต่ทั้งสามคนต่างมองเห็นการไหลเวียนที่น่าขนลุกและพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมตัวเขาไว้
[พวกเจ้าสามารถฆ่าสัตว์เลี้ยงของข้าได้ แต่พวกเจ้าไม่สามารถที่จะฆ่าข้าได้ ถ้าพวกเจ้ามาเร็วกว่านี้หนึ่งวัน พวกเจ้าอาจจะหยุดข้าได้ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่พวกเจ้าจะได้รับก็คือความตาย!]
พลังเวทมนต์ได้ขยายตัวขึ้นเมื่อเสียงนั้นได้พุดจบ เสื้อคลุมสีดำกระพือไปตามแรงลมในที่สุดมันก็ไม่สามารถที่จะต้านท้านได้ ชุดคลุมไปปลิวออกไป ในที่สุดสิ่งที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมก็เผยออกมา จอมเวทย์ทั้งสองถึงกับหน้าซีดเซียวเมื่อได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายใต้ชุดคลุม
[จงมองดูภาพความตายของตัวเองซะ! ความยิ่งใหญ่ของผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตของมนุษย์ที่แสนต้อยต่ำ!]
มันโครงกระดูกที่ไม่มีเลือดเนื้อเหลืออยู่เลย และภายในหลุมกลวงๆที่ควรเป็นดวงตากลับกลายเป็นลูกไฟสีฟ้าเล็กๆ เวทมนต์แห่งความมืดได้หมุนวนอยู่รอบๆตัวมันเหมือนกับหมอก ขณะนั้นเหล่าซากศพที่เน่าเสียอยู่ในดินก็ได้ลุกขึ้นมา
นี่เป็นอันเดทระดับสูงที่ถูกสร้างจากจอมเวทย์ระดับภัยพิบัติ แม้กระทั่งหอคอยเวทมนต์ยังต้องสะพรึง ชื่อของมันคือ เอลเดอร์ลิช
มันแตกต่างจากลิชที่หลีกเลี่ยงความตายโดยการเก็บรักษาดวงวิญญาณของตนเอาไว้ จอมเวทย์ที่แยกดวงวิญญาณของตนออกจากร่างกายและผนึกมันเอาไว้ เอลเดอร์ลิชนั้นจะเป็นอมตะเว้นแต่แก่นชีวิตของมันจะถูกทำลาย
มอนสเตอร์ที่หอคอยเวทมนต์ได้กำหนดระดับความยากไว้ที่ระดับ 3 ได้ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มของธีโอดอร์
โครงกระดูกได้ลอยตัวอยู่ในอากาศเบื้องหน้าของกลุ่มธีโอดอร์และพูดว่า
[ในตอนแรกข้าต้องการที่จะฆ่าพวกเจ้าทุกคนและเปลี่ยนร่างกายของพวกเจ้าให้กลายเป็นข้ารับใช้ของข้า แต่....]
โครงกระดูกได้ชี้นิ้วไปที่ธีโอดอร์
[ร่ายกายของเจ้านั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ข้าจะนำตัวเจ้ามาทดลองแบบมีชีวิต!]