ตอนที่แล้วตอนที่ 47 การโต้กลับของทั้งสามคน 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 ไม่บอกชื่อตอนนะครับ

ตอนที่ 48 การโต้กลับของทั้งสาม 2


การรวมกันของทั้งสามคนทำให้ประสิทธิภาพการรบของพวกเขาสูงมาก เป็นกลยุทธ์การรบที่ใช้หนึ่งนักรบและสองจอมเวทย์

ฟึบ!

ประกายแสงจากดาบคู่ของแรนดอล์ฟได้เคลื่อนไหวไปมา เขาใช้ออร่าในการเคลื่อนที่ขณะที่ดาบของเขาตัดผ่านร่างกายของกูลล์ ดาบทั้งสองที่สะบัดไปมานั้นราวกับแส้ได้ฟันใส่กูลล์ไปหลายตัว ขณะนั้นได้มีออร์พุ่งเข้ามาโจมตีใส่แรนดอล์ฟ และก่อนที่แรนดอล์ฟจะโดนโจมตีโดยอันเดท เวทมนต์ก็ได้ถูกร่าย

 

“ทนต่อความหนาวเย็น”

“คลื่นแห่งความหนาวเย็น”

 

ธีโอได้ร่ายเวทย์ต้านทานให้กับแรนดอล์ฟ ก่อนที่ซิลเวียจะร่ายเวทย์

สิ่งมีชีวิตทุกตัวและอันเดทได้แข็งตัวจากความหนาวเย็น แต่แรนดอล์ฟนั้นมีความต้านทานต่อความหนาวเย็น ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวและทุบเหล่าอันเดทที่ถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว

แรนดอล์ฟเดาะลิ้นของเขาด้วยความชื่นชม มันน่าทึ่งมากนายจ้างของฉันและเด็กสาว กำลังใช้เวทมนต์ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของฉัน ฉันเดาว่ามันไม่ใช่แค่การพูดคุยนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงวางแผนที่จะโจมตีกลับ

แม้ว่าการรวมกันของทั้งสามคนจะดี แต่ทว่ามันก็จะไม่มีประโยชน์ถ้าเขาขัดแข้งขัดขากัน พวกเขาต้องทำงานกันเป็นทีม

ดังนั้นแรนดอล์ฟจึงชื่นชมในตัวของธีโอดอร์และซิลเวีย

 

“แรนดอล์ฟกกระโดด!”

เขาทำตามคำสั่งทันทีโดยไม่ลังเล

“คมมีดสายลม!”

 

พร้อมๆกันได้เกิดคมมีดสายลมขึ้นใต้รองเท้าของแรนดอล์ฟขณะที่เขากระโดดขึ้น มันรวดเร็วกว่าคมมีดสายลมอื่นๆและยังมีความคมที่เท่ากัน ! ข้อเท้าของอันเดทตัวนั้นถูกตัดขาดทันทีและล้มลงไป จากนั้นแรนดอล์ฟก็ฟาดดาบตัดคอของมันทันที

การเคลื่อนไหวของทั้งสามที่เข้าขากันได้เป็นต่อไปเรื่อยๆ พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าอันเดท

 

“ฟู่ๆ....ให้ฉันได้พักหายใจสักครู่” ธีโอดอร์สูดหายใจอย่างแรงและมองไปที่แรนดอล์ฟ

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าแรนดอล์ฟจะต้องต่อสู้ระยะประชิดอย่างต่อเนื่องและวิ่งมาโดยไม่พักผ่อน การหายใจของเขานั้นยังคงสงบ เป็นหลักฐานว่าเขายังคงมีพลังงานเหลือเฟือ

‘ฉันรู้สึกมันใจกว่าเดิมเมื่อมีใครบางคนที่ทรงพลังเช่นแรนดอล์ฟอยู่ข้างๆ’

เช่นเดียวกันกับ แรนดอล์ฟที่ชื่นชมในทักษะของธีโอดอร์ ธีโอดอร์ก็ประหลาดใจเช่นกันในความสามารถของเขา ทักษะทางด้านดาบของเขาแม้แต่ออร์คกูลล์ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้

ธีโอรู้สึกโล่งใจที่เขาเป็นพันธมิตร แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นที่ต้องพัฒนาการต่อสู้ในระยะประชิดของตน ถ้าธีโอดอร์ต้องต่อสู้กับแรนดอล์ฟ ภายในสิบวินาทีเขาจะพ่ายแพ้ มันมีวิธีในการต่อสู้ระยะประชิดโดยใช้เวทมนต์ เช่นเดียวกับเทคนิคของซิลเวียและบลันเดลล์ เมื่อธีโอเสร็จงานนี้แล้วเขาจะฝึกฝนมัน

 

เมื่อธีโอคิดเสร็จแล้ว เขาก็มองไปรอบๆ“ซิลเวีย พลังเวทย์ของเธอเป็นยังไงบ้าง?”

"เหลืออยู่ประมาณ80%? ยังคงเหลือเยอะ”

“แรนดอล์ฟ”

“ฉันก็เหมือนกัน ฉันสามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆ”

ธีโอดอร์ยืนยันสภาพของพวกเขาและมองไปที่เส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยความมืดอีกครั้ง พวกเขาถูกโจมตีมามครั้งแล้วและมีกูลล์มากกว่า100ตัว มีเพียงความเงียบในความมืดมิดนั่น ถ้าเขาไม่รับเดินทางดูเหมือนว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่อาจจะควบคุมได้ในความมืดมิด

“...งั้นไปกันต่อเถอะ”

 

เมื่อบอลแสงทั้งสองด้วยได้เคลื่อนที่นำไปข้างหน้า ธีโอดอร์ก็ได้เริ่มเดินเข้าสู่ความมืดอีกครั้ง

***

พวกเขาเดินอยู่ในความมืดนี้นานเท่าไรแล้ว?

ธีโอดอร์รู้สึกสับสนและหยุดเดินชั่วขณะ ตามสิ่งที่เขาอ่านในรายงานความลึกของถ้ำมีเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาควรจะถึงจุดสิ้นสุดของถ้ำได้แล้ว

อย่างไรก็ตามเส้นทางของพวกเขายังไม่สิ้นสุด ฉะนั้นจึงมีหนึ่งสมมติฐานที่เป็นไปได้เกิดขึ้นในความคิดของธีโอ

 

“แรนดอล์ฟ”

“หะ?”

“ทำลายกำแพงถ้ำด้วยดาบของคุณ ถ้าเป็นไปได้ ช่วยใช้ออร่าของคุณด้วย”

“....ฉันจะลองดู” แรนดอล์ฟรู้สึกงุนงง แต่ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของธีโอโดยไม่ถามสักคำ

 

เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขากับธีโอ เขารู้ว่าธีโอไม่เคยพูดอะไรออกมาโดยไม่มีเหตุผล แรนดอล์ฟวางมือลงบนด้ามดาบทางซ้ายมือและจับมันไว้และเล็งไปที่เป้าหมาย

เขาชักดาบออกมาด้วยความเร็ว เกิดแสงสีน้ำเงินฟาดเข้าใส่กำแพงถ้ำและกำแพงได้แตกออก กำแพงธรรมดานั้นไม่สามารถหยุดคลื่นออร่าได้ แต่ทว่าดวงตาของแรนดอล์ฟกลับเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก “ไม่...?”

กำแพงที่แตกออก ได้ถูกสร้างใหม่อย่างรวดเร็ว!

ในฐานะที่เขาเป็นนักดาบมาตั้งแต่เกิด แรนดอล์ฟไม่ทราบว่ามันคืออะไร แต่ใบหน้าของ ธีโอดอร์และซิลเวีย ได้กลายเป็นบิดเบี้ยวเมื่อเข้าใจถึงสถานการณ์ พลังเวทย์อันแสนมืดมิดได้หลุดออกมาจากกำแพงเช่นเดียวกับที่ออกมาจากสิ่งมีชีวิต ทั้งสองคนพึมพำเกือบจะพร้อมกัน

“ดันเจี้ยน…”

มันเป็นพลังเวทย์ที่แสนทรงพลังของจอมเวทย์แห่งความมืดขั้น6 ที่จะทำให้สถานที่ที่ผู้ใช้กำหนดนั้นเปลี่ยนไป

เวลาและทรัพยากรจะถูกกลืนกินไปเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเวทย์นี้เสร็จสมบูรณ์ มันจะสร้างดันเจี้ยนที่มีพลังอย่างมหาศาลขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเวทย์โบราณหรือเนโครแมนเซอร์ที่มาถึงระดับนี้ได้ นี้มันเข้าขั้นวิกฤตอย่างแท้จริงแล้ว

เนโครแมนเซอร์ได้เปลี่ยนถ้ำนี้ให้กลายเป็นดันเจี้ยนและเปลี่ยนโครงสร้างภายในของถ้ำนี้ ขณะนั้นเองก็ดี้มเสียงกรีดร้องดังไปทั่วถ้ำแห่งนี้

กร้าสสสส!

ความหนาวเย็นได้แล่นไปที่กระดูกสันหลังของธีโอดอร์ มันรุนแรงกว่าที่เคยเป็นสามถึงสี่เท่า พวกเขาต่างเรียกใช้พลังออร่าและพลังเวทย์ของมาโดยอัตโนมัติ  ขณะนั้นแหล่งที่มาของความหนาวเย็นนนี้ก็ได้ปรากฏตัว มันมีรูปร่างที่ปกคลุมไปด้วยความมืดและลอยอยู่ในอากาศ

 

“สเป็คเตอร์(ในdota2 อะครับ)?!”

“บ้าจริง ฉันไม่มีน้ำศักดิ์สิทธ์…!”

 

ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยความมืดมิดไม่เหมือนกับอันเดท สเป็คเตอร์นั้นไม่มีร่างกายที่จับต้องได้ พวกมันจะโจมตีโดยการขโมยร่างกายหรือดูดพลังชีวิตออกจากร่างกาย

เนื่องจากพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรูปลักษณ์ของกลุ่มวิญญาณ การโจมตีทางกายภาพใช้กับพวกมันไม่ได้ผลต้องใช้เวทย์แสงศักดิ์สิทธื๋ถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด การใช้ดาบฟันมันก็เหมือนกับการโยนเป็นลงในกะทะ สำหรับแรนดอล์ฟแล้วพวกมันเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถชนะได้เลยเนื่องจากเขาไม่มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ติดตัวมา

ไม่นานหลังจากที่มันเห็นพวกเขา พวกมันก็พุ่งมาด้วยความรวดเร็ว

“ช่วยไม่ได้ มาลองกันก่อนเถอะ!”

แม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ แต่ถ้าแรนดอล์ฟนั้นถอยหลังจอมเวทย์ทั้งสองจะตกอยู่ในอันตราย การอยู่ในแนวหน้านั้นหมายถึงการสกัดกั้นการโจมตีของศัตรูเอาไว้ราวกับกำแพง พลังออร่าปกคลุมไปทั่วดาบของแรนดอล์ฟ เขาจะหยุดพวกมันเอาไว้แม้ว่าเขาจะต้องใช้พลังออร่ามากแค่ไหนก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม เขาได้รับคำสั่งที่ทำให้เขาถึงกับตกใจ

“แรนดอล์ฟมาหลบหลังฉัน!”

“อะไรนะ?”

“เร็วเข้า!”

“…บ้าเอ้ย เข้าใจแล้ว!”

 

เขารู้สึกงง แต่ธีโอนั้นไม่ได้ล้อเล่น เขารีบถอยไปด้านหลังทันที เมื่อเขาถอยไปแล้วธีโอดอร์ก็ได้ก้าวไปข้างหน้าโดยปราศจากความกลัว

กรี้สสสส! กรี้สสส!

ทำไมธีโอถึงไม่รู้สึกกลัวพวกมัน? เหล่าวิญญาณต่างขณะที่บินไปที่ธีโอ มันตั้งใจที่จะพุ่งเข้าใส่และดูดพลังชีวิตจากร่างกายของธีโอ

ขณะที่ซิลเวียและแรนดอล์ฟต่างเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเพื่อเตรียมพร้อมที่จะกระโดดเข้ามาช่วยเหลือ พวกมันก็ได้ประชิดเข้าถึงตัวของธีโอ

-กินทุกอย่างที่ขวางหน้า...

นี่ไม่ใช่เสียงของเขา มันเป็นสัญชาตญาณของความตะกละที่กำลังนอนอยู่ในมือซ้ายของเขา ความหิวที่ไม่ทราบสาเหตุนี้แหละคือเหตุผลว่าทำไมธีโอดอร์จึงหัวเราะออกมาและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

เขารู้สึกได้ว่าลิ้นของความตะกละได้โผล่ออกมาจากรูบนฝ่ามือซ้ายของเขา มีคำกล่าวไว้ว่า ‘ไม่มีนักล่าที่กลัวอาหารของมัน’

จากนั้นมันก็เริ่มกินอาหาร

กร้าสสสสส!

เมื่อเจอกับนักล่าที่แท้จริง เหล่าสเป็คเตอร์ต่างสูญเสียความบ้าคลั่งพวกมันรู้สึกเคียดแค้นและหมดหวังที่จะหลบหนี ความตะกละนั้นได้จับพวกมันเอาไว้หมดแล้ว เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สยองขวัญ และความกลัว กระจายไปทั่ว เมื่อเหล่าสเป็คเตอร์ ได้ถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือซ้านของเขา พวกมันแตกต่างจากอันเดท สเป็คเตอร์นั้นเกิดมาพร้อมกับเวทย์แห่งความมืดและร่างกายของพวกมันนั้นคือเวทมนต์ ดังนั้นความตะกละจึงเห็นพวกมันเป็นอาหาร

 

[วิญญาณของก๊อบลินชาแมนได้ถูกกินแล้ว]

[วิญญาณของออร์คนักรบได้ถูกกินแล้ว]

[วิญญาณของโทรลล์ได้ถูกกินแล้ว]

[……]

[ผู้ใช้นั้นยังไม่ได้ปลดล็อคความสามารถ]

 

มันแตกต่างจากการกินอุปกรณ์เวทย์หรือหนังสือเวทย์ แต่ธีโอนั้นรู้สึกราวกับชามของเขานั้นเต็มแล้ว

เมื่อธีโอลืมตาขึ้น ไม่มีพวกมันนั้นเหลืออยู่เลย พวกมันนั้นได้ถูกกินไปหมดแล้ว

 

“เฮ้ นายจ้าง?”

“...ธีโอ?”

อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนั้นต่างพากันอึ้ง

 

“เกิดอะไรขึ้นกัน? เธอยกมือซ้ายขึ้นจากนั้นพวกมันก็ถูกดูดเข้าไป…”

“ธีโอสอนฉันหน่อย! นายทำยังไง? มันมาจากเวทย์ดูดกลืนงั้นหรอ? หรือเป็นเวทมนต์ปิดผนึกที่นายแก้ไขเอง?”

 

โชคดีที่ซิลเวียและแรนดอล์ฟอยู่ด้านหลังของเขา ทำให้พวกเขาไม่เห็นรูที่อยู่บนฝ่ามือของเขาและลิ้นที่ยื่นออกมา และนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาแก้ตัวได้โดยการกล่าวว่านี่คือความสามารถของจี้ที่เขาดึงออกมา

อย่างไรก็ตามพื้นที่โดยรอบกลับสั่นสะเทือนก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา

 

“ว้า! เกิดอะไรขึ้น?”

“นี้มัน…!”

“มันกำลังกว้างขึ้น....?”

 

นี่เป็นการขยายตัวของมิติ!

ทันใดนั้นพื้นที่ที่ทั้งสามคนกำลังยืนอยู่ก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขาปรากฏตัวไปที่ห้องขนาดใหญ่ มีเพียงเนโครแมนเซอร์ที่เป็นเจ้าของดันเจี้ยนแห่งนี้เท่านั้นถึงทำเช่นนี้ได้

และข้างหน้าของพวกเขาได้มีประตูที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต

กึก-

ประตูห้องได้เปิดออกและมีคนที่สวมชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้น แทนที่เขาจะเดินออกมาเช่นคนปกติ เขากลับลอยอยู่ในอากาศและเคลื่อนที่อย่างช้าๆ

จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากภายในชุดคลุมสีดำนั่น

[ดีจริงๆ...พวกเจ้าได้ทำลายผลงานอันสร้างสรรค์ของข้า]

เสียงที่ดังและน่ากลัวดังขั้น ร่างกายภายในเสื้อคลุมดูเหมือนจะไม่แข็งแรง แต่ทั้งสามคนต่างมองเห็นการไหลเวียนที่น่าขนลุกและพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมตัวเขาไว้

[พวกเจ้าสามารถฆ่าสัตว์เลี้ยงของข้าได้ แต่พวกเจ้าไม่สามารถที่จะฆ่าข้าได้ ถ้าพวกเจ้ามาเร็วกว่านี้หนึ่งวัน พวกเจ้าอาจจะหยุดข้าได้ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่พวกเจ้าจะได้รับก็คือความตาย!]

พลังเวทมนต์ได้ขยายตัวขึ้นเมื่อเสียงนั้นได้พุดจบ เสื้อคลุมสีดำกระพือไปตามแรงลมในที่สุดมันก็ไม่สามารถที่จะต้านท้านได้ ชุดคลุมไปปลิวออกไป ในที่สุดสิ่งที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมก็เผยออกมา จอมเวทย์ทั้งสองถึงกับหน้าซีดเซียวเมื่อได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายใต้ชุดคลุม

[จงมองดูภาพความตายของตัวเองซะ! ความยิ่งใหญ่ของผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตของมนุษย์ที่แสนต้อยต่ำ!]

มันโครงกระดูกที่ไม่มีเลือดเนื้อเหลืออยู่เลย และภายในหลุมกลวงๆที่ควรเป็นดวงตากลับกลายเป็นลูกไฟสีฟ้าเล็กๆ เวทมนต์แห่งความมืดได้หมุนวนอยู่รอบๆตัวมันเหมือนกับหมอก ขณะนั้นเหล่าซากศพที่เน่าเสียอยู่ในดินก็ได้ลุกขึ้นมา

นี่เป็นอันเดทระดับสูงที่ถูกสร้างจากจอมเวทย์ระดับภัยพิบัติ แม้กระทั่งหอคอยเวทมนต์ยังต้องสะพรึง ชื่อของมันคือ เอลเดอร์ลิช

มันแตกต่างจากลิชที่หลีกเลี่ยงความตายโดยการเก็บรักษาดวงวิญญาณของตนเอาไว้ จอมเวทย์ที่แยกดวงวิญญาณของตนออกจากร่างกายและผนึกมันเอาไว้ เอลเดอร์ลิชนั้นจะเป็นอมตะเว้นแต่แก่นชีวิตของมันจะถูกทำลาย

มอนสเตอร์ที่หอคอยเวทมนต์ได้กำหนดระดับความยากไว้ที่ระดับ 3 ได้ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มของธีโอดอร์

โครงกระดูกได้ลอยตัวอยู่ในอากาศเบื้องหน้าของกลุ่มธีโอดอร์และพูดว่า

[ในตอนแรกข้าต้องการที่จะฆ่าพวกเจ้าทุกคนและเปลี่ยนร่างกายของพวกเจ้าให้กลายเป็นข้ารับใช้ของข้า แต่....]

โครงกระดูกได้ชี้นิ้วไปที่ธีโอดอร์

[ร่ายกายของเจ้านั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ข้าจะนำตัวเจ้ามาทดลองแบบมีชีวิต!]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด