ตอนที่ 148 – ทหารออกโรง
ตอนที่ 148 – ทหารออกโรง
“บุกเข้าไปเลย! พวกมันไม่มีพลังเหลือแล้ว!”
“สังหารพวกมัน”
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
เกิดเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งมาจากบนถนน ยามเมื่อเหล่านักสู้ต่างปรากฏขึ้นมาที่ปลายทาง ทุกคนที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ก็ตกตะลึง
ช่างเป็นคำสั่งที่บ้าคลั่งนัก!
ทุกคนตกใจกับฉากเบื้่องหน้าสายตาพวกเขา และตกใจกับคำสั่งของกู่อันสงและผู้อาวุโสสูงสุดเช่นเดียวกัน ถังเทียนและหลิงซูเพิ่งจะสังหารพี่น้องฮวาซื่อไปในการต่อสู้เมื่อครู่นี้ พวกเขาทั้งสองบรรลุไปยังห้าสิบอันดับแรกของดาวเฟยหลินแล้ว ทั้งสองตระกูลต่างพุ่งเข้าโ๗มตี พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวว่าถังเทียนและเทียนซูจะพลิกกระดานกลับมาชนะพวกเขาเลยหรือ?
ตราบเท่าที่หนึ่งในพวกถังเทียนฟื้นขึ้น พวกเขาจะต้องจบสิ้นแน่
ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมทั้งสองคนที่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
เหล่านักสู้ระดมพลวิ่งและพุ่งเข้าไปยังตำแหน่งที่กู่เสวี่ยและพรรคพวก พื้นดินเกิดเสียงครึกโครมทั่วทั้งเมืองภูเขาทมิฬสั่น
ความเร็วของต้าเหวยรวดเร็วมาก เขาและผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอยู่กองหน้า พวกเขาราวกับหัวหอกของกลุ่มทัพ เสียงลมหวีดหวิวกรีดมาภายในหูพวกเขา แต่ละคนใช้ออกวิชาตัวเบาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เหินข้ามกำแพงและเหยียบบนหลังคา เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง!
เงาแต่ละร่างราวกับศรที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ความกลัวของต้าเหวยได้สลายหายไปนานแล้ว เหตุเพราะกลุ่มคนที่บ้าคลั่งทำให้เขาดีขึ้น ใช่แล้ว! นี่มันเป็นเพียงโอกาสเดียวของพวกเขา! ทุกคนรอบๆเป็นดั่งอสูรร้าย เสียงคำรามของการต่อสู้สุดท้าย มารวมตัวกันเป็นพลังที่น่าอัศจรรย์
เขาเชื่อว่าพวกพลังนี้มันสามารถที่จะฉีกได้ทุกสิ่งอย่าง!
การต่อสู้เพื่อชื่อเสียง นับเป็นเช่นไร? สามารถที่จะสังหารพี่น้องฮวาซื่อได้ นับเป็นเช่นไร? พวกเจ้ามิมีโอกาสสัมผัสมัน!
ทันใดนั้น ร่างทองแดงก็ปรากฏขึ้นมาภายในสายตาของเขา
นี่มัน...
ม่านตาของเขาหดลงทันที ศาสตราวุธเครื่องกลไก!
แม้ว่ามันจะเป็นคราแรกของเขาก็เห็นสิ่งของเช่นนี้ แต่เขายังคงสามารถจดจำมันได้ในคราเดียว เกราะพยัคฆ์เขี้ยวดาบสูง 2 เมตรเบื้องหน้าสายตาเขา มันคือศาสตราวุธเครื่องกลไกในตำนาน!
นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกงั้นหรือ?
ต้าเหว่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มันเป็นได้หรือที่จะมีนักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางผู้คน? ต้าเหว่ยเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร สำหรับนักสู้เช่นเขา เครื่องกลไกทุกชนิดมันเป็นศัตรูโดยกำเนิดของเขา มันมีการค้นคว้าอยู่ในที่แห่งนี้ แต่มันยังถือว่าด้อยอยู่มาก ศาสตราวุธเครื่องกลไกเบื้องหน้าสายตาของเขา เขาจดจำมันได้ทันทีว่ามันคือสิ่งของของกองทัพกางเขนใต้
มันจะต้องใช่แน่นอน! มันเหมือนจริงอย่างยิ่ง!
พยัคฆ์ที่สง่างามดุดัน ข้อต่อที่เต็มไปด้วยมุดหนาม กรงเล็บพยัคฆ์ที่คมกริบ…
แม้ว่าพวกเขาจะยังอยู่ห่างไกล เขาก็ยังคงรู้สึกตื่นตะลึง เกี่ยวกับโครงสร้างและร่างของมันรวมทั้งรูปแบบที่ซับซ้อน มันช่างดูสมจริงยิ่ง เขาเคยเห็นการดัดแปลงมากมาย แต่มิเคยพบเห็นของดั้งเดิมที่อยู่เบื้องหน้าสายตาตอนนี้เขามาก่อนเลย
อย่างไรก็ตาม ต้าเหว่ยไม่ได้ตกใจมาก มาตรฐานของช่างมันอยู่ที่มาตรฐานของเครื่องศาสตราวุธเครื่องกลไก และมาตรฐานของศาสตราวุธเครื่องกลไกมันก็อยู่ที่นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไก มาตรฐานของนายช่างปัจจุบันนี้มันเป็นเพียงสามัญ และนักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกก็ยิ่งไม่เป็นที่นิยม ดังนั้นความสามารถจะเป็นเช่นไรก็คงจะพอคิดออก
“หงกวง ข้าจะให้เจ้าจัดการนักสูศาสตราวุธเครื่องกลไก! คนที่เหลือคอยคุ้มกันเขา!” ต้าเหว่ยเอ่ยปากขึ้น แม้ว่าความสามารถคู่ต่อสู้ไม่ควรจะสูงนัก แต่ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง ต้องรีบจัดการให้จบอย่างรวดเร็ว
“ได้!” บุรุษหยาบกร้านคนหนึ่งกล่าวตอบ ภายในมือของเขาถือไว้ด้วยค้อนขนาดยาว นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกส่วนมากจะเกรงกลัวการกลุ้มรุม เนื่องจากศาสตราวุธเครื่องกลไกมันไม่มีความทนทานมากพอ
ระยะห่างพวกเขาทั้งสองเริ่มเข้าใกล้เรื่อยๆ
นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกยังคงยืนอยู่นิ่ง ไร้อารมณ์ มันทำให้ต้าเหว่ยรู้สึกสงสัย หรือว่ามันคิดว่ากำลังโอ้อวดอยู่งั้นหรือ?
แต่หลังจากนั้นเขาก็มิได้ลังเลใจพลางตะโกน “ทุกคนบุกได้!”
นักสู้มากมายที่รายล้อมพลางกระโดดเป็นรูปโค้งพุ่งเข้าไปหานักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกจากทุกทิศทาง
ประกายแสงอันเย็นเยียบสว่างภายในท้องฟ้า เสียงคำรามดังลั่นไปทั่วทุกแห่งหน มันราวกับเขาตกอยู่ในตาข่าย นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกหมดหนทางหนีแล้ว!
ทันใดนั้น นักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกที่ยืนอยู่พลันเงยหน้าขึ้น
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ทหารมองไปยังร่างที่พุ่งเข้ามา เขามิได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่นิด แทนที่เขากลับรู้สึกงุนงง
เป็นเวลาเพียงใดแล้วที่เขาไม่ได้ต่อสู้?
เขาไม่สามารถจดจำมันได้และไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อใด ผู้นำเห็นถึงความสามารถค่อนข้างดีและจากนั้นก็ส่งตัวเขาไปเป็นครูฝึกสอน โอ้ไม่นะ นั่นเป็นช่วงเวลาที่สาหัสอย่างยิ่ง มันไม่มีทหารที่มีประสิทธิภาพเพียงพอเลย ผู้นำจึงคิดว่ามันจำเป็นจะต้องเปิดค่ายเกณฑ์ทหารขึ้น หลังจากเหล่าพวกตัวบัดซบมันจะได้มีความตั้งใจขึ้น และจากนั้น ทหารก็กลายมาเป็นครูฝึกสอนภายในค่ายเกณฑ์ทหาร
และตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่ได้ลงมือต่อสู้อีกเลย
เหล่าตัวบัดซบมักโอ้อวดอยู่เสมอ ชอบให้เขาหลบซ่อนอยู่ด้านหลังอย่างปลอดภัย และถึงเรื่องเบื้องหน้าให้พวกเขาจัดการ แรกเริ่มเขายังคงกังวล เหล่าพวกบัดซบมันเชื่อถือไม่ได้ แต่จากนั้นเขาก็ได้รับรู้ พวกเขาค่อนข้างทำได้ดี ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสบายใจและคัดเลือกอย่างยินดี
เขากลับกลายเป็นเก่งกาจมากยิ่งขึ้น ทุกคนต่างชื่นชมเขา หลังจากที่ค่ายเพิ่มครูฝึกสอน เขาก็กลายเป็นหัวหน้าครูฝึกสอน
แต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่ต้องต่อสู่...เขามิเคยลืมเลือนมันไปเลย!
ช่วงเวลาที่เขาได้ติดตามผู้นำและต่อสู้ไปทั่ว เขามิเคยลืมเลือน!
เขามิคาดคิดเลยว่าหลังจากที่ผ่านมาหลายปี เขาจะต้องลงมือต่อสู้อีกครั้ง… อื้ม เอาล่ะ...มันก็แค่การต่อสู้กระจอกๆ… แต่ว่ามันก็นับว่าเป็นการต่อสู้อยู่เช่นกัน….
หากผู้นำและพวกบัดซบที่เหลือยังอยู่ มันจะน่ายินดีเพียงใดกัน… อืม พวกเจาคงจะพนันกันว่าใครจะเป็นผู้ที่จะได้ออกไปต่อสู้คนแรก ใช่แล้ว มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่!
มุมปากของทหารยกยิ้มอย่างอบอุ่นโดยไม่รู้ตัว
เหล่าศัตรูที่กระโจนเข้ามาอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาเขา มันต่างราวกับเป็นอากาศ
ผู้นำข้าจะสู้ให้เต็มที่ จะไม่ยอมให้กองทัพของพวกเราต้องอับอาย!
แม้ว่าพวกเจ้ามิอาจได้รับรู้ แม้ว่าธงของกองทัพจะมิได้ปลิวไสวบนท้องฟ้าอีกต่อไปแล้ว แม้ว่ามันจะไม่มีป้องกันอะไรอีกแล้ว แม้ว่าความรุ่งเรืองที่พวกเราได้สร้างเอาไว้มันจะถูกทำลายเป็นเพียงอดีต...
แม้กระทั่งนามของกองทัพกางเขนใต้ก็ค่อยๆถูกลืมเลือน มันช่างน่าเศร้านัก...
มันมีเพียงข้าที่เหลือรอดอยู่...
ถ้างั้นให้ข้าได้ปกป้องความรุ่งเรือง ให้ข้าได้จัดการกับนามที่ถูกฝุ่นจับเกาะเป็นเวลาถึงหนึ่งพันปี!
ให้ข้าได้สะเทือนโลกหล้าให้ได้สัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่า
ความกลัว!
กองทัพกางเขนใต้ บุก!
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
นัยน์ตาของพยัคฆ์เขี้ยวดาบคล้ายสว่างขึ้น ในใจต้าเหว่ยพลันหล่นวูบอย่างไม่รู้สาเหตุ เขาโพล่งออกไปอย่างไม่รู้ตัว “ระวัง!”
พยัคฆ์เขี้ยวดาบพลันหายไปทันที
และแทบจะในทันที มันก็ปรากฏอยู่ด้านข้างหงกวง
พรึบ
กรงเล็บของพยัคฆ์อันคมกริบพุ่งเข้ามาอย่างไร้สิ่งกีดขวางและแทงทะลุเข้าไปภายในหน้าอกของหงกวงจากนั้นพยัคฆ์เขี้ยวดาบก็พลันหายไปอีกครา!
ปราศจากการแจ้งเตือนใดๆ โลหิตพุ่งทะลักออกมาจากหน้าอกหงกวง
ผุด ผุด!
จากนั้นก็มีโลหิตพุ่งทะลักออกมาจากร่างอีกสองคน
ร่างทองแดงมันรวดเร็วจนไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า เพียงพริบตาเดียวผู้เชี่ยวชาญสามคนก็ถูกสังหาร พวกที่เหลือไม่แม้กระทั่งเห็นได้ว่าพวกเขาตายอย่างไร
ตุบ พยัคฆ์เขี้่ยวดาบร่างโตเหยียบพื้นอย่างนิ่มนวล ราวว่าเท้าของมันมีเบาะรองรับเอาไว้อยู่
ช่วงเวลาที่พยัคฆ์เขี้ยวดาบเหยียบลงบนพื้น ร่างทั้งสามก็ล้มลงบนพื้น ก่อให้เกิดฝุ่นดินและโลหิตสดๆกระจายไปทั่ว
สีหน้าต้าเหว่ยพลันซีดเผือด ทั้งสามที่ตายไปต่างเป็นสุดยอดจากทั้งสองตระกูล ฝ่ายตรงข้ามสามารถสังหารพวกเขาทั้งสามได้หมดภายในกระบวนท่าต่อเนื่องคราเดียว
เหตุใดถึงเก่งกาจเช่นนี้...แม้กระทั่งทหารของยุคสมัยกองทัพกางเขนใต้ ก็ยังไม่สามารถกระทำเช่นนี้ได้ใช่หรือไม่?
เมื่อใดกันที่มันมีนักสู้ศาสตราวุธเครื่องกลไกที่เก่งกาจเช่นนี้?
สหายผู้นี้...เขาเป็นใครกันแน่?
ช่างน่าเศร้า ทหารมิได้ให้พวกเขามีเวลาได้ขบคิด แทบจะในทันที พยัคฆ์เขี้ยวดาบก็หายไปอีกครา
ฟันศอก! หมัดตรง! ตีเข่า!
มันเป็นวิชาต่อสู้ที่เรียบง่าย ปราศจากความพิสดาร แต่มันน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ต้าเหว่ยเห็นนักสู้ที่ป้องกันหมัดจากพยัคฆ์เขี้ยวดาบได้อย่างชัดเจน แต่หมัดาทองแดงมันก็ยังสามารถหักทำลายแขนของนักสู้และทะลวงไปในร่างของเขา!
ในขณะนี้สีหน้าของต้าเหว่ยปราศจากร่องรอยของโลหิต
ด้วยฉากเช่นนี้ มันมิใช่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง
พยัคฆ์เขี้ยวดาบมันราวกับเครื่องจักรสังหารที่ไร้ความรู้สึก มิมีผู้ใดเป็นคู่มือมันได้ ทุกคราที่พวกเขาโจมตีกลับ พวกเขาจะสูญเสียชีวิตทันที มิว่าจะหลบซ่อนหรือปัดป้อง ต่อหน้าพยัคฆ์เขี้ยวดาบตัวนี้ ทุกสิ่งมันดูไร้ประโยชน์ เขาสังหารชีวิตอย่างเลือดเย็นและมิมีผู้ใดรับการโจมตีของเขาได้
แทบจะในพริบตาเดียว เหล่านักสู้ที่โจมตีเมื่อครู่นี้ต่างเหลือรอดเพียงเขาแค่คนเดียว
แขนและขาของต้าเหว่ยหนาวสั่นไปหมด เขาตัวสั่นงกๆด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว เขามิมีความกล้าพอที่จะต่อต้านหรือโจมตีกลับ
รายต่อไปคงจะเป็นเขาสินะ...
ครืน!
เสียงคำรามและร้องตะโกนมากมายเกิดขึ้นทันทีที่ร่างอันน่าหวาดหวั่นของพยัค์เขี้ยวดาบปรากฏตัวขึ้น เสียงมากมายที่ร้องตะโกนคำรามมันทำให้สีหน้าของต้าเหว่ยกลายเป็นซีดขาว
มิว่าฝ่ายตรงข้ามจะเก่งกาจเพียงใด แต่เขาก็มีเพียงแค่คนเดียวเอง!
เพียงคนเดียว มิใช่จะเก่งกาจเพียงใด จะต้องไม่สามารถรับมือกับคนจำนวนมากมายได้แน่….
ตราบเท่าที่เขาพลิกกลับมาได้...มันจะต้องเอาชัยชนะได้!
ทันใดนั้น ต้าเหว่ยพลันตกตะลึง ภายในสายตาของเขา พยัคฆ์เขี้ยวดาบมิได้หลบหนีไปไหน เขามิมีได้หลบหลีก แต่กลับหมอบคลานและเผชิญหน้ากับกลุ่มคน ด้วยแขนทองแดงที่เหยียดออกกว่างราวกับกำลังสยายปีก
เขา...คิดจะทำอะไรกัน?
ความคิดน่าขบขันพลันพุ่งมาภายในใจเข้า หรือว่าเขาต้องการที่จะขัดขวางทุกคนเพียงลำพังจริง?
ฮ่าฮ่า เป็นไปไม่ได้หรอก แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้!
ต้าเหว่ยรู้สึกว่าความคิดของเขาเองน่าขบขันไปแล้ว คล้ายกับว่าเขาหวาดกลัวจนสมองเลอะเลือนสาเหตุจากสหายผู้นี้
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“เอ้าทหาร พื้นที่นี้ ฉันปล่อยให้เป็นหน้าที่นายนะ”
“เอ๊ะ ท่านผู้นำ มีเพียงแค่ข้าคนเดียวหรือ?”
“มันไม่มีทางเลือกแล้ว พวกเราบาดเจ็บล้มตายกันมากเกินไป อย่าได้กังวล พื้นที่นี้ของเจ้าจะไม่ตกเป็นเป้าหมาย เจ้าเพียงแค่อดทนสักยี่สิบนาทีเท่านั้น และข้าจะกลับมา ว่ายังไง? ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะให้คนอื่นทำหน้าที่แทน”
“ข้าจะพยายาม...”
“ผายลมอันใด ถ้าสุดท้ายแล้วเจ้าตายตก พวกเราจะจูดธูปให้”
“ผู้นำ ธูปมันราคาแพงอย่างยิ่ง กองทัพของเราในตอนนี้ยากจนมากนัก...”
……
ความวุ่นวายและแนวป้องกันที่พังทลาย กลุ่มควันมากมาย และตัวเขาที่ปางตายภายใต้ศาสตราวุธเครื่องกลไกที่พังจนจำรูปร่างไม่ได้…
จู่ๆ ความทรงจำพลันท่วมท้นภายในหัวของทหาร นั่นมันคือการต่อสู้สุดท้ายของเขา หลังจากการต่อสู้นั้น เขาก็เดินทางไปสร้างค่ายทหารเกณฑ์อันใหม่
มันดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น….
มุมปากของทหารยกโค้งขึ้นเล็กน้อย เอวของเขาย่อลง หมอบคลานเล็กน้อย ร่างของเขาเอียงไปด้านหลัง แขนทั้งสองเหยียดออกราวกับปีก
มันเป็นเวลานานมากเหลือเกินที่ล่าสุดข้าใช้วิชานี้… มิรู้เลยว่าข้าจะยังคงใช้ออกได้ดีหรือไม่…
ผู้นำ ถ้าหากมันไม่ถูกต้อง อย่าได้ตำหนิข้าเลย...
หลังจากที่ยกยิ้มขึ้น ท่าทางของทหารก็กลับกลายเป็นเย็นชา และพุ่งออกไปทันที
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ