ตอนที่ 7 เรื่องของโซฟี
"ตื่นได้เเล้วนอนสบายเลยนะเบอร์รินเธอน่ะ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งปลุกฉันทำให้ฉันต้อนตื่นขึ้นมาในทันที
"เช้าเเล้วหรอทำไมถึงปลุกกันตั้งเเต่เช้าเลย"
ฉันมองหน้าไปหาเขาก็พบว่าคนที่ปลุกฉันนั้นก็คือเลย์
"มันเช้าตรงไหนนี่มันตอนกลางคืนเเล้วไม่ใช่ตอนเช้า ถ้าตอนเช้าใครจะตื่นขึ้นมาล่ะ อย่าลืมนะว่าพวกเราเป็นปีศาจตอนเช้าเขาไม่ตื่นกันหรอก"
ใช่สิลืมไปเลยว่าตอนนี้ฉะันเป็นปีศาจอยู่
"รีบไปอาบน้ำเสียเถอะ ฉันจะได้พาเธอไปทำหน้าที่ของเธอสักที"
ไล่ฉันตั้งเเต่เช้าเลยหรอเหอะๆ ฉันลุกขึ้นไปก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เเต่ในระหว่างที่ฉันกำลังอาบน้ำอยู่นั้น เขาก็ยังก่อกวนฉันอยู่ในห้องนอนนั่นเเหละ
"เธอนี่กินเยอะไม่เบาเลยนะ ดูของที่วางไว้บนโต๊ะนี่สิ ไม่เเปลกที่เธอจะอ้วนขนาดนี้ หึหึ"
มาว่าฉันเเบบนี้มันน่าด่าไหมระวังไว้เถอะอย่าให้มีโอกาสได้เเกล้งบ้าง เดี๋ยวจะได้รู้ว่าใครเเน่กว่ากัน
"ออกไปจากห้องของฉันสักทีสิ ฉันอาบน้ำเสร็จเเล้วฉันจะได้เเต่งตัว"
เสียงหัวเราะที่ปั่นปราสาทของฉันดังออกมาจากข้างนอกห้องน้ำ เเล้วก็มีเสียงประตูปิดดังหลังจากที่เสียงหัวเราะได้เงียบไป
"บ้าที่สุดเลยนายนั่น" เมื่อฉันอาบน้ำเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำมองดูในห้องก็ไม่มีใครอยู่ จากนั้นฉันก็เดินไปที่หน้าโต๊ะเครื่องสำอางเเล้วเริ่มเเต่งตัว เมื่อเเต่งตัวเสร็จฉันก็เดินออกไปข้างหน้าห้องเพื่อไปหาเลย์
"เเต่งตัวเสร็จเเล้วหรอ" ตกใจหมดเลยจะพูดก็พูดออกมา
"นายทำฉันตกใจหมดเลยนะอยู่ๆจะพูดขึ้นก็พูดขึ้นมาเลยอย่างนั้นหรอ เเล้วงานของนายที่จะให้ฉันทำมันคืออะไรบ้างล่ะบอกฉันหน่อยสิ"
เลย์เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะยื่นของสิ่งหนึ่งให้ นั่นก็คือไม้กวาด. . . เเล้วทำไมต้องเอาไม้กวาดมาให้ฉันด้วยล่ะ
"อย่างเเรกที่เธอควรที่จะทำเลยก็คือการเก็บกวาดห้องของตัวเองยังไงล่ะ ห้องเธอดูสกปรกมากมีเเต่ฝุ่นเต็มไปหมด เวลาฉันเข้ามาเเทบจะจามจะตลอดเวลา ห้องของเธอต้องสะอาดเป็นอันดับเเรกเข้าใจตรงกันนะ"
สกปรกตรงไหนไม่เห็นสกปรกเลยนี่นา ฉันหันไปดูที่ห้องของฉันอีกครั้ง เเต่มันกลับผิดเเปลกไป ห้องของฉันมันสกปรกมากไม่เหมือนกับวันที่ฉันมองวันนั้น
"นี่มันอะไรกันเนี่ย ???" ฉันมองหน้าของเลย์ในทันที รู้เลยว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่างเเน่ๆมันถึงเป็นเเบบนี้ได้
"เดี๋ยวสิฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เเต่มาคาโอเป็นคนทำ"
เลย์ชี้ไปข้างในของห้องก็พบกันผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังทำให้ห้องของฉันเละอยู่ในตอนนี้ เขาเห็นฉันหันไปหาเขาเขาจึงหยุดก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องมาหาเลย์ในทันที
"นี่นายกำลังทำอะไรอยู่เลย์ ฉันรู้นะว่านายนั่นเเหละสั่งให้เขาเป็นคนพังห้องของฉันเเบบนี้"
เขาทำเหมือนว่าไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เขาทำ
"เปล่านะฉันไม่ได้ทำเลยจริงๆใช่ไหมมาคาโอ" ยังมีหน้ามาโยนความผิดให้คนอื่นอีก
"จริงครับผมเป็นคนทำมันเองโดยไม่มีใครบอกกล่าวผมครับ"
นี่ก็ช่วยเจ้านายจริงๆเลย ฉันมองกลับไปที่ห้องของตัวเองอีกครั้ง ฉันต้องทำความสะอาดทั้งหมดนี่จริงๆใช่ไหม
"พวกนายนี่มันน่าเบื่อกันจริงๆเลยนะ งั้นฉันจะทำมันเองพวกนายจะไปทำอะไรกันก็ไปทำซะ"
ก่อนที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปในห้อง เลย์ก็เดินมาจับเเขนของฉันเอาไว้เสียก่อน
"เธอลืมอะไรบางอย่างไปน่ะ" เเล้วเขาก็ยื่นไม้ถูพื้นมาให้ฉัน ฉันรีบมาเเล้วฉันก็เดินเข้าไปในห้องก่อนจะปืดประตูอัดหน้าของเขา
"เดี๋ยวจะกลับมานะ ถ้าฉันกลับมาเเลว้ขอให้เธอทำความสะอาดห้องให้เสร็จก็เเล้วกัน"
เมื่อพวกเขาพากันเดินไปกันหมดเเล้ว ฉันก็เริ่มทำความสะอาดในทันที อย่างเเรกควรที่จะต้องทำความสะอาด เอ๋...หรือว่าฉันควรจะปรับเปลี่ยนห้องดีนะ ฉันควรจะตกเเต่งห้องให้มันดูสวยหรูกว่านี้หรือเปล่า ใช่สิมีปากกาอยู่นี่นา ฉันควรจะตกเเต่งห้องให้มีความสวยงามอย่างไรดีนะ. . . โอ๊คิดออกเเล้ว ฉันหยิบปากกาขึ้นมาเเล้วเริ่มมองไปทั่วๆห้องก่อนจะเริ่มวาดผนังเป็นรูปต่างๆพร้อมกับวาดพื้นลายไม้ตามเเบบที่ฉันชอบ ที่ทำเเบบนี้เพื่อที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของห้องๆนี้ จากที่มันดูธรรมดาๆจะต้องเป็นห้องโมเดิลทันสมัยที่หรูได้อย่างเเน่นอน (พ่อเป็นสถาปนิกออกเเบบ) มันก็เลยดูง่ายสำหรับฉันมากที่จะทำอะไรเเบบนี้ ใช้ระยะเวลาไม่นานมากนักฉันก็วาดรูปห้องของฉันเสร็จ เเล้วก็วางกระดาษเอาไว้ กระดาษเริ่มหมุนไปรอบๆตัวของฉันเเล้วก็หยุดนิ่งก่อนที่เเสงสีขาวจะกระจายตัวออกทำให้ฉันเเสบตาเเละมองไม่เห็นอะไรเลย ฉันจึงเอามือปิดตาของฉันเอาไว้ สักครู่เเสงเริ่มจางทำให้ฉันสามารถที่จะลืมตาขึ้นมาได้ เเต่เมื่อฉันลืมตาทุกอย่างเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปมากด้วยทำให้ฉันเเปลกใจเมื่อได้เห็นห้องที่หรูเเละดูเเพงขนาดนี้ ฉันเดินไปรอบๆห้องเเต่ทุกอย่างหายไปหมด อาจจะเป็นเพราะว่าฉันวาดเเต่ห้องไม่ได้วาดเฟอร์นิเจอร์ด้วย ของทุกอย่างจึงหายไปตามสิ่งที่ฉันวาด ฉันเริ่มวาดของต่างๆให้เข้าที่ ถึงมันจะไม่เหนื่อยเเต่ก็ใช้ความคิดเหมือนกันนะ ฉันพึงพอใจกับสิ่งที่ฉันทำมากเลยโตมาเป็นสถาปนิกตามคุณพ่อได้เเน่ๆ //กอก กอก// เสียงของใครบางคนที่เคาะประตูดังขึ้นมา ใครเคาะประตูกันนะถ้าเป็นเลย์คงจะเปิดประตูเดิมดุ่มๆเข้ามาเเทนมากกว่า ฉะนั้นฉันว่าไม่ใช่เลย์เเน่นอนถ้าไม่ใช่เขาเเล้วจะเป็นใครกันล่ะ ฉันเดินไปที่หน้าประตูก่อนที่จะเปิดประตูออก
"..."
"เธอเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้ได้ล่ะ ?? เดี๋ยวนะทำไมห้องมันเเปลกๆไป"
หึ๊ยผู้หญิงหน้าสุนัขนี่นาทำไมถึงมาอยู่เเถวนี้ได้กันล่ะ ฉันควรจะตอบเขายังไงดี. . .
"คือ. . .คือว่าฉันเป็นเเม่บ้านที่พึ่งมาใหม่น่ะ" ฉันคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อดีอะ T^T เธอจะรู้ไหมว่าฉันเป็นคนที่เธอบอกว่าจะต้มเเกงเนื้อฉันกิน
"อ๋อหรอว่าอยู่ทำไมดูไม่คุ้นเลย ยินดีที่ได้รู้จักนะฉันมีชื่อว่าโซฟี เเล้วเธอล่ะมีชื่อว่าอะไร ??"
ฉันมีชื่อว่าอะไรนะฉันลืมไปเลย ใช่สิมีนามบัตรอยู่นี่นา ฉันหยิบนามบัตรขึ้นมาก่อนจะเอามันมาดู เบอร์รินใช่สิเบอร์ริน
"ชื่อเบอร์ริน ยินดีที่ได้รู้จักเธอเหมือนกันนะโซฟี" โซฟีพยักหน้าให้กับฉันก่อนจะยิ้มให้ฉัน
"เเล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเบอร์ริน ที่นี่มันเขตหวงห้ามไม่ใช่หรือไง หรือว่าเธอ ???. . . เธอจะเป็นหัวขโมยมาขโมยของที่นี่"
บ้าเเล้วจะเป็นเเบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ เธอเริ่มถอยออกห่างจากตัวของฉัน เหมือนกับว่ากำลังกล่าวหาฉันว่าฉันเป็นหัวขโมยยังไงอย่างงั้นเลย
"หยุดได้เเล้วโซฟีหัวขโมยอะไรของเธอกัน ฉันเป็นคนให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ที่นี่เอง"
"นายท่าน!!" เลย์เดินมาหาฉันพร้อมกับมาคาโอ ส่วนโซฟีหลีกทางให้กับเลย์
"เเล้วเธอล่ะบอกเขาว่าที่นี่มันเขตหวงห้าม เธอจะเข้ามาทำไม ?? หรือว่าเธอเป็นหัวขโมยเสียเอง"
สิ่งที่เขาพูดทำให้โซฟีรีบส่ายหน้าในทันที
"ไม่ค่ะไม่ได้มาขโมยอะไรทั้งสิน พอดีว่าได้กลิ่นอะไรเเปลกๆเหมือนกลิ่นสาปของมนุษย์ ก็เลยลองมาเเถวนี้ดูไม่คิดว่าจะเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่น่ะค่ะ"
เลย์เหลือบมองมาที่ฉัน ก่อนจะหันกลับไปมองที่โซฟีอีกครั้ง
"จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ฉันสั่งเธอเอาไว้เเล้วไม่ใช่หรอว่าไม่ให้เธอทำตัวเเบบนี้อีก ไม่ให้ดมเหมือนเป็นสุนัขทำตัวให้เหมือนเป็นคนธรรมดาหน่อยสิ เอาล่ะเลิกพูดเเล้วกลับไปทำงานของเธอได้เเล้ว ส่วนผู้หญิงหน้าไก่คนนี้ฉันจัดการเอง"
เธอรีบตอบรับในทันทีก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่ เมื่อเลย์คิดว่าเธอออกไปจากที่นี่พอสมควรเเล้วเลย์ก็รีบจับฉันพาเดินเข้าไปในห้องเเล้วปิดประตูในทันที
"ถ้าเกิดโซฟีรู้ว่าเธอเป็นมุนษย์เขาเอาเธอตายเลยนะ ทำไมไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อย"
อะไรของเขามาว่าฉันคนเดียวก็ไม่ได้นะ ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนมาเคาะประตูห้องของฉันด้วยล่ะ //กริ้ง กริ้ง//เสียงเหมือนกระดิ่งดังขึ้นมา เเล้วมันคือเสียงอะไรกัน
"นี่มันถึงเวลาเเล้วหรอ . . . ไม่ได้เเล้วสิเธอต้องไปด้วยนะเพราะโซฟีเห็นเธอเเล้ว ถ้าเธอไม่ไปโซฟีต้องสงสัยเเน่เลย"
เลย์จับมือของฉันเเล้วพาฉันเดินออกไปข้างนอก เดี๋ยวนะจะให้ฉันเดินออกไปข้างนอกฉันทำไม่ได้หรอกนะ
"เดี๋ยวก่อนหยุดๆจะพาฉันไปที่ไหนกัน?"
ฉันรีบดึงมือตัวเองออกเพราะฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ไปทำอะไรยังไง
"ฉันจะพาเธอไปกินอาหารเที่ยงไง เสียงกระดิ่งมันบ่งบอกว่าตอนนี้มันเป็นเวลาอาหาร พวกคนใช้ทั้งหลายเเหล่จะพากันไปกูลกันอยู่ที่ห้องกินข้าว ฉะนั้นเธอจะต้องไปด้วย
ฉันต้องไปด้วย ?? ไม่น่าเปิดประตูให้โซฟีเลย ถ้าฉันไม่เปิดคงไม่ได้ไป ถ้าเกิดไปเเล้วปีศาจพวกนั้นรู้ว่าฉันเป็นคนเเล้วก็ คิดสภาพตัวเองไม่ออกว่าจะเอาตัวรอดยังไง
"ฉันไม่ไปไม่ได้หรอ ถ้าพวกนั้นรู้เข้าฉันจะทำยังไง"
เลย์ไม่ได้สนใจคำพูดของฉัน เขาพาฉันเดินไปที่ห้องกินข้าวโดยที่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี . . .
"เอาล่ะฟังฉันนะเดินเข้าไปต่อเเถวตามเขาไปเลย เเล้วก็รับอาหารมาอาหารที่พวกปีศาจกินจะกินเเบบที่พวกเรากินทั้งหมด วันนี้ฉันจะคอยดูเธอส่วนเธอก็เเค่ทำเหมือนคนธรรมดานี่เเหละ เดี๋ยวฉันเข้าไปดทีหลัง ฉันจะไปหามาคาโอก่อน"
ฉันพยักหน้าให้กับเลย์ อย่างไรก็ตามฉันไม่รู้ว่าฉันจะรอดออกไปหรืออเปล่า. . . เขาผลักฉันไปที่ห้องกินข้าวก่อนที่ทุกคนจะมองมาที่ฉัน . . . เเล้วเขาก็พากันเดินต่อเเถวกันต่อ ฉันเดินเข้าไปเเล้วพบกับโซฟี เมื่อเธอได้เห็นฉันก็เดินออกจากเเถวเเล้วมาหาฉันในทันที
"เบอร์รินหรอ. . .ขอโทษทีนะที่ตอนนั้นคิดว่าเธอเป็นหัวขโมย ฉันไม่ได้ตั้งใจหรอกเเต่ไม่คิดว่านายท่านจะให้เธอเข้าไปอยู่ในที่ต้องห้ามได้"
ฉันยิ้มให้กับโซฟีก่อนที่โซฟีจะจับมือของฉันเอาไว้
"งั้นเราไม่ต่อเเถวกันก่อนดีกว่า เเล้วค่อยคุยกันทีหลังเนอะ"
โซฟีพาฉันเดินไปต่อเเถวซึ่งเเถวก็เริ่มเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เเถวกำลังเคลื่อนที่อยู่ โซฟีก็หันมาหาฉัน
"ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม ฉันอยากจะรู้ว่าทำไมเธอถึงได้สิทธิพิเศษอยู่ที่เขตหวงห้ามได้ล่ะ??"
ซวยเเล้วสิไม่น่าเลยคำถามเเบบนี้เกิดขึ้นมาเสียได้
"คือว่า. . . ฉันมีหน้าที่ให้ทำความสะอาดที่นั่นน่ะ เลยต้องอยู่ที่นั่นเลย" คิดได้ไงคำตอบเเบบนี้ดีเเล้วที่คิดได้ ตอนเเรกเกือบคิดไม่ออกเเล้วว่าจะตอบเเบบไหนดี
"อ๋อเเบบนี้เองหรอ"
เธอหันหลังกลับไปเเล้วก็ยื่นมือไปหยิบจานข้าวเเล้วเดินไปนั่งในที่ๆว่าง ฉันก็เดินไปหยิบจานที่วางไว้เเล้วเดินไปนั่งข้างๆกับโซฟี พวกเราพากันกินข้าวกัน
“นี่โซฟีฉันอยากจะถามอะไรเธอหน่อย ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะ บอกฉันได้หรือป่าว”
เธอหยุดกินก่อนจะวางกระดูนั่นลง แล้วเอาผ้าเช็ดปากและมือของเธอ ก่อนที่เธอจะทำสีหน้าที่จริงจังใส่ฉัน
“คือว่า..เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ในตอนนั้นในวันที่ฉันพึ่งเกิด พ่อกับแม่ของฉันได้เล่าให้ข้าฟังว่า ในตอนที่คลอดฉันออกมา เป็นวันที่แม่ของฉันอยู่บ้านเพียงลำพังและไม่มีใครอยู่เลย ทำให้แม่ของฉันต้องคลอดฉันเองเพียงลำพัง เมื่อคลอดออกมาหน้าตาฉันกลับประหลาดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่พ่อกับแม่ของฉันก็เป็นเพียงมนุษย์เท่านั้นเอง พ่อกับแม่ของฉันยังเล่าว่าเขาต้องซ่อนฉันเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เพราะพวกท่านรู้ดีว่าถ้าผู้คนได้เห็นฉันเมื่อใด ฉันอาจจะโดนกล่าวหาได้ว่าฉันเป็นเพียงแม่มดที่ปีศาจนรกได้ส่งมาเกิด เขาจึงซ่อนฉันไว้แต่ในบ้านไม้ที่อยู่ไกลจากตัวเมืองกงจิ้น ใช่พ่อกับแม่ของฉันเคยอยู่กงจิ้นมาก่อนแต่ตอนนี้ย้ายไปในป่าน่ะฉันคิดว่าพวกท่านก็ยังอยู่ดีเหมือนเดิมนะจากนั้นฉันอยู่ได้ไม่นาน ในตอนที่ฉันเดินได้แล้วเป็นเด็กสาวแล้วฉันก็อยากจะออกไปข้างนอกบ้างอยากไปเจอโลกเจออะไรใหม่ๆ ฉันไม่ได้ฟังที่แม่กับพ่อของฉันพูด ฉันได้เดินออกไปเที่ยวเล่นในเมืองโดยโพกผ้าปิดปากและหัวของฉันเอาไว้ มัดหางเข้ากับตัวของตัวเอง ฉันคิดว่ามันอาจจะดีก็ได้ถ้าฉันได้ออกมาเที่ยวแบบนี้แทบทุกวัน แต่สุดท้ายวันใดวันหนึ่ง ฉันก็ต้องโดนจับ ฉันโดนจับจนได้พวกมนุษย์ในเมืองกงจิ้น ไม่สามารถยอมรับฉันได้เหมือนกับที่เธอได้โดน แต่แล้วฉันได้หลุดมาเขาจะฆ่าฉันโดยการปล่อยให้ฉันหิวตาย แขวนฉันไว้กับเสาร์ไม้ใหญ่ พ่อแม่ของฉันไม่สามารถช่วยฉันได้ และฉันก็ไม่อยากให้เขาช่วยเช่นกันเพราะถ้าเขาช่วยพวกเขาจะโดนไปด้วย ในตอนที่ฉันหลุดออกมานั้นฉันยังไม่รอดจากเงื้อมือของมนุษย์ในเมืองนั้นหรอกนะ แต่แล้วนายท่านก็ได้วาร์ปมาอยู่ตรงหน้าของฉันพวกมนุษย์ได้หยุดตามฉัน แล้วหันไปหานายท่านแทนพวกมันคิดจะโจมตีนายท่านโดยการใช้ไม้ใช่ดาบใช้หินปาใส่บ้างแต่นายท่านไม่คิดที่จะตอบโต้เลยแม้แต่นิดเดียว นายท่านได้บอกให้คนในเมืองไปเรียกท่านเจ้าทั้งสามคนนั้น ไอ้เลวนั่นที่ทรมานฉันไอ้พวกนั้นนั่นแหละที่จับฉันมาทำแบบนี้ เมื่อนายท่านเดินเข้าไป พวกมันจะใช่ดาบฟันนายท่าน แต่ว่าไม่สามารถแทงเข้าไปได้นายท่านได้เดินตรงเข้าไปที่คนกลางของทั้งสาม ก่อนจะคุยอะไรกันสักอย่างแล้วเซนร์สัญญากัน ได้ข่าวว่ามันเป็นสัญญาของการไม่ก้าวก่ายเมืองและโลกของแต่ละคนเด็ดขาด แล้วนายท่านก็อุ้มฉันขึ้นมาก่อนจะพาฉันมาที่นี่ มารู้จักกับคนที่นี่ที่แสนจะใจดีไม่เหมือนกับที่เมืองนั้น ถึงยังไงฉันก็ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ของฉันเพราะมันอาจจะเป็นอันตรายได้และในตอนนี้ฉันก็คิดว่าพวกเรามีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องไปแคร์อะไรพวกมนุษย์ นี่แหละเรื่องของฉัน แต่ก่อนจะไปฉันก็ได้เข้าไปในนรกคั้งนั้นก่อนที่จะโดนสั่งให้มาเป็นแม่บ้านของที่นี่ ฉันรุ้แค่ว่านรกมันน่ากลัวกว่าที่ฉันคิดซะอีกแต่ถ้าเธออยากรู้ว่าทำไมสงครามได้เริ่มขึ้น จงเก็บความอยากรู้นั้นไว้ในหัวของเจ้า แล้วอย่าพูดมันออกมาจะดีกว่านะรีบกินข้าวซะ เดี๋ยวมันจะเลยเวลาทำงานของพวกเรานะเบอร์ริน”
เรื่องของเธอก็น่าเศร้ากว่าที่คิดนะ ใครๆก็ไม่ได้อยากเกิดมาหน้าตาประหลาดหรอกฉันเข้าใจ ถึงเธอจะดูน่ากลัว แต่ว่าจิตใจของเธอก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนน่าตานะ ฉันคงต้องดูคนพวกนี้ใหม่แล้วล่ะ ไม่ใช่สิพวกเขาไม่ใช่คนนี่นาต้องเรียกว่าปีศาจพวกนี้ใหม่แล้วล่ะ
"เสียใจด้วยนะที่มันเป็นเเบบนั้น" ฉันเศร้ามากเลยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับโซฟี เเต่ดูเหมือนโซฟีจะไม่เศร้ากับเรื่องเเบบนี้เลย
"ไม่เป็นไรหรอกฉันลืมมันหมดเเล้วล่ะ ที่มาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะเเก้เเค้นยังไงล่ะ นายท่านเป็นคนดีนะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิดหรอก" //กริ้ง กริ้ง// เสียงกระดิ่งได้ดังขึ้น ทุกคนรีบลุกขึ้นเเล้วเดินออกจากที่นี่ในทันที
"งั้นเราไว้เจอกันใหม่นะฉันต้องไปทำงานของฉันเเล้ว บายจ๊าเบอร์ริน"
ฉันโบกมือลาโซฟีเเล้วก็ถอนหายใจออกมา ดีนะที่เอาตัวรอดได้ไม่อย่างนั้นคงโดนเละเเน่เลย
"เก่งจริงๆเลยนะ คำตอบของเธอเนี่ย" เสียงอย่างนี้ตาเลย์เเน่ๆเลย ฉันหันไปมองต้นตอของเสียงก่อนจะพบว่าเขาเดินมานั่งข้างๆกับฉัน
"ไปไหนมามาได้สักทีนะ" เขายิ้มออกมาก่อน
"งั้นฉันกลับไปที่ห้องของฉันก่อนดีกว่า ต้องจัดของอีกเยอะมาก"
เเล้วฉันก็เดินกลับไปที่ห้องของฉันก่อนจะนั่งจัดของต่อ
"อู้วห้องของเธอนี่สุดยอดเลยนะ" ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาเเล้วก็ทำของต่อ
"พรุ่งนี้งานของเธอยังอีกเยอะอย่าลืมพักผ่อนด้วยล่ะ" เเล้วเขาก็เดินออกเลย. . .ไม่ทำไม่ได้หรออ