ตอนที่ 44 ฉันถามนาย 1
ท่าทีของธีโอเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของแรนดอล์ฟ
‘หลังจากกลับมาที่บ้าน ฉันต้องถูกตรวจสอบตัวตน’ ธีโอไม่สามารถที่จะหัวเราะหรือโกรธได้
แรนดอล์ฟ เกาหัวของเขาขณะที่เขาตีความรู้สึกท่าทางของธีโอออก เขาเข้าใจดีว่ามันอาจจะฟังดูไม่สุภาพเกี่ยวกับการตรวจสอบตัวตนของบุคคลที่ช่วยพวกเขา “ฉันก็ไม่ต้องการที่จะทำไรยุ่งยากแบบนี้หรอก แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้มันจึงยากที่จะปล่อยให้เธอผ่านไปง่ายๆโดยไม่ตรวจสอบ มันจะเป็นการตรวจสอบเล็กๆน้อยๆเฉยๆ”
“ครับ ผมเข้าใจดี”
พวกเขากำลังสู้กับฝูงอันเดทในหมู่บ้านเล็กๆที่ชื่อว่า มิลเลอร์ บารอนี่ ธีโอไม่รู้ว่าทำไมทหารรับจ้างถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาตั้งคำถาม ธีโอนั้นต้องได้รับความเชื่อใจจากแรนดอล์ฟและเข้าไปในหมู่บ้าน
ธีโอได้หยิบป้ายผู้ตรวจสอบและใบรับรองที่เขาได้จากพิธีมอบรางวัลออกมา
“โอ้ ป้ายของผู้ตรวจสอบ มันเป็นเวลานานแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นมัน และนี่คือ......ใบรับรองว่าเจ้าของจดหมายฉบับนี้คือ บารอนผู้ทรงเกียรติ ธีโอดอร์ มิลเลอร์ มันมีตราประทับของฝ่าบาท ดังนั้นฉันจึงค่อนข้างแน่ใจ....หะ?” แรนดอล์ฟมองไปที่ใบรับรองอย่างละเอียดและลูบคางของเขาด้วยความรู้สึกงุนงง
ชื่อของขุนนางนั้นต่างจากบุคคลทั่วไป แม้ว่าชื่อต้นอาจจะมีซ้ำกันบ้าง แต่ไม่มีตระกูลใดที่มีชื่อเดียวกันเลย สำหรับขุนนางนามสกุลของพวกเขาเป็นหลักฐานแสดงความเคารพที่ได้รับจากกษัตริย์และหลักฐานบ่งชี้ถึงเลือดของตระกูลพวกเขา คนบ้าที่ไหนต้องการจะแบ่งปันเรื่องนี้กับคนอื่น?
อย่างไรก็ตามชื้อนี้เป็นชื่อเดียวกับผู้นำแห่ง มิลเลอร์ บารอนี่
“....ฉันได้ยินมาว่าหัวหน้าหมู่บ้านนี้มีลูกชายอยู่”
“พ่อของผมเอง”
“หา เธอเป็นลูกของนายจ้างฉัน”
ธีโอดอร์หัวเราะออกมา แรนดอล์ฟจึงยิ้มแล้วนึกขึ้นได้ว่าทำไมธีโอถึงมีท่าทางแปลกๆบนใบหน้าของเขา ลูกชายของผู้นำหมู่บ้านกลับมาแต่ต้องยืนยันตัวจน มันตลกมากเมื่อเขาคิดถึงเรืองนี้
แรนดอล์ฟจึงพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายน้อย มีเรื่องราวเล็กน้อย แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก”
“มันเป็นกลุ่มที่ใหญ่พอตัว”
“อืม.....เข้าไปข้างในแล้วพูดคุยถึงเรื่องนี้กัน”
อันเดทจะไม่บุกโจมตีเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แรนดอล์ฟจึงหันไปมองรอบๆ ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาจะพูดนั้นค่อนข้างยาว ธีโอและซิลเวียเดินตามหลังเขาเข้าไปในหมู่บ้าน
***
เมื่อพวกเขาทั้งสองคนและแรนดอล์ฟเข้าไปในหมู่บ้าน ทหารรับจ้างต่างอยู่กระจัดกระจายเต็มไปทั่วหมู่บ้าน มันเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืน ประชาชนต่างนำอาหารมาให้แก่ทหารรับจ้างและช่วยรักษาบาดแผล
ขณะนั้นมีคนคนหนึ่งเห็นธีโอและจำได้เร็วกว่าคนอื่น
“เอ๊ะ.....?คุณไม่ใช่ธีโอดอร์งั้นหรอ?”
“อะไร?ทำไมนายน้อยถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่ากำลังเรียนอยู่งั้นหรอ?”
“ไม่ใช่ ดูสิ”
“อืม เขาดูเหมือนนายน้อยมาก......”
มันเป็นเวลาห้าปีแล้วและการแต่งกายของธีโอนั้นไม่เหมือนเดิม ทุกคนจึงลังเลที่จะเรียกหาเขา เขาดูเหมือนขุนนางมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อว่านายน้อยของพวกเขาได้กลับมาแล้ว
ขณะนั้นได้มีชายคนหนึ่งก้าวออกมา “นะ-นายน้อยธีโอ...?”
ธีโอรู้สึกราวกับจะร้องไห้เมื่อได้ยินเสียงนั้น“ปู่อัลเบิร์ต....!”
เขาคือชายชราที่ทำขนมปังให้เขากินตั้งแต่เด็ก ธีโอได้สวมกอดเขาอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนถูกถ่ายทอดผ่านมือย่นๆของชายแก่ ทำให้ธีโอร้องไห้ออกมา
สำหรับชายชราที่ไม่มีญาติพี่น้อง ธีโอก็เหมือนหลายของเขา
“โอ้นายน้องของเรา! คุณดูเปลี่ยนไปมาก”
“ปู่!” ธีโอไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้และกอดเขาแน่น
“นายน้อย!”
“นายน้อย ธีโอกลับมาแล้ว!”
จากนั้นประชาชนก็วิ่งออกมาจากบ้านทันที บางคนนั้นยังถือด้ายสำหรับเย็บเสื้อผ้า บางคนนั้นยังคาบขนมปังอยู่ในปาก ทุกคนในหมู่บ้านต่างล้อมตัวธีโอเอาไว้
“….?!” ซิลเวียที่ยืนอยุ่ใกล้ธีโอนั้นด้วยผมสีเงินยาวสลวยของเธอที่เปล่งประกายทำให้เธอนั้นราวกับนางฟ้าทุกคนจึงมองไปที่เธออย่างสนใจ เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับความสนใจของผู้คน เธอจึงเกาะติดธีโอดอร์แน่น ทำให้ประชาชนรู้สึกสดชื่นในท่าทางของเธอ
“เด็กสาวนั่นคือใคร? นายน้อย...บางที?”
“อา ไม่เอาน่า เขาจะนำพาคนรักมาด้วยทำไมกัน?”
“นายน้อย! มีผ้าไหมอยู่ที่ร้านผ้าของเรา! มันเพียงพอสำหรับทำผ้าคลุมหน้า!”
“ไม่เอาน่า อย่าทำให้ฉันหัวเราะ! เธอจะเอาเศษผ้าขี้ริ้วนั้นให้นายน้อยงั้นหรอ”
เกิดความสับสนวุ่นวายไปทั่ว ทำให้เหล่าทหารรับจ้างรู้สึกตื่นตัว ในตอนแรกบรรยากาศทั่วหมู่บ้านนั้นต่างตึงเครียด แต่ตอนนี้เมื่อธีโอกลับมาทั่วหมู่บ้านต่างเต็มไปด้วยความอบอุ่น มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าธีโอสำคัญมากแค่ไหนสำหรับพวกเขา
ในไม่ช้าความวุ่นวายของคนในหมู่บ้านก็ส่งไปถึงคฤหาสน์ของมิลเลอร์ บารอนี่
“ธีโอ ธีโออยู่ไหน?”
ชายวัยกลางคนที่มีผมบางๆ แต่งกายด้วยชุดถักทอ เคลื่อนที่ผ่านฝูงชนเข้ามา ทุกคนต่างรู้จักเขาจึงพากันหลีกทางให้ ทุกคนอยากจะต้อนรับธีโอดอร์ แต่คนนี้มีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น
เมื่อเขามาถึงศูนย์กลางและเห็นธีโอ เดนนิส มิลเลอร์ จึงร้องตะโกน “ธีโอ!”
“....พ่อ” ธีโอไม่อาจที่จะลืมเสียงนี้ได้
ขณะนั้นพ่อของธีโอก็เดินเข้ามากอดเขาไว้แน่น หนวดเคราของของมีกลิ่นคล้ายกับดิน กลิ่นของบ้านเกิดเขาถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของพ่อเขา ไม่มีคำอื่นใดที่เขาต้องการอีก พวกเขากอดกันสักพักก่อนที่ เดนนิสจะปล่อยออก
เขาคว้าไหล่ของลูกชายเขาอย่างภูมิใจและกล่าวว่า
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูกพ่อ”
“ครับ ผมกลับมาแล้ว”
“ลูกมีเรื่องมากมายอยากจะถามใช่ไหม? กลับบ้านกันพ่อคิดว่ามันน่าจะยาวพอสมควร.....พ่อขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้”
“อย่าพูดอย่างนั้น” ธีโอส่ายหัว พ่อเขาจะขอโทษทำไม? ชาวบ้านและพ่อของเขาต่างเป็นคนที่ทุกข์ทรมานที่สุดจากพวกอันเดท
เดนนิสรู้สึกพอใจกับการปรากฏตัวของลูกชาย แต่เมื่อสังเกตเห็นเศษดินที่เปื้อนบนชุดคลุมของธีโอ และยังสังเกตเห็นซิลเวียที่กำลังทำท่าอายๆอยู่ เขาจึงพูดว่า
“พวกลูกไม่เหนื่อยกันหรอ? กลับไปคุยกันที่บ้านกันเถอะ”
ทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกัน
***
มันนานแล้วที่ธีโอไม่ได้กลับบ้าน แต่มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
เตาผิงไฟและบันไดยังเก่าทรุดโทรมเช่นเดิม มีเสียงน้ำไหลจากห้องครัวและคราบบนเพดานก็ยังมีอยู่เช่นเดิม ธีโอมองไปจำนวนคราบที่เพิ่มขึ้นบนผนังและเพดานก่อนจะมองไปที่ครอบครัวของเขาที่นั่งอยู่ด้านหน้า
พ่อของเขามีหนวดเคราเล็กน้อย แม่ของเขาดูผอมลงและน้องชายที่อายุเพียงแค่สามขวบของเขาที่กำลังถูกแม่อุ้มไว้อยู่
‘โอนี่แป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นหน้าน้องชายของฉัน’ เขาพลาดที่จะเห็นการเจริญเติบโตของน้อยชายเขา
อย่างไรก็การพูดคุยของพวกเขานั้นยังคงอบอุ่นเช่นเคยไม่เปลี่ยนไปเลยจาก5ปีก่อน ธีโอนั้นจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องหมู่บ้านก่อนที่จะสนใจเรื่องส่วนตัว พอแก้ปัญหาได้แล้วเขาถึงจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเขา
“....พวกอันเดทเริ่มปรากฏตัวเมื่อประมาณ1เดือนก่อนงั้นหรอครับ?”
“ใช่แล้ว คนตัดไม้เป็นคนแรกที่พบพวกมัน”
พ่อของเขาเล่าว่า อันเดทนั้นปรากฏตัวเมื่อราวๆหนึ่งเดือนก่อนและพวกมันก็ได้เริ่มโจมตีหมู่บ้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ธีโออดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ อันเดทมันทำอะไรในช่วงเวลา20กว่าวันที่ไม่ได้โจมตีหมู่บ้าน ? บางทีจอมเวทย์ที่หายไปอาจจะตกอยู่ในอำนาจของมนต์ดำ แต่ต้องใช้เวลามากกว่าสองเดือนในการเรียนรู้วิธีสร้าง ไวเวิร์นกูล แม้กระทั่งนักดาบเช่นแรนดอล์ฟยังต้องรู้สึกลำบากถ้ามันมีมากกว่าหนึ่งตัว
นอกจากนี้ธีโอยังมีคำถามอีกหนึ่งข้อ “แล้วเรื่องทหารรับจ้างละ? พวกเราไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ้างทหารรับจ้างเช่นนี้...”
“โอ้ เรื่องนั้นพ่อติดค้างพวกเขา”
‘ติดค้าง?’ ธีโอมองไปที่พ่อของเขาอย่างสงสัย
“พวกเขานั้นเป็นทหารรับจ้างที่เข้ามาสู้กับพวกโจรที่นี่ พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับหมู่บ้านเรา แต่ในวันเดียวกันกับที่พวกเขามาอยู่ในหมู่บ้านของเรา พวกอันเดทนั้นก็มา”
“….ดังนั้นพวกเขาจึงได้ปกป้องที่แห่งนี้เป็นสัปดาห์?”
“ใช่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องไป พ่ออดที่จะรู้สึกเสียไม่ได้....แต่พ่อคงทำได้แค่พูดขอบคุณ”
มันยากที่จะเชื่อ ทหารรับจ้างคือคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน มีเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นที่จะรักในความยุติธรรมและชอบช่วยเหลือผู้คนโดยไม่ต้องการอะไร แต่ทหารรับจ้างหลายคนต่างมาเป็นเพียงเพราะพวกเขาอยากที่จะฆ่าคนอย่างถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามไม่เคยมีพวกทหารรับจ้างที่อาสาทำงานเองมาก่อน
‘เว้นแต่จะมีสมบัติซ่อนอยู่ในหมู่บ้านนี้ แต่....นั่นเป็นไปไม่ได้’
ดูเหมือนเขาต้องไปพูดคุยกับแรนดอล์ฟเป็นการส่วนตัว
หลังจากนั้นธีโอดอร์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่กินน้ำซุปที่แม่ของเขาทำไว้ให้อย่างเงียบๆ มีน้ำซุบอร่อยๆมากมายที่สถาบันเบอร์เก้นและMana-vil แต่เขาต้องการกินซุปนี้มากที่สุด
ซิลเวียนั้นไม่ค่อยพิถีพิถันในเรื่องอาหารมากนัก เธอจึงกินขนมปังแข็งๆอย่างสบายๆ ธีโอแสร้งทำเป็นไม่เห็นหน้าตาที่ดีใจออกหน้าของแม่และก้มหน้าก้มตากินซุบต่อไป
อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาที่น่าเป็นห่วงอยู่อีก ความสงบสุขนี้เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อตกดึกพวกมันคงจะโจมตีมาอีก
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“….โอเคร”
หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ ซิลเวียและธีโอก็แยกกันไปเข้าห้องของตัวเอง ถึงแม้พวกเขาเดินทางมาอย่างอึดอัดเป็นเวลา5วัน จากMana-vil แต่ผู้ชายกับผู้หญิงไม่สามารถนอนห้องเดียวกันได้ ซิลเวียเดินตามแม่ของธีโออย่างเครียดๆ
ธีโอก้าวเข้าไปในห้องที่แสนคุ้นเคยของเขา
กึก
ห้องของเขาซึ่งไม่ได้ใช้งานมาถึง5ปี ไม่ต่างไปจากเดิมทที่ธีโอทิ้งเอาไว้เลย แม้แต่ของที่วางอยู่ชั้นวางก็ยังเหมือนเดิม วอลล์เปเปอร์ที่ฉีกขาดก็ไม่ได้ซ่อมแซม
“ฟู่.....” ธีโอสูดหายใจลึกๆแล้วพูดว่า “เฮ้ แกตื่นขึ้นมาได้ไหม?”
เขากำลังพูดกับความตะกละซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ ไม่นานมานี้เขาเริ่มที่จะตรวจสอบได้ว่ามันหิวหรือไม่ มันอารมณ์ดีหรือไม่อย่างไร
จากนั้นความตะกละได้ตอบรับเสียงเรียกของเขา
-..เจ้าเข้าใจ เจ้ามีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าที่ข้าคิด
มีเสียงร้องมาจากรูในฝ่ามือซ้ายของเขา เสียงนั้นมันมีอาการที่ง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่ามันกำลังหลับอยู่ และธีโอได้ปลุกมันขึ้นมา
“ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ วันนี้แกต้องการหนังสือกี่เล่ม?”
--สองหรือสาม
“โอเคร งั้นฉันให้จะให้แกกินสองเล่ม”
เขาหยิบหนังสือสองเล่มที่เขาเตรียมไว้ออกมาด้วยมือซ้าย
อึก ลิ้นตะวัดหนังสือสองเล่มเข้าไปทันที
[‘กำแพงเวทย์’ ได้ถูกกินแล้ว ความเข้าใจของคุณสูงมาก]
[ความเชี่ยวชาญเวทย์ขั้น4 ‘กำแพงหิน’ เพิ่มขึ้น]
[‘Explosion is a Art’ ถูกกินแล้ว ความเข้าใจของคุณสูงมาก]
[ได้รับเวทย์ขั้น4 เวทมนต์ ‘Explosion’ ]
เขาเรียนรู้เวทย์ขั้น4ถึงสองอย่างในครั้งเดียว แต่โชคดีที่เขาเรียนรู้หนึ่งในนั้นแล้ว อาการปวดหัวของเขาจึงไม่รุนแรงนัก
กำแพงหินเป็นเวทย์ที่พัฒนามาจากกำแพงดิน มันเป็นเวทมนต์ที่ทนทานอย่างมาก สำหรับ เวทย์ระเบิดนั้น ธีโอดอร์ก็สามารถที่จะรวบรวมข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในหัวของเขา
มันเป็นเวทมนต์ที่จะสามารถจัดการกับพวกอันเดทจำนวนมากได้
“….เอาละเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
หลังจากที่คลื่นพลังแห่งความรู้ได้ไหลเข้ามาในหัวของธีโอเสร็จ เขาก็ก้มลงไปมองที่มือซ้าย เขาสามารถให้อาหารมันได้สามเล่ม แต่เขาเลือกที่จะให้สองเล่มเพราะเขาจะถามคำถามแก่มัน สิ่งสำคัญคือเขาต้องหาเวทมนต์ที่พิเศษมา
ธีโอต้องหาวิธีป้องกันภัยพิบัติครั้งนี้
“ฉันจะขอถาม”
ความตะกละนั้นน่าจะรู้คำตอบที่ถูกต้อง