ตอนที่ 41 กลับบ้าน 2
การพูดคุยนั้นดำเนินไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้นำBlue Tower ดังนั้น Magic Society จึงดำเนินตามขั้นตอนที่จำเป็นในการทำภารกิจสืบค้นและมอบเงิน100เหรียญทองให้แก่ธีโอ
พวกเขานั้นหารถม้าไปมิลเลอร์ บารอนี่ได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณกลุ่มการค้า ที่เข้าได้รู้จักในตอนแรกที่มาเมืองหลวง
“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือที่รวดเร็วของคุณ”
“ไม่ไม่ใช่ผมงั้นหรอที่ควรขอบคุณ? ขอบคุณศาสตราจารย์และศิษย์ของคุณ ถ้าไม่ได้พวกคุณสินค้าของผมคงหายไปทั้งหมดและคนของผมคงตาย แน่นอนคำของ่ายๆเช่นนี้ผมยินดีที่จะทำมัน!”
“คุณเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าของกลุ่มมาก”
รถที่กอร์ดอนได้เตรียมไว้ให้พวกเขานั้นหรูหรามาก เขาชอบมันมาก
ตัวรถม้านั้นมีน้ำหนักเบาเนื่องจากเวทมนต์และสามารถรองรับคนได้ถึง6คน แม้ว่าจะเป็นเพียงรถม้าเช่าเท่านั้น แต่ราคาของมันคงหลายเหรียญทองเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามกอร์ดอนกลับยิ้มกว้าง
‘ศาสตราจารย์กำลังสวมชุดคลุมที่เป็นสัญลักษณ์ของจอมเวทย์ขั้น 6....นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างสัมพันธ์อันดีกับจอมเวทย์อาวุโสจากMagic Society!’
กอร์ดอนเป็นพ่อค้ามือเก๋า ดังนั้นเมื่อเขาได้เห็นความสำเร็จของวินซ์เอาจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ เขาพยายามที่จะสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับวินซ์เพื่อกลุ่มการค้าของเขา
‘เป็นพ่อค้าที่ดี’
แน่นอนว่าวินซ์รู้ถึงแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นของกอร์ดอนดี แต่ก็ยอมรับมันแต่โดยดีเพราะเป็นผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆต่อศิษย์ของเขา ทันทีที่การพูดคุยของเขากับกอร์ดอนจบลง เขาก็เดินเข้าไปในรถก็พบเห็นธีโอกำลังนั่งรอเขาอยู่
เขาต้องการเอ่ยคำลากับธีโอก่อนที่จะเดินทาง
“พักผ่อนให้ดี หลังจากที่งานประลองจบลง พวกคนที่น่ารำคาญส่วนใหญ่จะกลับบ้าน เพื่อเก็บตัวพัฒนาพลังเวทย์ของตัวเอง”
“ครับ มาสเตอร์”
“และเก็บกระเป๋ามิตินื้ไว้ให้ดี ที่กระเป๋านั้นมีเวทมนต์ติดตามไว้อยู่สำหรับผู้ตรวจสอบ ดังนั้นเธอต้องรับผิดชอบมันเองนะ”
“….ผมจะดูแลมันอย่างดี”
ธีโอรู้สึกหดหู่ขณะก้มลงไปมองที่กระเป๋ามิติในมือของเขา เขาต้องกินหนังสือสองถึงสามเล่มต่อวัน ซึ่งหมายความว่าเขาต้องพกพาหนังสือเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวินซ์จึงมอบมันให้กับเขา
อย่างไรก็ตามผู้ตรวจสอบนั้นเคร่งครัดมาก ถ้าความตะกละกินกระเป๋ามิติใบนี้ไปละก็......
‘ฉันอาจจะถูกลากไปสอบสวนและ....?’
ธีโอนั้นเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ Magic Society มาก่อนดังนั้นผิวของเขาจึงซีดลงทันทีที่คิดถึงมัน
เขาคิดว่าเขาไม่ควรถือกระเป๋าไว้ด้วยมือซ้าย แม้มันจะไม่เคยออกมาเมื่อไม่ถูกเรียกก็ตาม แต่การระวังไว้มันก็ดีกว่า
ขณะที่พวกเขาพูดกัน คนขับรถก็เดินมาถึงและนั่งลงบนที่คนขับ
“ผมจะไปแล้วนะครับ มาสเตอร์”
“ดูแลตัวเองดีๆด้วย”
เมื่อธีโอลาวินซ์เสร็จ เขาก็เดินเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นรถก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เนื่องจากมันมีเวทมนต์ที่ตัวรถ รถจึงเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ไม่นานนั้นซิลเวียและธีโอก็จากไปพร้อมกับรถม้า วินซ์มองไปรอบๆทันที
เขาได้แต่ภาวนาขอให้ศิษย์ของเขาจะเดินทางอย่างปลอดภัย
***
กึกกึก!กึก!
การเดินทางแบบพิเศษของทางกลุ่มการค้า พูโลเน็ต ได้เร่งความเร็วขึ้นทันทีหลังจากที่ออกจากเมืองMana-vil พวกเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่น่ากลัวมาก
‘เยี่ยม....ถ้าเราเดินทางต่อไปเรื่อยๆด้วยความเร็วเช่นนี้ เราจะถึง มิลเลอร์ บารอนี่ภายในห้าวัน’
ถ้าเป็นรถม้าธรรมดามันคงใช้เวลาเดินทางถึงสองสัปดาห์ กอร์ดอนนั้นบอกกับเขาอย่างมั่นใจว่าเขาจะถึงมิลเลอร์ บารอนี่ภายในหนึ่งสัปดาห์แน่นอน และธีโอก็เชื่อทันทีเมื่อเห็นความเร็วในการเดินทาง
แต่ทว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รถ แต่สิ่งที่อยู่ข้างในต่างหาก
‘อ่อ อึดอัด....!’ ธีโอเหลือบมองไปที่ซิลเวียที่อยู่ข้างๆเขา
เขามองเห็นดวงตาสีฟ้าสดใสและผมสีเงินยาวสลวยของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่จู่ๆซิลเวียก็หันมาจ้องมองเขาและหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ
“ธีโอ มาเล่นไพ่กัน”
“หะ?ไพ่?”
เธอหยิบไพ่ออกมา
ด้านหลังไพ่นั้นไม่มีลวดลายอะไรเขาจึงไม่รู้ว่ามันคือไพ่อะไร เขารับสำรับไพ่มาจากเธอและมองไปที่สิ่งที่อยู่ด้านหน้าของไพ่
“เอ่อ ตัวอักษรเหล่านี้....?”
ดวงตาของธีโอเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่เขียนอยู่ด้านหน้า ‘รูนงั้นหรอ?’
รูนเป็นภาษาที่คุ้นเคยมากที่สุดสำหรับจอมเวทย์ยุคใหม่และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างเวทมนต์ มีตัวอักษรรูนมากมายเขียนอยู่บนด้านหน้าของไพ่
การแสดงออกของธีโอกลายเป็นกลุ้มใจทันที เมื่อเข้าใจว่า’เล่นไพ่’หมายถึง อะไร
“เธอต้องการที่จะเล่นไพ่เหล่านี้งั้นหรอ?”
“ใช่ ตั้งแต่ตอนเด็กฉันเล่นกับปู่ของฉัน ธีโอจะต้องรู้สึกสนุกมากแน่ๆ”
“ไม่ เดี๋ยวก่อน”
ธีโอเลื่อนดึไพ่ไปมาสองสามครั้งและเข้าใจได้ว่ามันยากแค่ไหน ระดับความยากนี้แม้แต่อาจารย์ในสถาบันยังโอดครวญ ดูเหมือนว่าบลันเดลล์จะสอนเวทมนต์ให้เธอผ่านเกมส์นี้
ความสามารถของซิลเวียเป็นเลิศ แต่การแสดงออกของธีโอกลายเป็นมืดมน
เธอจะสามารถเล่นไพ่เหล่านี้กับใครได้?
ยกเว้นธีโอดอร์ ไม่มีใครที่อายุเท่าเธอและสามารถเล่นกับเธอได้ แม้แต่คนที่อยากจะใกล้ชิดกับซิลเวียก็ไม่สามารถที่จะแข่งกับเธอได้แม้แต่น้อย ดังนั้นเธอจึงค่อยๆถอยห่างจากพวกนั้น
ความงดงามและความอัจฉริยะของซิลเวียทำให้เธอนั้นห่างจากผู้คน
‘บางทีเธอสามารถเล่นกับฉันได้....ไม่ ฉันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนตัวเธอด้วยทางนี้’
บลันเดลล์ต้องการให้ซิลเวียรู้จักกับการเข้าสังคม ถ้าธีโอเล่นไพ่กับเธอและกลายเป็นเพื่อนเธอเขาจะเป็นคนที่พิเศษสำหรับเธอ เธอจะห่างเหินจากคนอื่นๆ และจะเอาแต่เกาะติดคนที่ชื่อว่า ธีโอดอร์ มิลเลอร์ อย่างเดียว
และความสามารถทางเวทมนต์ของเธอก็จะกลายเป็นเช่นเดิม เธอจะปิดกั้นตัวเองอีกครั้ง สิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้คือสภาพแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวกับเวทมนต์
จากนั้นธีโอดอร์ก็คิดอะไรได้ เขาจึงกล่าวว่า“เธอสนใจในจิตวิญญาณธาตุไหม?”
“จิตวิญญาณธาตุ?” ดวงตาของซิลเวียเปล่งประกายออกมาทันที
“มิตรา”
[อู้?]
เศษคราบสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ที่หน้าต่างได้รวมตัวกันเป็นรูปร่างของเด็กหญิงตัวเล็กๆ มิตรานั้นดูโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อธีโอกลาเยป็นจอมเวทย์ขั้น4 ตอนนี้ตัวของเธอใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย
“...น่ารัก” ใบหน้าของซิลเวียกลายเป็นสดใสเมื่อมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังกระโดดไปมาบนรถ
[อู้?!] มิตราส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่ารัก ขณะที่ถูกจับโดยซิลเวีย เธอลูบหัวของจิตวิญญาณธาตุตัวน้อยอย่างเบามือราวกับกลัวว่ามิตราจะบุบสลาย มิตรานั้นชอบให้ซิลเวียลูบหัว? ตอนแรกเธอดูหงุดหงิด แต่ตอนนี้เธอกลับนอนให้ซิลเวียลูบตัวราวกับแมวตัวน้อย
ธีโอรู้สึกโล่งใจมากขึ้นในตอนนี้
‘เธอยังคงมีความอ่อนไหวอยู่ เป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าจอมเวทย์จะไม่สนใจในตัวมิตรา’
ซิลเวียนั้นเล่นกับมิตรา เธอยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างสดใส บรรยากาศการเดินทางของพวกเขาสองคนแตกต่างไปจากเดิม
***
รถที่หรูราได้วิ่งออกจากMana-vil ราวกับสายลม ม้านั้นเป็นม้าชั้นยอดดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งผ่านภูเขาที่ยากลำบากโดยง่าย หลังจากที่ออกจากเทือกเขาแล้วก็ไม่มีอุปสรรคใดอีก
ในวันที่4 รถม้าได้เข้าสู่เขตของไวท์เคาท์ เทเฮอแรน ซึ่งอยู่ติดกับมิลเลอร์ บารอนี่
เมื่อห้าปีที่แล้ว ธีโอใช้เวลาเดินทางจากบ้านของเขาไปถึงสถาบันเบอร์เก้นถึง1เดือน แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาแค่4วัน
“บ้านเกิดของธีโอเป็นอย่างไร?” วิธีการพูดที่น่าอึดอัดของซิลเวียนั้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
คำพูดของเธอนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่เหมือนกับตอนแรกที่เธอจะเอาแต่พูดเกี่ยวกับเวทมนต์ ตอนนี้เธอเริ่มพูดเกี่ยวกับสีที่เธอชอบ เสื้อผ้าที่ชอบและภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่าง เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะสนใจเกี่ยวกับธีโอดอร์
เขาคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดีและตอบว่า “อืม มันเป็นแค่ชนบท ผุ้คนเลี้ยงสัตว์เพื่อกินและอาศัยอยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าเขียวชอุ่ม เมื่อสัตว์ป่าลงมาจากภูเขา พวกเขาก็จะล่าและมีงานเลี้ยง ชีวิตไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่พวกเขาก็รักบ้านเกิดของพวกเขา เป็นที่ที่คนโง่อาศัยอยู่”
ขณะที่เขาพูดภาพเกี่ยวกับบ้านเขาก็ลอยเข้ามาในหัว
เขากำลังวาดภาพคนที่กำลังหว่านเมล็ดในทุ่งนาและทำงานกันอย่างหนัก เด็กที่กำลังวิ่งเล่นไปรอบๆในช่วงฤดูร้อน ผู้คนที่กำลังเก็บเกี่ยวพืชผลด้วยร้อยยิ้ม
รสชาติของขนมปังที่มาจากมือย่นๆของชายชรา เป็นอะไรที่น่าจดจำมากกว่าขนมปังขาวที่เขาทานที่เบอรฺเก้น
ซิลเวียรู้สึกอบอุ่นและพูดพึมพำว่า“เป็นที่ที่ดี”
“…..ใช่มันเป็นสถานที่ที่ดี”ธีโอเห็นด้วย
บ้านเกิดของธีโอเป็นเช่นที่ซิลเวียบอก พวกเขาอาศัยกันอย่างพอเพียง แต่พวกเขาก็มีความสุขสิบกว่าปีที่เขาอาศัยอยู่ที่นี่มันมีค่ามาก
‘แม่...พ่อ...’ดวงตาของธีโอเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อคิดถึงคำทักทายที่เขาจะได้รับเมื่อพบพ่อและแม่ของเขา
จู่ๆบรรยากาศภายในรถก็อุ่นขึ้นเมื่อ....
“-หืม?!”
“อ่า”
เสียงหลุดออกจากริมฝีปากของทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน ธีโอรู้สึกหนาวสั่นที่คอของเขา มันคือคำเตือนจากประสาทสัมผัสของเขา ซิลเวียก็เช่นกันเธอมีสัมผัสที่ดีเยี่ยมเธอจึงสังเกตเห็นว่าพลังเวทย์ที่อยู่รอบๆตัวรถนั้นหายไป
ทั้งสองคนเปิดหน้าต่างออกโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตามนี่เป็นช่วงพระอาทิตย์ตก ระยะการมองเห็นของพวกเขาจึงสั้นมาก
‘มืดเกินไป....ถ้าเป็นกรณีนี้....!’
ดวงตาของธีโอส่องแสงสีทอง เขาใช้งานทักษะตาเหยี่ยว ซึ่งทำให้เขามองเห็นในความมืดได้ ถ้าธีโอตั้งใจมอง แม้แต่เหรียญที่อยู่ห่างไกลไปร้อยเมตรเขาก็สามารถมองเห็นได้
เงาแสงสีทองวิ่งโฉบอยู่ในระยะไกล ธีโอตัวแข็งค้างเมื่อเขามองเห็นโครงร่างของเงานั่น
เขาอ้าปากค้างและร้องออกมา “ทำไมอันเดทถึงมาอยู่ที่นี่.....?!”
ราวกับมันตอบรับเสียงเรียกของเขามันโผล่ออกมาในความมืดทันที อันเดทจำนวนมากโผล่ออกมา
พวกมันนั้นกินสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มจำนวน พวกเขาทั้งสองถูกพวกมันโอบล้อมเป็นวงกลม
วูบ วูบ วูบ วูบ...!
เจ้าของหนังสือเวทย์โบราณและอัจฉริยะของBlue Tower…..พลังเวทย์ของธีโอและซิลเวียได้ปะทุออกมาก่อให้เกิดพายุเวทมนต์ เหล่าอันเดทถูกหยุดยั้งโดยพลังของพายุเวทมนต์ แต่ก็เพียงชั่วขณะ
ธีโอพูดออกมาด้วยเสียงมั่นคง “ฉันจัดการทางซ้าย เธอทางขวา”
“ได้” ซิลเวียตอบ
หลังจากการพูดกันที่แสนเรียบง่ายของทั้งสอง พวกเขาก็ก้าวออกจากรถเพื่อปะทะกับเหล่าอันเดท