ตอนที่ 44 : ศึกระหว่างขุนนางและสามัญชน
โรงอาหารของสถานศึกษาได้ถูกทำลาย โดยนักศึกษาในหลักสูตรขั้นพื้นฐาน อาจารย์ที่ได้เข้ามาจากทางหลักของโรงอาหารได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ แต่นักศึกษาสามัญชน ได้ถึงขีดจำกัดของความอดทนของเขา
“ฉันบอกให้นายไม่ต้องยกมือ!”
“ดังนั้นจะช่วยขุนนางไว้! หลังจากที่อาจารย์เป็นศัตรูทั้งหมด!”
“ถ้าจะให้เรื่องจบฉันดูถูกคนโง่ธรรมดา! หุบปากแล้วดูเฉยๆ!”
ปีแรกและสองของการเรียนหลักสูตรขั้นพื้นฐาน มีการแบ่งระหว่าง สามัญชน ขุนนางในการใช้โรงอาหาร เขาใช้เก้าอีกในการต่อสู้ที่รุนแรงของพวกเขาและมันก็รุนแรงขึ้นเกินกว่าที่อาจารย์จะจัดการ
ดังห้องเรียนของการเป็นกลางระหว่างการทะเลาะครั้งนี้ ครัซ และ ฟริทซ์ได้เริ่มต้นการต่อสู้ด้วยหมัดของพวกเขา แต่เมื่อมันดูเหมือนว่าครัซกำลังจะแพ้ เขานำมีดของเขาออกมาและถืออยู่มือ จากนั้นเขาเดินเข้าไปยังฟริทซ์กับเวทย์มนต์ที่เขาได้เพิ่งได้จะเรียนรู้และได้รับดาบไม้ของเพื่อนเขาเพื่อไปสู้กับครัซ
“นายยากจน! ไม่คิดว่านายสามารถมีชีวิตอยู่บนการเยาะเย้ยของขุนนางได้…ครอบครัวและทุกๆคนที่อยู่ข้างนายจะถูกฆ่าตาย”
“เพียงเพราะนายไม่สามารถชนะคนรอบๆข้างฉัน…นายคือขยะ จนกระทั่งฉันมาถึงสถานศึกษาแห่งนี้ ฉันทำงานเป็นนักผจญภัย ฉันรู้เพียงวิธีการที่สกปรกและฉันรู้สิ่งที่ฉันต้องทำ!”
ครัซเคาะมีดของเขา ฟริทซ์เตะไปที่ท้องของเขา และเขากระแทกกับผนังของโรงอาหาร นักเรียนบาคนยกเสียงเชียร์ ในสายตาที่ขุนนางไม่พอใจอย่างมาก
ในกรณีของครัซที่ทิ้งเจ้าหญิงเมื่อปีก่อนหน้านี้ เขาได้สูญเสียความไว้วางใจจากผู้คนรอบตัวเขา มันเป็นจำนวนของขุนนางหนุ่มสาวที่ถูกทอดทิ้ง ลูกศิษย์ของเขายังคงติดอยู่กับเขา ดังนั้นแม้สถานการณ์นี้แย่ลง ทัศนคติของครัซก็ได้ดีขึ้น
‘ เสื่อมเสียเกียรติที่ไม่สามารถชนะคนธรรมดา ’
ขุนนางต่อสู้มองไปรอบๆครัซด้วยสายตาเย็นชา
( ทำไม…ทำไมมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น!? ทำไมจึงผิด ทำไมฉันถึงชอบแพ้คนธรรมดา..)
เขาไม่สามารถที่จะห้ามความคิดของตัวเอง ครัซพยายามที่จะได้รับการกลับมายังเท้าของเขา เมื่อฟริทซ์เริ่มเคาะมากกว่าที่จำเป็น ได้เลือกเส้นทางของเขามาก เขาคงไม่คิดที่จะเอาคืน ทั่วนักเรียนของเอลฟ์ เขามักจะมองการต่อสู้ของขุนนางไปรอบๆและระเบิดพวกเขาออกด้วยเวทย์มนต์
มันเป็นความบ้าที่แท้จริง ความหวังสุดท้ายที่จะควบคุมสถานการณ์อยู่ที่รุ่นพี่พวกนั้น
และแน่นอน รูเดิลถูกรวมอยู่ในหมู่พวกเขา
ooo
เมื่อได้ยินสถานการณ์จากอิซูมิ เขาวิ่งออกมาจากห้อง รูเดิลและพวกเขาวิ่งเข้าไปยังทางเข้าของโรงอาหาร พวกเขาสามารถได้ยินเสียงของอาจารย์และนักเรียนที่อาละวาดอยู่ภายใน บางทีอาจจะเป็นความเครียดจากความคิดของพวกเขา แม้แต่อาจารย์ก็ยังคงคุมสถานการณ์ไม่อยู่
คนที่เห็นสถานการณ์อยู่เบื้องหน้า เป็นยูเนียส ในขณะที่เขาจัดอยู่ในคนที่เข้ากับคนได้ง่าย รุ่นพี่ทุกคนปิดเส้นทางของพวกเขาให้เข้าไปยังโรงอาหาร
“หลีก”
เสียงของยูเนียสดังขึ้นในทางเข้าโรงอาหาร รุ่นน้องอยู่ในช่วงเวลาที่ตกใจเมื่อเขาได้พบกับรุ่นพี่ พวกเขาคิดว่าพวกเขามีความได้เปรียบเชิงตัวเลข และไม่ได้พยายามที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง นักเรียนที่หมดสติในสักครู่ต่อมา….กำลังปลิวไปด้วยหมัดของเขา
นักเรียนถูกส่งบินไปรอบๆ ทำทางของรุ่นพี่ที่จะได้เข้าไปในโรงอาหาร และห้องโถงถูกห่อหุ้มด้วยความเงียบเพียงสักครู่ ยูเนียสที่เดินนำมาตามด้วยรูเดิล และลุกซ์ที่อยู่ด้านหลังสุด นักศึกษาขั้นพื้นฐานกำลังต่อยๆโดนดึงดูดความสนใจ
กับการเข้ามาของบุตรชายคนโตแห่งบ้านของสามขุนนางและพวกเขาก็ได้หยุดเถียงกัน แต่นั่นไม่ใช่วิธีการสำหรับสามัญชนและรุ่นน้องคนอื่นๆ และได้ยินข่าวแพร่ไปเรื่องของรูเดิล จนทำให้รุ่นน้องอุปทานไปเองว่าคนเหล่านี้คือขุนนางที่ได้ถูกช่วยไว้จากดรากูน
“ดังนั้น รุ่นพี่ต้องการจะเข้ามามีส่วนร่วม? ดังนั้นไม่ว่าจะ…ฉันจะได้สอยรูเดิลลงก่อน สำหรับคนที่หัวสูงในสถานศึกษาแห่งนี้ ฉันจะสอนให้รู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความจริง”
ฟริทซ์หันดาบไม้ของเขาไปยังรูเดิล งานปราบปรามที่เขาได้ดำเนินการทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากนักเรียนในโรงเรียนที่เรียนรู้แต่ทฤษฎี ฟริทซ์เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง
ความจริงเจ้าหญิงเคยร่วมกันกับฟริทซ์เพื่อสถาบันการศึกษาอื่น เขาได้พยามที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศที่เรียกว่า Courtois จากภายใน การปลอมความสัมพันธ์กับผู้ที่จะกลายเป็นรุ่นต่อไป เขาจัดขึ้นกับประเทศในความคิดของเขา แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน วิธีการของเขาก็เป็นวิธีที่น่ากลัว
ฟริทซ์ได้ทำทุกงานมากกว่าที่จะเรียนรู้จากโลก แต่เขาเก็บไว้เพียงสามัญสำนึกของของที่มีขนาดแคบ ร้องไห้ออกมาว่าเป็นขุนนางชั่วร้าย นั่นเป็นความคิดจากมุมมองของเขา นั่นเป็นเหตุผลที่เหตุการณ์ต่างๆได้เกิดขึ้น
อุดมคติที่สวยงามของเขา แต่วิธีการเขาผิดพลาด นั่นคือเด็กที่เรียกว่าฟริทซ์ เด็กที่มีความแข็งแรง แต่ไม่มีอะไร
ฟริทซ์จัดเรียงตัวของเขาเพื่อพร้อมที่จะปกป้องจากขุนนาง เขาไม่ได้คิดอะไรมากไปเสียกว่าความคิดของเด็กที่น้อยใจ เขากำลังมีความหงุดหงิดกับตัวของครัซ แต่รูเดิลต้องทบทวนความคิดของเขาเสียใหม่เมื่อมองไปยังรอบๆ
ในห้องครัวป้าที่มักจะโยนชิ้นโบนัสของเขาสั่นด้วยความกลัว และอาจารย์ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารมีความผิดปกติและสภาพของโรงอาหารมันเละเสียจนไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ที่นี่และตอนนี้มีการกระทำของฟริทซ์ที่แตกต่างจากโจร รูเดิลสูญเสียอย่างรวดเร็วในความสนใจของฟริทซ์
“… ฉันไม่สนใจนาย”
ในคำพูดเหล่านั้น รูเดิลมองผ่านจากฟริทซ์ และมุ่งหน้าไปยังครัซ
“นายกำลังทำอะไรครัซ? และนายเรียกตัวเองว่าจะเป็นอัศวินที่สูงส่ง?”
“… อย่าเยาะเย้ยฉัน! ขยะอย่างนายไม่มีสิทธิ์ที่จะดูถูกฉัน! ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของนาย ถ้านายไม่อยู่ที่นั่น ฉันก็ไม่ต้องเอาตัวเองมาที่นี่ และฉันก็จะไม่แพ้คนอย่าเขา!”
ครัซร้องไห้ในขณะที่เขากรีดร้องออกมาด้วยความหงุดหงิด ดวงตาน่ากลัวของเขาจ้องมองไปยังฟริทซ์ที่ทรมานเขา รูเดิลได้ยินเนื้อหาของเรื่องก่อนที่เขาจะมาที่โรงอาหาร เขาหันกลับไปที่ฟริทซ์และตัดเข้าสู่การสนทนา
“ฉันขอโทษสำหรับปัญหาที่พี่ชายของฉันได้ทำให้นาย…แต่นายไปไกลเกินไปแล้ว”
“…! นายก็เหมือนกันนั่นแหละเกี่ยวกับคนที่ทนทุกข์ทรมานในกฎของบ้านอาร์ช”
ฟริทซ์กลับคำพูดของเขา เช่นเดียวกับที่เขาลดดาบไม้ของเขาที่มีต่อรูเดิลลง … รูเดิลไม่ได้พยายามที่จะหลบหรือป้องกัน ฟริทซ์ตอกเขาลงไปอีกสองสามหมัด แต่รูเดิลก็ไม่ได้ถอยหรือหนี ดาบไม้เป็นสิ่งแรกที่ถูกทำลาย
“ทะ…ทำไม. . .”
ฟริทซ์รู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของเขาเอง รูเดิลประกาศเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
“ให้เรื่องบ้าๆนี่หยุดลงซะที หากนายต้องการที่จะดำเนินต่อไป ครั้งต่อไปฉันจะพาไปอย่างจริงจัง”
ความน่ากลัวที่แตกต่างจากยูเนียส การทะเลาะวิวาทของนักเรียนได้สิ้นสุดลง . . .