38. Slam. Charge.
38. Slam. Charge.
เดิมทีผมคิดว่าจะใช้ดันเจี้ยนเลเวล18นี้เพิ่มเลเวลของผมไปประมาณ 150-170.
อย่างไรก็ตามตอนที่ผมโจมตีด้วยเลเวล148
ดันเจี้ยนที่มีการป้องกันทางเวทย์มนตร์
ตั้งแต่ที่ผมมีแค่ ‘ดาบเจาะ’ ที่เป็นการโจมตีกายถาพเท่านั้นและผมก็ต้องวางแผน.
‘ร่างมารจำแลง’ มีการโจมตีกายภาพเป็นพื้นฐานแต่มันก็มีผลกระทบทางเวทย์มนต์ มันเป็นอะไรที่สวยงาม.
ผมมีสองทางเลือก
อย่างแรกผมจะต้องเรียนสกิลทางกายภาพก่อนที่จะไปดันเจี้ยน19-21
อย่างที่สอง คือข้ามไปที่ดันเจี้ยนเลเวล22
เพือนร่วมชั้นของผมแทซังบอกว่ามันมีดันเจี้ยนที่เลเวลเยอะที่สุดคือเลเวล28.
มันถูกจัดการโดยชาวเกาหลี ‘ชอย ฮอย ซัน’, และยังไม่มีใครในโลกนี้ทำได้.
การเข้าดันเจี้ยนก็ต่างจากเกมส์ออนไลน์
หากล้มเหลวในการเครียร์ดันเจี้ยนในเกมส์ ก็เพียงส่งผลเล็กน้อย.
แต่ในความเป็นจริงหากว่าคุณไม่สามารถอยู่รอดได้ภายใน60นาที ศพเย็นๆของคุณก็จะหายไปกับดันเจี้ยน
ใน10นาที ผมสามารถได้รับประสบการณ์กว่า2ล้าน
มอนเตอร์ประเภทเดียวที่ให้ประสบการณ์มากกว่า2แสนต่อตัวและมีประมาณ10-15ตัว ดังนั้นในทางเทคนิคแล้วผมค่อนข้างได้รับประโยชน์มาก.
แม้ว่าจะได้ค่าประสบการณ์จำนวนมากเพื่อเพิ่มมาเป็นเลเวล148 ผมควรที่จะสามารถเพิ่มเลเวลสัก2เลเวลต่อวันในการล่าแบบเจาะจง(วันปกติ).
การตัดสินใจของผมยังหยุดอยู่ที่ดันเจี้ยนเลเวล18จนกว่าจะได้อาวุธแรงค์M/A
ผมจะไม่ทิ้งการเติบโตทางอาวุธ
และผมก็ไม่ได้แค่ประสบการณ์และทิ้งอาวุธเท่านั้น
บอสที่ปรากฎในดันเจี้ยนคือ‘บอสลับ’.
สิ่งมีหมายความว่าจะมีโอกาศสูงที่จะได้แก่นอเวคดรอปลงเมื่อเทียบกับดันเจี้ยนทั่วไป.
นอกจากนี้ยังมีการดรอปหนังสือสกิลอีก
ไม่มีสถานที่ปลอดภัยแบบนี้ในขณะที่ผมได้รับประโยชน์อย่างมาก
* * *
ผมได้เจอกับนักเวทย์ยูนจุนซังอีกครั้งตั้งแต่ที่ผมเห็นเขาครั้งแรกกับจุงโฮ.
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
หลังจากที่พบกันครั้งแรกเราได้เจอกันมาก่อนที่ดันเจี้ยนเลเวล18
การพาหลานของอิลซังที่ผ่านตาแค่ครั้งเดียว
คำแรกที่เขาพูดคือ…
“คุณมีความสามารถอะไรบ้างที่คุณมีอยู่?”
แม้ว่าคุณจะเป็นอเวคแต่คุณก็ไม่สามารถหยุดเวลาได้
พอลทัลเริ่มปรากฎเมื่อ40ปีก่อน
ภายในหนึ่งปีอเวคก็เริ่มปรากฎขึ้น
ผู้ที่มีโอกาศเป็นอเวคอยู่ในช่วงอายุประมาณ15-19ปี
ผู้ที่กลายเป็นอเวคแรกๆตอนนี้มีอายุประมาณ50-60ปีแล้ว.
อเวคก็มีอายุเท่ากับคนปกติ
แน่นอนว่ารูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไป.
ร่างกายของเขายังได้รับผลกระทบกับสถานะที่พวกเขาได้รับ.
แต่พวกเขาก็ยังเป็นคน
แต่ละคนมีอายุการใช้งานแน่นอน
ขึ้นอยู่กับว่าคุณดูแลตัวเองดีเพียงใดและมีความแตกต่างอะไรบ้าง
ไม่ว่าคุณจะมีความสามารถมากมายแค่ไหนคุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความแก่ชราและความตาย โชคชะตาคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.
ผมมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็ก ไม่ว่าคุณจะมองอย่างไรก็ตาม
และจุงโฮก็มีอายุ20ปลายๆ เขาก็ไม่ได้ดูแก่
แต่เมื่ออเวคสองคนเข้าไปในดันเจี้ยนเลเวล18และออกมาภายใน30นาทีพร้อมกับของที่ลูทมามากมาย.
ยูนจุงซันอาจจะคาดเดาได้ว่าหนึ่งในพวกเราอาจจะมีความสามารถที่น่าทึ่ง
โดยเฉพาะเด็กที่สวมรองเท้าไททันที่ซึ่งมีไม่ถึง5คน
มันเป็นประสบการณ์ที่เขาอยากรู้อยากเห็นมากอย่าไม่น่าเชื่อ
หลังจากที่เห็นพวกเราแล้วเขาก็มาที่ดันเจี้ยนทุกวัน
ไม่ถามหาจุงโฮแต่เมื่อเขาเห็นผม เขาก็เดินเข้ามาคุยกับผมเดี่ยวๆเลย
“อึมฮึ มีเหตุผลไหมที่ผมจะต้องบอกคุณ?”
“ไม่...อ่า โทษทีกับการแนะนำตัวที่ช้าไป ฉันชื่อยูนจุงซัน.”
หวังว่าคนอื่นจะสามารถรู้จังชื่อของเขา เขาต้องมีความมั่นใจมาก.
“ใช่ ผมรู้ว่าคุณมีชื่อเสียงมาก ผมคิมมินชอย.”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอมีความสามารถอะไร แต่ดูเหมือนว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง.”
“เนื่องจากผู้คนไม่สามารถคาดเดาได้ มันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต.”
“ถ้าวันนั้นมาถึง หวังว่าเราจะอยู่ข้างเดียวกัน.”
“…..”
“ดูแลให้ดี.”
เสียงที่แทบห้าวที่เข้ากับลักษณะของเขาก็เมื่อ พูดจบเขาก็หันหลังไป
ผมจ้องมองไปที่เขาอย่างตกตะลึง
ผมรู้สึกสั่นเหมือนกับถูกเขย่าโดยสิ่งที่ยิ่งใหญ่
จากสิ่งที่ผมได้ยินจากจุงโฮเขาเป็นคนหยุดคลื่นลูกที่สองที่โรงงานกลางระเบิด
เขามีความคิดที่ดีการทำแบบนั้นทำให้ความคิดของผมเข้ามาในใจมากมาย.
* * *
บ่ายแก่ๆ อาคารกิลด์โนเบลซ.
ลิฟท์มาหยุดอยู่ที่ชั้น15ปาร์คฮยอนเดินเข้ามาเนิบๆในสำนักงานของเธอ
“จิน งานที่ฉันถามมันไปถึงไหนแล้ว?”
เธอพูดราวกับรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน
จากนั้น.
ก็ปรากฎเงามืดออกมาจากเงาของกุหลาบของเธอ
จิน เขาเป็นมือสังหารที่มีสกิลแรงค์สูงอย่างไม่น่าเชื่อคือแรงค์ S มันเรียกว่า ‘เงาตามตัว’.
มือสังหาร ถูกเรียกว่าฆาตกรมากกว่าพวกเขาที่มีพลังยอดเยี่ยมมากกว่าการล่าสัตว์
พวกเขาสามารถสร้างความเสียหายกับเป้าหมายเดี่ยวได้เป็นจำนวนมาก
การที่จะยับยั้งการปรากฎตัวของเขาที่สามารถแทงเข้าไปยังจุดอ่อนของพวกเขา
ด้วยรอยยิ้มปลอมๆ จินพูดกับปาร์คฮยอน
“ทั้งสองคน? ดูเหมือนกับว่าเขาจะเป็นหมาที่ไม่ทำตามคำสั่งเจ้านายได้.”
“ฉันรู้แล้วจากรายงาน ไม่มีเหตุผลที่เขาจะได้เจอกับแจฮยอกและเขาก็ไม่แตกต่างจากซังมิน…”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทำอะไรด้วยตัวเอง แทนทั้งสองคนที่จับตามองคิมมินชอย.”
“ความความคาดหมายของคุณ.”
“คุณอาจจะต้องเดินตามแผนของคุณไวกว่าที่คุณคิด”
“คุณหมายถึงอะไร?”
“จากวันที่สองที่ฉันสักเกต เขากำลังมุ่งหน้าไปที่ชั้น18ด้วยตัวของเขาเอง”
“อะไร? ไม่ว่าเขาจะฟื้นมานาเร็วแค่ไหนเขาก็ไม่ควรเติบโตมากไปกว่าที่จะสามารถเครียร์ดันเจี้ยนซัคคิวบิไปได้.”
“ฉันพูดเฉพาะสิ่งที่ฉันเห็น ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณ.”
“……”
“โครงการใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันจะบอกตรงๆว่ามันปรากฎขึ้นตรงหน้าเมื่อฉันตรวจสอบความคืบหน้าของมัน.”
“โอ้โห... ผลลัพธ์?”
“ล้มเหลว...แต่ดูเหมือนกับว่าจะมีความคืบหน้าบางอย่าง ยากที่จะตรงกับเงื่อนไข”
“ทองเหลืองกำลังรอข่าวดี จากนั้น….”
แสงสีแดงที่คมกริบออกจากดวงตาของเขาภายใต้หน้ากาก
หลังจากพูดจบแล้วเขาก็กลับเข้าไปในเงามืดอีกครั้ง.
“โครงงานนี้ก็ปวดหัวพออยู่แล้ว แต่เขาอีก…..”
* * *
ไกวดอนโดนโจมตีด้วยดาวตก
มันใช้เวลานานอยู่เพราะต้องคอยกางบาเรียที่เมื่อมือซ้ายของมันมีการขยับ
แกว่งกระบอกเหล็กครั้งสุดท้ายหลังจากที่ตายเพราะดาวตก
[ได้รับค่าประสบการณ์500,000.]
“หืม?”
มีอะไรเหนือซากศพของมัน
ผมอยากจะวิ่งไปหามันทันทีแต่ลูว์เวอร์ก็เข้ามาขวาง.
“ออกมา เข้ามา!”
ดันเจี้ยนเลเวล18ที่มีบอสลับและลูว์เวอร์ก็ง่ายพอๆกับดันเจี้ยนเลเวล1.
ไม่มีการล้อเล่นจากศพ เขาหันมาหาผมหลังจากละศพของไกวดอน
ในที่สุดไอเทมก็ดรอปออกมาข้างหน้า
และผมก็ตะโกนดังด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
ผมอาศัยอยู่ในดันเจี้ยนมานานมาก
ทุกอย่างเพื่อไอเทมนี้
“สุดท้ายมันก็ดรอปออกมา!”
แรงค์ M/A ‘แบนวอน จินชอน’ ดรอปลงมา.[TL:Half-moon of Jincheon] 1
มันเป็นหนึ่งในดาบที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา.
มันเหมือนกับจันทร์เสี้ยวของดวงจันทร์และมีแสงจันทร์สะท้อนออกมา
ที่จับมีรูน้อยๆที่ด้านล่างโดยไม่มีการตกแต่งหรือลวดลายใดๆ
แม้ว่าจะมีขนาด1.5เมตรแต่มันก็เบาอย่างไม่น่าเชื่อ
บางทีอาจจะเพราะความแข็งแกร่งเกือบ600
แต่มันก็แข็งแกร่งเหมือนกับตอนที่ผมใช้ ‘ดาบดำ’.มีบางอย่างต่างจากดาบเล่มอื่น.
ผมถือดาบไว้ในมือของผม
ความแข็งแกร่ง: [585+20+400+100] = 1105
ผมรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ในหน้าต่างสถานะ
แบนวอน จินชอน เพิ่มความแข็งแกร่งให้ผม 400.
ยิ่งไปกว่านั้นยังเพียงค่าความแข็งแกร่งพื้นฐานอีก10%.
ผมเหวี่ยงผ่านอากาศที่ว่างเปล่า
เสียงที่คมชัดที่ตัดผ่านอากาศของดาบเล่มใหญ่ดังไปทั่วดันเจี้ยน.
ตอนนี้ผมได้ครึ่งนึงที่ผมต้องการแล้ว
คุณสามารถใส่อาวุธได้สองชิ้นในมือแต่ละข้างเหมือนกับ แบนวอน จินชอย
แม้ในตลาดอเวคการที่จะเจอดาบของนักรบก็ยากมากเหมือนกัน
เป็นหลักฐานว่าการดรอปของอาวุธต่ำมาก
แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆผมเครียร์ดันเจี้ยนได้ไวและมีโอกาศเจอมากกว่าพวกเขา
และเมื่อดาบดรอปลงพวกเขาจะแบ่งให้กับคนในปาร์ตี้6คนตามมาตรฐาน.
ถ้าคุณไม่ใช่คนสำคัญของปาร์ตี้คุณก็จะไม่ได้แม้ว่าดาบจะดรอปมาต่อหน้า
ไกวดอนดรอปหนังสือและมีอัญมณีสีเดียวกับแคนวาคอร์.
มันต้องเพียงอัญมณีที่เพิ่มความแข็งแกร่ง30แน่ๆ
อาวุธจากมอนเตอร์สามารถฝังอัญมณีได้ด้วยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามมันไม่มีเหมือนกับดาบที่มาจากดาบของช่างตีเหล็ก มันไม่มีจุดที่จะใส่อัญมณีเข้าไป.
ผมต้องประเมิณผลของอัญมณีและใส่ไว้ในหลุมเล็กๆปลายด้ามจับ.
จำนวนของอัญมณีที่ผมสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาวุธได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น.
มันไม่เหมือนกับการฝังอัญมณีที่มาจากช่างตีเหล็ก แต่ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้.
อัญมณีที่ผ่านการประเมิณไม่สามารถย้อนกลับไปได้
แต่อาวุธนี้จะอยู่กับผมชั่วระยะเวลานึง
จนกว่าผมจะได้แรงค์M/S.
ผมเอาของที่ดรอปจากไกวดอนมาทั้งหมด
โดยไม่ได้ตั้งใจผมมุ่งหน้าไปที่กลางดันเจี้ยน
แต่แล้วผมก็รู้สึกผิดปกติบางอย่าง
รู้สึกว่าเหมือนกับลืมสิ่งสำคัญ
มีเวลาเหลือเฟือจนกว่าดันเจี้ยนจะปิด
“ลูว์เวอร์...ฉันได้ตรวจสอบของที่มันดรอปหรือยัง?”
ด้วยความสงสัยผมก็ย้อนกลับไป
ตั้งแต่ที่ผมกระตือรือล้นมากที่ได้แบนวอน จินชอย ผมไม่แม้แต่จะตรวจดูให้แน่ใจ
ด้วนความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากรองเท้าไททันไม่ต้องใช้เวลานานพอที่จะมาถึง.
ผมตกใจเมื่อมาถึง.
มีแหวนวงเดียวอยู่เหนือศพของลูว์เวอร์
“โลกมีอะไรแบบนี้…”
ด้วยการเครียร์ครั้งเดียว ผมได้ ทั้ง แบนอวน และ แหวนของลูว์เวอร์
ผมวิ่งไปทั่วดันเจี้ยนหลายร้อยครั้ง แต่มันเหมือนกับว่าวิ่งผ่านไปแล้วหลายพันครั้ง.
ไอเทมที่ดรอปทั้งหมดเป็นสิ่งมารตฐาน
แน่นอน ว่ามันรวมมิมิก
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นไอเทมที่ดรอป ผมรู้สึกว่าการทำงานหนักมันก็แย่เท่าไร
ตอนนี้ผมได้สองจากสามในเซ๊ตของลูว์เวอร์
ผมดีใจที่แหวนและกำไลที่จับคู่กันได้อย่างดีดรอปลงมาก่อน.
แหวนดูดมานาและไปเพิ่มพลังให้กับกำไล.
ในดันเจี้ยนไม่มีมอนเตอร์ตัวไหนไม่ใช้เวทย์.
อย่างไรก็ตามดันเจี้ยนหลังจากนี้และอเวคที่เข้ามาโจมตีจากที่อื่นๆก็ยังใช้เวทย์มนตร์โจมตี ผมสามารถใช้การดูดซับเหล่านั้นเพื่อเพิ่มพลังของสกิลตอบแทน
ผมใส่มันบนนิ้วของผม
ไม่มีสถานะออกมา
อย่างไรก็ตามแหวนได้ทำปฎิกิริยากับกำไลด้วยแสงสีฟ้าจางๆออกมา
ถ้าผมสามารถให้สร้อยค่อในดันเจี้ยนนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช่โล่ในดันเจี้ยนนี้.
ดาบและสร้อยคอของลูว์เวอร์
ถ้าผมสามารถได้ของเหล่านี้ความสามารถของผมน่าจะเพิ่มสูงมากขึ้น
ผมรู้สึกแข็งแกร่งมากขณะที่ผมมุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนอีกครั้ง
“ไปทำงานกันเถอะ.”
1. Half-moon of Jincheon