LSG-บทที่ 99 ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์ (อ่านฟรีวันที่15ตุลา)
LSG บทที่ 99
แปลไทยโดย : SwordGod
ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์
เมื่อได้ยินคำถามหลงเชี่ยนหลี่ ซูหยุน ได้แต่เกาหัว
ชอบนางมั้ยหรอ?
"นางคือครอบครัวสุดท้ายของข้าที่ข้ารักและมีความสำคัญต่อข้ามาก ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายลือด ในโลกนี้คนที่ดูแลข้ามากที่สุดคือนางและคนที่เป็นห่วงข้ามากที่สุดก็คือนางเช่นกัน "
หลงเชี่ยนหลี่ ได้ยินสิ่งที่เขาพูดและกระพริบตาพยักหน้าของนาง แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
นางหยิบเอาเม็ดลูกปัดมุกออกจากอกของนางและวางไว้บนโต๊ะ
"ช่วงเวลาที่ข้าได้พุดคุยกับเจ้าทำให้ข้าได้รับประโยชน์จากความรู้เกี่ยวกับยาและการปรุงยาถือได้ว่าเจ้าคืออาจารย์ของข้า ตระูลซูมีเรื่องยุ่งยากหลายอย่างดังนั้นเจ้าต้องระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าเจ้าจะมีความลับในใจ แต่ระดับการบ่มเพาะของเจ้ายังต่ำเกินไปและเจ้าอย่าได้ยึดติดกับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเจ้าสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้ก็ควรหลีกเลี่ยงมันซะ คนเรามักจะมุ่งมั่นสำหรับการเป็นผู้นำ เจ้าต้องไม่แสดงพลังของเจ้าและนำความเดือดร้อนมาให้ผู้คน หากเจ้ามีปัญหาอะไร เจ้าก็มาหาข้าได้ที่ สำนักกระบี่เซียน นี่คือส่วนผสมของ เม็ดยาผลิดดอกบานสะพรั่ง ของสำนักกระบี่เซียนของข้าซึ่งต้องใช้วัสดุที่ไม่ธรรมดาในการกลั่น ไม่ว่าเจ้าจะปรุงยาเก่งแค่ไหนเจ้าอาจจะทำมันไม่ได้ มันจะช่วยให้คุณสามารถทลวงเข้าสู่ เขตแดนผลิวิญญาณขั้นที่6ได้โดยง่ายซึ่งเจ้าสามารถใช้มันได้เพียงครั้งเดียวต่อ1ระดับ! เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลบางเรื่องเกี่ยวกับการบ่มเพาะ เจ้าจะต้องมั่นคง หากเจ้าเร่งรีบมันจะส่งผลตรงกันข้าม... "
หลงเชี่ยนหลี่ ได้แนะนำอย่างช้าๆด้วยเสียงของนางเบา ๆ ที่ลอยอยู่ในหูของมันเช่นลมในฤดูใบไม้ผลิทำให้ทุกคนที่ได้ยินเสียงหลงใหล
ซูหยุนมองใบหน้าที่นุ่มนวลอ่อนหวานของนางทำให้จิตใจของมันโลดแล่นไปไกล เป็นวามรู้สึกที่มันไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"ข้าอาจจะพูดมากเกินไป" หลงเชี่ยนหลี่ เริ่มอายและจบลงอย่างกะทันหันด้วยประโยคไม่กี่คำ
หลังจากใส่ขวดยาลงในมือแล้วนางก็หันหลังจากไป
"ช้าก่อน!"
ทันใดนั้นซูหยุนก็ยื่นมืออันลึกลับของมันคว้าแขนของอันอ่อนนุ่มเหมือนไร้กระดูกของนาง
หลงเชี่ยนหลี่ สั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าและมองเขาด้วยสายตาที่สวยงามและประหลาดใจอย่างสมบูรณ์
แต่…
แต่แปลกที่นางไม่ได้ขัดขืนนางหันหน้าไปอีกด้านหนึ่งอย่างเอียงอายและไม่ได้มองเขา
ซูหยุนไม่ยอมปล่อยไป "แล้วข้าจะถามท่านได้หรือไม่?"
"พูด!"
"ท่านปฏิบัติกับทุกคนเช่นนี้หรือเปล่า?"
"เจ้า…" นัยน์ตาคู่งามของ หลงเชี่ยนหลี่ มองอย่างมีรูปลักษณ์ของความกังวลและด้วยความรู้สึกโกรธนางหดมือเล็ก ๆที่อ่อนนุ่มไร้กระดูกของนางถอนหายใจหนักหน่วงและหันร่างของนางไป ในพริบตาเดียวนางก็ออกจากบ้านไม้และหายตัวไปแล้ว
“อ่า?
ซูหยุนเกาหัวมองด้วยความสับสนเล็กน้อย
นางเป็นคนแบบไหนกันแน่น้า?
"อย่าบอกข้านะว่าเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้จาก สำนักกระบี่เซียน ตกหลุมรักข้า"
.........
.........
หลังจากที่ หลงเชี่ยนหลี่ ออกจากกระท่อมเล็ก ๆ ที่รกร้างเปลี่ยนไปอย่างสงบ
แต่ ซูหยุน ไม่ได้พัก เมื่อเสร็จการบ่มเพาะในวันนี้แล้วมันก็เริ่มต้นการเตรียมของ
หลังจากที่กิน เม็ดยาผลิดอกบานสะพรั่ง ของ หลงเชี่ยนหลี่ ลมปราณวิญญาณลึกล้ำ ขิงมันได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วโดยมีอาการบ่งบอกถึงความก้าวหน้า ซูยองไม่ได้หน่วงเวลาอีกต่อไป มันนั่งลงเริ่มปรับแต่ ลมปราณ ของมันและเข้าใจ
ด้วยความพยายามตลอด 1 สัปดาห์มันก็ทลวงขึ้นจาก เขตแดนผลิวิญญาณขั้นที่5 เป็นขั้นที่6
ภายในเวลา1เดือนมันทลวงขึ้น1ขั้น นี่เป็นความเร็วที่อัศจรรย์
ซูหยุน มีความสุขมาก ปริมาณของปราณวิญญาณลึกล้ำที่ซูหยุนได้รับมีปริมาณมากทำให้ ผู้อาวุโสกระบี่ตื่นขึ้น เขาหลับลึกมาเป็นเวลาครึ่งเดือน การที่ซูหยุนทลวงแต่ละครั้งทำให้ ผู้อาวุโสกระบี่ พูดไม่ออกและตกตะลึง
แน่นอนว่าศิลานิรันดร์และ 'เม็ดยาผลิดอกบานสะพรั่ง' แสดงผลออกมามาก
วันนี้ซูหยุนอยู่ในกระท่อมซอมซ่อและใช้ชุดเข็มหัวใจเก้าหยก หยดเลือดสดๆที่มีพลังงานวิญญาณลึกล้ำหยดลงบนแผ่นภาพอาคมเทพเจ้าผลาญร้อยปีศาจ อาคมกระหายเลือดสีแดง
ก๊อกๆๆ!
ในเวลานี้มีเสียงเคาะอย่างเร่งรีบมาจากประตู
ซูหยุน เก็บชุดเข็มหัวใจเก้าหยกและคว่ำ "กระจกเงาจันทราลอยฟ้า" แล้วเปิดประตู
แต่ไม่ต้องรอให้มันเปิดประตูมีคนถีบประตู ปัง!
"นั่นใคร?"
ซูหยุนมองและตะโกนด้วยความโกรธ
"สาวกภายใน ซูซินเจิ้น!"
"ซูหยุนอยู่ที่ไหน?"
"ข้าอยู่นี่!"
ซูซินเจิ้น เงยตามองไม่เห็นร่างมนุษย์ มีเพียงกำปั้นเหล็กขนาดใหญ่ที่บินตรงเข้ามาที่ใบหน้าเท่านั้น
กำปั้นเหล็กรวดเร็วมากทำให้เกิดลมกันโชคขึ้นอยู่ด้านหลังกับลมปราณที่แข็งแกร่ง เขาไม่มีโอกาสที่จะหลบและโดนกำปั้นเหล็ก ร่างของเขาลอยไปข้างหลังถูกโยนออกนอกประตูและล้มลงกับพื้น หลังจากที่มันคลุกม้สนไปกับพื้นสองสามรอบก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้ด้วยความคลั่ง
"ซินเจิ้น !! เจ้าเป็นอะไรมั้ย?"
"แกกล้าแตัต้องสาวกภายในอย่างนั้นหรอ แกเบื่อที่จะอยู่ในตระกูลซูแล้วใช่มั้ย?
สาวกอีกสองคนรีบวิ่งไปช่วย ซูซินเจิ้น
คนเหล่านี้เป็นสาวกภายใน พวกเขาสวมเสื้อผ้าที่หรูหราและมีแหวนสัญลักษณ์ที่แขวนอยู่รอบเอวของพวกเขา ลมปราณของพวกเขาแข็งแกร่งเหมือนว่าจะเป็นสาวกวิญญาณลึกซึ้งขั้นที่1 ที่สำนักภายนอกพวกเขาเป็นกันเอง แต่ที่ด้านหน้าของซูหยุน ไม่ต้องเอ๋ยถึงพวกเขา
"อยู่ในตระกูลซู งั้นหรอ?"
"ตระกูลซูไม่ได้ตั้งกฎเอาไว้ซะหน่อยว่า ห้ามสาวกสำนักภายนอกต่อยสาวกสำนักภายในนิ? เจ้าจะทำอะไรได้หากว่าข้าเอาชนะเจ้า? "
มีกฏของตระกูลซูระบุเอาไว้ว่า สาวกสำนักภายในไม่ควรรังแกสาวกสำนักภายนอก แต่กฎนี้ไม่ได้มีผลกระทบกับ สาวกภายนอกที่รังแกสาวกภายในได้ พวกเขาไม่กล้าบอกกฏหรอกว่า สาวกภายนอกห้ามรังแกสาวกภายในนะ ด้วยเหตุนี้ ผู้นำสูงสุดจึงคิดว่ากฎนี้ไม่ใชาว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่สาวกภายนอกคนที่มีพลังพอข่มเหงสาวกภายในจะมีหรอ?
แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นประการหนึ่งและนั่นก็คือความแปลกประหลาดนี้
"ซูหยุน?" แกมันบ้า! วันนี้ข้าจะสอนบทเรียนเกี่ยวกับการเป็นคนให้กับแก! "
ซูซานเฟิง วิ่งเข้าไปหา ซูหยุน ง้างหมัดที่สะสมอัดพลังปราณวิญญาณลึกล้ำไว้
เมื่อเทียบกับสาวกสำนักภายนอกหมัดนี้มีความแรงและเร็วกว่ามากนิ้วมือระหว่างหมัดเบียดกันเสียงดังกรอ๊บแกร๊บอย่างต่อเนื่อง ความเร็วกำปั้นเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วและมันถูกปกคลุมwxด้วยระเบิดของทักษะที่บรรจง ...
แต่ซูยุนได้ปิดกั้นลมปราณทั้งหมดในตัวมัน กลุ่มคนเหล่านี้คิดว่ามันเป็นแค่สาวกเขตแดนพื้นฐานวิญญาณขั้นที่10 เพื่อให้เหล่าสาวกสำนักภายในรู้ว่าเขตแดนการบ่มเพาะของมันเป็นแบบนี้ มันทำได้ง่ายๆแลในเวลาลาเดียวกันก็จะทำให้พวกเขาได้รับความอัปยศ
หมัดที่พุ่งเข้ามาไกล้ซูหยุนก่อนที่มันจะยื่นมือของมันออกไปและหยุดกำปั้นอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เสียงคมชัดดังมาก
กำปั้นซึ่งเดินทางด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาดได้ถุกหยุด
สำนักภายใน ซูซานเฟิง ไขว้เขว เขามองมาที่ซูหยุน เขาได้ถุกเตะอย่างรุนแรงที่ท้องของเขา
ตูม!!!
ซูซานเฟิง ปลิวลอยออกไปทันทีหัวฟาดเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ เมื่อเขาล้มลงบนพื้นเขาก็หมดสติไปไม่ขยับเลย
เตะแค่ทีเดียวถึงกับทำให้สาวกภายในสลบได้ มันยังเป็นแค่สาวกสำนักภายอยู่อีกหรอ?
ซูซินเจิ้งและคนอื่น ๆ ก็ตะลึง
"พวกเจ้าเคยได้ยินชื่อของข้ามาบ้างหรือเปล่า ใช่ๆๆข้านี่แหละ ซูหยุน?"
"พวกเจ้ามีปัญหาอะไรมั้ย ข้าเป็นคนสังหาร ซูกวง ยังไงล่ะ? พวกเจ้าลืมไปแล้วเหรอ? พวกเจ้าจะให้ข้าสังหารสาวกภายในอีกซักกี่คน ถึงจะทำให้พวกเจ้าประทับใจในตัวข้าดีละ? "
"เจ้า…"จะ..เจ้าคือซูหยุนคนที่ฆ่า ซูกวง งั้นหรอ? "
"สำนักภายนอก มีซูหยุนอีกคนหรือไงกัน?"
.........
ไม่มีใครคิดว่าสาวกภายนอกผู้นี้จะโหดเหี้ยม
"พูดมา พวกเจ้าตามหาข้าทำไม?"
"มะ.. ..มะ. ... มีสามคำสั่งจากสำนักภายในออกมา ... สามวันต่อจากนี้พวกเขาต้องการ ... ต้องการผู้ที่ได้รับเลือก ... ไป ... ไปที่ทะ.. ทะเลสาปไท่ฉิง เพื่อฆ่าสัตว์ประหลาด... "
"สามวันต่อจากนี้ไปทะเลสาปไท่ฉิงเพื่อฆ่าสัตว์ประหลาดอย่างงั้นหรอ?"
"มันเป็นสัตว์อะไร?"
"มันถูกเรียกว่า 'ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์"
"ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์ '? มันเป็นปีศาจเก่าแก่มีชีวิตมาได้ห้าร้อยปี? "
"มันน่าจะเป็นอย่างนั้น ... ?"
"ตระกูลซูพาคนไปเท่าไหร่?"
“ประมาณ .. ประมาณหกสิบหรือมากกว่านั้น”
"พวกเขาเป็นใคร?"
"สำนักภายใน12คน นอกนั้นเป็นสำนักภายนอก "
"ตระกูลซู ส่งคนเหล่านี้ไปหาที่ตายหรือไงกัน?" “All the other teams there had an exceptional level of Profound Spirit Qi to go against the Heavenly Scale Fish King! To send such a team over is basically to kill them.” "แต่ละคนในกลุ่มนั้นมีระดับลมปราณวิญญาณลึกล้ำยอดเยี่ยมเพื่องส่งไปสู้กับ ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์! การส่งกลุ่มคนดังกล่าวโดยหลักๆแล้วเป็นการส่งกลุ่มคนเหล่านี้ไปเพื่อฆ่ามากกว่า "(TL:ส่งไปตายแล้วพี่จะบรรยายทำส้นอะไรว่าคัดแต่คนที่มีลมปราณพิเศษครับพี่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ไปตาย เล่นเอางงเลย)
"ข้าได้ข่าวมาว่าภารกิจในครั้งนี้ได้รับการว่ายวานจากนิกายอื่นด้วยความหวังที่ว่าตระกูลซูของพวกเราน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง มีหลายนิกายที่จะฆ่า ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์ ตระกูลซูของพวกจะไปแค่แสดงเท่านั้น พวกเขาจำเป็นต้องใช้เพียงวแค่วิชาลึกล้ำบางอย่างแค่นั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องสู้ เพื่อชีวิตของพวกเขาเอง "
"โอ้!
ซูหยุนพยักหน้า แต่มันจำได้ว่ามีสมบัติล้ำค่า
จักรษุศักิ์สิทธิ์เกล็ดสวรรค์!
เป็นสมบัติล้ำค่าที่สร้างความปั่นป่วนสั่นสะเทือนยุทธภพ
ราชามัจฉาเกล็ดสวรรค์ ทุกๆ500ปีจะเกิดมา1ตัว มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่หลายคนยังไม่ทราบว่าดวงตาของ มัจฉาเกล็ดสวรรค์ ถูกกลั่นให้เป็นสมบัติล้ำค่าและถ้าหากใครสามารถบรรลุจักรษุศักดิ์สิทธิ์ได้จะไช้ประโยชน์มากมายกว่าแสนประโยชน์
"มีข้อบังคับให้เข้าร่วมภารกิจนี้หรือไม่?"
"ใช่ทุกคนต้องเข้าร่วม ผู้เข้าร่วมจะได้รับเบียงอาหารจากตระกูลซู ถ้าพวกเขาไม่เข้าร่วมพวกเขาก็จะได้รับการปฏิบัติตามกฎของตระกูลซู! "
ซูหยุนพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นช้าจะเข้าร่วม!"
"ห๊ะ ... เยี่ยมไปเลยงั้นอีกสามวันเจอกัน งั้นข้า ... พวกข้ากลับละนะ! "
"เดี๋ยวก่อน!"
ทันใดนั้นซูหยุนก็ร้องตะโกน ทั้งสองคนสั่นสะท้านและหันไปมองซูหยุนด้วยความกลัวว่า "มะ ... มะมีอะไรงั้นหรอ"
"จ่ายค่าซ่อมประตูมาก่อนที่เจ้าจะไป!"
"เรื่องนี้ เอ่อ ... เท่าไหร่?"
"เจ้ามีเงินทั้งหมดเท่าไร?"
"ขะ ... ข้ามีเหรียญวิญญาณสี่ร้อยเหรียญ... "
"แล้วเจ้าล่ะ? ซูหยุนมองไปที่อีกคนหนึ่ง
"ขะ ข้ามี ...ข้ามีเหรียญวิญญาณห้าร้อยสิบเอ็ดเหริญ ... "
"ก่อนอื่นให้โยนเหรียญวิญญาณทั้งหมดมาก่อน"
ซูซินเฉินไม่กล้าล่าช้าเขารีบดึงถุงใส่เหรียญวิญญาณรอบเอวของซูซานเฟิงและรีบโยนมันให้ซูหยุน
"ในการซ่อมประตู ข้าต้องการเหริญวิญาณ911เหริยญ!"
.........
แปลไทยโดย : SwordGod