Chapter 32 What do you want me to do
Chapter 32 What do you want me to do (Part 2)
หน้าจอเปลี่ยนอีกครั้ง.
[ลักษณะ ไลแคน]
1. มนุษย์หมาป่า.
2. ทำหน้าที่เป็นกลุ่ม.
3. มีสติปัญญาเท่ากับมนุษย์.
4. สามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้ ตลอดเวลาการแปลงร่าง จะใช้ภาษามนุษย์ในการสั่งงาน.]
กลุ่มอื่นก็เป็นสัตว์ประหลาด
ในป่าที่ไม่คุ้นเคย เรามีประสบการณ์อย่างยากลำบากมากในการในการถูกไล่ล่าของกลุ่มที่คุ้นเคยในป่านั้น.
“ไลแคนมีความแข็งแกร่งมากกว่าลิงแดงและมีความสามารถในการรับฟังและกลิ่น มากกว่าหมาป่าทั่วไป ในรอบต่อไปมันจะยากกว่ารอบสองมาก.”
‘อึก.’
กลิ่นและการได้ยินมากกว่าหมาป่า ก็หมายความว่ามันจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าลิงแดง.
“แน่นอนว่าคุณมีความแข็งแกร่งมากและมีโอกาสชนะ แต่ก็มีข้อเสียอยู่.”
“คุณหมายถึงแฮซู?”
ผมพูดถึงมัน.
“ใช่.”
แฮซูกระตุกและเงยหน้า ผมแตะไปที่ไหล่แฮซู ผมไม่ได้ชี้เป้าในการวิจารณ์ไปที่เธอ แต่ผมต้องการที่จะหาจุดอ่อนและวางแผนเพื่อความปลอดภัย.
“แฮซูเธอมี150คาม่า ใช้ไป100เพื่อเพิ่มบัฟเลเวล 1 แต่ปัญหาของเธอที่ใหญ่ที่สุดคือยังไม่สามารถใช้ดาบได้อย่างดีเท่าไรนักแม้ว่าจะฝึกฝนแล้วก็ตาม.”
จีเฮยังพูดต่อ.
“แต่มันก็ยังเป็นความจริงที่เธอยังคงอ่อนแอกว่าคนอื่นในทีมและหากไม่ได้มีส่นร่วมมากในการสอบต่อไปเรื่อยๆ เธอก็จะกลายเป็นหินที่ไม่อาจเติมเต็มความต้องการของกลุ่มได้ ช่องว่างที่หายของสกิลต่างๆก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ.”
“ผมคิดว่าไม่มีทางไหนที่จะอยู่เฉยๆและมองดูรอบๆได้ แต่มีความปลอดภัยแบบไหนบ้าง?”
ผมถาม.
จีเฮพยักหน้า
“คุณคิมฮยอนโฮคุณสามารถเอาปืนให้คุณแฮซูได้ไหม?”
“ปืนเวทย์? แฮซู?คุณต้องการให้เธอต่อสู้ด้วยการใช้ปืน?”
“ไม่ มันคือการคืนปืนเวทย์ให้เป็นคาม่า.”
เรียกคืน?!
“เป็นไปได้ไหม?”
“มันเป็นไปไม่ได้กับสกิลแต่ไอเทมจะได้รับคาม่าคืนครึ่งนึงของราคา เนื่องจากปืนเวทย์มี100คาม่า เพราะงั้นจะได้คืน 50 คาม่า.”
คำอธิบายของจีเฮยังตามมา
“ตอนนี้แฮซูมี 50 คาม่า.
และหลังจากที่ได้ปืนเวทย์แล้วคุณก็จะได้คืนอีก50คาม่า
ด้วยเทคนิคนี้เมื่อแฮซูได้เพิ่มอีก 50 คาม่าจะสามารถเพิ่มผลงานในทีมให้กับเธอได้.”
“มีไอเทมที่ต้องการ?”
“ไอเทมนั้นถูกเรียกว่ากระเป๋า.”
จีเฮกดรีโมทและจอโปเจคเตอร์ก็เปลี่ยนไป.
[ไอเทม กระเป๋า (เล็ก).
ขนาด: 32x22x8
วัสดุ: หนังเวทย์มนต์
ฟังก์ชัน: จัดเก็บไอเทมและสามารถผ่านประตูสอบได้.
ราคา: 100 คาม่า]
“นี่ ยารักษาโรคและเวชภันฑ์และกระสุนของคิมฮยอนโฮที่ต้องการใช้และนำติดตัวไปที่อารีน่าได้ถ้าคุณแฮซูสามารถทำหน้าที่เป็นแพทย์ได้นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อทีม”
นี่ไง!
***
การเตรียมพร้อมกับการสอบครั้งที่3ก้าวหน้าอย่างราบรื่น.
จุนซอยที่ได้รับตัวตนใหม่ แต่ก็นยังคงอยู่ที่ศูนย์วิจัยและฝึกฝนตนเองอีกด้วย.
ยูนโฮได้รับการฝึกฝนโล่และหอกจากครูหอก.
คนที่มีการฝึกที่เข้มข้นที่สุดคือแฮซู เพราะว่าเธอต้องฟันดาบและเป็นแพทย์ฉุกเฉินในเวลาเดียวกัน.
ในการฟันดาบที่เธอสามารถทำได้ตอนนี้มีแค่ ฟันตรง ฟันตัด จ้วงแทง เธอทำแค่สามรูปแบบนี้ และฝึกท่าทางไปเรื่อยๆจยกว่าร่างกายของเธอจะจำได้.
ในอีกทางเธอต้องเรียนรู้การดูแลกระสุนและเรียนรู้การใช้ยาและการพยาบาลฉุกเฉิน.
“ในอัตรานี้เธอจะเหนื่อยมากก่อนสอบ มันไม่ควรให้การฝึกเธอน้อยกว่าหนี้หรือดูจากสภาพเธอ?”
“นั่นไม่จำเป็น.”
“ห๊ะ?”
จีเฮตอบหนักแน่นและไม่มีความอายออกมา
“ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเงื่อนไข ความจำเป็นที่ร่างกายได้รับจาการฝึกฝนเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตามเมื่อร่างกายผ่านประตูสอบมันก็จะหายไปเอง.”
“อ่า!”
พวกเขาฝึกฝนแบบไม่ใส่ใจผู้ฝึก พวกเขาไม่ได้มาจากรัฐหรือไง.
“แล้วผมจะทำอย่างไร?”
“…”
เธอไม่มีอะไรจะพูด.
“ผมควรที่จะคอยป้อนกระสุนให้ซิลไม๊?”
“…”
“โอ้ เมื่อซิลใช้ปืน ผมก็แค่ยื่นลูกกระสุนและยังสามารถเก็บปลอกได้ด้วย?”
“เอาหล่ะ ได้ คุณต้องการที่จะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน?”
“ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน?”
“เพราะว่าเรามีวันเหลือไม่มากฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะเรียนรู้ได้มากเท่าไรตามความสามารถของคุณ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณสามารถคุ้นเคยกับการต่อสู้น่าจะเป็นประโยชน์กับการเจอไลแคน.”
“นั่นเป็นเสียงที่ดี.”
จีเฮ พาผมขึ้นไปที่ชั้นใต้ดินที่4ของศูนย์วิจัย.
มันเป็นพื้นที่กว้างเหมือนกับที่ซ้อมยิง และมีเครื่องออกกำลังกายหลากหลายอยู่และตีงกลางก็มีสนามต่อสู้อยู่ด้วย
“มันเป็นสถานที่น่าทึ่ง.”
“สำหรับผู้เข้าสอบทั่วไปมีดีมาก การตั้งโปรมแกรมฝึกในจะช่วยให้แหลมคนมากขึ้น”
“แต่ไม่มีใครอยู่ที่นี่.”
“…”
“ผมอยากจะถามมานานแล้วว่ามีคนอยู่ในศูนย์วิจัยกลาง อารีน่า เกาหลี นี้ มีกี่คนกันแน่?”
“รวมทีมของคุณด้วยก็ 67 คน.”
“67 คน?!”
ผมประหลาดใจมากเกินกว่าที่ผมคิด.
“มันอยู่ในแถบเล็กๆ แต่เราก็ติดอยู่ใน 50 อันดับแรกทั่วโลก.”
“อัยดับโลก? นั่นคืออะไร?”
ผมสับสน อันดับโลก? บางทีอาจจะมีการสอบที่เปรี่ยบเทียบกันกับประเทศอื่นๆ? ไม่มีทาง
“มันเป็นการจัดอันดับโดยการรวมคาม่าที่ได้จากการสอบ ไม่มีใครอยากเปิดเผยว่าพวกเขาได้อาวุธอะไรหรือสกิลอะไร แต่ทั้งหมดคำนวนจากการใช้คาม่า มันเลยไม่ค่อยสำคัญ.”
“มันพิสูจน์ว่าเป็นไปได้หรอ?”
“การตรวจสอบเป็นไปไม่ได้ สถาบันที่ทำสัญญาด้วยจะไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ”
“งั้นก็มีการโกหกเพื่อให้ได้อันดับสิ.”
“มันก็จริง แต่มันมีหลายกรณี ผู้เข้าสอบจะถูกเปิดเผยโดยสถาบันที่ทำสัญญาของตัวเอง แต่ถ้าพวกเขาต้องการให้ผู้เข้าสอบได้อันดับที่สูง มันก็จะต้องมีการลงทุนสูงและค่าใช้จ่ายมากมายที่ผู้สอบต้องการ”
“อ่า…”
“นอกจากนี้การจัดอันดับของคุณสูงขึ้น สถาบันอื่นๆจะเพิ่มความอิจฉาและไล่ตามผู้เข้าสอบนั้นๆโดยการให้เงินเดือนที่สูงขึ้น.”
“งั้น ผู้เข้าสอบอาจจะโกหกสถาบันของเขาเพื่อให้ดูมีอันดับสูงๆเพื่ออัพราคา?”
“การโกหกเป็นไปไม่ได้ มันไม่สามารถหลบรอดไปจากการสังเกตเกี่ยวกับสิ่งของหรือสกิลรวมทั้งไอเทมจากผู้เข้าสอบได้.”
นั่นหมายความว่าแม้ว่าคุณจะสูบบุหรี่นักวิจัยก็จะประเมิณวิเคราะห์อย่างละเอียดและประมาณมันออกมา
อย่างนั้นผมก็อยากรู้จริงๆ
สิ่งที่ตรงข้าม?
‘ไม่สามารถซ่อนสกิลของคุณได้?’
ตัวอย่างเช่น ผมได้คาม่า 900 แต่ผมโกหกว่าได้ 700 และใช้200 ไปกับสิ่งอื่นๆ แบบนี้ผมสามารถแอบเพิ่มพลังของผมได้.
ในกรณีที่ผมจะต้องซ่อนความจริง
… ผมมีนิยายหลายเรื่องเกี่ยวกับศิลปะต่อสู้ที่ทำแบบนี้?
มันเป็นความคิดที่ดูน่ารัก แต่เมื่อผมคิดเกี่ยวกับเรื่องมากขึ้น มันก็ไม่แย่นัก
แม้ว่าศูนย์วิจัยจะมาจากของรัฐ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะเชื่อได้ 100% ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าสถานะการณ์มันอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หากผู้นำองกรณ์เกิดเปลี่ยนมือขึ้นมา.
ผมไม่สามารถไว้วางใจได้อย่างสมบูรณ์ดังนั้นมันจะเป็นอันตรายหากว่าผมเปิดเผยทุกอย่าง
‘ฉันควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น.’
“เอาหล่ะ ขึ้นมา.”
‘หืม?’
จากนั้นผมก็ตื่นจากความคิดและมองไปที่จีเฮที่อยู่ในสังเวียน เธอสวมถุงมือ UFC เปิดนิ้วทั้งสองข้าง
“หืม?”
“ใส่ถุงมือและขึ้นมา.”
“ตอนนี้คุณกำลังทำอะไร?”
“สแปรริ่ง(Sparring=ซ้อมต่อยจริง).”
“ไม่ มันไม่มีผู้ฝึกสอนหรอ?”
“นั่นคือฉัน.”
“…”
“…”
เกิดความเงียบชั่วขณะ
“อืม คุณจะโอเคหรอ?”
“คุณหมายความว่าไง?”
“ผมเป็นผู้ชาย ผมมีบัฟเพิ่มความแข็งแกร่ง น้ำหนักและความแข็งแรง…”
“โอ้ นั่นคือสิ่งที่คุณหมายถึง?”
เธอเอ่ยปากราวกับว่าเธอเพิ่งเขาใจ จากนั้นเธอก็พูด
“คุณในกองทัพไหน?”
“…คลังกระสุนปืนที่ 3.”
“นั่นคือฝ่ายกองหลัง ฉันอยู่ในกองกำลังพิเศษ7ปีและฝึกมวยไทยตั้งแต่เด็ก.”
“…”
ผมขอโทษที่มองข้ามคุณ
ผมใส่ถุงมือและเข้าไปในสังเวียน
“งั้นก็เรามาเริ่มกันเถอะ.”
“ไม่ รอ แบบนี้ มันกระทันหันเกินไป? สอนผมสักหน่อย…”
“ยกกาดของคุณ.”
โอ้ ขอบคุณสำหรับการสอนที่ดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ผมสามารถทำได้แม้ว่าจะเพิ่งเริ่ม
ผมมองไปที่จีเฮที่กำลังใช้ฟุตเวิร์คเดินเข้ามาหาผมอย่างระมัดระวัง.
ผัวะ!
อ่า ใช่ มีลูกแตะ ผมคิดว่ามันเป็นมวยสากล
***
ผมจะพูดว่าไงดีมันเหมือนกับเป็นการผลักและดึง
ผมประหลาดใจอย่างมากเมื่อมันไม่เจ็บเท่าที่ผมคิดเมื่อผมโดนเตะตัดล่าง เมื่อผมคิดง่ายๆขณะนี้เธอก็กระโดดลอยออกไปด้านข้างหลังจากที่เตะผม ผมได้ตระหนักว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิง มันไม่มีทางเลือก เธออ่อนแอและแข็งแกร่งน้อยกว่าผู้ชาย.
‘อะไรมันก็ไม่ได้แย่.’
ด้วยกำลังใจของผม หมัดฮุคซ้ายก็ค่อยๆบินเข้ามาหาผมอีกครั้ง ผมสามารถหลบมันได้อย่างง่ายดายและตอบโต้ด้วยการชก.
… ขณะที่ผมทำแบบนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ทำราวกับว่าเธอรอมานาน เธอเคาน์เตอร์ด้วยฮุกขวา ตามมาด้วย เตะซ้าย-ขวาเข้าชายโครงและจบคอมโบด้วยเตะสูง!
หลังจากที่ได้รับชัยชนะอย่างฉันพลัน ผมรู้แล้วว่าจีเฮเธอแข็งแกร่งมาก.
เธอแกล้งทำเป็นอ่อนแอและทำให้ผมประมาทและจบลงด้วยความพ่านแพ้ของผมอย่างรวดเร็ว!
“ไลแคนจะเร็วเป็นสองเท่าของฉัน”
“อุค”
ผมจับไปที่คางและลุกขึ้น
“ผมถูกโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ทำไมมันถึงเจ็บ?”
“ถ้าคุณถูกโจมตีด้วยเคาน์เตอร์นั่น ไม่ว่าคุณแข็งแรงแค่ไหนคุณก็จะต้องล้ม”
“ผมรู้ว่าคุณโจมตีผมอย่างไร้ปราณี ขอบคุณ.”
“เราจะทำต่อไป.”
เธอเข้ามาต่อและใช้ฟุตเวิร์คสลับซ้ายขวาเข้ามาโจมตีผม.
มันเป็นเพราะว่าผมมีบัฟ แต่เธอก็ยังแข็งแรงและมีความว่องไวมากกว่าผมอยู่ดี ผมหลบหลีก หรือป้องกันมากกว่าโต้ตอบ
แต่จากนั้นการโจมตีรูปแบบต่างๆก็ออกมาอย่างฉับพลัน มันผสมวุ่นวายไปหมด ไม่ว่าจะเป็น จิ้มตาของผม แย๊ป และยังมีการแกล้งทำเป็นต่อยแต่กลายเป็นลูกเตะสูงเข้ามาที่หัว.
“ถ้าคุณปรับตัวได้แล้ว ต่อไปจะมีศอกเข้ามาด้วย.”
“เอ๋?”
ผมกำลังจะตายจากความเจ็บ ตอนนี้คุณยังจะใช้ศอกอีก?
จีเฮแย๊บซ้าย ผมคิดว่าเธอจะตามมาด้วยศอก ดังนั้นผมจึงยกแขนป้องกันทั้งสองข้าง
แต่แล้วเธอก็คว้าคอของผมและกระโดดสูง.
อึก!
“อ๊าก!”
เสียงที่ออกจากปากมันห่างไกลจากความเท่ห์มากนัก ผมถูกโจมตีอย่างแรงเหมือนกับโดนพลังงานแสงอาทิตย์สาดส่อง.
“ศอก คุณบอก…”
“คุณตัวแข็งกว่าที่ฉันคิด เหมือนกับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายหรือเล่นกีฬามาก่อนเลย.”
“การออกกำลังกายที่ผมเคยทำคือการเดินป่า.”
“ไม่ใช่ว่าคุณเคยเป็นเทคควันโดดั้ง1หรอ.”
“ผมผ่านการสอบท่าทางของผมในกองทัพ พวกเขาโยนเกรดนั่นมาให้ผมเหมือนกับคูปอง”
“…”
เธอถอดถุงมือออก
“มันคงทำได้ไม่ดี คุณอาจจะทำหอกไม้เหมือนกับการสอบรอบสองได้คงจะดีกว่า เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ใดๆก็ตามที่เจอไลแคน ถือหอกไม้ให้แน่นและใช้สปิริต.”
“อาาาร์ ตกลง.”
ผมถอนหายใจ
ดีที่สุดกับบัฟเลเวล4 มันก็เหมือนกับมุกที่อยู่บนคอหมู บทบาทที่เหมาะสมกับผมมากที่สุดตอนนี้คืออยู่ใกล้ๆซิลและถือกระสุนตอนที่เธอยิง.
***
ผมกลับบ้านและไม่มีใครอยู่บ้าน ผมใช้ซิลทำความสะอาดบ้านหลังจากนั้นก็ออกจากความเบื่อหน่าย เมื่อผมเรียกอาวุธใหม่.
“อาวุธ.”
ขณะที่ผมพูดปืนไรเฟิล Mosin-Nagant ก็ปรากฎอยู่ในมือขวาของผม.มันแสดงให้เห็นถึงร่องรอยการใช้งานมานาน มันเป็นเสน่ห์ของสิ่งโบราณ.
ผมได้ให้ปืนเวทย์มนต์ของผมพร้อมกับเข็มขัด และนับจากนี้ไป นี่คืออาวุธของผม.
ระยะยิงสูงสุดอยู่ที่ 548 เมตร.
มันเป็นของเก่าที่มักจะใช้ใน Czarist Russia มันทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย แต่ผมก็ยืนยันการทำงานของมันแล้วในวันนี้ และซิลก็ทำได้เยี่ยม
มีคนบอกว่าสงครามโลกก็ใช้ปืนแบบนี้ ดังนั้นผมจะเชื่อในตัวมัน
‘ฉันทำได้ดี.’
ผมมีสัตว์เลี้ยง(ซิล) Mosin-Nagant และเสียงกระซิบที่อยู่ในหัวใจของผม.
เหลือเวลาจนกว่าจะถึงการสอบครั้งต่อไป อีก 11 วัน