Chapter 31 What do you want me to do (Part 1)
Chapter 31 What do you want me to do (Part 1)
“โครตน่ารัก.”
“อะไร?”
“ไม่มีอะไร.”
ดูเหมือยนว่าจีเฮก็ตื่นเต้น
“คุณไม่ได้พูดอะไรสักอย่างหรอ?”
“ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น.”
เธอใช้น้ำเสียงเป็นทางการในการบอกปัด
“… เยี่ยม เอาหล่ะ.”
เธอต้องพูดอะไรสักอย่าง
ผมล๊อกเป้าหมาย
ท้ายปืนไรเฟิลที่ติดอยู่กับไหล่ของผม มันชิดไปเล็กน้อย มันเป็นปืนที่ยังไม่ชินเลยทำให้รู้สึกเกร็ง ผมแน่ใจว่าผมจะใช้มันให้คล่องมากขึ้นหากมีเวลามากกว่านี้
ผมเริ่มจากเป้า250เมตร.
ซิลที่นั่งอยู่บนไหล่ของผมเธอได้ใช้ขาหน้าปรับองศาของไรเฟิลให้กับผมเหมือนเคย.
-เมี๊ยว.
ดูเหมือนว่าเธอจะบอกให้ผมยิง เอาหล่ะ ผมเหนี่ยวไก
ปัง-!!
ลูกปืนออกจากรังเพลิงพร้อมกับเสียงที่ดัง! ไหล่ของผมมีแรงดีดเล็กน้อย.
‘มันน่าแปลกใจ.’
ถ้าผมไม่มีบัฟกายภาพเลเวล4 ร่างกายของผมต้องสั่นมากกว่านี้แน่ๆ มันมีแรงดีดที่เหลือเชื่อ เป้าหมายที่อยู่ข้างหลังอาจจะโดนมันฟาดจนสลบได้.
“เป็นไงบ้าง?”
“ผมรู้สึกประหลาดใจคือแรงดีดที่ไม่ธรรมดาของมัน มันมากกว่าที่ผมคิดไว้.”
“มันคือกระสุน 7.62 มม. แน่นอนว่ามันต่างจากที่กองทัพใช้คือ 5.56 มม. คุณต้องการยิงเพิ่มอีกไหม?”
“อืม.”
“งั้นในระยะที่ 100,150 และ 250 เป้าหมายจะโผล่ขึ้นมา.”
เวลาเดียวกันจีเฮก็กดปุ่มสีแดง.
ปิ๊ป-
มีเสียงแปลกๆเกิดขึ้นหลังจากนั้นเป้าล่อก็ปรากฎขึ้น.
ที่ระยะ 100 เมตร มีเป้าสีดำปรากฎออกมา.
ปัง!
ยิงเข้าแสกหน้า.
จากนั้นก็เป็น 250 เมตร เยี่ยม มันไม่มีปัญหา
ปัง-
โดยไม่ตั้งตัวเป้าหมายก็หดกลับไป.
ผมยิงกระสุนครบ5นักและจีเฮก็เอาคลิปกระสุนอีก 5นัด มาให้ เหมือนกับที่ผมได้เรียนรู้ก่อนหน้านี้ ผมโหลดกระสุนใส่และยิงอีกครั้ง.
ปัง! ปัง! ปัง!
ผมยิงมากขึ้น
แช๊ะ.
หืม? นั่นเสียงอะไร?
ผมมองไปข้างหลังและเห็นจีเฮกำลังถือโทรศัพท์อยู่.
ขณะที่ผมมองเธอด้วยใบหน้าสับสน เธอก็ส่ายหัวและบอกผม.
“เรา เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสปิริตดังนั้นด้วยโอกาศนี้ฉันต้องการรวบรวมข้อมูลบางส่วน มันคงไม่เป็นไรถ้าเราจะถ่ายรูป?”
“ได้ แน่นอน.”
จากนั้นเธอก็ถ่ายรูปต่อซิลต่อไปด้วยโทรศัพท์ของเธอและมีการแสดงออกทางสีหน้าที่มีความสุขเหมือนกับตอนที่เธออยู่คาเฟ่และกินขนมของเธอ.
…เธอต้องชอบซิลมากแน่ๆ แต่เธอคงพูดแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้น
ผมกระซิบกับซิล.
“ลองทำท่าทางน่ารักหน่อยสิ?”
-เมี๊ยว.
จากนั้นซิลก็เตะท่าอย่างกับแมวนางแบบ
เธอใช้หางรวบปืนไรเฟิลของผมและนอนราบไปกับปืนไรเฟิลเหมือกับหมีโคอาล่า แช๊ะ แช๊ะ เสียงจากกล้องถ้ายรูปก็ถี่ขึ้น เห็นว่าเธอมีความสุขอย่างมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบแมว.
จีเฮตื่นเต้นกับการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เธอถาม
“ฉันถามอย่างนึงสิ.”
“มันคืออะไร?”
“คุณต้องยิงปืน?”
“…อะไร?”
“มันดูเหมือนว่าคุณไม่ต้องหาเหตุผลในการที่จะถือปืน.”
“โอ้ อูว…”
ผมกลายเป็นว่างเปล่า.
ใช่ ผมต้องยิงทำไม?
ซิลเป็นคนปรับเป้าให้ผมอยู่ดี ผมก็แค่ตัดสินใจที่จะยิงตอนไหนและเมื่อไหร่.
“ซิล เธอยิงได้ไหม?”
ซิลพยักหน้าและเอา Mosin-Nagant จากผมไป.
จีเฮรีบวิ่งไปและกลับมาพร้อมกับคลิปกระสุน5นัดส่งให้ซิลสองมือด้วยความเครารพ? ซิลใช้หางของเธอรับกระสุนไป.(กำเนิดทาสแมว/ไรต์)
แช๊ะๆ.
ดวยการเคลือนไหวของเธอในการใส่กระสุนและเล็ง มัน มันเหมือนกับว่าเธอเป็นทหารผ่านศึก! นี่มัน แมวผ่านศึก?
“น่าทึ่งมาก…”
มีเสียงออกมาจากปากของจีเฮโดยไม่คาดคิด ซึ่งเธอกำลังถ่ายภาพอย่างบ้างคลั่ง.
มองไปข้างหน้าพร้อมกับหางที่น่ารักเธอได้ยก Mosin-Nagant และเล็ง. มันเป็นการแสดงออกที่จริงจังมาก มันเหมือนกับเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของ พุชอินบู๊ต(puss in boots)!
“ตอนนี้ ตอนนี้เริ่ม.”
จีเฮกดปุ่มสีแดงอีกครั้ง
เป้าหมาย150เมตรปรากฎตัว.
ปัง!
ซิลยิงโดยไม่ลังเล
100 เมตร, 250 เมตร, 250 เมตร, 150 เมตร. ซิลยังยิงต่อเนื่อง หลังจากที่กระสุนทั้ง5หมดแล้วเธอก็เปลี่ยนคลิปอย่างรวดเร็วโดยการเอาคลิปจากมือจีเฮ และยังคงยิงต่อไป.
ปัง
เป้าระยะ 250 เมตรหงายกลับหลังเร็วมาก ความเร็วในการยิงและความเร็วในการใส่ลูกกระสุนเร็วกว่าผมมาก.
“เธอเหมือน ซิโม ฮาวฮา(Simo Häyhä).”
จีเฮมีการแสดงออกที่ใบหน้าและบ่นอู้อี้
“เขาเป็นใคร?”
“เขาเป็นสไนเปอร์จากฟินแลนด์ที่ยิงคนไป 100 คน ภายใน 542 วัน. ปืนของซิโมก็คือ Mosin-Nagant เช่นกัน.”
(TN: From Wiki: Simo “Simuna” Häyhä nicknamed “White Death” by the Red Army, was a Finnish marksman. Using a Finnish M/28-30 rifle (a Finnish variant of the Mosin–Nagant rifle) in the Winter War, he is reported as having killed 505 men, the highest recorded number of confirmed sniper kills in any major war.)
“โอ้ ผมเห็น.”
สัตว์ประหลาดด้านสไนเปอร์นั่นคงไม่น่ารักเท่ากับซิล ผมสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้มีอารมณ์อ่อนไหวเหมือนกับคนปกติ.
แต่ผมก็เข้าใจ ซิลเป็นนักยิงที่ยอดเยี่ยมที่สุด.
โดยไม่ช้าแม้แต่เพียงนิดเดียว เธอยิงและเป้าล่อก็หายไปในพริบตา!
-เมี๊ยว?
ซิลหันกลับมามองผมพร้อมกับส่งเสียงน่ารัก เธอทำหน้าเหมือนกับจะถามว่าต้องยิงต่อไหม.
แช๊ะๆๆ เสียงกดชัตเตอร์บนมือถือ.
-เมี๊ยว!
ซิลส่งปืนมาให้ผมและยั่งบนบ่า แววตาที่ผิดหวังของจีเฮเห็นได้อย่างชัดเจน.
เธอถามพร้อมกับทำท่าทางปกติของเธอ
“ใช้สปิริตไปเท่าไร?”
“หืม ผมไม่รู้ ขอผมเช็คแปป.”
ผมเรียกกระดานออกมาและตรวจสอบเวลาในการเรียกซิล.
“เมื่อเทียบกับผมแล้วเธอใช้เวลามากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าเธอต้องจัดท่าทางและต้องทนแรงดีดของปืนด้วยตัวเองเวลายิง แต่อย่างที่บอกนอกจากนี้แล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไร.”
“งั้นเราคงไม่ต้องการคุณแล้วจริงๆ....ฉันหมายถึงว่าคุณไม่จำเป็นต้องยิงแล้ว.”
“ตอนนี้คุณกำลังบอกว่าผมไม่มีความจำเป็นแล้วหรือ หืมม?”
“ไม่.”
“ใช่ คุณทำ.”
“ไม่.”
“… ดี งั้นคุณก็ไม่ได้บอกอย่างนั้น แต่ถ้าซิลถือปืนและยิงในเวลาต่อสู้ผมจะต้องทำไงดี?”
ด้วยคำถามของผมจีเฮไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร
“ทำไมคุณถึงไม่พูด?”
“อืมม คุณไม่สามารถที่จะยืนอยู่ข้างๆเธอและถือกระสุนให้กับเธอหรอ?”
“นั่นมันอะไร!”
คำพูดของผมเต็มไปด้วยอารมณ์.
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันเป็นผู้ช่วยของซิล?”
“คุณเป็นคนเรียกซิลมา แน่นอนว่า ไม่.”
“มันช่าง น่าสงสารมาก!”
ซิลเป็นมือปืนและผมเป็นผู้ช่วย? บทบาทในการถือกระสุนและอยู่ข้างๆเธอตอนยิง! ความเชื่อมั่นในการเป็นนักกีฬาของผมได้ตายแล้ว.(ถ้าใครจำได้เจ้าตัวบอกว่าหากมีซิลการจะยิงเป้าให้โดน100% ง่ายมากและอาจจะได้เหรียญทอง/ไรต์)
“คุณก็ไม่ดูเหมือนกับว่าเป็นคนไม่สำคัญสักหน่อย?”
“เพราะงั้นคุณกำลังจะยอมรับว่าผมไม่สำคัญ?”
“ไม่.”
“ใช่.”
“ไม่.”
จีเฮหน้าหนามาก.
“ความจริงที่ว่าคุณมีอิสระในการต่อสู้เป็นข้อได้เปรียบใหญ่.”
“อะไร?”
“ขณะที่ซิโม ฉันหมายถึงซิล ยิง คุณก็ยังสามารถต่อสู้ร่วมกับเพือนๆของคุณได้ จำได้ไหมว่าคุณมีความแข็งแกร่งเลเวล4.”
หญิงคนนี้กำลังเรียกซิลเป็นซิโม ฮาวฮาหรอ?
“นอกจาก Mosin-Nagant ผมก็มีไรเฟิลเวทย์ ผมไม่สามารถใช้ได้?”
“ฉันก็ยากจะพูดกับเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่นคุณอยากจะพบเพือนร่วมทีมคนอื่นๆไหม?”
ขณะที่ผมคิด จุนชอย ยูนโฮ และแฮซูอยู่ที่นี่.
“ชัวร์.”
***
“ฮยองโฮโอปป้า!”
“ฮยอง!”
ผมเข้าไปในห้องพบปะ ก็เห็นแฮซูและยูนโฮกำลังรอต้อนรับผม.
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง? การฝึกซ้อมไม่แย่ไปใช่มั๊ย?”
“อ่ามันยากมาก.”
“จริง? และคุณ แฮซู? นี่? แฮซู?”
การแสดงออกของแฮซู กล้ำกลืนมากๆ.
“คุณโอเคไหม?”
“ร่างกายฉัน…”
“หืม? ร่างกายคุณมีอะไร?”
“เราได้รับการฝึกซ้อมในระดับสูงไปจนถึงจุดที่ร่างกายเราไม่อาจจะรับได้ เนื่องจากร่างกายของพวกเราสามารถเข้าไปในประตูสอบทั้งๆที่ร่างกายของเราเจ็บได้…”
เป็นความคิดที่ดี.
เมื่อคุณผ่านประตูสอบร่างกายจะรู้สึกชื่น.
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงฝีกซ้อมอย่างหนักโดยไม่หยุดพัก สำหรับแฮซูที่มีทักษะน้อยมากมันจะมีประโยชน์อย่างมากในเวลาสั้นๆ มันไม่มีทางเลือกอื่น.
“มันเป็นเรื่องยาก แต่เพื่อจะเอาชีวิตรอด มันไม่มีทางเลือกอื่น”
“ฉันรู้ ฉันจะผ่านมัน.”
แฮซูมองมาที่ผมและยิ้มให้ผม.
“ฉันไม่สามรถถูกปกป้องได้ตลอดไป ฉันอยากจะช่วยคุณฮยอนโฮ โอปป้า.”
ขณะเดียวกันผมแทบจะเข้าไปกอดแฮซู ผมแทบจะหยุดตัวเองไม่ทัน!
จากนั้นจีเฮก็เข้ามาในห้องพบปะ
“ฉันขอโทษ ฉันช้า.”
การแสดงออกของแฮซูไม่ชัดเจนมันเป็นเรื่องที่แปลกมากในทุกวันนี้.
เหตุผลก็ง่ายมาก.
-เมี๊ยว.
ซิลนั่งอยู่บนหัวของเธอ.
เธอดูเหมือนจะชอบซิลมาก ดังนั้นผมจึงบอกให้ซิลอยู่กับเธอ อย่างที่คิดไว้เธอดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะซิล.
“คุณสายนิดหน่อย?”
“ฉันมีหลายสิ่งที่ต้องรวบรวม.”
“คุณได้เล่นกับซิลไหม?”
เธอมองมาที่ผมเล็กน้อย.
“ไม่ ไม่ แน่นอนว่าไม่.”
จีเฮประหลาดใจและบ่นอู้อี้.
‘พวกเขากำลังเล่นอยู่.’
เธออาจจะตื่นเต้นและเอาโทรศัพท์มาเซลฟี่กับซิล.
“อืม อืม, อย่างไรก็ตามจากนี้ไปเราจะมีสรุปใจความสำคัญกัน.”
เธอเปิดโน๊ตบุคของเธอและต่อเข้าโปรเจอเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่.
แผนที่ขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ.
มันดูเหมือนแผนที่โรงเรียนเก่าๆที่วาดด้วยรูปทรงแปลกๆ.
“นี่คืออารีน่า.”
‘นั่น?’
เราแปลกใจอย่างมากเมื่อเราจ้องไปที่แผนที่ที่ฉายอยู่ งั้นกลับมาอีกครั้งที่นั่นไม่มีดาวเทียมทำให้แผนที่ของอารีน่าดูหยาบ ต้องเป็นแผนที่ๆทำโดยผู้เข้าสอบ.
“คุณเห็นป่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของแผนที่หรือเปล่า?”
แผ่นดินที่ใหญ่มากที่มีสัญลักษณ์ป่าที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้.
“ป่านั่นเป็นที่ๆพวกคุณต้องไป.”
“คุณรู้ได้อย่างไร?”
“ถึงตรงนั้นมันจะเป็นถิ่นของลิงแดงสองตัว จากทั้งสองป่าใหญ่มาก และจากที่คุณบอกน่าจะเป็นที่นั่น.”
“สมมุติว่าเราผ่านสอบไปรอบที่ 1 รอบที่ 2 เราอาจจะไปโผล่ที่นั่นในรอบที่ 3 ใช่ไหม?”
มันเป็นยูนโฮที่ถาม
จีเฮพยักหน้า.
“สถานที่เริ่มสอบจะเป็นตำแหน่งครั้งสุดท้ายที่สอบรอบก่อนหน้าเสมอ.”
“จากนั้นเราก็ทำข้อสอบของเราในป่านั่นต่อไป?”
ยูนโฮถามอีกครั้ง แต่คราวนี้จีเฮส่ายหัว
“ดูนี่.”
หน้าจอเปลี่ยนไป
[แนวทางสอบของโลกครั้งสุดท้าย
รอบที่ 1: ทดสอบความสามารถ/ทดสอบคุณสมบัติ มักจะเริ่มในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีมนุษย์.
รอบที่ 2 : การทดสอบความเป็นทีมกับเพือน.
รอบที่ 3-4: ย้ายออกจากถิ่นทุรกันดารและเข้าสู่สังคมท้องถิ่นของอารีน่า.]
“นี่คือแนวโน้มที่คำนวนตามข้อมูลที่บัญทึกไว้ในระบบของโลกนี้ เมื่อถึงเวลาการสอบรอบที่สามมันมีความเป็นไปได้ว่าพวกคุณต้องออกจากป่าสูงมาก.”
เขาสามารถเดาการสอบรอบที่สามได้ มันเหมือนกับการสอบปกติ นี่เป็นโยชน์ที่ได้รับความช่วยเหลือของรัฐ.
“ถ้าหากเปลี่ยนไปอีกหน้า คุณจะได้เห็นข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น”
เมื่อหน้าจอเปลี่ยนไป แผนที่ของอารีน่าก็ขยายมากขึ้น
ป่าถูกทำเครื่องหมายเป็นเขต.
[พื้นที่ป่า อารีน่า ตะวันตกเฉียงใต้
ป่ากลาง: ถิ่นของลิงแดง
ป่าตะวันออก: ถิ่นของไลแคน
ป่าตะวันตก: ไม่ปรากฏหลักฐาน
ป่าใต้: ไม่ปรากฏหลักฐาน
ป่าเหนือ: ถิ่นของโทรล]
“คุณอยู่ศูนย์กลางของป่าคุณจะต้องไปตัดสินใจว่าจะไปทางตะวันออกหรือเหนือ.”
“งั้นจะให้เราตัดสินใจว่าจะไปเจอ ไลแคนหรือโทรล.”
“ความจริงเราอยากให้ไปทางทิศตะวันออกถิ่นของไลแคน”
“ทำไม?”
“คุณคิมฮยอนโฮ คุณใช้ปืนได้ดี แต่ถ้ามันมีปืนใหญ่ มันก็มีขีดจำกัดในการเครียร์เหมือนกัน จากนี้ไปคุณจะได้พบกับศัตรูที่คุณไม่สามารถต่อสู้ได้ด้วยปืนและในหมู่พวกเขาก็อยู่รอบๆตัวคุณ เหมือนโทรล”
“… ฉันคิดว่าไลแคนจะดีกว่า”
ถ้าปืนไม่เวิร์คทีมของเราก็ไม่ดี สำหรับตอนนี้การโจมตีที่ดีที่สุดของทีมเราก็คือปืน.