ตอนที่แล้วWOC บทที่ 11 - เงินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนละโมบของชายหน้าผี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOC บทที่ 13 - สัมฤทธิ์ผล

WOC บทที่ 12 - [เคล็ดพฤกษาพรรณนา]


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/WorldofCultivation/

บทที่ 12 - [เคล็ดพฤกษาพรรณนา]

ลี่อิงเฟิงพาเสี่ยวกั่วมาพร้อมกับเธอขณะที่เธอยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านของเขา

เมื่อมองเห็นจั้วโม ลี่อิงเฟิงก็ถอนหายใจออกมาอยากเห็นได้ชัด ใบหน้ารูปแอปเปิ้ลของเสี่ยวกั้วเองกำลังแสดงอาการเบื่อหน่ายออกมา

จั้วโมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่าทำไมทั้งสองคนจึงเดินทางมาที่แห่งนี้? ปากของเขาเริ่มเผยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวออกมาว่า "ศิษย์พี่หญิงอุตส่าห์เสียเวลาเดินทางมาหาข้าในที่แห่งนี้ ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก!! เชิญเข้ามา!!"

หลังจากกล่าวจบเขาก็ผายมือเชิญ ภายใต้การกระทำเขาได้แอบร่ายคาถาเพื่อปิดบังประตูที่อยู่ในลานกว้างอย่าเงียบๆ

ลี่อิงเฟิงไม่ได้ปฏิเสธและตอบอย่างตรงไปตรงมา "ต้องขออภัยที่ข้ามารบกวนเจ้าโดยมิได้รับเชิญ"

เสี่ยวกั่วเดินตามหลังลี่อิงเฟิงในตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย

เมื่อเข้าไปภายในส่วนกว้าง ลี่อิงเฟิงก็พบเห็นธัญพืชหลิงที่เขียวชอุ่มเต็มไปทั่วลานแห่งนี้มันยิ่งทำให้สายตาของเธอลุกวาวขึ้น เธอทำได้เพียงแค่ยกย่องชมเชย "ศิษย์น้องช่างมีความเชี่ยวชาญทางด้านการเพาะปลูกอย่างแท้จริงๆ การตอบโต้ของเหล่าพืชหลิงช่างน่าอิจฉาจริงๆ ทุกคนคงจะอิจฉาเจ้าที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ได้ขนาดนี้"

"ศิษย์พี่หญิงก็กล่าวชมเกินไป"จั้วโมตอบกลับแบบลวกๆ ภายในใจของเขาเริ่มคิดถึงเหตุผลว่าทำไมลี่อิงเฟิงถึงเดินทางมาที่แห่งนี้ ทั้งตัวเขาและศิษย์พี่หญิงสร้างไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่อดีต เขารู้สึกชื่นชมโดยปราศจากความคิดอื่นใด เพียงเพราะเธอสามารถฝึกฝนจนบรรลุระดับเหลียงฉีขั้นที่เก้า และเธอก็ถือได้ว่าเป็นสุนัขเฝ้าบ้านชั้นสูงที่อยู่ในนิกายชั้นนอก และพฤติกรรมที่ซื่อสัตย์สุจริตและตรงไปตรงมาของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้จั้วโมนับถือ

ทั้งสามคนนั่งลงใต้ต้นไม้ข้างสระน้ำ น้ำในสระยังคงสร้างขึ้นเป็นละลอก ซึ่งบางครั้งเราอาจมองเห็นปลา 2 ตัวที่กำลังว่ายวนเวียนอยู่ ในครั้งแรกที่จั้วโมย้ายเข้ามาอยู่ที่แห่งนี้ น้ำในสระแห้งเหือดจนเห็นพื้นดินที่แตกระแหงภายใต้สระ ซึ่งน้ำที่ไหลลงสู่สระน้ำแห่งนี้เกิดจากการสะสมอย่างช้าๆที่เกิดจากการฝึกซ้อม [เคล็ดเมฆาฝนโปรย] ซึ่งเขาจำได้อย่างชัดเจนเลยว่าสระน้ำแห่งนี้ถูกเติมเต็มในตอนที่เขาสามารถฝึกฝน [เคล็ดเมฆาฝนโปรย]บรรลุขั้นที่ 3 พอดี

ส่วนปลาที่อยู่ในสระน้ำแห่งนี้เกิดจากการที่เขาเดินผ่านลำธารบางส่วนที่อยู่บนภูเขา เขาจึงจับปลาอย่างบังเอิญ และปล่อยมันลงในสระ

ลี่อิงเฟิงได้เรื่องที่จะพูดถึงจุดประสงค์ของเธอที่ทำให้เธอเดินทางมาในวันนี้ "ข้ามาไว้วันนี้  หนึ่งก็เพื่อขอบคุณศิษย์น้อง วิธีการที่ศิษย์น้องได้บอกกล่าว พวกเราได้นำมาใช้และทำให้เกิดผลที่ดี สิ่งนี้จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่หมั่นฝึกฝนภายในทุ่งหญ้า และปัญหาที่เกิดขึ้นจะแก้ไขไม่ได้เลยถ้าหากปราศจากศิษย์น้อง ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเพาะปลูก"

"ใช่แล้วล่ะ ใช่แล้ว!! มันช่างมีประสิทธิภาพมากจริงๆ!! ทุกคนต่างมีความสุขกันมาก!!"เสี่ยวกั่วรีบตอบอย่างเห็นด้วย แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าของจั้วโมเธอก็ถอยกลับไปยืนด้านหลังลี่อิงเฟิง

จั้วโมจ้องมองและส่ายหน้า "ศิษย์พี่หญิงอย่าได้สุภาพอีกเลย พวกเรามาจากนี้ใจเดียวกัน หาได้จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆนี้"

ลี่อิงเฟิงยิ้มแล้วตอบกลับว่า "คำพูดของศิษย์น้องช่างไพเราะยิ่งนัก ในอนาคตถ้าหากสิบน้องประสบปัญหาที่หนักเกินกว่าจะรับมือ ศิษย์น้องสามารถขอความช่วยเหลือจากข้า ไม่ว่าศิษย์น้องจะอยู่ที่ใดข้าจะไม่มีวันปฏิเสธ"

"ขอบคุณมากศิษย์พี่"จั้วโมตอบอย่างเฉยเมย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตเขาสามารถบอกได้เลยว่าคำพูดประเภทนี้ไม่สามารถเชื่อได้

ลี่อิงเฟิงจ้องมองจั้วโมอย่างจริงจังอีกครั้งก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ที่ข้ามาในวันนี้ เพื่อมาขอความช่วยเหลือจากศิษย์น้องในเรื่องอื่น"

ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ!!!

จั้วโมพูดอย่างไรอารมณ์ "เรื่องอะไรล่ะ?"

เพราะในความจริงแล้วตัวของเขาเองก็ไม่สามารถแสดงอารมณ์ใดๆขึ้นไปบนใบหน้าได้มากนัก

"วิธีการที่ศิษย์น้องใช้ช่างมีประสิทธิภาพยิ่งนัก" ลี่อิงเฟิงทำหน้าตาบูดบึ้ง "แต่ในมวลหมู่ของพวกเรามีเพียงน้องสาวของข้าคนเดียวเท่านั้นที่มีความรู้เกี่ยวกับ [เคล็ดพลังพสุธา] ศิษย์น้อง  เจ้าอาจไม่ทราบว่า เนื่องจากวัชพืชที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้หญ้าหลิงที่เกิดขึ้นลดน้อยลง แต่ปริมาณหญ้าหลิงที่สัตว์หลิงต้องการกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่เดิม ข้าวางแผนที่จะไปเมืองต้งฟูเพื่อที่จะซื้อมันบางส่วนมาเติมเต็ม แต่ใครจะรู้ว่าราคาของหญ้าหลิงและธัญพืชหลิงจะขึ้นสูงได้ขนาดนี้……."

เมื่อจั้วโมได้ยิน จิตใจของเขาก็พองโต ราคาธัญพืชหลิงที่เพิ่มขึ้น สำหรับเขา มันถือได้ว่าเป็นข่าวดีอย่างแน่นอน

ไม่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ปลูกพืชหลิงกว่า 50 มูที่เขาได้เช่ามาจากยิ่งนิกาย เพียงแค่ 5 มูที่อยู่ภายในลานของเขา ก็สามารถเก็บเกี่ยวทำราคาได้จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว

ในปีนี้เขาคงจะได้ประโยชน์จากมันเป็นจำนวนมาก!!!

เขาค่อยๆคิดคำนวณหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ลี่อิงเฟิงกล่าวออกมา

ลี่อิงเฟิงเริ่มสังเกตเห็นความไม่สนใจที่แสดงออกมาของจั้วโม และมันทำให้เธอเริ่มคิดถึงข่าวลือในตัวของจั้วโมอย่างช่วยไม่ได้

ความตกเป็นของเธอนั้นเกิดขึ้นจากความแข็งแกร่งในตัวของเขาที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาซึ่งมันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเมื่อจั้วโมจากไป เธอก็คอยค้นหาข้อมูล สิ่งเดียวที่เธอไม่รู้นั่นก็คือ ทำไมจั้วโมถึงมีใบหน้าคล้ายผีดิบ ส่วนเรื่องอื่นเธอก็มีความเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เขาได้ปฏิบัติ

เธอจึงตัดสินใจไม่สุภาพอีกต่อไป เธอจึงกล่าวมาอย่างอึดอัด "ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพื่อขอให้ศิษย์น้อง ช่วยกำจัดวัชพืชให้แก่พวกเรา นี่คือเหรียญจิ้งซือระดับที่สองจำนวน 10 ชิ้น ที่พวกเรารวบรวมมา ศิษย์น้องโปรดรับมันไปด้วยเถิด!!"

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่กระเป๋าขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนมือของเธอ

เป็นไปตามคาด จั้วโมพยักหน้าและเตรียมตัวที่จะรับมัน

เหรียญจิ้งซือระดับที่สองจำนวน 10 ชิ้น…………

น้ำลายของเขาแทบหลุดออกจากปาก ตอนที่เขาขายธัญพืชหลิงเกือบ 300 กระสอบเขากลับได้รับเพียงเหรียญจิ้งซือระดับที่สองจำนวน 3 ชิ้นเท่านั้น

จั้วโมแสดงท่าทางลังเลก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ข้าเองก็ไม่ได้ชำนาญใน [เคล็ดพลังพสุธา] ดังนั้นข้าเองก็กลัวว่าข้าอาจจะช่วยได้ไม่มากนัก"

ลี่อิงเฟิงเริ่มสันนิษฐานว่ามันอาจเป็นเพราะจั้วโมพยายามแสดงความสุภาพ ถ้าหากเขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ เหตุใดการเขาถึงกล้าคิดจะใช้ [เคล็ดพลังพสุธา] ในการกำจัดวัชพืชเหล่านั้น?

ในครั้งนี้ เธอเตรียมตัวมาอย่างดี เธอจึงยิ้มอย่างไม่ตกใจใดๆก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "นอกจากเหรียญจิ้งซือระดับสองทั้ง 10 ชิ้นแล้ว ข้ายังได้เตรียมเหรียญจิ้งซือระดับสองอีก 5ชิ้น ถ้าหากศิษย์น้องสามารถกู้คืนพลังหลิงที่อยู่ในหญ้าหลิงได้อย่างรวดเร็วที่สุด"

สมองของจั้วโมแทบระเบิดออกในทันที จากการเสนอเหรียญจิ้งซือของลี่อิงเฟิง

เหรียญจิ้งซือถือได้ว่าเป็นทรัพยากรที่สําคัญที่สุดในทุกๆนิกาย นอกจากมันจะสามารถใช้ซื้อสิ่งของต่างๆ มันยังสามารถช่วยฟื้นฟูพลังงานหลิงได้อีกด้วย ได้ถึงยังไงซะความหนาแน่นของพลังงานหลิงที่อยู่ในเหรียญจิ้งซือก็ไม่อาจเทียบชั้นกับเส้นหล่อเลี้ยงพลังหลิงได้

ภายในนิกายขนาดใหญ่ สาวกนิกายหลักจะสามารถดูดซับพลังงานโดยตรงจากเหรียญจิ้งซือ ซึ่งงานแต่ละวันของพวกเขานั้นมีเพียงแค่การดูดซับพลังงานหลิงและเพิ่มพลังในการบ่มเพาะของพวกเขาเท่านั้น

จั้วโมเองไม่เคยพยายามดูดซับพลังงานหลิงจากเหรียญจิ้งซือเลยแม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากตัวเขานั้นยากจนอยู่แล้ว เขาจะทำให้ตัวเองลำบากยิ่งขึ้นไปทำไม?

เนื่องจากจำนวนเงินนั้นช่างยั่วยวน เขาจึงยอมจำนนและให้สัญญา "ไม่ว่ายังไงถ้าศิษย์พี่ออกคำสั่ง ศิษย์น้องย่อมต้องยอมบุกน้ำลุยไฟไม่ว่ายังไงศิษย์น้องคนนี้ก็จะพยายามทำมันให้สำเร็จ"

ลี่อิงเฟิงยิ้ม ในที่สุดกลยุทธ์ที่เธอใช้ก็ประสบความสำเร็จ เธอหยิบกระเป๋าเล็กๆวางลงบนโต๊ะ และชายตามองจั้วโมก่อนที่เธอจะถามว่า "แล้วเมื่อไหร่กันที่ศิษย์น้อง จะเดินทางไปแก้ไข?"

จั้วโมหยิบกระเป๋าผ้าเล็กๆใส่ไปในอกของเขา ในขณะที่เขาเปล่งเสียงที่เคร่งครึมออกมา "สถานการณ์จะแย่ลง ดังนั้นถ้าหากรีบไปย่อมต้องดีที่สุด"

ปากของเสี่ยวกั้วบิดเบี้ยวเล็กน้อย

จั้วโมยังคงระลึกถึงจุดสำคัญของ [เคล็ดพลังพสุธา] ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาได้ทุ่มเทความใส่ใจทั้งหมดใน [เคล็ดสัปยุทธ์ยุคทอง] และ [เคล็ดพฤกษาพรรณา] เพราะหลังจากที่เขาได้ฝึกฝน [เคล็ดพลังพสุธา] อย่างหนัก เขาจึงไม่ค่อยได้ใช้เวลาฝึกฝนมันมากนัก

ขณะที่เขาตามหญิงทั้งสองคนไป เขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่า  [เคล็ดพลังพสุธา]  จะสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับเหรียญจิ้งซือระดับสองทั้ง 15 ชิ้นได้โดยตรง ทำไมเค้าถึงได้ฝึกฝนเวทมนตร์เหล่านั้นโดยมิได้คิดลองใช้เหรียญจิ้งซือ? เขาเองค่อนข้างรู้สึกอารมณ์เสีย ถ้าหากเขารู้ก่อนหน้านี้เขาคงจะสามารถฝึกฝนได้มากขึ้น

ภายในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาก็เดินทางมาถึงยอดเขาทางทิศตะวันออก ชวมิตรหญิงทั้งหมดต่างยืนเงียบโดยไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดออกมา

แม้ว่าจั้วโมจะไม่ใส่ใจการกระทำของพวกเขา แต่ในครั้งนี้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันถึงทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกดีอยู่ภายใน

"ทุ่งหญ้าหลิงแห่งนี้ติดเชื้อโรคจากวัชพืชประมาณ 450 มู และมีอีกกว่า 250 มู ที่ร้ายแรงกว่านี้" ลี่อิงเฟิงกล่าวอธิบาย

จั้วโมรู้สึกเหมือนสะดุดบางสิ่งบางอย่าง  250 มู  เป็นจำนวนตัวเลขที่น่ากลัวสำหรับเขา!!!

[เคล็ดพลังพสุธา] นั้นแตกต่างจาก [เคล็ดเมฆาฝนโปรย] ซึ่งประสิทธิภาพของมันนั้นจะถูกจำกัดในวงแคบ หรือประมาณ 1 มู และนอกจากนี้ ด้วยความพยายามของเขารวมกับระดับแรกของ [เคล็ดพลังพสุธา] เขายังคงต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพื่อที่จะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากความคิดเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่า จั้วโมจะต้องใช้ [เคล็ดพลังพสุธา] ไม่ต่ำกว่า 750 ครั้งเป็นอย่างน้อย

จากการคิดคำนวณมันทำให้เขาเกือบเป็นลมเมื่อเห็นจำนวนตัวเลขเหล่านั้น มันมากพอที่จะทำให้เขาทำงานจนตายได้

เขาคิดว่ามันจะเป็นงานที่รื่นรมย์ เขาไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดผลเช่นนี้ มันเปรียบดังตกจากสวรรค์สู่นรกในทันที ข้อผูกมัดทำให้จั้วโมเกือบจะร้องไห้ออกมา

จั้วโมกำลังมองดูทุ่งหญ้าที่อยู่ภายใต้เท้าของเขามันเต็มไปด้วยวัชพืช ซึ่งวัชพืชเหล่านั้นแข็งแรงจนสามารถกลบเงาของหญ้าหลิง จนยากเกินจะหาร่องรอย และด้วยระดับเบื้องต้นของ[เคล็ดพลังพสุธา] เขาอาจจะต้องทำมัน 7 ถึง 8 ครั้ง เพื่อให้มันเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ในตอนนี้ เขาเริ่มคิดอย่างชาญฉลาด และเกิดประกายความคิดแปลกใหม่ออกมา เขากำลังคิดถึงภาพจินตนาการที่สวยงาม

เนื่องจากทุ่งหญ้าหลิงแห่งนี้ถูกครอบงำจนเกือบกลายเป็นวัชพืชอย่างสมบูรณ์ พวกเขาสามารถลบทุกสิ่งทุกอย่างและเริ่มปลูกหญ้าหลิงอีกครั้ง

ดังนั้นคาถาที่เหมาะต่อการทำลายล้างก็คงจะเป็น [เคล็ดพฤกษาพรรณา] มันอาจจะไม่ใช่คาถาที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับสถานการณ์เหล่านี้?  [เคล็ดพฤกษาพรรณา] นอกเหนือจากการสกัดพลังและและแก่นสำคัญของวัชพืช ถ้าหากบังคับไม่ให้มันทำลายพลังงานหลิงซึ่งเป็นส่วนสำคัญในแก่นแท้ของพืช  มันจะไม่เป็นอันตรายต่อทุ่งหญ้าหลิงแห่งนี้

ยิ่งเขาคิดอะไรเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขายิ่งสนใจมันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเล่าความคิดเหล่านี้ให้ลี่อิงเฟิงฟัง และเมื่อลี่อิงเฟิงพบว่าจั้วโมรู้จักคาถา [เคล็ดพฤกษาพรรณา]  เธอค่อนข้างตกใจอยู่เล็กน้อย ภายในความคิดของเธอนั้น เธอรู้สึกได้ว่าศิษย์น้องจั้วโมจะต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป

เมื่อเธอรู้สึกได้ว่าจั้วโมจะต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดา ลี่อิงเฟิงจึงไม่ได้คัดค้านสิ่งใด ซึ่งภายในใจของเธอนั้นกำลังรู้สึกว่ามันมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก

ในครั้งนี้เธอกำลังทำงานที่มีแรงกดดันสูง เหรียญจิ้งซือระดับสองทั้ง 15 ชิ้นคือได้ว่าเกือบเป็นเหรียญทั้งหมดที่เธอมี

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเมื่อจั้วโมวิเคราะห์แล้วว่ามันจะมีปัญหาใดเกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจทำมัน

มือทั้งสองข้างเปิดออก ปลายนิ้วเกิดแสงประกายเพียงเล็กน้อย ในขณะที่เขาค่อยหายใจ  นิ้วมือของเขาก็เริ่มขยับ!!!

คนอื่นรู้สึกได้เพียงว่ามีเส้นด้ายทอผ้าบางๆปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วมือของจั้วโมทั้งสิบนิ้ว และภาพวาดก็ค่อยๆปรากฏขึ้น ทำให้ทุกคนดวงตาลุกวาวค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าตกใจ

ตอนนี้ทุกคนต่างประถึงความสามารถของศิษย์พี่หน้าผีดิบคนนี้

แสงที่ปรากฎขึ้นจากการเคลื่อนไหวที่ปลายนิ้ว แม้ว่าจะปรากฏขึ้นบนมือที่แห้งผาดแต่มันกลับมีอำนาจที่ดึงดูดทุกสายตาให้ทุกคนจ้องมอง

แผนภาพที่วาดขึ้นเริ่มมีความซับซ้อนมาก มื้อที่เคลื่อนไหวยังคงขยับอย่างไม่หยุดหย่อน!!

แม้กระทั่งใบหน้าของลี่อิงเฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

การเคลื่อนไหวนิ้วมือที่แสนซับซ้อน!!! นี่มันคาถาอะไรกันทำไมถึงต้องใช้การเคลื่อนไหวนิ้วมือที่ซับซ้อนได้ขนาดนี้?

ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการเคลื่อนไหวนิ้วมือที่แสนซับซ้อนของ [เคล็ดพฤกษาพรรณา] มันจึงเป็นคาถาที่ยากที่สุดในหมู่คาถาทั้ง 5  และมีคนเพียงจำนวนน้อยนิดที่จะเรียนรู้มัน

เส้นสีเขียวจำนวนมากมายพุ่งกระโจนออกมาจาก ทุ่งหญ้าหลิงและวิ่งคดเคี้ยวอยู่บนฝ่ามือของจั้วโม ซึ่งจั้วโมไม่ลังเลแม้แต่น้อย ความกลัวและความกังวลใจที่เกิดขึ้นทั้งหมดหายไปอย่างสมบูรณ์ นิ้วมือทั้ง 10 ของเขากำลังเคลื่อนไหวร่ายรำไปพร้อมพร้อมกับพลังหลิงทั้งหมดของเขา

ความรู้สึกแปลกประหลาดเริ่มเกิดขึ้น ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังสั่นไหวในจิตใจ

อัตราการเคลื่อนไหวนิ้วมือทั้ง 10 ของเขาก็เร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว จิตใจที่สั่นไหวของเขาเริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนหลุดออกไป กลายเป็นความว่างเปล่าที่ชัดเจน เปรียบเสมือนหลุมอากาศ เขายืนมองอย่างเงียบๆ การเชื่อมต่อที่แสนบอบบางจากการเคลื่อนไหวของนิ้วมือทั้ง 10  คลื่นพลังงานหลิงก็เริ่มเปลี่ยนไป แม้ว่าจะเห็นไม่ชัดก็ตาม

มันเปรียบดั่งหน้าต่างที่เปิดออก โลกวิสัยทัศน์พลันปรากฎขึ้นอย่างชัดเจน

การเคลื่อนไหวที่แสนรุนแรงของจั้วโมหายไปอย่างรวดเร็ว นิ้วมือทั้ง 10 ของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเรียบลื่น เปรียบเสมือนการเคลื่อนไหวของสายน้ำ สาวกนิกายหญิงทั้งหมดโดยเฉพาะการบ่มเพาะของลี่อิงเฟิงที่สูงมาก รวมทั้งการที่เธอเป็นคนที่มีความรู้มากที่สุด ทำให้เธอเป็นคนแรกที่ค้นพบความแปลกประหลาด ตอนนี้เธอรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเต็มไปด้วยความสวยงาม แม้มันจะไม่รู้สึกถึงความลึกซึ้ง แต่มันกลับเคลื่อนไหวเป็นจังหวะที่ผิดแปลกพิศดาน

ตาของเสี่ยวกั่วเบิกกว้างขึ้น ทำให้บนใบหน้าคล้ายลูกแอปเปิ้ลของเธอเต็มไปด้วยความน่ารัก

เส้นด้ายพลังงานสีเขียวลอยขึ้นเหนือหญ้าหลิงและวัชพืชทั้งหมดที่อยู่ในทุ่งหญ้า ช่องว่างระหว่างนิ้วมือทั้ง 10 ของจั้วโมเปรียบเสมือนศูนย์กลางของอ่างน้ำวน คอยดูดซับพลังงานสีเขียวเหล่านั้น!!

พลังงานสีเขียวสะสมมากขึ้นมากขึ้นบนมือของจั้วโม ในเวลารวดเร็ว ลูกปัดแก่นแท้พลังสีเขียวก็ปรากฏขึ้นบริเวณนิ้วมือของเขา

ทุ่งหญ้าหลิงทั้งหมดแปลเปลี่ยนเป็นหญ้าแห้งสีเหลือง ไม่ปรากฏสีเขียวแม้แต่น้อย เพียงแค่แรงลมพัดผ่าน พวกมันก็ฟุ้งกระจายราวกับเป็นฝุ่นผง

ในชั่วพริบตาเดียว ทุ่งหญ้าที่เคยมีชีวิตอยู่ทั้งหมดก็กลายเป็นแผ่นดินที่ตายแล้ว

ทุกคนจ้องมองราวกับเป็นคนโง่ ทุกสายตาจับจ้องจั้วโมราวกับเป็นมัจจุราช

ลี่อิงเฟิงเองก็รู้สึกตกใจอย่างเหลือเชื่อ ถ้าหากมีคนกล่าวว่าการเคลื่อนไหวนิ้วมืออันยิ่งใหญ่นั้นทำให้เธอหลงใหล แล้วผลที่ออกมานั้นล่ะ ไม่เรียกว่าความน่ากลัวที่แท้จริงอย่างนั้นหรือ?

เขาอยู่ในระดับเหลียงชีจริงๆหรือไม่?

เธอรู้สึกได้ว่ามันค่อนข้างน่าสงสัยอย่างยิ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
9 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด