AST บทที่189 – สังหารอย่างบ้าคลั่ง! ขจัดเศษสวะ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่189 – สังหารอย่างบ้าคลั่ง! ขจัดเศษสวะ
ในขณะนั้นวลีเช่น "การเผาไหม้ด้วยความโกรธ" และ "ขนหัวลุกด้วยความโกรธ" ไม่เพียงพอที่จะอธิบายถึงความโกรธของ ชิงสุ่ย!
ชิงสุ่ยตกอยู่ในอาการมึนงงชั่วครู่ เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นสือฉิงจวง รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเขาเห็นฉากที่สวยงามและเศร้า เขาหวังว่ามันจะเป็นเพียงภาพลวงตาจากเขาที่ขาดหายไป
แร้งขนสีขาวถลาลงและชิงสุ่ยก็กระโดดขึ้นไป ผมยาวปะไหล่ของเขาบินได้อย่างอิสระด้วยลม เครื่องหมายสีม่วงระหว่างคิ้วของเขากลายเป็นสีแดงเลือดทำให้ใบหน้าของเขาดูสง่าและกระหายเลือด
ชิงสุ่ยพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วรับสือฉิงจวงไว้ก่อนที่เธอจะกระแทกพื้น มองไปที่ความงามอันน่าสงสารที่ถูกย้อมด้วยสีแดง ครึ่งหนึ่งของเขารู้สึกเจ็บปวดมากจนเขาหายใจลำบาก
“ฉิงจวง! ฉิงจวง!” ชิงสุ่ยตะโกนเรียก เขาเก็บยาบรรเทาทองคำชุดที่ดีที่สุดไว้ตอนที่เขาทำมาเมื่อเร็วๆ และแม้กระทั่งแต่ยาฟื้นฟูขนาดเล็กที่เหลืออีกสองสามเม็ดเพื่อเพิ่มศักยภาพของร่างกายเธอขึ้นอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
"ทำไมข้าไม่สามารถกลั่นยาเม็ดห้ามังกรได้?" ชิงสุ่ยอดเสียใจไม่ได้ ถ้าเขามียาเม็ดห้ามังกรเธอจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
เขาเขย่าร่างของฉิงจวงสักสองสามครั้งและเอาเข็มทองคำซึ่งเขาไม่เคยใช้มานานพอสมควรแล้วออกมา เพื่อปิดช่องลมปราณที่อยู่ใกล้บาดแผลของเธออย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยมองหน้าซีดๆที่น่าสังเวชและสวยงาม เธอมีปัญหาในการหายใจ แต่ดวงตาของเธอยังคงดูเย็นชาและสวยงามเหมือนที่เคยเป็น แม้กระทั่งยิ้มที่มีให้ชิงสุ่ย!
ชิงสุ่ยมองใบหน้าเย็นชาที่น่าสงสารของความงามที่ไร้คู่แข่งในขณะที่เขากลัวจนตัวสั่น เขาใช้ลมปราณของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลถ่ายทอดพลังไปยังร่างกายของสือฉิงจวง
มีเพียงไม่กี่คนที่มาจากหุบเขาเสาวธารร้อนระอุที่พยายามจะฝืนฝูงชนเพื่อไปที่ฉิงจวง!
"ซวง อะ.......!"
"ศิษย์น้อง!"
ชิงสุ่ยมองที่หญิงวัยกลางคนที่สวยงามและหญิงร่างสูงที่สวยอย่างจริงจัง
"อาจารย์, ศิษย์พี่, ข้าสบายดี!" สือฉิงจวงตอบอย่างอ่อนแอ
"จับเธอไว้และอย่าขยับตัวเธอ อย่าขยับเข็มทองคำ!" ชิงสุ่ยได้ส่งสือฉิงจวงไปให้กับหญิงวัยกลางคนที่สวยงามและให้คำแนะนำ
จากนั้นชิงสุ่ยก็หันไปทางสนามประลอง ในเวลาเดียวกันหญิงวัยกลางคนที่สวยงามและหญิงร่างสูงยังมองไปยังชายหนุ่มบนสนามประลองด้วยความโกรธ!
"ข้าจะไปฆ่าเขา" ผู้หญิงงดงามคนหนึ่งพูดออกมาและกำลังจะก้าวขึ้นไป
"กลับมา, เขาเป็นผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียน, อย่าไป" หญิงสาววัยกลางคนที่สวยงามโห่ร้องเบาๆ
"อาจารย์, ข้า... "
"ดูแลฉิงจวง, เขาต้องตายอย่างแน่นอน"
เสียงของชิงสุ่ยอ่อนมาก แต่ส่วนมากของคนรอบๆจะได้ยินเขาอย่างชัดเจน
หญิงร่างสูงและเป็นหญิงที่ไม่แยแสมองไปที่ด้านหลังของชิงสุ่ย ในความประหลาดใจในระยะสั้นๆ ก่อนที่เธอจะหันไปหาสือฉิงจวง
ตั้งแต่เวลาที่สือฉิงจวงถูกส่งไปถึงที่นั่นมันก็แค่ชั่วเวลาหายใจสามครั้ง เฉพาะชิงสุ่ยค่อยๆมุ่งหน้าไปที่สนามประลอง เกิดการสนทนาที่คึกคักจากฝูงชนเริ่มต้นขึ้น
"ทำลายดอกไม้อย่างชั่วร้าย นั่นแหละดีจริงๆ"
"ไปทำร้ายมารดาของเจ้าอย่างชั่วร้ายนั่นแหละถึงจะดียิ่งขึ้น" สาวกหญิงคนหนึ่งจากหุบเขาเสาวธารร้อนระอุกล่าวเสียงดัง
ฝ่ายชาย : "…"
"หอกเงินจากตระกูลตงน่าชื่นชมจริงๆ ด้วยผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียนเช่นชายหนุ่มคนนี้ ดูเหมือนว่าอนาคตของตระกูลตงในอาณาจักรชางหลางจะมีหวังมากขึ้น" ชายชราคนหนึ่งถอนหายใจเบาๆและกล่าวว่า
"ตง, ข้าชอบเจ้า ข้าชอบความหนาวเหน็บและกระหายเลือดของเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถเจาะทะลวงข้าได้เช่นกัน ข้าชอบความรู้สึกที่สวยงามและน่าสังเวช "
“คนโง่!”
“ไร้สมอง!”
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่ชิงสุ่ย กระบี่สีขาวที่มีการแกะสลักดาวเจ็ดดวงปรากฏขึ้นในมือของชิงสุ่ย
ถึงแม้สือฉิงจวงจะบาดเจ็บสาหัสจากตง แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติ หลังจากที่ทั้งหมดมีแม้กระทั่งกรณีของการเสียชีวิตก่อนหน้านี้ ตามกฎการบาดเจ็บและการเสียชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ระหว่างการสู้รบ ดังนั้นทุกคนจึงต้องรับผิดชอบตัวเองในกรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
คนจากหุบเขาเสาวธารร้อนระอุโกรธแค้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะทำได้ ยกเว้นส่งผู้เชี่ยวชาญไปทำร้ายอีกฝ่าย หากมีการส่งผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญไปทำร้ายอีกฝ่าย พวกผู้อาวุโสจากตระกูลตงจะต้องปล่อยให้เขาเสียสิทธิ์ในการแข่งขันมากกว่าที่เขาจะให้ตาย อย่างไรก็ตามยังมีหนุ่มสาวอีกหลายคนในอาณาจักรชางหลางที่สามารถเอาชนะตงได้
"คนๆนี้เป็นใคร? ชายหนุ่ม"
"เสน่ห์แบบไหนที่เจ้าชอบเขา!"
...
ชิงสุ่ยถือกระบี่ดารายุพฆาตและเดินขึ้นสนามประลองไปโดยไม่รู้สึกตัว
ในขณะนั้นตงอยู่ที่ขอบเวทีประลองกำลังค่อยๆพยายามรวบรวมสติของเขา เตะจากสือฉิงจวงซึ่งหมายจะทำลายความสามารถของเขาในการสืบพันธ์ตอนนี้อาการทุเลาลงแล้ว มันโชคดีที่เธอพลาดเป้าหมายของเธอเล็กน้อยเพราะถ้าไม่ลูกของเขาจะต้องแตกหักเป็นแน่
ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกชา มันจำเป็นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบวันในการฟื้นคืนสภาพร่างกายให้ดีขึ้น เขาคงจะต้องใช้เวลาอย่างมาก กว่าจะกลับไปทำเรื่องอย่างว่ากับเหล่าหญิงงามได้อีก เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เขาเห็นว่าหญิงสาวที่เขาซัดกระเด็นไปนั้นถูกรับไว้โดยขายหนุ่มคนนี้และพวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในระยะใกล้กันมาก เธอได้ให้รอยยิ้มที่ทำให้เบิกบานใจแก่ชายหนุ่ม แต่มันไม่ดีเกินกว่าที่รอยยิ้มนั้นไม่ได้ให้สำหรับเขา
มือของเขาถือหอกแน่น เขามีแรงกระตุ้นที่จะฆ่าใครบางคนโดยเฉพาะคนที่มีเสน่ห์และดึงดูดผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา
"เจ้าสมควรที่จะตาย" ชิงสุ่ยมองไปที่ชายหนุ่มผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียนข้างหน้าเขา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อายุน้อยที่สุดในผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียนที่เขาได้เห็นนอกเหนือจากตัวเขาเอง
"ฮ่าฮ่า, เจ้า? มาฆ่าข้า ถ้าเจ้ามีความสามารถ" ตงตะโกนใส่ในใจขณะที่เขาชี้หอกเงินไปทางชิงสุ่ย
กลิ่นอายอันอำมหิตรุนแรงพวยพุ่งออกมาชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเผยรอยยิ้มที่โหดร้าย ไม่ปิดบังความต้องการในกลิ่นอายของเขา กลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกไปราวกับคลื่นเสียงเสียดสีของพยัคฆ์หลายตัว ทำให้เกิดความวิตกกังวล
เมื่อตงถูกกวัดแกว่งไปมา ด้วยความเร็วที่รวดเร็วของกระบี่ในมือของเขา เขาทำการฟาดฟันอย่างดุดันโดยไม่ลังเล เพียงแค่ใช้การกวัดแกว่งกระบี่ด้วยความพริ้วไหว ชิงสุ่ยก็เริ่มเผยความโกรธที่เขาเก็บเอาไว้ผ่านการใช้กระบี่
ใบหน้าของคนที่มาจากตระกูลตงได้เปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่ชิงสุ่ยปล่อยกลิ่นอายของเขาออกมา ชายชราคนหนึ่งรีบไปที่สนามประลองด้วยความเร็วแสง "เจ้าคนพาล, อย่าลงมือโดยเด็ดขาด"
แม้ว่าราชันแห่งนรกจะอยู่ที่นี่ กระบี่ก็ยังคงฟาดฟันลงตามที่ตั้งใจไว้ กระบี่ขนาดใหญ่ได้ฟาดลงไปที่หอกเงินซึ่งตงเคยใช้เพื่อกั้นความหวาดกลัวจากกระบี่
เสียงที่ไม่พึงประสงค์จากการเจาะทะลวงสร้างเสียงดังก้อง ชิงสุ่ยฟาดฟันเฉือดเฉือนร่างของตงออกเป็นชิ้นๆ ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของกระบี่ดารายุพฆาตที่ครอบคลุมไปด้วยพลังแห่งจักรวาล ส่งผลให้การฟาดฟันแต่ละครั้งไปยังร่างกายของตงนั้นเกิดการระเบิดออกและทำลายอวัยวะทุกส่วนที่มันเฉือนเข้าใส่ ร่างของตงนั้นแทบจะละเอียดเป็นฝุ่นผง หากไม่มีใครเห็นว่าชายคนก่อนหน้านี้ที่โดนกระบี่จู่โจมเข้าใส่นั้นคือตง พวกเขาก็คงยากที่จะบอกได้ว่าเศษชิ้นส่วนที่เหลือเพียงน้อยนิดนี้คือใครกัน!
ความเงียบนั้นเต็มไปด้วยเสียงของอากาศ ขณะที่ชิงสุ่ยยืนอย่างเงียบๆ
"ห๊ะ!, ไม่มีแม้แต่เศษเหลือทิ้งไว้ มันช่างรุนแรงยิ่งนัก ช่างน่าประหลาดใจ!" สายตาจากคนผู้หนึ่งบริเวณสนามประลองตะลึงงันตามที่เขาพูด
"ถ้าเพียงแต่ข้ามีความกล้าหาญ ความรู้สึกของการระเบิดใครบางคนมันรู้สึกดีเท่ากับการมีเซ็กซ์กับผู้หญิง!" คนอีกผู้หนึ่งกล่าวด้วยความคิดสร้างสรรค์จากสายตาที่ลึกซึ้ง
คนผู้หนึ่งบริเวณสนามประลอง : "..."
ร่างกายถูกสับออกจนเละเหลือไว้เพียงแต่ฝุ่นละอองเลือดและหอกเงินที่หักออกเป็นสองส่วนซึ่งกระเด็นลอยออกไปไกล ซึ่งชายชราก็มาถึงสนามประลอง
"ข้าไม่กล้าหรอ? ตอนนี้เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรอ?" ชิงสุ่ยจับจ้องไปที่ชายชรา ชิงสุ่ยรู้ว่าชายชราคนนี้แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าอาจารย์เทพธิดาของเขา
"อ่าาาาา....."
ชายชราคนหนึ่งร้องไห้ให้กับที่ซึ่งเต็มไปด้วยอากาศขณะที่เขามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาที่กระหายเลือด ฟันของเขาบดละเอียดขึ้น" ทำไมเจ้าถึงต้องฆ่าเขา? ทำไม?"
"ทำไม? เพราะเขาสมควรที่จะตาย!" ชิงสุ่ยยืนอยู่ที่นั่นเสื้อผ้าของเขาสาดกระเซ็นไปด้วยเลือด ทำให้เขารู้สึกดั่งปีศาจยิ่งขึ้น
"เจ้าสมควรที่จะตายด้วย"
ในบริเวณที่บรรดาผู้ที่มาจากนิกายกระบี่นภารวมตัวกันอยู่!
"เราจะขึ้นไปด้วยเหรอ?" จรู้ชิงกล่าวเบาๆ
"ไม่ได้หรือ?" อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวอย่างลำบากใจ
"ทำไม? ตงถูนั้นเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลตง, แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็เป็นผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียนขั้นที่สี่" จรู้ชิงมองไปที่อีเย่เจี้ยนเก้อด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม
"เขาสามารถจัดการกับคนผู้นั้นได้"
จรู้ชิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆทุกคนมองไปที่เย่เจี้ยนเก้อก่อนที่พวกเขาจะต้องตกตะลึงเมื่อหันกลับไปมองบนสนามประลอง
"ฮ่าฮ่า, ผู้อาสุโส ถ้าท่านตายที่นี่, มันจะถือว่าตายเพราะวัยชรา?" ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่ชายชราผู้มีอำนาจและหยาบกระด้างพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล
ชายชราคนนั้นถือหอกเงินยาว 1.2 ซาน รูปทรงของมันเหมือนมังกรที่มีชีวิตเหมือนม้วนอยู่ แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นศิลปะมากกว่าอาวุธ มีประกายแสงส่องสว่าง
ชายชรามองหอกที่แตกออกเป็นสองส่วน ตงเป็นหลานชายของเขาและเป็นบุคคลสำคัญที่จะนำตระกูลตงไปยังจุดสูงสุดของอาณาจักรชางหลางหรือแม้แต่นอกอาณาจักรชางหลาง อย่างไรก็ตามทุกอย่างถูกทำลายโดยเด็กหนุ่มคนนี้ที่ด้านหน้าของเขา
"คนอันธพาล, ข้าจะทำให้เห็นว่าความยุติธรรมถูกกระทำไปเพื่อประโยชน์ของลูกหลานข้า"
ผมสีเงินของเขาโบกสบัดไปและเสียงคำรามของมังกรเปล่งออกมาจากหอกมังกรที่เขาตวัดไป!
ดูเหมือนหอกอันนี้เป็นสิ่งล้ำค่า มันเหมือนกับว่ามีเสียงคำรามของมังกรสถิตอยู่
เสียงคำรามของพยัคฆ์จากท่าพยัคฆ์คำรามโดยชิงสุ่ยปะทะกับเสียงคำรามของมังกรอีกฝ่าย เสียงอึกทึกดังขึ้นไปทั่วท้องฟ้า ขณะที่คนที่อยู่ด้านล่างมองไปที่ภาพนั้นด้วยความสยดสยอง
ชายชรากระโจนเข้าหาชิงสุ่ยราวกับว่ามีมังกรที่ซ่อนอยู่โผล่ออกมาจากทะเล
เสียงคำรามของมังกรยิ่งทำให้สับสนมากขึ้นและหอกนั้นราวกับว่ามันมีชีวิตเหมือนมังกรที่กำลังทะยานไปหาชิงสุ่ย
กระบี่เจิดจรัส!
เขาใช้กระบี่ดารายุพฆาตที่สะสมพลังแห่งจักรวาล ชิงสุ่ยเชี่ยวกรากอย่างรวดเร็วไปที่ฝ่ายตรงข้ามของเขา พลังแห่งจักรวาลถูกส่งออกไปทั่วทั้งพื้นที่!
เมื่อมีการปะทะขึ้น ชิงสุ่ยตระหนักถึงความแปลกประหลาดของหอกของชายชรา เขารู้สึกสั่นสะเทือนเมื่ออาวุธของพวกเขาปะทะกัน ขณะที่หอกของชายชราได้รับการผลักดัน อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยามากนัก
ในทางกลับกันชายชรามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความตกตะลึง
เขารู้ว่ามังกรสามารถปัดเป่าการโจมตีได้ แต่เขาไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามแทบจะสามารถผลักเขากลับมาได้ ในขณะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ซึ่งจะต้องใช้พลังเป็นจำนวนมาก
เขาใช้หอกมังกรอีกครั้งด้วยพลังลมปราณระดับผู้ฝึกตนเทวะเซียนเทียน ฟาดฟันไปข้างหน้าตามชิงสุ่ยเหมือนมังกรกวาดหางของมัน ชิงสุ่ยยังคงใช้กระบี่ตวัดเป็นวงกลมสีเหลืองใส่ปลายหอกและอีกครั้งเคาะลงไปที่หัวหอกของมังกร
ตึงงงงงงง!
คราวนี้, พลังปราณเทวะเซียนเทียนธาตุดินครึ่งหนึ่งถูกปัดเป่าออกไปแต่อีกครึ่งหนึ่งถูกส่งกลับไปเพื่อทำลายพลังของหอกมังกรพร้อมกับสลายการป้องกันของมังกร หอกมังกรถูกกระแทกด้วยแรงจากกระบี่ของชิงสุ่ย
หลังจากนั้นกระบี่ของชิงสุ่ยก็โจมตีเหมือนพายุแรงที่โหมกระหน่ำ แม้กระทั่งเสียงของพยัคฆ์คำรามก็กลบเสียงมังกร!
พยัคฆ์บรรพต! !
เขาใช้กระบี่เพื่อผลักดันและฟาดฟันต่อเนื่องกับท่าพยัคฆ์ขยำที่ลงมาซึ่งตัดลงบนหอกมังกร ด้วยการสนับสนุนของลมปราณของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล, ชิงสุ่ยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่เลือดไหลลงที่มุมของริมฝีปากตงถู
ในขณะที่ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องขจัดรากถอนโคน นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้เห็นชายหนุ่มที่เขาฆ่าไปแล้วก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะปล่อยให้ชายชรามีชีวิตอยู่ ความจริงแล้วเขาจะไม่ค่อยพอใจในตระกูลตง อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจใดๆ
"ท่านยังคงต้องการที่จะต่อสู้ต่อหรือไม่? ท่านควรมุ่งหน้ากลับไปและจัดพิธีศพ ท่านมีชีวิตได้อีกแค่ครึ่งวัน" ชิงสุ่ยลดกระบี่ของเขาลง ขณะที่มองใบหน้าซีดจางของตงถูและพูดอย่างไร้อารมณ์